Monday, 29 April 2024
Econbiz

‘บางจาก’ ประกาศตรึงราคาน้ำมัน 12-17 เม.ย. 67 เตรียมพร้อมปั๊ม 2,200 แห่งให้บริการช่วงสงกรานต์

(28 มี.ค. 67) นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ บางจากฯ จะตรึงราคาน้ำมันไม่ปรับขึ้นระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2567 แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับขึ้น แต่ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง บางจากฯ จะปรับลดลงด้วย 

นอกจากนั้นได้เตรียมพร้อมสถานีบริการน้ำมันไว้ต้อนรับและร่วมดูแลทุกการเดินทางของประชาชนที่กลับภูมิลำเนาเยี่ยมญาติมิตรและท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูง กาแฟอินทนิล ธุรกิจเสริม ห้องน้ำสะอาด เพื่อรองรับทุกความต้องการ เติมเต็มความสุขให้คนทุกวัยตามแนวคิด ‘Greenovative Destination for Intergeneration’ ดังนี้ 

>>เติมน้ำมันคุณภาพสูงที่มาตรฐานเหนือกว่า กับน้ำมัน Hi Premium Diesel S และ บางจาก Hi premium 97 ที่มีค่าออกเทนสูงกว่า 97 ได้ที่ปั๊มบางจากที่เดียวเท่านั้น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเมื่อเติมครบ  1,200 บาท ขึ้นไป รับคูปองผ่าน SMS ใช้แลกรับเครื่องดื่มอินทนิลฟรี 1 แก้ว และยิ่งสะสมยอดเติมได้สูงตามเงื่อนไข สมาชิกจะได้รับทองคำ บินไปชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรือทริปเที่ยวดูแสงเหนือ แบบไม่จำกัดสิทธิ์ ดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความชื่นใจ เมื่อเติมน้ำมันบางจาก ​900 บาท รับฟรี น้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร ฟรี! 1 ขวด มูลค่า 15 บาท เมื่อเติมน้ำมันทุกชนิดครบทุก 900 บาท 1 - 30 เมษายน 2567 ดูรายละเอียดปั๊มที่ร่วมรายการได้ที่ www.bangchakmarketplace.com

>>เติมความสุขในเทศกาลท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นการท่องเที่ยว เพียงสมาชิกบางจากกรีนไมลส์เติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจากครั้งแรกที่จังหวัดใดก็ได้ และมีการเติมน้ำมันครั้งถัดไปที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ โดยไม่ซ้ำจังหวัดเดิมที่เติมน้ำมันครั้งก่อนหน้า ในวันธรรมดา (ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป จะได้รับ E-Coupon เติมน้ำมันบางจากมูลค่า 50 บาท ผ่าน SMS ตั้งแต่ 1 - 30 เมษายน 2567 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด ดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสงกรานต์ สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ใช้เพียง 9 คะแนน แลกรับแผนความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มสงกรานต์คลายร้อน (ไมโครอินชัวรันส์) คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท และใช้ 9 คะแนน แลกรับแผนความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) คุ้มครองสูงสุด 30,000 บาท กดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชันบางจาก ตั้งแต่   1 เมษายน 2567 - 31 พฤษภาคม 2567 โดยกรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ดูรายละเอียดสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความสดชื่นที่ร้านอินทนิล ด้วยเครื่องดื่มหลากหลาย ทั้งกาแฟคุณภาพจากเมล็ดอาราบิก้าแท้ 100% โกโก้อินทนิล  รวมถึงเมนูชื่นใจคลายร้อนรับซัมเมอร์ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ

-April Fool’s Day 1 เมษายนนี้ สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ ใช้เพียง 100 คะแนน แลกซื้อ 9 เมนูยอดนิยมจากอินทนิลได้ในราคาเพียง 1 บาท (เอสเพรสโซ่เย็น, อเมริกาโน่เย็น, โกโก้เย็น, ชาเขียวลาเต้เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น, นมชมพูเย็น, นมสดเย็น, ชาดำเย็น และ ชามะนาวเย็น) จำกัด 150,000 สิทธิ์ วันเดียวเท่านั้นที่ร้านอินทนิลทุกสาขาทั่วประเทศ

-มา 5 จ่าย 4 ซื้อเครื่องดื่มอินทนิล 5 แก้ว จ่ายเพียง 4 แก้ว โดยมีเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ คือ 9 เมนูยอดนิยมจากอินทนิล (เอสเพรสโซ่เย็น, อเมริกาโน่เย็น, โกโก้เย็น, ชาเขียวลาเต้เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น, นมชมพูเย็น, นมสดเย็น, ชาดำเย็น และ ชามะนาวเย็น) ตั้งแต่ 11 - 17 เมษายน 2567 ที่ร้านอินทนิลที่ร่วมรายการ ไม่จำกัดสิทธิ์ตลอดโครงการ ติดตามรายละเอียดโปรโมชันอินทนิลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/inthanincoffeefanclub หรือ Line Official: @Inthaninofficial

>>เติมความพร้อม ดูแลเครื่องยนต์ช่วงเดินทางกับ น้ำมันหล่อลื่นพรีเมียม FURiO ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้องขั้นสูง มาตรฐาน API สูงสุดจาก USA พร้อมรับ Cash Card น้ำมันบางจาก มูลค่าสูงสุด 500 บาท และยังร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จัดโครงการ ‘ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ไปกับ FURiO’ ที่ศูนย์บริการคาร์แคร์ FURiO Care และ Wash Pro ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อเตรียมความพร้อมของรถก่อนเดินทางตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 - 30 มิถุนายน 2567 ตรวจสอบสาขาที่ร่วมโครงการได้ที่  www.bcpcarcare.com    

