Monday, 20 May 2024
Easthern

ชลบุรี - กองทัพเรือโดย ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น. พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ในสังกัดกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 รวมทั้งเรือในหมวดเรือเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 และเรือในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ร่วมบริจาคโลหิตในโครงการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิตเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับสภากาชาดไทย โดยมีเจ้าหน้าที่จากภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จว.ชลบุรี เดินทางมาให้บริการรับบริจาคโลหิต ณ อาคารอเนกประสงค์ ทัพเรือภาคที่ 1

ในกิจกรรมนี้ มีกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ที่มาร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต รวมทั้งสิ้น 58 นาย รวมจำนวนโลหิตที่บริจาค 26,100 มิลลิลิตร สนับสนุนให้แก่สภากาชาดไทย ทั้งนี้ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงให้ความสำคัญกับกิจกรรมสาธารณประโยชน์ รวมไปถึงกิจกรรมการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยแก้วิกฤตของชาติ เช่นนี้เสมอ


ภาพ/ข่าว  กองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - ตลาดใหม่ชลบุรีปิด แม่ค้าบ่นอุบ พริกแพง 3 เท่าตัว ตลาดข้างเคียงวอนให้มาซื้อสินค้า

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นวันแรกที่ตลาดใหม่ชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ปิดการค้าขายไปจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม เนื่องจากมีการตรวจพบคัสเตอร์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาพบไปแล้วทั้งหมด 18 ราย จึงได้ทำการปิดตลาดเพื่อฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งทำความสะอาดไปด้วย ส่งผลให้บริเวณตลาดเงียบเหงาเพราะถือว่าเป็นตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังได้ส่งผลกระทบกับตลาดข้างเคียง อาทิ ตลาดใหม่พงษ์ศักดิ์ ตลาดนิยมสุข ส่งผลให้ตลาดเงียบเหงาไปด้วย เนื่องจากประชาชนเริ่มมีความหวาดกลัวเกรงว่าจะเกิดคัสเตอร์แห่งใหม่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าวิงวอนให้มาซื้อสินค้า เพราะยังเปิดขายตามปกติ

จากการสอบถาม น.ส.อทิสดา กาฬสินธุ์ แม่ค้าขายอาหารตามสั่งในพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี กล่าวว่า มาซื้อเครื่องประกอบอาหารตามสั่ง จากการที่ปิดตลาดใหม่ชลบุรี ทำให้เกิดผลกระทบเหมือนกัน เพราะต้องซื้อเครื่องประกอบอาหารแพงขึ้น โดยเฉพาะพริก จากการที่ซื้อในราคากิโลกรัมละ 20 บาท พุ่งขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 70 บาท สูงถึง 3 เท่าตัว ปกติไม่มีเงินเก็บ ซื้อ-ขายวันต่อวัน แต่หยุดไปถึง 7 วัน เดือดร้อนมาก เพราะหาแหล่งซื้อสินค้าราคาขายส่งไม่ได้


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - ชมรมภริยาทกองเรือยุทธการ ร่วมส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ สู้โควิด

ชมรมภริยาทกองเรือยุทธการ (กร.) ร่วมส่งกำลังใจ มอบอาหาร น้ำดื่ม แก่บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID–19 ให้มีพลังปฏิบัติงานเพื่อประชาชน

คุณสุนันท์ สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ นำคณะภริยากองเรือยุทธการ มอบอาหาร และน้ำดื่มให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมสู้วิกฤต "โควิด-19"

โดยมี พล.ร.ต.ชลธร สุวรรณกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ รับมอบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษา และดูแลผู้ป่วย ทั้งประชาชนทั่วไปและกำลังพลของกองทัพเรือ ได้อย่างเต็มที่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID–19  อีกทั้งช่วยลดภาระในการจัดหาอาหารระหว่างวันของเจ้าหน้าที่ ซึ่งชมรมภริยากองเรือยุทธการ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่เปรียบเสมือนด่านหน้าในการเผชิญกับวิกฤต COVID-19 อย่างต่อเนื่อง เป็นแนวหลังที่ขอร่วมต่อสู้จนกว่าจะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ ไปด้วยกัน เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ผ่านมา


ภาพ/ข่าว กองกิจการพลเรือน กองเรือยุทธการ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - เมืองพัทยา เตรียมชงแผนเปิดเมืองรับ นทท.ต่างชาติ แบบไม่กักตัวหากแผนการฉีดวัคซีนตรงเป้า 70 %

