Thursday, 2 May 2024
ปตท

‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ CEO ปตท. คว้ารางวัลเกียรติยศ ‘THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023’


เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับรางวัลเกียรติยศ ‘THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023 ประเภทอุตสาหกรรมพลังงาน’ เป็นการเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีความโดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘สุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี’ จัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

รางวัลดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญในการเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้บริหารองค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งทุกรางวัลผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้าน อาทิ ความสามารถในการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ความเป็นผู้นำและสร้างความผูกพันในองค์กร การตอบแทนสังคม ชุมชน และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยต่อไป
 

‘มธ.-ปตท.’ จับมือพัฒนาสถานีบริการ NGV ธรรมศาสตร์รังสิต เพิ่มพื้นที่สีเขียวพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วยผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ปตท.ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีบริการ NGV ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต สู่แหล่งรวมบริการที่หลากหลายทั้งด้านพลังงานในอนาคต ศูนย์รวมสินค้าและบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่สะดวกสบายเข้าถึงได้ง่าย ภายใต้แนวคิด ‘Greenity+’ ในรูปแบบการผสมผสานการใช้งานพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด และการให้บริการและสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในพื้นที่ (Mixed Used Station)

ซึ่งประกอบด้วย สถานีให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ชนิดพิเศษ (NGV Plus Station) สถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) พื้นที่ทำงานร่วมของนิสิตนักศึกษา (Co-working Space) และพื้นที่กลางแจ้งส่วนกลางที่มีความร่มรื่นจากพื้นที่สีเขียว (Outdoor Common Space) รวมถึงนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายทั้งร้านค้า ร้านอาหาร - เครื่องดื่ม ในรูปแบบทั้งไดร์ฟ-อิน (Drive-in) และ ไดร์ฟ-ทรู (Drive-through) เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่ต้องการนั่งรับประทานอาหารในร้าน และผู้ใช้บริการที่ต้องการความสะดวกสบายในการรับอาหาร รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง และเป็นพื้นที่เรียนรู้เกี่ยวกับด้านพลังงานสะอาด โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 ด้วยงบประมาณ 105 ล้านบาท
 

โคจรเจอกันครั้งแรก!! ‘เบิร์ด ธงไชย’ และ ‘อิ้งค์ วรันธร’ ผ่านบทเพลงพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ปตท.

(9 ก.ค. 66) เพลง ‘เธอคือพลังของฉัน’ เนื้อหาของเพลงเป็นการส่งพลังความรู้สึกดีๆ ให้ซึ่งกันและกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของ ปตท. Ignite Life Potential จุดพลังชีวิต เพื่อใช้สื่อสาร ที่พร้อมเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้กับคนไทย รวมทั้งอยู่เคียงข้างเพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด 45 ปี เพลงนี้ได้นักร้องดังขวัญใจคนไทยตลอดกาล ‘เบิร์ด ธงไชย’ ร่วมด้วยศิลปินสาว ‘อิ้งค์ วรันธร’ มาร่วมถ่ายทอดความรู้สึกดีดีผ่านเสียงร้องอันลงตัวของทั้งสองศิลปิน ที่ฟังแล้วรู้สึกได้รับพลังจากเพลงนี้

ในส่วนของมิวสิควีดีโอ นำเสนอผ่านสตอรี่ที่อบอุ่น และกินใจ ผ่านนักแสดงคู่หนึ่งที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างและผ่านพ้นไปได้ด้วยความรัก และพลังใจดีๆที่มีให้กันและกัน โดยเรื่องราวในมิวสิควิดีโอเรื่องนี้ถ่ายทอดมาจากแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ของปตท. ในส่วนที่ส่งเสริมการพัฒนาไปถึงชุมชน การให้กำลังใจ การช่วยเหลือ และเป็นการจุดพลังให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี

เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เปิดเผยว่า "ขอขอบคุณ เบิร์ดเป็นคนที่โชคดี ที่ได้ทำงานกับคนที่รักเบิร์ด และน้องอิ้งค์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ครั้งนี้เราได้มาร่วมงานด้วยกันแล้ว มาร่วมสุขกันทั้งคู่แล้ว คนที่จะได้รับและมีความสุขคือแฟนเพลงของเบิร์ดและอิ้งค์ทุกคนครับ เบิร์ดว่าในเวลาที่เราเหนื่อย เราต้องมีลูกฮึดเพื่อให้เราลุกขึ้นสู้ เบิร์ดเคยคิดว่าจะทำยังไงดี เบิร์ดใช้เพลงของตัวเองเยียวยาและจุดพลังในใจของเราให้ลุกฮือขึ้นมา สำหรับเพลงเธอคือพลังของฉัน เป็นเพลงใหม่ที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อให้กำลังใจกับทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่ายอมแพ้ อย่าหมดหวัง เบิร์ดอยากให้เพลงนี้ช่วยเติมรอยยิ้ม เติมกำลังใจและเติมพลังให้ทุกๆคนก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ให้เพลงนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นพลังให้กับคนไทยเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ครับ"

อิ้งค์ วรันธร เปานิล เปิดเผยว่า "วันนี้ได้ร่วมงานกับพี่เบิร์ดครั้งแรก รู้สึกได้รับพลังงานเยอะสุดๆ พี่เบิร์ดเป็นคนเอนเนอร์จี้เยอะมากๆ พลังงานไม่ดรอปเลย คอยส่งมาให้เราตลอด แอบถามพี่เบิร์ดด้วยว่า ตอนทำงานเคยท้อบ้างไหม หรือเคยเหนื่อยไหม พี่เบิร์ดบอกไม่เคย พี่สนุกตลอด เรารู้สึกว่าดีมากเลย เราเป็นศิลปินรุ่นน้องที่ได้รับพลังจากพี่เบิร์ดมา รู้สึกว่ามีแรงเลยค่ะ อิ้งค์ขอขอบคุณที่ให้โอกาสได้ร่วมทำงานในครั้งนี้ค่ะขอฝากเพลงเธอคือพลังของฉัน ให้เป็นกำลังใจและพลังสำคัญให้กับคนไทยได้เดินไปข้างหน้าร่วมกันค่ะ"

ปตท. ติดอันดับ 110 ฟอร์จูนโกลบอล 500 นับเป็นหนึ่งในห้าบริษัทในอาเซียนที่ติดโผ

ฟอร์จูน (Fortune) ประกาศในวันนี้ (3 ส.ค.) ว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ติดอันดับ 110 ของฟอร์จูนโกลบอล 500 (Fortune Global 500) ในปี 2566 โดยได้รับการจัดให้เป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 110 ในโลกตามรายได้ในปีงบประมาณ 2565 ด้วยรายได้ 9.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไร 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ปตท. เป็นบริษัทเดียวในไทยและหนึ่งในห้าบริษัทในอาเซียนที่ติดอันดับบนฟอร์จูนโกลบอล 500 ประจำปีนี้ โดย ปตท. ติดอันดับสองของบริษัทบนฟอร์จูนโกลบอล 500 ในอาเซียน เป็นรองเพียงบริษัททราฟิกูรา กรุ๊ป (Trafigura Group) จากสิงคโปร์ แต่หากเทียบเฉพาะในภาคพลังงาน ปตท. รั้งอันดับหนึ่งในอาเซียน

ส่วนในระดับโลก ภาคพลังงานก็มาแรงเช่นกัน โดยซาอุดี อารามโค (Saudi Aramco) จากซาอุดีอาระเบีย รั้งอันดับสอง ไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (China National Petroleum) จากจีนคว้าอันดับห้า ซิโนเปก (Sinopec) จากจีน ติดอันดับ 6 เอ็กซ์ซอน โมบิล (Exxon Mobil) จากสหรัฐติดอันดับ 7 และเชลล์ (Shell) จากอังกฤษติดอันดับเก้า ส่วนอันดับหนึ่งได้แก่วอลมาร์ต (Walmart) จากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีก

สำหรับบริษัทอาเซียนที่ติดฟอร์จูนโกลบอล 500 ประจำปี 2566 ประกอบด้วย

-บริษัททราฟิกูรา กรุ๊ป (Trafigura Group) สิงคโปร์ อันดับ 12 ภาคค้าส่ง รายได้ 3.185 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

-บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ไทย อันดับ 110 ภาคพลังงาน รายได้ 9.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

-บริษัทปิโตรนาส (Petronas) มาเลเซีย อันดับ 139 ภาคพลังงาน รายได้ 8.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

-บริษัทเปอร์ตามิน่า (Pertamina) อินโดนีเซีย อันดับ 141 ภาคพลังงาน รายได้ 8.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

-บริษัทวิลมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Wilmar International) สิงคโปร์ อันดับ 174 ภาคอาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ รายได้ 7.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปตท. ฉลองการนำเข้า ‘ก๊าซปิโตรเลียมเหลว’ ‘15 ปี 15 ล้านตัน’ ณ คลังก๊าซเขาบ่อยา 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ดร.คุรุจิต นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และนายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา ร่วมงานฉลองการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว 15 ปี 15 ล้านตัน สายงานแยกก๊าซธรรมชาติ ณ คลังก๊าซเขาบ่อยา ปตท. จ.ชลบุรี เพื่อร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่คลังก๊าซเขาบ่อยา ปตท. ได้พัฒนาเพิ่มขีดความสามารถการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แก้วิกฤตการณ์ความต้องการที่เพิ่มสูงตั้งแต่ปี 2551 จวบจนปัจจุบันเป็นเวลา 15 ปี ด้วยปริมาณถึง 15 ล้านตัน

ทั้งนี้ คลังก๊าซเขาบ่อยา เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2528 และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ ปตท. ในการนำเข้า เก็บสำรอง และเป็นศูนย์กลางในการกระจาย LPG สู่ภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมพันธกิจ ปตท. ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

‘ปตท.’ ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ ประลองไอเดียขายสินค้าชุมชน  ในโครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023’

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานปฐมนิเทศ โครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ กิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงพลังและไอเดียความคิดสร้างสรรค์ แข่งขันจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนใน ‘โครงการชุมชนยิ้มได้ โดย กลุ่ม ปตท.’ ผ่าน 30 ทีมเยาวชนจาก 10 มหาวิทยาลัย ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด โดยมีคณาจารย์ และนิสิตนักศึกษา กว่า 200 คน ร่วมงาน ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ

นางกนกพร เปิดเผยว่า ปตท. เล็งเห็นถึงศักยภาพและพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถช่วยสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น จึงจัดโครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ เพื่อเฟ้นหาทีมสุดยอดนักขายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ่าน  www.ชุมชนยิ้มได้.com ซึ่งนิสิต นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับประสบการณ์จริง จากการนำทักษะความรู้มาใช้ในการจัดทำแผนการตลาดและเทคนิคการขายสินค้าชุมชนออนไลน์ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเจ้าของสินค้า อันจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตต่อไป

อนึ่ง ‘โครงการชุมชนยิ้มได้ โดย กลุ่ม ปตท.’ เป็นหนึ่งในโครงการ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนมีความยากลําบากด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ปตท. จึงพัฒนา Platform www.ชุมชนยิ้มได้.com ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น และยังคงเปิดช่องทางจําหน่ายนี้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเปิด ‘ร้านชุมชนยิ้มได้ Official Store’ แห่งแรก ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นจุดจำหน่ายสินค้าชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย

ตลอดระยะเวลา 45 ปี ปตท. มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานประเทศ ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

‘ปตท.’ จับมือ ‘RINA’ พัฒนาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนภาคเศรษฐกิจ สร้างโอกาสทางธุรกิจ รองรับการเติบโตของพลังงานแห่งอนาคต

เมื่อไม่นานนี้ ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมแสดงความยินดีในพิธีลงนามความร่วมมือพัฒนาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในภาคเศรษฐกิจระหว่าง ปตท. โดย นายคมกฤช โล่ห์เพ็ชร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่วางแผน ปตท., นายยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม ปตท. และ ‘RINA’ โดย Mr. Andrea Bombardi, Executive Vice President, Carbon Reduction Excellence, RINA Mr. Enrico Beccaceci, Senior Technical Manager, ASEAN Engineering Integration, RINA เพื่อความร่วมมือในโครงการนำร่องการทดสอบการผสมก๊าซไฮโดรเจนในก๊าซธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมถึงการประเมินประสิทธิภาพการใช้งาน รองรับการพัฒนาการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงในอนาคต

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ในการพัฒนาห้องปฏิบัติการของสถาบันนวัตกรรม ปตท. ให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการการให้บริการเชิงเทคนิค ในการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงของประเทศไทยด้วย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการเติบโตในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และเป้าหมาย Net Zero Emissions ของกลุ่ม ปตท. และประเทศไทยต่อไป


 