>>เติมไฟให้รถ EV Quick Charging Station ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากมีให้บริการมากถึง 284 สาขา ตั้งอยู่บนถนนสายหลักทุกระยะ 100 กิโลเมตร ครอบคลุมทุกทิศทั่วไทยรองรับรถ EV หลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ให้ผู้ใช้รถได้แวะชาร์จรถ EV และพักดื่มกาแฟอินทนิลเพื่อผ่อนคลายจากการเดินทาง ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันบางจากที่มี EV Charging Station ได้ที่ Bangchak Mobile Application

>>เติมพลังในการเดินทาง ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก Unique Design ใหม่ที่ปั๊มบางจากหัวหิน (The Chlorophyll Hua Hin) จุดแวะพักรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวในหัวหิน ด้วยคอนเซ็ปท์ Connecting with Nature เพียบพร้อมด้วยบริการหลากหลาย ได้แก่ Inthanin, Jin Dim Sum, Ai-Cha, Ciao Pizza พิเศษสำหรับผู้ใช้บริการที่ร้านค้าต่าง ๆ เพียงมียอดการใช้จ่าย (ไม่มีขั้นต่ำ) รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีที่ EV Pavilion ระหว่าง 12 - 16 เมษายน 2567 ณ The Chlorophyll Huahin สถานีบริการน้ำมันบางจาก หัวหิน สาขาเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้น บางจากฯ เตรียมเพิ่มพนักงานเพื่อดูแลการจราจรและอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี Lemon Green ร้านใบจาก แฟมิลี่ มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ เตรียมอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภคครบครัน รวมทั้งมีตู้เอทีเอ็มไว้พร้อมให้บริการ ตลอดจนได้เตรียมห้องน้ำสะอาด ปลอดภัยและเพียงพอ สำรองน้ำมันและเพิ่มจำนวนรถขนส่ง ทั้งที่สถานีบริการและคลังน้ำมันในทุกภูมิภาค 

“เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ บางจากฯ ขอเชิญชวนทุกท่านแวะผ่อนคลายให้หายเหนื่อย เติมน้ำมัน เติมพลังให้พร้อมเดินทางต่อที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาทั่วประเทศไทยและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เดิม ซึ่งเป็น ‘Greenovative Destination for Intergeneration’ ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางทุกช่วงวัย และขอให้ทุกท่านเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวพักผ่อนโดยสวัสดิภาพครับ” นายเสรีกล่าว

'รมช.กฤษฎา' เผย!! 'คลัง' จ่อขยายค่าโอน-จดจำนองบ้านเกิน 3 ล้าน พร้อมเพิ่มเพดานกู้ผ่าน 'โครงการบ้านล้านหลัง' จาก 1.5 เป็น 2 ล้าน

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 67) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนาประจำปี 2567 สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ‘เจาะลึกปัญหาสินเชื่อกับหนี้ครัวเรือนและทางออก’ โดยกล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลัง มีการทบทวนมาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ทั้งมาตรการการคลังและมาตรการการเงินเพิ่มเติม เพราะถือว่าภาคอสังหาฯ เป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนถึง 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่พอที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับแนวทางแรกนั้น กระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% ที่ปัจจุบัน ให้เฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญานั้น โดยจะทำการขยายให้ สำหรับที่อยู่อาศัยที่ราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมด้วยมาตรการด้วย โดยให้สิทธิเฉพาะ 3 ล้านบาทแรกเท่านั้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า ส่วนมาตรการทางการเงิน คือ โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ปัจจุบันกำหนดให้กู้ได้เฉพาะซื้อที่อยู่อาศัยราคาหรือค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1.5 ล้านบาทนั้น อาจจะขยายไปเป็นราคาสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองมากขึ้น เพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ล้านนั้นหาได้ยากแล้วจึงต้องปรับให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน และการขยายเป็นราคาสูงสุดเป็น 2 ล้านบาท ก็ไม่ได้เสี่ยงอะไร เพราะสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการก็ต้องเป็นคนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองจริงๆ

‘มาคาเลียส’ วอนรัฐบาลช่วยภาค ‘การท่องเที่ยว’ ในประเทศ หลังคนไทยเริ่มไม่เที่ยวไทย หวั่น!! เกิดปัญหาระยะยาว

มาคาเลียส แหล่งรวมอี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย เผยภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว คนไทยแห่เที่ยวต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น เหตุจากค่าใช้จ่ายเที่ยวในประเทศมีราคาแพง โดยเฉพาะราคาค่าโดยสารสายการบิน ประกอบกับ นโยบายฟรีวีซ่า แนะภาครัฐและเอกชนควรหาทางออกโดยเร็ว หากปล่อยไว้กลายเป็นปัญหาด้านการท่องเที่ยวระยะยาว

นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส (MAKALIUS) ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ แหล่งรวมอี-วอเชอร์ ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กล่าวว่า “ภาพรวมด้านการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอยู่ในสภาวะชะลอตัว เนื่องจากส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุผลหลายปัจจัย อาทิ อัตราค่าโดยสารสายการบินภายในประเทศมีราคาแพง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลท่องเที่ยวจะมีราคาสูงขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว อีกทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ต่างจากการท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น