เมืองพัทยา ร่วม ททท.พัทยา และภาคธุรกิจ เตรียมชงแผน SOP แผน Pattaya move on  เปิดเมืองรับท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ไตรมาส 4 ให้ ศบค.พิจารณาก่อนกลางเดือน มิ.ย.นี้ หากแผนการฉีดวัคซีนประชาชนตรงเป้า 70 %

ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมแผน Pattaya move on  พร้อมด้วย นายขจรเดช อภิชาตตรากุล ผอ.ททท. สำนักงานพัทยา นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก นายบุญอนันต์ พัฒนสิน เป็นนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และตัวแทนภาคท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยในที่ประชุมได้มีการหารือและข้อสรุปการจัดทำแผน Pattaya move on  ในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนแล้วมายังพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุงและอำเภอสัตหีบ โดยไม่ต้องกักตัวแต่ต้องอยู่หรือในพื้นที่ 2 อำเภอนี้อย่างน้อย 7 วัน ก่อนออกเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ภายใต้แนวคิด Neo Pattaya ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับรับนักท่องเที่ยว โดยกลุ่มประเทศที่จะเปิดรับเข้ามาในพื้นที่นั้นจะเป็นกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ ตามรายชื่อจากกระทรวงสาธารณสุข และเป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉัดวัคซีนครบตามเกณฑ์วัคซีนแต่ละชนิดแล้วในระยะเวลาการฉีดวัคซีนมากกว่า 14 วันแต่ไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้วัคซีนที่นักท่องเที่ยวได้รับจากประเทศต้นทางนั้นจะต้องรับรองโดนรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ ส่วนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12-18 ปี จะต้องได้รับการตรวจโควิด-19 มาแล้วก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง พร้อม Covid-19 free Certificate

โดยนักท่องเที่ยวต้องพักอาศัยอยู่ในโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน SHA+และสามารถทำกิจกรรมใช้บริการได้จากสถานประกอบการตามพื้นที่ที่กำหนดที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ เท่านั้น อีกทั้งจะต้องรายงานตัวผ่านระบบแอพพลิเคชั่นที่รัฐบาลกำหนดทุกวันตลอดเวลา 7 วัน ที่พักอยู่ในพื้นที่ ซึ่งแผน Pattaya move on เป็นการดำเนินการ ภายใต้มาตรการ SOP หรือ Standard Operation Procedure  12 มาตรการ อาทิ 1.มาตรการรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศของ่ทาอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและสุวรรณภูมิ 2.มาตรการเดินทางจากสนามบินเข้าที่พัก 3. มาตรการบริการบริการระหว่างลูกค้าเมื่อมาถึงจุด Check in ของโรงแรม 4.มาตรการท่องเที่ยวชายหาด 5.มาตรการจัดการสำหรับพื้นที่พักผ่อนแบบองค์รวม 6.การท่องเที่ยวและการเดินเรือ และ 7.มาตรการสำหรับผู้ให้บริการ โดยสถานประกอบการ หรือโรมแรมที่จะเข้าร่วมต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA+ เป็นหลัก ซึ่งการดำเนินการตามแผนดังกล่าว จะบรรลุเป้าหมายนั้นประชากรและแรงงานในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 70 % ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อจะสามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวปลายเดือนตุลาคม 2564 โดยมีกลุ่มประเทศเป้าหมายหลัก คือเยอรมันและรัสเซีย

ด้านนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับแผน Pattaya move on เป็นความร่วมมือระหว่างเมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพัทยา โดยได้มีการนำเสนอผ่าน ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการหารือเพื่อจะเดินหน้าต่อด้านการท่องเที่ยว อย่างเมืองพัทยา ที่เชื่อมโยงไปกับเรื่องของวัคซีนที่จังหวัดชลบุรี จะต้องได้รับการจัดสรรวัคซีน เพื่อจะนำมาฉีดวัคให้กับประชาชนตามเป้าหมาย 70% โดยในส่วนของแผน Pattaya move on เป็นการโฟกัสไปยังพื้นที่ท่องเที่ยว โดย ททท.พัทยา ได้นำพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดต่อในอำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ เป็นหลัก ในการจัดทำแผนดังกล่าว โดยประชากรที่จะได้รับวัคซีนโควิดตามเป้าหมาย 70 % นั้นจะต้องได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 900,000 โดส ตามแผนของ Pattaya move on ซึ่งได้มีการวางแผนจัดฉีดวัคซีนวันละ 15,000 โดส ในพื้นที่พัทยา และพื้นที่โดยรอบ เพื่อให้สามารถเปิดเมืองพัทยารับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ในไตรมาสที่ 4 ตามแผนที่รัฐบาลกำหนดไว้

