Friday, 10 May 2024
ผู้สูงอายุ

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ ห่วงใยผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์และบ้านพักผู้สูงอายุ จัดโครงการเสริมสร้างความปลอดภัย ใส่ใจผู้สูงอายุ (นำร่อง) มอบวอคเกอร์และไม้เท้ารวม 10 แห่ง

ระหว่างวันที่ 3 และ 7 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ ห่วงใยผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์และบ้านพักผู้สูงอายุ นำทีมแผนกสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่มอบวอคเกอร์และไม้เท้า ให้กับผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ และบ้านพักผู้สูงอายุ ในโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างความปลอดภัย ใส่ใจผู้สูงอายุ (นำร่อง) รวม 10 แห่ง  ประกอบด้วย

ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี / สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพพระประแดง จ.สมุทรปราการ / สถานสงเคราะห์เฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อลำใยอุปถัมภ์) จ.กาญจนบุรี / สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม จ.นครปฐม / สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี จ.นนทบุรี / สถานสงเคราะห์คนชราปทุมธานี / สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี จ.ปทุมธานี / สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี จ.ปทุมธานี / สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว จ.นครสวรรค์ และ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จ.พระนครศรีอยุธยา

รวมวอคเกอร์จำนวน 335 อัน และไม้เท้า 4 ขา จำนวน 195 อัน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 281,300 บาท (สองแสนแปดหมื่นหนึ่งพันสามร้อยบาทถ้วน) โดยมี นางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย  ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ แต่ละแห่งเป็นผู้รับมอบ

 

‘พม.’ จับมือ ‘สสส.’ แถลงข่าวเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Line Chatbot” พร้อมชวนประชาชน - นักศึกษา ร่วมชิงเงินรางวัล สถานที่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ

ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพฯ นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดโครงการ “แพลตฟอร์มการขึ้นทะเบียนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ” เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุในสังคมไทย ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Line Chatbot เมืองใจดีเที่ยวทุกวัย ภายใต้แนวคิด “เจอ แจ้ง แจ่ม แจ๋ว” โดยมีผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ

 

พิจิตร- ‘ผู้ว่าฯ พิจิตร’ พาปั่นจักรยานเยี่ยมราษฎร - ส่งเสริมกลุ่มชาวบ้าน เป็นของขวัญของฝากในปีใหม่!!

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ความคืบหน้าจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชาวบ้านของ นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรคนที่ 58 จึงได้จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ไมตรีของส่วนราชการกับส่วนท้องถิ่นด้วยการนำปั่นจักรยานเพื่อเยี่ยมเยือนราษฎรในเขตพื้นที่ ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร โดยมี  นายสุภโชค ศิลปคุณ นายอำเภอสามง่าม , นางกัญนิกา อินทรกูล นายกเทศมนตรีตำบลเนินปอ “นายกแหม่ม” ที่นำพาชาวบ้านและส่วนราชการท้องถิ่นรวมถึงกลุ่มเด็ก ๆ และเยาวชนเกือบ 200 คน ร่วมกันขี่จักรยานไปรอบหมู่บ้านโดยได้นำสิ่งของจากเหล่ากาชาดพิจิตรไปเยี่ยมผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย 2 ครัวเรือน

โดยบ้านแรกที่ขี่จักรยานนำสิ่งของไปให้เป็นบ้านของ น.ส.นารี  ไสงาม อายุ 62 ปี อยู่หมู่ 6 ต.เนินปอ และ บ้านหลังที่สองเป็นบ้านของ นางบุญมี รอดผลุย อายุ 79 ปี อยู่หมู่ 5 ต.เนินปอ ซึ่งจากการไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้สูงอายุในครั้งนี้สร้างความปลาบปลื้มให้กับราษฎรทั้ง 2 ราย อีกทั้งผู้ว่าฯ พิจิตร ยังได้สั่งการให้ พม.พิจิตร และสาธารณสุขพิจิตร ช่วยดูแลผู้สูงอายุทั้ง 2 รายนี้