โดยตั้งแต่หลังสถานการณ์โควิด-19 พบว่า ประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปมากที่สุดคือ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร ไต้หวัน ลาว เป็นต้น เพราะประเทศเหล่านี้ออกนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว นโยบายฟรีวีซ่า และปัจจัยอื่น ๆ เช่น ราคาค่าโดยสายสายการบินต่างประเทศแข่งกันทำโปรโมชั่นพิเศษ บางสายการบินทำตลาดด้วยการเปิดเส้นทางใหม่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งตลาดกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) และกรุ๊ปทัวร์

มาคาเลียสมองว่าปัญหา ‘คนไทยไม่เที่ยวไทย’ เริ่มสะท้อนให้เห็นตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ และช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยพบว่าการจองที่พักในประเทศผ่านระบบของมาคาเลียสมียอดจองต่ำกว่า 50% ในทางกลับกันแพคเกจต่างประเทศกลับมียอดจองสูงขึ้นถึง 70% ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะกลายเป็นปัญหาระยะยาวหากภาครัฐบาลและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่เร่งมือในการแก้ไข ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีนโยบายเพิ่มเที่ยวบินพิเศษจำนวน 38 เที่ยวบิน ในช่วงระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย. และวันที่ 15-16 เม.ย.2567 ทำให้มีตั๋วโดยสารเครื่องบินเพิ่มขึ้นประมาณ 13,000 ที่นั่ง และสายการบินเตรียมจัดโปรโมชัน เพื่อให้ราคาถูกลง เพิ่มเที่ยวบินในประเทศแต่ราคายังสูงเหมือนเดิม ก็ยังคงเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นและเป็นเพียงการแก้ไขแค่บางส่วน อาจไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นความสนใจของนักเที่ยวชาวไทยได้มากนัก เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก การตัดสินใจในแต่ละครั้ง ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่จะได้รับกลับคืนมา

ดังนั้น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ต้องดำเนินการแบบ ‘บูรณาการณ์’ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

‘การเดินทาง’ (Transportation) ต้องปรับให้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง การเดินทางทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ มีมาตรฐานเดียวกัน คือ สะดวกในการจอง มีความปลอดภัย ตรงเวลา และราคาที่เหมาะสม เพราะต้องไม่ลืมว่า นักท่องเที่ยวไทยปัจจุบันมีหลากหลายไลฟ์สไตล์ บางคนชอบเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ นั่งรถไฟ นั่งเรือ แต่ติดปัญหาทั้งด้านราคา การบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงความยากในการเข้าถึงระบบการจองที่สะดวกและรวดเร็ว

‘ที่พัก ร้านอาหาร’ (Accommodation & Restaurant) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญ เพราะเป็นหัวใจหลักในการท่องเที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการควรรักษามาตรฐานทั้งด้านงานบริการ และราคาต้องเหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนราคาได้ในแต่ละช่วงของฤดูกาลแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเหมาะสมและสอดรับกับค่าครองชีพของคนไทย ส่วนบทบาทของภาครัฐควรให้การสนับสนุนด้วยนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งควรให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ควรจำกัดเงื่อนไขเฉพาะบางตัวแทนจำหน่าย (Travel Agency) เพราะลูกค้าบางรายไม่ได้จองที่พักกับตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว

นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “เรื่องสุดท้ายคือ ‘ประสบการณ์การท่องเที่ยว’ (Travel Experience) เทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมองหารูปแบบการเที่ยวที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งประสบการณ์การพักผ่อน ประสบการณ์ความสนุกกับกิจกรรม ประสบการณ์การบริการที่เหนือระดับ และอื่น ๆ ดังนั้นการจะดึงนักท่องเที่ยวไทยให้เที่ยวในเมืองไทยได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการต้องสอดแทรกประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ไปในบริการของตนเอง และทำการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการมาใช้บริการซ้ำ ในส่วนของภาครัฐอาจจะเข้ามาช่วยเหลือในด้านของเงินทุนปล่อยกู้สนับสนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปพัฒนารูปแบบบริการต่อไปได้”

รู้จัก 'น้องไตตั้น' เด็กเก่งผู้สอบติดเตรียมอุดมฯ ด้วยคะแนนลำดับ 2 ของประเทศ มุ่งมั่นขอสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวง (ทุนคิง) หวังนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาชาติ

รายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ 'น้องไตตั้น' เด็กชายปริญ มิตรารัตน์ เด็กเก่งจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน ที่สามารถสอบติด ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยคะแนนเป็นลำดับที่ 2 ของประเทศ

โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับน้องไตตั้น อีกหนึ่งเด็กไทยที่ทุกคำตอบมีความคิดไกลเกินวัยเด็ก 14 ปี ผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันให้มากขึ้น...