ทั้งนี้แผน Pattaya move on ที่เมืองพัทยา ททท.พัทยา และภาคธุรกิจ ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นหลังจากนี้จะได้มีการนำเสนอให้ทางสาธารณสุขเห็นชอบ ก่อนจะผ่านไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และส่งต่อไปให้ ศบค.พิจารณาอนุมัติ ก่อนกลางเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อให้สอดรับกับแผนการฉีดวัคซีน ที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ โดยในส่วนเมืองพัทยาและภาคท่องเที่ยว ได้มีการเสนอแผนการพิจารณาและการเพิ่มสัดส่วนของวัคซีน ที่จะมีการจัดสรรให้กับจังหวัดชลบุรี เพื่อจะสามรรถขับเคลื่อนการป้องกันการแพร่ะระบาดและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดชลบุรี เดินหน้าต่อไปได้


ภาพ/ข่าว นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

จันทบุรี - กองทัพเรือร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 กปช.จต. มอบอาหารพร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย จำนวน 500 ชุด บรรเทาความเดือดร้อน เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี

วันนี้ (11 พ.ค.64) เวลา 1700 กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เดินหน้าจัดกิจกรรม "กองทัพเรือร่วมใจสู้ภัยโควิด-19" เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดย พล.ร.ต.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม รอง ผบ.กปช.จต.พร้อมด้วย พล.ร.ต.อภิรักษ์ กลิ่นหม่น เสธ.กปช.จต. และจิตอาสาฯ ได้ทำพิธีส่งมอบอาหาร พร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัยจำนวน 500 ชุด ให้แก่ประชาชนชุมชนย่อยที่ 10 เนินเอฟเอ็มและชุมชนย่อยที่ 14 บ้านมั่นคง เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี  

โดยมีผู้เแทนจากเทศบาลเมืองจันทบุรี ผู้นำท้องถิ่น พัฒนาชุมชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามที่พักอาศัย เป็นการลดการแออัด การรวมกลุ่มของคนหมู่มาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว และในวันที่ 12 พ.ค.64 เป็นต้นไป หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้สนับสนุนรถครัวสนาม มาให้บริการประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนตามชุมชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ชลาธร  รัตตพลสกุล / จันทบุรี

จันทบุรี - สุดลำบากหญิงวัย 24 ปี คลอดลูกได้ 11 วัน ต้องทนลำบากไม่มีบ้านอยู่ ฝนตกสาดเปียก ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก

ที่ หมู่1 ต.มะขาม อ.มะขาม มีชาวบ้านได้ร้องขอความเห็นใจสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือหญิงยากจน อาชีพรับจ้างทั่วไป ที่เพิ่งคลอดลูกใหม่แต่ที่อยู่อาศัยยากแค้น ลำบาก นางสาววิศัลย์ยา ทองแก้ว หรือฟ้า อายุ 24 ปี ที่เพิ่งคลอดบุตรสาวชื่อเด็กหญิงพรพรรณ ทองแก้วหรือว่าน้องน้ำแข็ง โดยเพิ่งคลอดเมื่อวันที่ 16 พ.ค.64 ที่ผ่านมา และได้กลับมาพักอาศัยยังบ้านพักที่ดูสภาพแล้วไม่เหมือนบ้าน มีที่กันฝนเพียงเล็กน้อยไม่มีห้องน้ำไม่มีห้องครัว ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ซึ่งดูแล้วมีความน่าสงสารเป็นอย่างมากเนื่องจากครอบครัวมีความยากจน อาศัยอยู่กับสามีชื่อนายธวัชชัย สุขกะชาติ อายุ 38 ปี ทั้งคู่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป

เพิงพักในปัจจุบันตั้งอยู่บนพื้นที่สาธารณะ อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลมะขามเมืองใหม่ โดยทางครอบครัวต้องการความช่วยเหลือในเรื่องของพี่พักอาศัยที่สามารถใช้หลบแดดหลบฝนได้ เบื้องต้นวันนี้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่เทศบาลมะขามเมืองใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลอ่างคีรี และชาวบ้านในแวกใกล้เคียงได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องอาหารการกินและข้าวของที่จำเป็นสำหรับเด็กอ่อนและทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมอยู่ระหว่างการช่วยเหลือเรื่องของเงินเยียวยาบุตร และอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือเรื่องการจัดหาที่พักอาศัยให้กับทางครอบครัวของน้องฟ้าผ่านทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด และส่วนราชการภาคเอกชนที่พร้อมช่วยเหลือต่อไป