จากนั้นได้ขี่จักรยานไปพบปะชาวบ้านในชุมชนตลาดลาว ซึ่งเป็นย่านชุมชนของ ต.เนินปอ เพื่อดูการทำมาค้าขายและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรรวมถึงปั่นจักรยานไปที่กลุ่มทอผ้าลาวครั่ง บ้านสระยายชี ซึ่งเป็นกลุ่มทอผ้าและผลิตสินค้าOTOP ที่สร้างรายได้เสริมให้ชาวบ้านนอกจากอาชีพทำนา โดย ผู้ว่าฯพิจิตร ได้ให้คำแนะนำถึงการทำตลาดแบบระบบออนไลน์เพื่อที่จะได้ขายสินค้าให้เป็นของกิน ของใช้ ของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่เนื่องจากกลุ่มทอผ้าลาวครั่งแห่งนี้มีฝีมือในการทำผ้าทอ ผ้าไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนอีกด้วยจากนั้นได้ชมการแสดงพื้นบ้านของชาวบ้านที่จัดการแสดงมาต้อนรับ

 

‘บลูเทค ซิตี้’ ร่วมสนับสนุนถุงยังชีพ สำหรับการดำรงชีพผู้สูงอายุ ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา

วันนี้ (4 มกราคม 2565) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ อาทิเช่น น้ำดื่ม 50 แพ็ค ,หน้ากากอนามัย จำนวน 50 กล่อง ,แผ่นรองซับ จำนวน 20 แพ็ก

โดยมี ว่าที่ร้อยโท ดร.สมโพชน์ กวักหิรัญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน

 

พิจิตร - เราจะไม่ทิ้งกัน ‘ส.ส.ภูดิท’ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านหนองระมาน พร้อมนำถุงปันน้ำใจมอบให้ผู้สูงอายุ - รายได้น้อย –ป่วยติดเตียง และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยความห่วงใย

ส.ส.ภูดิท อินสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพิจิตร เขต 2 และทีมงาน ได้ลงพื้นที่เพื่อพบปะและเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองระมาน ม.3 บ้านเขาดิน ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ พร้อมรับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข และได้นำถุงปันน้ำใจไปมอบให้ผู้สูงอายุ  ผู้มีรายได้น้อยและไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงและผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้พร้อมมอบถุงปันน้ำใจด้วยความห่วงใย ท่ามกลางรอยยิ้มและความสุขที่ชาวบ้านต่างดีใจที่ส.ส.ภูดิท เข้ามาเยี่ยม

สำหรับชุมชนหนองระมานนี้อยู่ติดกับเหมืองทองอัครา ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและเป็นคนงานในเหมือง พอเหมืองปิดก็ลำบากไปตาม ๆ กัน

 

'สุรนันทน์' เน้น ต้องเพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้ผู้สูงอายุ ด้วยการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม

วันที่ (6 ตุลาคม 2565) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคกรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายวรวุธ ลีลานภาศักดิ์ ผู้ประสานงานพรรคเขตดินแดง ได้เข้าร่วมการประชุมประจำเดือนของโรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนเขตดินแดง ภายใต้ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับรางวัลต้นแบบโรงเรียนผู้สูงอายุกับการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก กทม. เพื่อเข้าแนะนำตัวและนำเสนอนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นเราควรจะจัดให้มีกิจกรรม และหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุ โดยที่ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน เช่น มีลานกิจกรรมเพื่อสุขภาพ กิจกรรมสันทนาการ และหลักสูตรความรู้ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัย วันนี้เมื่อมาที่นี่และได้เห็นหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน หลักสูตร 555 คือ 5 เดือน 50 ชั่วโมง 5 หมวดวิชา ประกอบด้วย 1. หมวดความรู้ทั่วไป 2. หมวดสุขภาพ 3. หมวดส่งเสริมอาชีพ 4. หมวดกิจกรรมประเพณี วัฒนธรรม 5. หมวดกิจกรรม 

จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรจะผลักดันให้เป็นนโยบายผู้สูงอายุของพรรค โดยยึดที่นี่เป็นต้นแบบ และกระจายออกไปทุก ๆ เขตพื้นที่ของ กทม. และทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้สูงอายุทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณและสังคม ให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต

คณะพยาบาลศาสตร์ มช. ขอเชิญร่วมการอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 285 ชั่วโมง (เรียนฟรี)