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเทของน้องไตตั้น เด็กชายปริญ มิตรารัตน์ ที่มีความขยันศึกษาหมั่นเพียร ทำให้เขาสามารถสอบติด ม.4 ถึง 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, โรงเรียนกำเนิดวิทย์ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 

แต่สุดท้ายน้องไตตั้น ตัดสินใจเลือกเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เนื่องจาก ม.1-ม.3 เรียนที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ข้าง ๆ กัน สถานที่ใกล้เคียงกันทำให้ไม่ต้องปรับตัวเยอะ และการเลือกเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาก็เป็นการเปิดโอกาสในการสอบทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) หรือ ‘ทุนคิง’ ซึ่งเป็นทุนให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ศึกษาในไทยมีโอกาสไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศได้

น้องไตตั้น เล่าให้ฟังว่า ตอนทราบผลสอบดีใจมาก คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจมากเช่นกัน ส่วนเหตุผลที่ทำให้สามารถสอบได้คะแนนสูงขนาดนี้? น้องไตตั้น บอกว่า "ผมเตรียมสอบทุกวิชามาเป็นอย่างดี ซึ่งวิชาที่ผมน่าจะทำได้ดี คือ คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่บ้านปลูกฝังให้เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล"

เมื่อถามว่าพลาดตรงไหนถึงทำให้ไม่ได้ที่หนึ่ง? น้องไตตั้นตอบว่า "ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ผมทำเต็มที่แล้ว ทุกคนที่มาสอบแข่งขันก็มีความเก่งเหมือนกันไม่ใช่ผมคนเดียว เก่งกันทุกคน ขึ้นอยู่กับจังหวะในวันสอบว่าเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน"

เมื่อถามถึงแนวทางในการเตรียมตัวสอบและการใช้ชีวิต? น้องไตตั้น กล่าวว่า "ผมเรียนพิเศษมาเรื่อย ๆ และเริ่มจริงจังตอน ม.2 ซึ่งผมว่าการเตรียมตัวสอบไม่ได้มีวิธีเดียว บางคนชอบเรียนพิเศษก็สามารถเรียนได้ หรือบางคนชอบอ่านหนังสือแล้วฝึกทำโจทย์เองก็ได้ครับ แต่โดยปกติเมื่อเรียนพิเศษเสร็จ ผมก็จะกลับมาทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่วนตัวชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ส่วน Life Style การใช้ชีวิต ผมก็ไม่ได้อ่านหนังสือตลอดเวลา แต่ยังแบ่งเวลาเล่นกีฬา โดยเฉพาะบาสเกตบอล และผ่อนคลายด้วยการดูหนังฟังเพลง และเล่นเกมบ้าง"

เมื่อถามถึงความฝัน? น้องไตตั้น เผยว่า "อยากทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์ เพราะชอบศึกษาด้าน Software ชอบเขียนโค้ด และตอนนี้ก็กำลังเข้าค่ายอบรมของ สอวน. (มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการ และพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา) ค่ายที่ 2 ซึ่งการเข้าค่าย สอวน. เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้สนใจด้านคอมพิวเตอร์มากขึ้น"

น้องไตตั้น เสริมอีกว่า ส่วนอนาคตอันใกล้นี้ ตั้งเป้าหมายว่าอยากเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อต่อยอดทางการศึกษา และสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) เพื่อไปศึกษาต่อที่ Stanford University มหาวิทยาลัยระดับโลกที่มีชื่อเสียงในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรม วิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยเมื่อเรียนจบตั้งใจนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศ"

เมื่อถามว่าอยากฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเรียนเก่ง จะต้องทำอย่างไรบ้าง? น้องไตตั้น เผยว่า "เริ่มแรกต้องตั้งเป้าหมายว่าอยากได้อะไร อยากเรียนที่ไหน อยากได้เกรดเท่าไหร่ และต้องเชื่อมั่นว่าทำได้ และเลือกเส้นทางดูว่า จะทำให้เดินไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างไร"

ท้ายสุด น้องไตตั้น ได้กล่าวขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ที่ดูแลใส่ใจมาโดยตลอด และยังให้ความรักและกำลังใจในเรื่องการเรียน พร้อมทั้งบอกว่า ถ้าไม่มีท่านทั้งสอง ตนก็คงไม่มีวันนี้...

'ธรรมชาติทรายแก้ว' สร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ต่อยอดองค์กรหลากมิติสู่เป้าหมาย Net Zero

เหมืองแร่ธรรมชาติทรายแก้ว บูรณาการร่วมทุกหน่วยงาน ขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero ตอกย้ำคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี วิจัยเพื่อใช้ 'ธรรมชาติบำบัด' บริหารจัดการน้ำเสีย ไม่กระทบชุมชน พร้อมวางโครงสร้างแน่นหนา ปลอดภัยต่อพนักงาน และชุมชนโดยรอบ

ไม่นานมานี้ นายวัลลภ การวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธรรมชาติทรายแก้ว จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายทรายแก้วคุณภาพดีให้กับลูกค้า ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และการมีธรรมาภิบาลที่ดี โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมทางสังคม วัฒนธรรม ประเพณี การศึกษา และสุขภาพให้แก่ชุมชนโดยรอบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตามที่รัฐบาลไทยได้มีการประกาศไว้บนเวทีการประชุม COP26 

“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในเหมืองแร่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นในกระบวนการผลิต จนได้แร่คุณภาพ ได้มีการปรับปรุงโรงงานให้ทันสมัยเพื่อลดการใช้แรงงานคน มีการปรับปรุงภูมิสถาปัตย์เพื่อลดต้นทุนในการผลิต อาทิ ท่อส่งทรายแยกเป็นใยแมงมุมกองตามชนิดของทราย การสร้างกองทรายจำนวนมากสามารถเลือกกองที่ความชื้นน้อยไปขายให้ลูกค้าลดการเคลื่อนย้าย ตลอดจนแยกกองทรายตามชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จุดเด่นที่เป็นการลดการใช้พลังงานคือ มีการแยกแร่เหล็กออกจากทรายเมื่อผ่านการล้างและคัดขนาดเม็ดทรายแล้วถึง 2 ครั้งด้วยการผลิตผ่าน Double Spirals ที่ทำหน้าที่ในการแยกแร่หนักจนได้แร่ทรายแก้วคุณภาพ” นายวัลลภ กล่าว

