Thursday, 9 May 2024
นิพนธ์บุญญามณี

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับจัดการแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมฤดูฝน - มีน้ำใช้ฤดูแล้ง

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับ การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-มีน้ำใช้ฤดูแล้ง พร้อม มอบถุงยังชีพ ให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบาล จ.อยุธยา

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12  อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดชัยนาท ปี 2565 โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ

โดยนายนิพนธ์  ได้มอบนโยบายสำคัญหลังการรับทราบสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำจังหวัดชัยนาท ปี 2565  ดังนี้ 1. ขอให้มีการบริหารจัดการน้ำให้เหลือน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  2. การบริหารจัดการกรณีน้ำท่วมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นสำคัญ 3. ให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมกำลังพล เครื่องจักร และดูแลผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง 4. กรณีเกิดสาธารณภัยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจและรายงานให้จังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการของบกลางจากรัฐบาล 5. การเยียวยาช่วยเหลือต้องทำอย่างรวดเร็ว อย่าให้ล่าช้า โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมีงบประมาณรองรับอยู่แล้ว และ 6. ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น รมช.มหาดไทย ได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยให้บริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกทางตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ และหากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานราชการเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

‘ก้าวไกล’ ฉะ!! นิพนธ์ชิงลาออกหนีถูกชี้มูลผิดคาเก้าอี้ ชี้ หากต้องการแสดงสปิริตควรออกตั้งแต่ป.ป.ช.ชี้มูล

‘ประเสริฐพงษ์-ก้าวไกล’ ฉะนิพนธ์ชิงลาออกหนีถูกชี้มูลความผิดคาเก้าอี้ เรียกร้อง รมช.มหาดไทยคนใหม่เข้ามาสะสางความไม่ชอบมาพากลออกเอกสารสิทธิ์กรมที่ดิน

ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการลาออกจากตำแหน่งของนาย นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย โดยประเสริฐพงศ์กล่าวว่า หากจำกันได้ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทยถึงสองครั้ง

ครั้งแรกเป็นชี้ให้เห็นเรื่องการใช้อำนาจดันโครงการอุตสาหกรรมจะนะ ชี้ เอื้อประโยชน์นายทุน หลังพบกว้านซื้อที่ดิน-ออกโฉนดทับที่ทำกินชาวบ้าน พบเครือญาติ-เครือข่าย เอี่ยวการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่รวมถึงจ่ายเงินให้บริษัทเอกชนที่ประมูลรถบำรุงทางเอนกประสงค์ของ อบจ.สงขลาในขณะนั้น 

โดยหลังจบอภิปรายไม่ไว้วางใจตนนำหลักฐานในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมดไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และป.ป.ช.ได้มีการส่งฟ้องต่อศาลอาญาแผนกการทุจริตกลาง ต่อมาพรรคก้าวไกล โดย ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ยื่นหนังสื่อต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีช่วงกระทรวงมหาดไทย ของนายนิพนธ์ บุญญามณี โดยเหตุการณ์ในวันนั้นมี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาได้แถลงข่าวว่าการยื่นผ่านประธานสภาในลักษณะนี้ไม่สามารถทำได้และผิดขั้นตอน ทั้งที่ความจริงแล้วตนและพรรคก้าวไกลได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้น ประธานสภาฯได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยคุณสมบัติของนายนิพนธ์ตามที่ตนได้ยื่นคำร้อง 

เหตุการณ์ดังกล่าวชัดเจนว่ามีกระบวนการพยามขัดขวางการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยจากเลขาฯประธานสภาฯ อย่างชัดเจน