‘S&P’ ผุดนิวโมเดลไซส์ย่อ เจาะปั๊ม ปตท. รับเทรนด์ ‘ซื้อกลับ-สั่งด่วน’ มาแรง

‘เอส แอนด์ พี’ ผุดสาขารูปแบบใหม่ นำร่องเจาะปั๊มน้ำมัน ปตท. 2 สาขาแรก เบเกอรี่ครบไลน์ อาหารเน้นเมนูสะดวกรวดเร็ว เผยแผนทั้งปีนี้ลุยเปิดเบเกอรี่ช็อป 25 สาขา และร้านอาหาร 3 สาขา โชว์ครึ่งปีแรกรายได้รวมโต 12% ส่วนช่องทางนั่งทานในร้านพุ่ง 66%

(11 ก.ย.66) นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการธุรกิจเอสแอนด์พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ S&P เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจร้านโมเดลใหม่ ‘คอนเซ็ปท์ ฟุ้ด แอนด์ เบเกอรี่’ (Food and Bakery) ซึ่งเป็นร้านที่มีบริการทั้งเบเกอรี่ เครื่องดื่มครบไลน์ และบริการอาหารด้วย โดยเปิดสาขาแรกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. พระรามสี่ใกล้กล้วยน้ำไท พื้นที่ประมาณ 100ตารางเมตร เปิดบริการเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา และเตรียมที่จะเปิดสาขาที่สองอีกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นปั๊มที่สร้างใหม่

“รูปแบบของสาขาโมเดลใหม่นี้ จะมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่มีบริการเบเกอรี่เครื่องดื่มครบไลน์ ส่วนอาหารจะไม่ครบไลน์เหมือนร้านอาหารมาตรฐานเดิม จะเป็นลักษณะคล้ายนั่งทานอาหารหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เน้นเมนูสะดวกรวดเร็ว และเน้นเทคอะเวย์กับเดลิเวอรีด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ผูกติดเฉพาะกับปั๊มน้ำมันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าได้ทำเลและขนาดพื้นที่ที่มีความเหมาะสมหรือไม่” นายอรรถ กล่าว

ทั้งนี้ การเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ โดยปีนี้วางแผนที่จะเปิด ร้านเบเกอรี่ช็อป ประมาณ 25 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อสาขา เปิดไปแล้ว 15 สาขา และจะเปิดอีก 10 สาขาต่อถึงสิ้นปีนี้ ส่วนร้านอาหาร ลงทุนเฉลี่ย 8-10 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะเปิดเล็กลงประมาณ 150 ตารางเมตร จากเดิมเฉลี่ยมากกว่า 200 ตารางเมตร จะเปิดปีนี้ 3 สาขา โดยเปิดไปแล้วที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเตรียมจะเปิดอีกที่โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และอีกแห่งจะเปิดในเครือข่ายค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลสาขา

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้ารวม 437 สาขา โดยแบ่งเป็น ร้านเบเกอรี 300 สาขา และร้านอาหาร 137 สาขา อีกทั้งยังไม่ได้นับรวม ร้านเดลโก้ ที่่เป็นจุดบริการเดลิเวอรีโดยเฉพาะ อีก 33 สาขา ซึ่งก็ยังคงมีการเติบโตที่ดีแต่อาจจะไม่หวือหวาเหมือนช่วงโควิด-19ระบาดหนัก ที่ความต้องการเดลิเวอรีสูงมาก ส่วนแผนการรีโนเวทร้านเดิมก็ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่โควิดระบาด มีการรีโนเวทไปมากกว่า 100 สาขาแล้ว ใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนปีที่แล้วเปิดร้านใหม่ประมาณ 35 สาขา

นายอรรถ กล่าวต่อว่า บรรยากาศการจับจ่ายในภาพรวมขณะนี้ ถือว่าในส่วนของกรุงเทพและปริมณฑลกลับมาดีมากขึ้นแล้ว ขณะที่ในตลาดต่างจังหวัดยังไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เพราะกำลังซื้อลดลง แต่คาดว่าจากนี้น่าจะดีขึ้นบ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว

สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาสที่2ปี2566 รายได้รวมทั้งกลุ่ม 1,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือเติบโต 12% จากไตรมาสสองปีที่แล้ว ส่วนกำไรมีประมาณ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท

ส่วนช่วงครึ่งปีแรกพบว่า มีรายได้รวมทั้งกลุ่ม 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350 บาท หรือเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท เติบโต 14% โดยสัดส่วนรายได้หลักกว่า 80% มาจากร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ ในประเทศ ส่วนอีก 20% มาจากกลุ่มรีเทลฟู้ดกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกพบว่า รายได้จากช่องทางร้านอาหารนั่งทานในร้านเติบโตมากถึง 66% ช่องทางเทคอะเวย์ เติบโต 7% และช่องทางเดลิเวอรี เติบโต 5% สาเหตุหลักที่นั่งทานในร้านเติบโตมากเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคกลับมาทานอาหารในร้านมากขึ้นแล้ว รวมทั้งกลยุทธ์ตลาดที่บริษัทฯ ทำด้วยในช่องทางร้านอาหาร เช่น ช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน จัดเทศกาลเมนูข้าวแช่ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก เดือนพฤษภาคมเริ่ม แคมเปญฉลอง 50 ปี 50 เมนู ซึ่งกิจการจะครบ 50 ปีในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ล่าสุดเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้เปิดตัว 2 รสชาติใหม่คือ ใส้เกาลัดและชาอู่หลง ใส้บัวมันม่วง พร้อมโปรโมชั่นมากมาย

“ปีนี้คาดว่ารายได้รวมน่าจะเติบโต 15% ซึ่งขณะนี้รายได้รวมกลับไปถึงปี 2562 แล้วประมาณ 80% และคาดว่าปีหน้าน่าจะกลับคืนมา 100% ได้แน่นอน” นายอรรถ กล่าว

ม.อ. - อินโนบิก ผนึกกำลังต่อยอดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ เสริมความมั่นคงด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ดร.ณัฐ อธิวิทวัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด พร้อมด้วย รศ.นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ และ ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ ระหว่าง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

เพื่อมุ่งต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์จริงเชิงพาณิชย์ โดยจะนำผลงาน ที่มีศักยภาพมาวิเคราะห์และทดสอบการใช้งานจริงผ่านคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผสานความเชี่ยวชาญด้านการตลาดของอินโนบิก เพื่อสนับสนุนให้นวัตกรรมจากการวิจัยของคนไทยสามารถเข้าสู่ตลาดที่เพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ ลดการพึ่งพาการนําเข้า สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน 

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 11 - 15 ก.ย. 66  จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ ชี้แนวโน้ม 18 - 22 ก.ย. 66

ราคาน้ำมันดิบทุกชนิด เฉลี่ยสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. 66 เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนคาดตลาดน้ำมันโลกจะตึงตัว และมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ หลังธนาคารกลางรายใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งสัญญาณใกล้สิ้นสุดช่วงนโยบายการเงินแบบตึงตัว อาจสนับสนุนอุปสงค์พลังงาน

อุปสงค์น้ำมันโลกยังคงเติบโต OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.44 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 102.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อน 0.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และในปี 2567 เพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 104.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมองว่าเศรษฐกิจหลัก และตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย รวมถึงบราซิล และรัสเซีย แกร่งเกินคาด

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Refinery Throughput) ในเดือน ส.ค. 66 เพิ่มขึ้น 2.4% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 15.23 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารแห่งชาติของจีน (People’s Bank of China: PBOC) ประกาศลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ (Reserve Requirement Ratio: RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ลง 0.25% (ยกเว้นธนาคาร RRR ต่ำกว่า 5%) ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 66 คาดว่าจะทำให้ RRR เฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 7.4% และช่วยเพิ่มเงินเข้าสู่ระบบประมาณ 5 แสนล้านหยวน (6.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ RRR ตั้งแต่ปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15% ก่อนที่ PBOC จะปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 16 ครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันที่ 14 ก.ย. 66 ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank: ECB) มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ทำให้ Deposit Facility Rate, Main Refinancing Operations Rate และ Marginal Lending Facility Rate อยู่ที่ 4.0%, 4.5% และ 4.75% ตามลำดับ สูงสุดตั้งแต่ ECB ก่อตั้งในปี 2542 อย่างไรก็ตาม ประธาน ECB นาง Christine Lagarde ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ย ECB ใกล้ระดับสูงสุดแล้ว การประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 26 ต.ค. 66 จึงมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ย

จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 19-20 ก.ย. 66 โดยตลาดคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50%

คาดการณ์ราคา ICE Brent สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 85-95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top