ด้วยกระบวนการผลิตที่มีการใช้น้ำจำนวนมาก จึงต้องมีการวางแผนเรื่องการบริหารจัดการน้ำภายในกระบวนการผลิตไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้ศึกษาและวิจัยก่อนการสร้างเหมืองแร่และโรงแต่งแร่เพื่อให้แน่ใจว่าจะวางโครงสร้างถูกต้อง มีการบำบัดน้ำที่รัดกุมและไม่สร้างความเดือดร้อนให้พื้นที่โดยรอบ โดยวางโจทย์ในเรื่อง 'ธรรมชาติบำบัด' ซึ่งหลังจากที่ปล่อยน้ำใช้ออกมาแล้ว ส่วนแรกจะมีบ่อทรายอยู่ข้างล่างช่วยดักตะกอน โดยธรรมชาติแล้วตะกอนจะมีน้ำหนักมากกว่าเมื่อเกิดการไหลเวียนไปในระยะทางที่ไกลขึ้น ก็จะมีตกตะกอนไปเรื่อย ๆ ซึ่งเราจะมีการคำนวณเรื่องระยะทางการไหลวนมาถึงปลายทางที่น้ำจะใสขึ้นเป็นลำดับจึงเชื่อมด้วยท่อลงสู่บ่อน้ำใสซึ่งพร้อมที่จะนำมาเวียนใช้ในการล้างทรายได้เหมือนเดิม

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่บริเวณโดยรอบโรงแต่งแร่และเหมืองแร่นั้นได้ร่วมกับพนักงานเพาะพันธุ์กล้าไม้ชนิดต่าง ๆ เพื่อปลูกในพื้นที่ซึ่งนอกจากช่วยปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามน่าอยู่แล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว และช่วยจับฝุ่นละอองในอากาศได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้มีการบริหารจัดการพื้นที่ด้วยการปลูกต้นทุเรียน และต้นไม้ยืนต้น 

“ด้านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ได้ร่วมมือกับชุมชนและท้องถิ่นโดยรอบพัฒนาระบบสาธารณูปโภค อาทิ ปรับปรุงถนนคอนกรีตเสริมเหล็กข้างสำนักงานเทศบาลตำบล (ทต.) สุนทรภู่ หมู่ ที่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างทางสาธารณประโยชน์ในหมู่ที่ 1 ต.ทางเกวียน อ.แกลง บริเวณถนน 344 บ้านบึง-แกลง ซอย 3 มาบรรจบที่ศาลาบ้านคลองน้ำขาว ระยะทาง 950 เมตร และสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามคลองใช้ หมู่ที่ 1 จากถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง แยกเข้าซอย 3 ไปออกศาลาบ้านหนองน้ำขาว เพื่ออำนวยความสะดวกและเกิดความปลอดภัยในการสัญจรร่วมกันให้ประชาชน”  นายวัลลภ กล่าว

จากความร่วมมือของทุกคน เริ่มตั้งแต่ผู้บริหารผลักดันนโยบาย ไปสู่พนักงานในการนำระบบการจัดการดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ ปฏิบัติ ควบคุม ติดตามผล และปรับปรุง ทบทวน พัฒนาจนบริษัทฯ ได้รับ รางวัล ElA Monitoring Awards ตั้งแต่ปี 2011 ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงการดำเนินการต่าง ๆ ตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

‘แบงก์ชาติ’ ชี้ เศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. ยังโตต่ำ แม้ นทท.เพิ่มขึ้น เหตุส่งออกหด ลงทุนดีขึ้นบางหมวด แถมรัฐเบิกจ่ายงบ 67 อืด

(29 มี.ค.67) น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.67 โดยรวมขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเศรษฐกิจในภาคบริการขยายตัวตามรายรับและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะจีน ซึ่งได้รับผลดีจากมาตรการวีซ่าฟรีและเทศกาลตรุษจีน ส่วนมาเลเซียมาจากการท่องเที่ยวก่อนการถือศีลอดในช่วงรอมฎอนที่เร็วกว่าปกติในปีนี้ รวมถึงญี่ปุ่นที่เข้ามา หลังชะลอไปในช่วงก่อนหน้า

น.ส.ชญาวดี กล่าวต่อว่า ด้านการลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นในบางหมวด ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลงจากยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายในหมวดบริการและสินค้าไม่คงทน ส่วนหนึ่งยังได้รับผลดีจากมาตรการภาครัฐทั้งการอุดหนุนราคาพลังงานและการลดหย่อนภาษีต่อเนื่องจากเดือนก่อน ขณะที่การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนลดลง โดยเฉพาะยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำปรับลดลง เนื่องจากหลายกลุ่มสินค้ายังถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า สินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง และปัจจัยเชิงโครงสร้างการผลิตของไทย โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามการส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารไปสหรัฐฯ รวมถึงการส่งออกแผงวงจรรวมและฮาร์ดดิสไดรฟ์ไปจีนและฮ่องกง ยานยนต์ตามการส่งรถกระบะไปออสเตรเลียเป็นสำคัญ และปิโตรเลียมจากการส่งออกไปอาเซียน มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการนำเข้าสินค้าทุน