นิพนธ์ มั่นใจ ประชาธิปัตย์ 4 จ.ชายแดนใต้ ได้ส.ส.เพิ่มแน่นอน หลังกระแสตอบรับดี ชี้อย่าตกใจคนเดินออกให้ดูอดีตที่มีคนเดินออกจากพรรคไม่มีใครได้กลับมาแม้แต่คนเดียว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และผอ.เลือกตั้งพรรคฯ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 พ.ย. 65) ตนได้ประชุมกับผู้สมัคร ส.ส. 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล ทั้งหมดมี 14 เขตเลือกตั้ง วันนี้ถือว่าทั้ง14 เขต พรรคฯมีสมัครครบทั้งหมดแล้ว และในวันที่ 20 พ.ย.นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ จะไปเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทั้ง 14 เขตที่จ.ยะลา อย่างไรก็ตามผู้สมัครทุกคนที่มาร่วมประชุม มีความมั่นใจเต็มที่ เพราะจากที่เดินในพื้นที่มา 3-4 เดือน พบว่ากระแสตอบรับดีตามลำดับจึงมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งผู้สมัครส่วนหนึ่งเป็นเลือดเก่า ที่กลับมาช่วยพรรค เช่นนายเจะอามิง โตะตาหยง และมีคนรุ่นใหม่ เช่นนายเมธี อรุณ หรือเมธีลาบานูน บางคนจบดอกเตอร์ก็มี หรือที่จ.สตูล มีผู้สมัครเป็นปลัดอำเภอ แต่มีความมุ่งมั่นอยากลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนรายชื่อทั้งหมดขอให้หัวหน้าพรรคฯเป็นคนเปิดในวันที่ 20 พ.ย. จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาที่นั่งกลับมาและเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงข่าวสมาชิกบางส่วนลาออกนั้น อาจทำให้ภายในพรรคฯว่า ได้พยายามชี้แจงไปหลายครั้งแล้วถึงการมีคนเดินออกไปจากปชป. ที่จริงกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) และผู้ใหญ่ในพรรคฯรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถ้าพูดไปก็เหมือนขับไสไล่ส่งก็พูดไม่ได้ ต้องรอให้แต่ละคนแสดงตัวและตัดสินใจอนาคตของตัวเอง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในอดีตก็มีคนออกจากปชป.โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเราไม่เคยเห็นใครได้กลับมาในสภาได้เลยสักคน ดังนั้นบทเรียนเหล่านี้หวังว่าจะได้ไตร่ตรองกัน

นิพนธ์ฯ จี้!! กระทรวงศึกษาเร่งตรวจสอบ 'ครูสาว' ใช้อคติส่วนตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์ระหว่างสอน

นิพนธ์ฯ จี้ กระทรวงศึกษาเร่งตรวจสอบพร้อมดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย ย้ำ!! ประวัติศาสตร์-ประชาธิปไตย สอนได้แต่อย่าบิดเบือน กรณีการสอนของครูสาวใช้อคติส่วนตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายและความแตกร้าวในสังคม 

ไม่นานมานี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อและโลกออนไลน์ จากกรณีครูสาวโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรุงเทพมหานคร สังกัดสพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการสอนเนื้อหาในวิชาประวัติศาสตร์ โดยพาดพิงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเพราะตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทเสียสละ ทำความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย จึงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ประธานองคมนตรี เป็นรัฐบุรุษ และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นั้น จนถึงแก่อสัญกรรม เป็นแบบอย่างของความจงรักภักดีต่อสถาบันและประเทศชาติบ้านเมืองที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่าง สิ่งดีงามที่ท่านได้ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น จึงทำให้เป็นที่รักของชาวสงขลา เป็นรัฐบุรุษของคนไทยทั้งประเทศ แต่เรื่องราวจากข่าวที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่สบายใจให้คนจำนวนมาก

'นิพนธ์' เชื่อมั่น ได้ สส.ใต้ 35-40 ที่เหลือ 18 ที่นั่ง แบ่งปันให้พรรคอื่น คาดหวัง จชต.ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง หมัดเด็ดคือ 'ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง' ที่โดนใจ ประชาชน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการ เลียงตั้ง ที่จะมาถึงในปี 2566 ว่า หลังจากที่ได้จัดทัพผู้สมัครได้ครบทั้ง 58 เขต และผู้สมัครได้ลงพื้นที่เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายในการหาเสียง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ คืนฟอร์ม ในการเป็นพรรคการเมืองของคนใต้ ทำให้ มั่นใจยิ่งขึ้นว่า ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าได้ สส. 35-40 ที่นั่ง เป็นความจริงแน่นอน ตัวเลข 35-40 ที่นั่ง เป็นเรื่อง ปกติ ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าไว้ เพราะในอดีตในปี 2548 ประชาธิปัตย์เคยได้ สส. 52 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 54 ที่นั่ง และในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี สส. จำนวน 12 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ เคยได้ สส.ถึง 11 ที่นั่ง ครั้งนี้ในพื้นที่ของ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส จากการวางตัวผู้สมัคร และการกลับมาให้การสนับสนุนของคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นกระแสที่ดีมาก รวมทั่งการเสนอนโยบายเฉพาะ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประชาธิปัตย์ในการแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยการ”สร้างสันติภาพ สู่ สันติสุข ซึ่งหลังจากมีการนำเสนอ ได้มีภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เห็นด้วยและร่วมเสนอรายละเอียดเพื่อให้พรรคพิจารณา ทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะได้ สส.4-6 ที่นั่ง  เลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ มีความมากที่สุด โดยในวันที่ 11-12 กพ.นี้ จะมีการ สัมมนา ผู้สมัคร และ ผอ.เขตเลือกตั้งของพรรคในภาคใต้ ก่อนที่จะทำในภาคอื่นๆต่อไป