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าวจ.จันทบุรี

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ชลบุรี – สัตหีบพายุฝนพัดถล่ม หลังคาตลาดปลิว เสาไฟพังเสียหาย แม่ค้าลูกค้าวิ่งหนีตาย

จากกรณีช่วงเช้าของวันที่ 28 พ.ค. 64 ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และคลื่นลมแรงครอบคลุมทุกพื้นที่ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้หลังคาร้านค้าขายของสด ในตลาดเช้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ถูกแรงลมพัดจนหลังคาปลิวได้รับความเสียหาย และยังพบมีเสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้น 

โดยล่าสุดนายสิทธิชัย เกียรติมนตรี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสัตหีบ ได้เข้ามาตรวจสอบและประสานให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมกับแจ้งไปยังเจ้าของพื้นที่ ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ เข้ามาดูแลและซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักโค่น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จับจ่ายซื้อสินค้าภายในตลาดต่อไป ซึ่งชาวบ้านได้เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะกำลังยืนขายของได้มีลมพายุมาจากทางทะเล ก่อนจะพัดหลังคาร้านค้าในตลาด หลายร้านปลิวไปทั่ว ก่อนที่จะไปเกี่ยวสายทำให้เสาไฟในตลาดหักโค่นอีก ซึ่งตอนนั้นแม่ค้าต่างพากันวิ่งหนีตาย

ซึ่งหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้  สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง อนึ่ง พายุไซโคลน “ยาอาส” (YAAS) บริเวณรัฐกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ระยอง - ศรชล.ร่วม ศวทอ.สำรวจปะการังฟอกขาว สร้างความสนใจนักท่องเที่ยว

จากกรณี เกิดปะการังฟอกขาวพื้นที่บริเวณชายฝั่งในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง สร้างความแตกตื่นให้กับพี่น้องชาวประมงในพื้นที่เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อวิถีชีวิตของสัตว์น้ำในทะเล นั้น

ในวันนี้ 30 พ.ค.64  ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระยอง (ศรชล.จว.รย.) โดย นาวาเอก อนุพงค์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผอ.ศรชล.จว.รย.) และนาวาเอก พิศาล หาญภักดี หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระยอง (ศคท.จว.รย.) ให้ น.ต.จารึก พรเจริญ จนท.ส่งกำลังบำรุง ศรชล.จว.รย. บูรณาการร่วมกับ ศวทอ. ลงพื้นที่สำรวจปะการังสีขาวบริเวณหาดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

เบื้องต้นได้สอบถามชาวบ้านและชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่แจ้งว่าปะการังสี ขาวชนิดนี้เกิดขึ้นปีละครั้ง จะเห็นอยู่ประมาณ 4-5 วัน และจะเกิดขึ้นประมาณเดือน เม.ย.ถึง มิ.ย. จากการสำรวจของศูนย์วิจัยฯ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ประการังฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังช่องเหลี่ยม ปะการังผึ้ง และปะการังวงแหวน จะพบเห็นก็ต่อเมื่อน้ำทะเลลดต่ำระดับน้ำลึกประมาณ 10-30 ซม. ในช่วงน้ำลงเต็มที่ของทุกปี และมีอูณภูมิประมาณ 30-31 องศาเซลเซียส เป็นภาวการณ์สูญเสียสาหร่ายขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ใน เนื้อเยื่อของปะการังออกไป ทำให้มองเห็นก้อนปะการังที่เป็นหินปูนสีขาวด้านใน แต่ในระหว่างปล่อยอาจเห็นปะการังมีสีซีดจาง สีชมพู ฯลฯ ขึ้นกับระยะของการฟอกขาว อาจไม่ฟอกจนขาวก็ได้เมื่อน้ำเย็นลงหรือแดดน้อยลง