น.ส.ชญาวดี กล่าวอีกว่า ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางเสถียรภาพเศรษฐกิจ ตาม พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า และรายจ่ายประจำที่หดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อนตามการเลื่อนเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านการศึกษาเป็นสำคัญ

น.ส.ชญาวดี กล่าวต่อว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนจากหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ตามราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อยตามราคาอาหารในหมวดพื้นฐาน จากผลของฐานสูงในปีก่อน ตลาดแรงงานทรงตัวจากเดือนก่อนโดยการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงถูกชดเชยด้วยการจ้างงานในภาคบริการ

‘Audi’ จัดแคมเปญ ลดกระหน่ำ ย้ำ!! ไม่ซื้อตอนนี้ จะไปซื้อตอนไหน ลดให้สูงสุด 2.2 ล้าน หั่นราคารับ Motor Show มีครบ ‘สปอร์ต-เอสยูวี-รถไฟฟ้า’

เมื่อเร็วๆ นี้ Audi Thailand ประกาศมอบส่วนลดให้ลูกค้าสูงสุด 2.2 ล้านบาท หั่นราคาแบบไม่เคยมีมาก่อน ด้วยแคมเปญ ไม่ซื้อ Audi ตอนนี้จะไปซื้อตอนไหน ไฮไลต์เด่นในบูธ Audi ที่นำมาจัดแสดงในงาน เช่น รถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงรถพลังงานผสมปลั๊กอินไฮบริด และรถสมรรถนะสูงตระกูล RS ในสีพิเศษที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อนกว่า 20 รุ่น ครั้งแรกที่ Audi นำรถนำเข้าทั้งคัน (CBU) มาตรฐานเยอรมัน คุณภาพประกอบพรีเมียมมาลดราคาพิเศษ ส่วนลดสูงสุดในแคมเปญ Motor Show ถึง 2.2 ล้านบาท

· RS e-tron GT ลดเหลือ 7.99 ล้านบาท
· TT Coupé Final Icon Black ลดเหลือ 3.199 ล้านบาท
· Q8 e-tron 50 quattro ลดเหลือ 4.399 ล้านบาท
· Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition ลดเหลือ 4.449 ล้านบาท
· Q5 55 TFSI e quattro S line ลดเหลือ 3.299 ล้านบาท

ไฮไลต์ในงานนอกจากส่วนลดสูงสุด 2.2 ล้านบาท Audi ยังมีการเปิดตัว Audi TT Coupé Final Icon Black X Benzilla Edition1/1 ที่มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย เป็นการทำงานร่วมกับ 'Benzilla' ศิลปิน Street Artist ชื่อดังของประเทศไทย เจ้าของคาแรกเตอร์ LOOOK มนุษย์ต่างดาวสามตาที่กำลังได้รับความนิยม และมีผลงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนตัวรถ ด้วยสีที่เป็นเฉดสีของ Audi TT Coupé เท่านั้น เช่น Glacier white, Mythos black, Chronos grey, Tango red, Turbo blue และ Python yellow เพิ่มความโดดเด่นให้กับความเป็น 'Iconic design' ของ Audi TT Coupé พิเศษสำหรับแฟน Audi ที่อยากเป็นเจ้าของ Audi TT Coupé Final Icon Black X Benzilla Edition1/1 ที่มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดให้จอง ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 12.00 น. สำหรับลูกค้า 5 ท่านแรก ที่จอง Audi TT Coupé ในงานมอเตอร์โชว์ รับสิทธิพิเศษเลือก Customed Design TT X Benzilla Special Edition ในแบบที่คุณต้องการ และลูกค้าทุกท่านที่จองรถอาวดี้ทุกรุ่นในงาน Motor Show รับของขวัญสุดพิเศษจาก Audi X Benzilla Collection (จำนวนจำกัด)

สนใจสามารถเข้าชมรถทุกรุ่นได้ที่ บูธ Audi ในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมทดลองขับได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567

'รัดเกล้า' เผย!! สศค.เล็งทบทวน มาตรการช่วยอสังหาฯ เพิ่มเงินกู้บ้านล้านหลังเป็น 2 ล้านบาท พร้อมลดค่าจด-โอน เหลือ 0.01%

(30 มี.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาทบทวนมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้เติบโตขึ้น โดยพิจารณามาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 1% คำจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับอสังหาฯที่ราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน3 ล้านบาท โดยจะขยายให้ราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมมาตรการด้วย แต่ให้สิทธิเฉพาะ 3 ล้านบาทแรก

ส่วนมาตรการการเงิน โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่กำหนดให้กู้ได้เฉพาะผู้ซื้อบ้านก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน1.5 ล้านบาทนั้น จะขยายเป็นราคาสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท เพราะที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท หาได้ยากและไม่ได้เสี่ยงมาก ส่วนการทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้มา 5-6 ปีแล้ว กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย กำลังศึกษาร่วมกันเพื่อทบทวนให้เหมาะสม เช่นการจัดระเบียบประเภทที่ดินให้ชัดเจนมากขึ้นรวมทั้งการให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ปัจจุบันให้ อปท. ใช้ดุลพินิจได้ตามความเหมาะสม เช่น ที่ดินเปล่าที่เจ้าของปลูกต้นไม้ทำสวน แต่ไม่ถึงเกณฑ์เป็นที่ดินเพื่อการเกษตรนั้นได้ให้ อปท.ตัดสินใจได้เลยว่าจะเข้าเกณฑ์ใดส่วนอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังไม่มีแนวคิดปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การปรับมาตรการกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมรายละเอียดเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในเร็ว ๆ นี้