นิพนธ์ ติวเข้มแกนนำ ปชป. เขต2 เทศบาลนครหาดใหญ่ ยันนโยบายสร้างเงินภาคเกษตรทั้ง 8 นโยบาย ทำได้ไว ทำได้จริง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวพบปะกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป. เขต 2 สงขลา(นายนิพัฒน์ อุดมอักษร) พร้อมด้วยแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคปชป.ร่วม 100 คนที่เข้าประชุมเพื่อรับทราบนโยบาย และแนวทางในการหาเสียงเลือกตั้งของว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา

นายนิพนธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องขอย้ำว่า ทำไมต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนคงรู้จักพรรคปชป.ที่มีอายุมายาวนาน ท่านชวนก็ยังเป็นหลักสำคัญของพรรคโดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริต กว่า 77 ปีที่พรรคปชป.ยังคงอยู่ เพราะนี่คือสถาบันทางการเมือง โดยเฉพาะในสมัยของท่านชวนเป็นนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของนมโรงเรียนที่ลูกหลานของพวกเราได้กินมาตั้งแต่ปี 36 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันปี 2566 นโยบายนี้ก็ยังคงอยู่ นี่คือนมของท่านชวนซึ่งเป็นความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ในการสร้างคน เพราะเห็นความสำคัญของเด็กเล็กในการพัฒนาให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กเล็ก เรื่องของอาหารกลางวันก็เป็นอีกนโยบายหนึ่งของพรรคปชป. รวมถึงกองทุนเพื่อการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษา ซึ่งพรรคจะเน้นในเรื่องของการสร้างคนก่อน  

มาวันนี้พรรคปชป.เดินหน้าชู ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาตินี่คือห้วใจของปชป. พร้อมนโยบายรายละเอียดเฉพาะเรื่องที่แยกออกมาจาก 3 ยุทธศาสตร์หลักอีก ที่จะออกตามมาเร็วๆนี้และในเรื่องของนมโรงเรียนนี้ พรรคจะเดินหน้าต่อประกาศกินนมโรงเรียน 365 วัน ซึ่งจะเป็นนโยบายเดินหน้าต่อ นโยบายต่อไปที่จะประกาศคือการกระจายเงินลงไปยังฐานราก ซึ่งพรรคปชป.ประกาศแล้ว โดยจัดตั้งธนาคารหมู่บ้าน หรือชุมชนละ 2 ล้านบาท ต่อธนาคาร และต่อชุมชน แต่ต้องจดทะเบียนกับทางภาครัฐ อีกนโยบายหนึ่งคือในเรื่องของโฉนดที่ดินที่ไม่ใช่ที่ดินของรัฐ ซึ่งผมได้ทำมาแล้ว หนึ่งแสนสองหมื่นแปลง ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้แน่นอนทั่วประเทศ ซึ่งต่อไปครั้งหน้าถ้าปชป.ได้เป็นรัฐบาล จะทำให้ได้ถึง1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปีหรือ 250,000 แปลงต่อปี ทั้งเรื่องของโฉนดและที่ทำกิน รวมถึงจะดูแลในเรื่องของการบุกรุก ในที่ดินหลวง ในเรื่องของประมงก็เช่นกัน นี่ชี้ให้เห็นว่าปชป.ดูแลในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก อีกเรื่องในเรื่องของสร้างคน รอบหน้าถ้าปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลจะประกาศให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ในเรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ขาดแคลนคือวิชาช่าง เพราะเห็นถึงความล้มเหลวของการศึกษาแบบเก่า ที่จบออกมาแล้วไม่มีงานทำ จึงอยาดให้ลูกหลานมี่อจบออกมาแล้ว มีงานรองรับและอีกหลายๆนโยบายที่จะตามมา

‘นิพนธ์’ หนุน!! เพิ่มค่าตอบแทน ‘อบต.-ผู้นำท้องถิ่น’ ชี้เป็นกลไกที่มุ่งไปสู่การทำงาน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ปชช.