นอกจากนี้แล้ว ยังได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาว ภายใต้โครงการประเมินสถานการณ์ปะการังฟอกขาว โรคและภูมิคุ้มกันแนวปะการัง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริเวณหาดพลา อำเภอบ้านฉาง  จังหวัดระยอง อุณหภูมิน้ำทะเล 32.2 องศาเซลเซียส ความเค็ม 33 ppt ความลึกน้ำ 0.5-1.0 เมตร (ช่วงน้ำลงต่ำสุด) และปะการังโผล่พ้นน้ำ พบว่าปะการังฟอกขาว พื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ปะการังมีสีซีดจางประมาณ 80% และฟอกขาวประมาณ 10% ของปะการังมีชีวิต ปะการังที่มีสีซีดจาง ได้แก่ ปะการังโขด (Porites lutea) ปะการังช่องเหลี่ยม (Favites spp.) และปะการังวงแหวน (Favia sp.) ลักษณะการฟอกขาวของแนวปะการังบริเวณนี้เป็นปรากฏการณ์ปกติ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเป็นแนวปะการังน้ำตื้น และน้ำทะเลลดลงต่ำในเวลากลางวัน (เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) จากการสำรวจในปี 2563 การฟอกขาวบริเวณนี้จะฟื้นตัวได้หลังกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ศูนย์วิจัยฯ จะติดตามการฟื้นตัวของปะการังนี้ต่อไป

น.ส.ประไพ สาธิตวิทยา อายุ 65 ปี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ประมงสามัคคีบ้านพลา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชน และชาวประมงพื้นบ้าน เกิดความตื่นตระหนกกับปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเป็นพื้นที่วงกว้าง เพราะเมื่อไม่นานนี้พบว่า มีตะกอนสีชมพูจำนวนมาก ติดอวนปูขึ้นมาจากใต้ทะเล ที่ยังหาข้อสรุปแท้จริงไม่ได้ ซึ่งการเกิดปะการังฟอกขาวไม่ใช่เรื่องดีกับทะเลแต่อย่างใด จะต้องเกิดผลกระทบห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเลอย่างแน่นอน

และยังได้กล่าวต่ออีกว่า การเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในทะเลที่เป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้าน รู้สึกไม่ค่อยดีอาจส่งผลกระทบกับห่วงโซ่อาหารของสัตว์ แต่ปัญหานี้ยากต่อการแก้ไข จึงได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนวิถีใหม่ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการชักชวนนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพปะการังสีขาว เพื่อให้การค้าหรือการท่องเที่ยว กลับมาคึกคักอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

ชลบุรี - ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ เปิดปฏิบัติการปูพรมทำความสะอาดหาดดงตาล ครั้งที่ 2/2564

สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 23-26 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ คลื่นลมทะเลได้หอบพัดเอาขยะมูลฝอยที่อยู่ในทะเลขึ้นมาบริเวณชายหาดดงตาล ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี เป็นจำนวนมาก

ในวันนี้ 30 พ.ค.64  เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล และสถานที่สาธารณประโยชน์ จึงได้มอบหมายให้ นาวาเอก วีระชัย  บุญมาก ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังพลจิตอาสาทัพเรือกองทัพเรือ จำนวน 61 นาย ได้แก่ กำลังพลจากกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับกำลังพลจากหมวดเรือเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 และเรือในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน เปิดปฏิบัติการ ปูพรมทำความสะอาดชายหาดดงตาล ตั้งแต่ทางเข้าออกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งบริเวณสะพานคลองถูป จนถึงอุทยานเรือประวัติศาสตร์เรือของพ่อ ต.91

สำหรับปฏิบัติการปูพรมทำความสะอาดหาดดงตาลในครั้งนี้ สามารถกำจัดขยะมูลฝอยบริเวณชายหาด และที่ฝังอยู่ใต้พื้นทราย ได้เป็นจำนวนมาก โดยมีขยะที่ถูกกำจัด ได้แก่ ถุงพลาสติก หลอดกาแฟ แก้วพลาสติก ขวดน้ำดื่ม ขวดแก้ว กระสอบ ถุงขนม ฯลฯ รวมปริมาณขยะมูลฝอยที่สามารถกำจัดได้ในครั้งนี้คิดเป็นน้ำหนักขยะจำนวนมากกว่า 600 กิโลกรัม ในการนี้ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนได้กล่าวขอบคุณกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ที่เสียสละเวลาส่วนตัวในวันหยุดราชการ มาร่วมกันทำความดีเพื่อสังคม ซึ่งเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล และสถานที่สาธารณประโยชน์ ตามที่ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้มอบนโยบายให้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่กำลังพลในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ให้ร่วมกันทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อีกด้วย