ผศ.ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า คณะฯ ได้รับทุนอุดหนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการดำเนินการโครงการพัฒนาอาชีพการดูแลผู้สูงอายุของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ เป้าหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเยาวชนนอกระบบการศึกษารวมทั้งแรงงานนอกระบบให้ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้มีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตได้ การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษาและแรงงานนอกระบบเป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ใหม่ที่เพิ่มโอกาสทางการศึกษารวมทั้งการพัฒนาทักษะอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ตลอดจนช่วยพัฒนาทักษะชีวิต นอกจากทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีอาชีพที่ได้รับเงินเป็นการตอบแทนในอนาคตจากครอบครัวผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีกำลังทรัพย์ในการจ้างดูแลเป็นการเฉพาะรายหรือในการเป็นผู้ดูแลของศูนย์ผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้และทักษะไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งแก่ตนเองและครอบครัวได้อีกด้วย

หลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 285 ชั่วโมง ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดการอบรมระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 24 มีนาคม 2566

คุณสมบัติของผู้สมัคร กลุ่มเยาวชนอายุ 18 - 24 ปี ,กลุ่มวัยทำงาน หรือ แรงงานนอกระบบ อายุ 25-50 ปี (ที่ยังไม่มีงานทำหรือรายได้น้อยหรือต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ) การศึกษาภาคบังคับขึ้นไป (ม.3) เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการอบรมและการปฏิบัติงาน สามารถเข้าร่วมการอบรมได้เต็มเวลาตามเกณฑ์ที่กำหนด มีจิตบริการและทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ รับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2565

กอ.รมน.พิจิตรลงพื้นที่มอบสิ่งของ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุและผู้ยากไร้

วันที่ 12 มกราคม 2566 พ.อ. กฤษดา ปานทับทิม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร ฝ่ายทหาร ได้ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพ และผ้าห่มกันหนาวให้กับชาวบ้านที่ยากไร้และได้รับความเดือดร้อน (ป่วยติดเตียง)ในพื้นที่ บ้านเนินพลวง ตำบลเนินสว่าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร จำนวน 3 หลัง รวมทั้งได้ให้กำลังใจประชาชนในการดำรงค์ชีวิตประจำวัน 

'สวนนงนุชพัทยา' เปิดโครงการขับเคลื่อนและส่งเสริมศักยภาพคนพิการและผู้สูงอายุ พร้อมจัดโปรโมชั่น เดือนมีนาคม ซื้อ 4 ท่าน ฟรี! 1 ท่าน

สวนนงนุชพัทยา เปิดโครงการขับเคลื่อนและส่งเสริมศักยภาพคนพิการและผู้สูงอายุ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ และผู้สูงอายุ พร้อมจัดโปรโมชั่น เดือนมีนาคม ซื้อ 4 ท่าน ฟรี! 1 ท่าน โดยผู้สูงอายุเข้าฟรีทุกวันศุกร์ และคนพิการที่นั่งรถเข็นเข้าฟรีทุกวัน

(25 ก.พ. 66) ที่ สวนนงนุชพัทยา โดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ร่วมพิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนและส่งเสริมศักยภาพคนพิการ ในงานมหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 6

ซึ่งที่ผ่านมา ทางสวนนงนุชพัทยา ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว สำหรับผู้พิการ รวมถึงผู้สูงอายุ ที่ใช้รถวีลแชร์ โดยเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้องพัก, ห้องน้ำ, ทางลาด, สระว่ายน้ำ,รถชมวิว ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและคนพิการมากที่สุด

‘พิธา’ กร้าว!! ปลดล็อก ‘สวัสดิการผู้สูงอายุ’ ชี้!! เคาะแล้วตกมื้อนึงได้ไข่ต้มแค่ฟองเดียว

‘พิธา’ ควงผู้สมัครปักธงชัย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ชูนโยบาย 4 ป. ปลดล็อกสวัสดิการ-ที่ดิน-หนี้สิน-ท้องถิ่น แก้ปัญหาประชาชน ก่อนขนทัพใหญ่เปิดเวทีปราศรัย ‘ก้าวไกล’ กลางเมืองพิษณุโลกเย็นนี้ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบ 5 เขต

