'สุรนันทน์' เน้น ต้องเพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้ผู้สูงอายุ ด้วยการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม

วันที่ (6 ตุลาคม 2565) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคกรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายวรวุธ ลีลานภาศักดิ์ ผู้ประสานงานพรรคเขตดินแดง ได้เข้าร่วมการประชุมประจำเดือนของโรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนเขตดินแดง ภายใต้ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับรางวัลต้นแบบโรงเรียนผู้สูงอายุกับการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก กทม. เพื่อเข้าแนะนำตัวและนำเสนอนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นเราควรจะจัดให้มีกิจกรรม และหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุ โดยที่ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน เช่น มีลานกิจกรรมเพื่อสุขภาพ กิจกรรมสันทนาการ และหลักสูตรความรู้ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัย วันนี้เมื่อมาที่นี่และได้เห็นหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน หลักสูตร 555 คือ 5 เดือน 50 ชั่วโมง 5 หมวดวิชา ประกอบด้วย 1. หมวดความรู้ทั่วไป 2. หมวดสุขภาพ 3. หมวดส่งเสริมอาชีพ 4. หมวดกิจกรรมประเพณี วัฒนธรรม 5. หมวดกิจกรรม 

จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรจะผลักดันให้เป็นนโยบายผู้สูงอายุของพรรค โดยยึดที่นี่เป็นต้นแบบ และกระจายออกไปทุก ๆ เขตพื้นที่ของ กทม. และทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้สูงอายุทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณและสังคม ให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต

นายสุรนันทน์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ผู้สูงอายุทุกคน ไม่อยากเป็นภาระของลูกหลาน เพราะฉะนั้นการสร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุ โดยส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม จะเป็นการเพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้แก่ผู้สูงอายุ คนรุ่นใหม่มีความสามารถในการทำงานเพื่อขับเคลื่อน โดยคนรุ่นเก่าจะคอยสนับสนุนให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่มีมา ทั้งสองวัยก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ต้องมีเส้นขีดแบ่งอายุ

“นอกจากนั้น การดูแลตัวเองที่ดีที่สุด คือการคัดเลือกโภชนาการที่ดี และการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานจะต้องมีประสิทธิภาพ จึงเห็นว่า โรงพยาบาลของรัฐควรทำงานแบบพร้อมรับประชาชน โดยเปิดให้บริการทุกวัน มีแพทย์หมุนเวียนตลอดเวลา เพื่อลดความแออัดในการเข้ารับบริการของประชาชน และลดเวลาการรอคอยเพื่อรับบริการอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวัน” นายสุรนันทน์ กล่าว  

ด้านนายวรวุธ ได้นำเสนอมุมมองการพัฒนาโรงเรียนผู้สูงอายุในอนาคต ต้องไปให้ถึงการพัฒนาบุคคลากร โดยดึงองค์ความรู้และความสามารถของผู้สูงอายุออกมาช่วยพัฒนาท้องถิ่นและเป็นกำลังสำคัญในการเป็นที่ปรึกษาแก่คนรุ่นต่อ ๆ ไป