การปฏิบัติการทำความสะอาดชายหาดดงตาลในครั้งนี้ ทำให้ทราบว่าสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะทางทะเล และชายหาด นั้น ยังคงมีขยะมูลฝอยเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ครัวเรือนไปจนถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะต้องหันมาร่วมกันรณรงค์ “งดการทิ้งขยะลงทะเล” อันจะทำให้สภาพแวดล้อมทางทะเลเกิดความสะอาด ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล อีกทั้งจะทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณชายหาด ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะอาดได้อย่างยั่งยืน


ภาพ/ข่าว : กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สระแก้ว - นายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทำคลีนนิ่งหน้าด่านพรมแดนคลองลึก-ปอยเปต

ถึงแม้ประเทศไทยยังพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทุกวัน แต่ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานกักกัน รวมถึงมีการสกัดคนที่ลักลอบเข้าไทยอย่างผิดกฎหมายได้ก็ตาม โดยเฉพาะหน้าด่านพรมแดนคลองลึก-ปอยเปตเป็นส่วนสำคัญที่ต้องรับคนไทยที่ไปทำงานในฝั่งกัมพูชากลับเข้าประเทศวันละ 100 ราย ดังนั้นจึงต้องทำการคลีนนิ่งป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 15.00 น.ของ วันที่ 31 พค.64 นายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง นายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้วพร้อมทีมงาน ทม.อรัญประเทศและ อสม.กม.5ฝั่งซ้ายและขวา จนท.ตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสดวกเดินหน้าสู้ภัยโควิด19 ณ.หน้าด่านพรมแดนคลองลึก-ปอยเปต ทำการฉีดล้างพ่นน้ำยาคลอบคลุมทั่วบริเวณทุกจุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 สร้างความมั่นใจให้กับ จนท.ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวและกลุ่มการเดินรถส่งสินค้าข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา ส่วนด่านพรมแดนคลองลึก-ปอยเปตยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดด่านสำหรับบุคคลเข้า-ออก (ยกเว้น) รถขนส่งระบบโลจิสติกส์ยังใช้มาตราการให้มีคนขับประจำรถเพียงคนเดียวในการเข้า-ออกเท่านั้น

ทั้งนี้นายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง นายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศได้กล่าวห่วงใยว่า พี่น้องประชาชนคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกัมพูชาเพื่อที่จะเข้ารับการรักษาตัวนั้นให้ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบเพื่อตัวท่านเองร่วมมือกับ จนท.อย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโรคไปยังสถานที่ต่าง ๆ กล่าวทิ้งท้ายเชิญพี่น้องฉีดวัคซินกาดอย่าตกเพื่อครอบครัวและพร้อมที่ช่วยเหลือทุกหน่วยงานที่ประสานมา ทำความสะอาด ล้างท่อระบายน้ำต่าง ๆ บริเวณหน้าด่านนอกจากนั้นแล้วยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อค้าแม่ค้นชาวกัมพูชาด้วย วันนี้ พร้อมอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด รถฉีดน้ำแรงดันสูง เข้าทำความสะอาดพื้นถนน และตามท่อระบายน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งการทำความสะอาดพื้นที่ตลาดโรงเกลือบริเวณหน้าด่านในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการจัด “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์”เพื่อเตรียมรองรับเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งบริเวณนี้อยู่ในพื้นที่ต่ำเมื่อถึงฤดูฝนของทุก ๆ ปีจะเกิดปัญหาน้ำท้วมเป็นประจำ เนื่องจากมีขยะจำนวนมากเข้าไปอุกตันท่อระบายน้ำ การทำความสะอาดในครั้งนี้จึงเน้นการจัดเก็บขยะต่าง ๆ ออกจากท่อระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลได้อย่างสะดวก ปัญหาน้ำท้วมตลาดโรงเกลือก็จะสามารถแก้ไขได้ในระดับหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจำนวนมากที่เปิดร้านขายสินค้นในตลาดโรงเกลือช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย มีความเป็นห่วงเรื่องนี้มาก จึงได้ให้หน่วยงานต่างๆในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จัดกิจกรรม บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชามีความมั่นใจว่า คนไทยจะดูแลให้กับพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการจัดกิจกรรม บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ มีความเป็นห่วงประชาชนทั่วประเทศอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  อดิศักดิ์ สระแก้ว / สมศักดิ์ สารการ /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top