(11 มี.ค. 65) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการปกครองท้องที่ ในช่วงที่ผ่านมาหลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปว่า การทำงานทั้งสองส่วนคือทั้งท้องถิ่นและท้องที่นั้นถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด ทั้งสองส่วนก็มีส่วนสำคัญในการดูแลป้องกันความปลอดภัยในชีวิตให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่จะต้องดูแลแก้ไข เช่น ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชนอีกหลายอย่าง ซึ่งรัฐบาลรวมถึงประชาชนต่างต้องพึ่งพิงการทำงานภายใต้ความรับผิดชอบของทั้งอบต. เทศบาล อบจ. รวมไปถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรฯ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาตลอด ซึ่งช่วยให้วิกฤตการณ์ต่าง ๆในประเทศได้คลี่คลาย ผ่านพ้นไปในทางที่ดี

“นิพนธ์” มั่นใจ สงขลา เขต 1 เขต 2 เขต 3 ประชาธิปัตย์มาทั้งแผง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และ 3 ของ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต  ได้ทำการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ตั้งปี 2565 เป็นต้นมา ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เวลาทีเหลือก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครทุกเขตและผู้ให้การสนับสนุนทั้งในพื้นที่และของพรรค จะช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่  ในฐานะที่ทำงานการเมืองมานาน มีประสบการณ์ ทำให้เชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตเลือกตั้งทั้ง 3 ได้ ผู้สมัครของพรรคจะได้เลือกกลับเข้ามาอย่างแน่นอน


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชนที่ชัดเจน ทั้งในเขตเมืองใหญ่ เมืองขนาดกลางและเมืองเล็ก เพราะวันนี้ประเทศไทยภายใต้ นโยบายการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยไม่มีเขตชนบทอีกต่อไป นโยบาย” “สร้างคน  สร้างเงิน สร้างชาติ “ ที่เป็น นโยบายหลักของพรรค เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และหลายอย่างทำสำเร็จมาแล้ว เช่นการ ประกันรายได้ให้เกษตร การแจกโฉนดที่ดิน ซึ่งตนเป็น รมช. มหาดไทยมา 3 ปี สามารถแจกโฉนดที่ดินถึง 400,000 ฉบับ ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีก จะแจกโฉนดให้ได้ 1 ล้านฉบับในเวลา 4 ปี

ปชป.ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 9 เขต ในวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสงขลา

วันนี้ 3 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. เข้าสังเกตการณ์และให้กำลังใจแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์แบบแบ่งเขตทั้ง 9 เขตเป็นวันแรก ในการเปิดรับสมัคร ณ อาคารศูนย์กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีกรรมการสาขาพรรคทั้ง 9 เขต พร้อมแกนนำพรรค  เดินทางมาให้กำลังใจแก่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 9 เขตอย่างเนืองแน่น บริเวณอาคารศูนย์การกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งผลการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี หมายเลข  4

 

เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร หมายเลข 4  
เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง หมายเลข 4
เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว หมายเลข 6
เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง หมายเลข 3
เขต 6 นางสาวสุภาพร กำเนิดผล หมายเลข 2
เขต 7 นายศิริโชค โสภา หมายเลข 2
เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ หมายเลข 7
เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หมายเลข  1

‘นิพนธ์’ ขึ้นปราศรัย อ้อนชาวสงขลา เทคะแนนให้ ‘ปชป.’ ลั่น!! เลือก ‘ปชป.’ นโยบายที่ปชช. คาดหวังจะเป็นจริง

(9 เม.ย.66) ที่เวทีปราศัยย่อย ต.บ้านไร่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า หากเลือกพรรประชาธิปัตย์สิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวังนั้นจะเป็นจริงอย่างแน่นอน ทั้งนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี นโยบายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง รวมทั้งนโยบายที่ดำเนินการมาในช่วงที่เป็นรัฐบาลคือการประกันรายได้เกษตร ในพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ครองใจเกษตรกร และจะต่อยอดไปยังการประกันรายได้อาชีพอื่น ๆ นอกจากเกษตรกร ตลอดจนการประกันรายได้ให้แก่ประเทศ

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 ว่า นโยบายที่ประกาศไปทุกนโยบายนั้น ทำได้จริงอย่างแน่นอน ขอพี่น้องประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกทั้งพรรคทั้งคน เพื่อให้ได้ส.ส.และเป็นฝ่ายบริหารไปขับเคลื่อนนโยบายที่จะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top