‘Mazda’ เปิดบูธภายใต้ธีม ‘Love of Cars’ ในงาน Motor Show พร้อมอวดโฉม ‘MX-30 e-SKYACTIV R-EV’ ที่ ‘สะดวกสบาย-ไปได้ไกลว่า’

เมื่อเร็วๆ นี้ มาสด้าเนรมิตบูธจัดแสดงรถยนต์ ภายใต้ธีม Love of Cars เพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตที่กำลังดำเนินไปตามกรอบระยะเวลา ตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่หลงใหลในการขับขี่และรักในรถยนต์ โดยแบ่งโซนจัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวที่มีลูกค้าอยู่ในทุกช่วงเวลา และมีรถยนต์มาสด้าเป็นพาร์ตเนอร์ในทุกประสบการณ์ ตอกย้ำการให้ความสำคัญที่มีลูกค้าเป็นหนึ่งในทุกการเติบโต สื่อสารอารมณ์ความรู้สึก ความสนุกสนานในการขับขี่ ความสุขในการใช้ชีวิต และอนาคตที่รถยนต์มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ได้แบ่งปันความทรงจำที่มีต่อรถยนต์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์มาสด้าให้แนบแน่นยิ่งขึ้น พร้อมปลุกตำนานโรตารี่ด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคต Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV ที่ผสานการทำงานร่วมกันระหว่างระบบไฟฟ้ากับเครื่องยนต์โรตารี่ กลายเป็น Plug-in Hybrid ที่ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและไปได้ไกลกว่า มาให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

มร. ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้มาสด้าออกแบบบูธใหม่ทั้งหมด ภายใต้ธีม Love of Cars ได้แรงบันดาลใจจากการมีลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งในทุกประสบการณ์ของการเดินทาง เป็นศูนย์รวมความสุขของผู้ที่รักในรถยนต์ โดยแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น โซนแกลเลอรี่วอลล์ ที่ลูกค้าส่งภาพความประทับใจกับรถยนต์คันโปรด You and Mazda Moments ถ่ายทอดประสบการณ์ความสุขในทุกช่วงเวลาของลูกค้า ซึ่งเป็นปณิธานที่เรามุ่งหวังและตั้งใจที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน และยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่รักในรถยนต์ 'The Memorable Love of Cars' เสียสละรถโมเดลผ่านทางมาสด้า เพื่อส่งต่อให้กับเด็กๆ เยาวชนที่ขาดแคลน ซึ่งมีผู้สละเข้ามามากกว่า 500 คัน และมาสด้าเพิ่มเติมอีก 1,000 คัน โดยจะเร่งส่งต่อรถโมเดลเหล่านี้ให้ถึงมือเด็กๆ โดยเร็วที่สุด

ส่วนไฮไลต์สำคัญ คือ การจัดแสดงเทคโนโลยี Multi-Solution มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ส่งมอบเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายและมีความเหมาะสมในแต่ละภูมิภาค เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า ในยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเชื้อเพลิงไปสู่พลังงานไฟฟ้า หลายคนคงจดจำเครื่องยนต์โรตารี่ สัญลักษณ์แห่งการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และความคิดสร้างสรรค์ นี่คือหนึ่งใน Multi-Solution เทคโนโลยีแห่งอนาคตจากมาสด้า การนำเทคโนโลยี e-SKYACTIV R-EV มาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ เป็นการปลุกฟื้นคืนชีพตำนานเครื่องยนต์โรตารี่ ต้นกำเนิดรถสปอร์ตมาสด้าหลากหลายรุ่นในอดีต ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบันกลายเป็นดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

หัวใจหลักสำคัญของการพัฒนา MAZDA MX-30 e-SKYACTIV R-EV คือเครื่องยนต์โรตารี่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ขนาด 830 ซีซี เล็กกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไปที่ให้กำลังใกล้เคียงกัน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที ลูกสูบหมุน 1 โรเตอร์ ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม น้ำหนักเบาเพียง 15 กก. ประกอบกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง เมื่อวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ระยะไกลถึง 85 กิโลเมตร ที่เกิดจากจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง และเมื่อได้รับการปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับเข้ามาจากเครื่องยนต์โรตารี่จะทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร ทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลกับการเดินทางไกลเพื่อออกไปหาประสบการณ์ใหม่ในการดำเนินชีวิต ซึ่งเกิดจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์โรตารี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขนาดถัง 50 ลิตร มาผสานการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขยายระยะทางในการขับขี่ กลายเป็นเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบที่มีต้นกำเนิดจากการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่ อันเกิดจาก 'จิตวิญญาณแห่งความท้าทาย' หรือ 'Challenger Spirit' อันมีเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นที่นำมาจัดแสดงภายในงานฯ ล้วนเป็นยนตรกรรมได้รับการถ่ายทอดปรัชญาของมาสด้า เพื่อยกระดับประสบการณ์ความสุขในทุกการขับขี่ และการใช้ชีวิตประจำวันในทุกๆ ด้านให้กับลูกค้าทุกคน ซึ่งรวมถึง การนำ NEW MAZDA MX-5 รถสปอร์ตโรดสเตอร์แบรนด์ไอคอนยอดนิยม ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย กับเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีในการขับขี่ เพื่อถ่ายทอดปรัชญา จินบะ-อิตไต (Jinba-Ittai) ให้โดดเด่นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงอัตราเร่ง และการควบคุมพวงมาลัยที่ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม ฉับไว ไม่ว่าจะขับรถในเมือง ทางโค้ง หรือขับในสนามแข่ง