(1 เม.ย.66) แกนนำพรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดพิษณุโลก ทั้ง 5 เขต ก่อนที่จะร่วมเปิดเวทีปราศรัยในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้

ในส่วนของนายพิธา ได้ร่วมกิจกรรมเดินหาเสียงพบปะประชาชนในเขตชุมชน ที่ อ.นครไทย ร่วมกับนายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 ตามด้วยการเปิดเวทีพูดคุยพบปะประชาชน ที่วัดหนองกะท้าว ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย และที่ ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง ร่วมกับ โชคดี สายนำพามีลาภ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 โดยประชาชนส่วนมากประสบปัญหาร่วมกันในเรื่องที่ดินทำกิน

นายพิธากล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการทำงานในสภาฯ มาตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ ตนได้เดินทางมา จ.พิษณุโลกบ่อยครั้ง เพราะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาที่ดินหลายกรณีมาก และนั่นเป็นเหตุผลที่ตนต้องมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อนำข้อเสนอ ‘4 ปลดล็อก’ มาเสนอเพื่อแก้ปัญหาให้กับทุกคนที่นี่ รวมถึงประชาชนทั่วประเทศที่เผชิญปัญหาแบบเดียวกัน จากปัญหาระยะสั้นไปถึงปัญหาระยะยาว ให้แก้ปัญหาไปถึงอนาคตของลูกหลานทุกคน

ปลดล็อกที่หนึ่ง คือปลดล็อกสวัสดิการผู้สูงอายุ จากที่ตนได้เห็นงบประมาณของประเทศที่ถูกจัดสรรผ่านมาทั้ง 4 ปี พบว่ามีงบประมาณที่ถูกนำไปใช้อย่างไม่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะงบประมาณของกองทัพ มากมายกว่างบประมาณที่เอามาดูแลประชาชนเสมอ ปัจจุบันสวัสดิการที่ให้กับผู้สูงอายุ เริ่มต้นที่ 100 บาท เฉลี่ยออกมาได้แค่วันละ 20 บาท หรือเป็นค่ากินแค่มื้อละ 7 บาท ได้ไข่ต้มแค่ฟองเดียว ไม่สอดคล้องกับสังคมสูงวัย ของแพงค่าแรงถูกในปัจจุบัน

พรรคก้าวไกล จึงมีนโยบายที่จะเปลี่ยนงบกองทัพที่ไม่จำเป็น เอามาทำเป็นงบประมาณ เพิ่มเบี้ยสูงอายุจาก 600 เป็น 3,000 บาทต่อเดือน นี่คือรัฐสวัสดิการที่ทำให้ผู้สูงอายุอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี คนหนุ่มสาวกล้าเสี่ยงเดินตามความฝันโดยไม่ต้องกังวลถึงพ่อแก่แม่เฒ่า

ปลดล็อกที่สอง คือการปลดล็อกที่ดิน หลายพื้นที่ เช่น อ.นครไทย แห่งนี้ มีสถานะเป็นเหมือนขนมชั้น คือ ส.ป.ก. ครอบทับกับกรมป่าไม้ ดูแลกันสองหน่วยงาน อำนาจบางส่วนทับซ้อนกัน ทำให้เวลาชาวบ้านไปเดินเรื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เกี่ยงกันเป็นเก้าอี้ดนตรี พรรคก้าวไกลจึงมีนโยบาย เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ทวงคืน ส.ป.ก. จากนายทุนทั่วประเทศ 4 ล้านไร่ หาที่ดินเพิ่มให้ประชาชนอีก 6 ล้านไร่ รวมเป็น 10 ล้านไร่ ซึ่งแม้ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับที่ดิน 320 ล้านไร่ที่ประเทศไทยมีอยู่ แต่อย่างน้อยนี่จะเป็นกระดุมเม็ดแรกที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดินในระยะยาว

ปลดล็อกที่สาม คือปลดล็อกหนี้สิน โดยเฉพาะในภาคเกษตร สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าสำหรับใครก็ตามที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส. มีอายุเกิน 60 ปี และชำระหนี้เกินครึ่งของเงินต้นไปแล้ว นโยบายคือการปลดหนี้ให้ทันที


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top