โดยเฉพาะในระบบเกียร์แมนนวลที่มาพร้อม DSC-TRACK ซึ่งเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ (Dynamic Stability Control: DSC) ใหม่ ที่ใส่เพิ่มเติมเข้าในรถรุ่นนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้เหมือนกับการขับรถแข่งในสนามแข่ง โดยระบบจะยอมให้เกิด Understeer หรือ Oversteer เพียงเล็กน้อย และระบบจะเข้ามาช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้ หรือก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รถหมุนเท่านั้น เพื่อช่วยควบคุมรถเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จึงสามารถมอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ตอกย้ำถึงแนวทางในการพัฒนารถยนต์ของมาสด้าได้เป็นอย่างดี ในด้านการยกระดับคุณค่าประสบการณ์ของลูกค้าให้ครบทุกมิติ วางราคาจำหน่าย 3,029,000 บาท ดอกเบี้ย 2.49%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)3 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี

ทั้งนี้ มาสด้าจะยังคงเดินหน้าในการส่งมอบ ความสุขในการขับขี่ Joy of Driving ต่อไป ภายใต้คุณค่าหลัก ที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้น 'มนุษย์เป็นศูนย์กลาง' และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบ 'ความสุขในการดำเนินชีวิต' ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของทุกคน

อนุชุมชนฯ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา ขับเคลื่อนการเชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ อีอีซี

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่การพัฒนาพื้นที่และชุมชน นำโดย รองศาสตราจารย์มณฑล แก่นมณี ประธานอนุกรรมการ พร้อมด้วย นายธนาคม จงจิระ รองประธานฯ และอนุกรรมการ รวมทั้งผู้บริหาร สกพอ. นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการฯ สายงานพื้นที่และชุมชน และเจ้าหน้าที่ สกพอ. นายอาทร เสริมศักดิ์ศศิธร ประธาน YEC และผู้ผแทน YEC ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเรียนรู้แนวทางการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของนิคมอุตสาหกรรม ฯ และชุมชนรอบโครงการอย่างเป็นรูปธรรม และการยกระดับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีมูลค่าสูงขึ้นของวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ รวมถึงร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานในพื้นที่และผู้นำท้องถิ่นเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกผ่านโครงการ EEC Tambon Mobile Team คณะอนุกรรมการฯ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สกพอ. ได้ลงพื้นที่ประชุมหารือและศึกษาแนวทาง การดำเนินงาน 'เขาดิน โมเดล' 

ซึ่งเป็นตัวอย่างความสำเร็จของการช่วยเหลือเกื้อกูลและสนับสนุนส่งเสริมกันของนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ และชุมชนรอบโครงการทั้งด้านที่ดิน ด้านอาชีพ และด้านสิ่งแวดล้อม ณ ศูนย์เรียนรู้ “ทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน” แห่งแรกของประเทศไทย โดยมีนางสาวกุลพรภัสร์ วงค์มาจารภิญญาประธานผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทคซิตี้ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรในชุมชนให้มีมูลค่าสูงขึ้น และสามารถขยายช่องทางการตลาดได้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปขยายผลในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ของบริษัท บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เกิดจากการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ กับ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ไต้หวัน) ผลผลิตของโรงงานแห่งนี้ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ อีอีซี  

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ร่วมประชุมหารือร่วมกับนายศักรินทร์ ศรีสมวงศ์ นายอำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้นำท้องถิ่น ประกอบด้วย นายหิรัญ หริ่มเจริญ กำนันตำบลหนองตีนนก นายสมศักดิ์ ไหลไผ่ทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 และนายเมืองแมน มนจ้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลหนองตีนนก และนายวิลาศ สุวินัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตีนนก เป็นต้น เกี่ยวกับแนวทางการทำงานร่วมกันในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี รวมทั้งการเตรียมพื้นที่และชุมชนให้มีความพร้อมและศักยภาพที่จะรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่านโครงการ EEC Tambon Mobile Team จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานและการแปรรูปตำบลหนองตีนนก ซึ่งได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2567 วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกันของประชาชนในชุมชนเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่สมาชิก ด้วยการปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ด้วยวิธีการธรรมชาติ ให้สมาชิกมีอาหารที่ปลอดภัยอย่างเพียงพอ ส่วนรายได้ที่เกิดจาการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจะนำมาปันผลให้แก่สมาชิก และช่วยเหลือสมาชิกยามเจ็บป่วย มีการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อลดต้นทุนการผลิตและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับการประกอบธุรกิจแบบ BCG โดยคณะอนุกรรมการฯ จะนำข้อมูลและบทเรียนแห่งความสำเร็จไปเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงจากการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของคณะอนุกรรมการฯ ต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top