Wednesday, 9 July 2025
บิ๊กป้อม

‘บิ๊กป้อม’ ถก คกก.ประมง จัดการทรัพยากรทะเลแบบยั่งยืน กำชับ ‘กรมประมง’ เข้มข้อกฎหมาย - โปร่งใส - ยึดหลักสากล

(27 ม.ค. 66) มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 (ผ่านระบบ Video Conference) เพื่อกำหนดแนวทางการทำประมงพื้นบ้านและการนำเรือประมงออกนอกระบบ โดยที่ประชุมรับทราบ ความเห็นของคณะกรรมาธิการยุโรป (DG-MARE) ถึงความพยายามของไทย ต่อพัฒนาการติดตาม เฝ้าระวังและควบคุมการทำประมงภาพรวม โดยขอให้เพิ่มการตรวจสอบดำเนินคดีอย่างเต็มประสิทธิภาพตามขั้นตอนกฎหมายกับเรือที่มีข้อมูลจากศูนย์ FMC เรือเข้าออกท่าที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำผิดกฎหมาย เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารหรือส่งออกต่างประเทศ และรับทราบการขยายเวลายกเว้นบังคับใช้กฎหมาย MMPA ของสหรัฐฯ ออกไปอีก 1 ปี จนถึง 31 ธ.ค.66 

พร้อมกับรับทราบความก้าวหน้า นโยบายและแผนบริหารจัดการประมง และแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในทะเลสาบสงขลา ปี 66-70 รวมทั้งผลการประเมินประเทศไทย ต่อสถานการณ์การขจัดแรงงานเด็กในรูปแบบเลวร้ายที่สุดของ สหรัฐฯ ปี 64 โดยเสนอให้ความสำคัญกับ การควบคุมบังคับใช้อายุขั้นต่ำของการจ้างแรงงานให้ครอบคลุมการจ้างแรงงานนอกระบบ การกำหนดอาชีพและกิจกรรมเสี่ยงที่อันตรายต่อเด็กให้ครอบคลุมมากขึ้น และการเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพผู้ตรวจแรงงานนอกระบบในพื้นที่ห่างไกล

‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ ‘ตลาด อ.ต.ก.’ พบปะ ปชช. พ่อค้า-แม่ค้า แห่ถ่ายรูป เชียร์นั่งนายกฯ คนที่ 30

(29 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้เวลาวันหยุดลงพื้นที่ โดยไปเดินตลาด อ.ต.ก. เมื่อเวลา 08.00 น. จับจ่ายซื้ออาหารและผลไม้ ซื้อแกงเขียวหวานเนื้อ ปลาดุกกรอบ หน่อไม้ดอง ผัดพริกขิง แกงเทโพ ต้มข่าไก่ เมนูโปรด และแวะร้านประจำ ซื้อกะปิโหว่ มะม่วง ตะลิงปลิง ระหว่างทางได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน อย่างอารมณ์ดี สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และถ่ายรูปร่วมกับประชาชน พ่อค้า แม่ค้า และเด็ก ๆ มาขอถ่ายรูป อย่างเป็นกันเอง

'บิ๊กน้อย' ยก 'บิ๊กป้อม' เหมาะนั่งนายกฯ คนที่ 30 เป็นคนเสียสละ ตั้งใจให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้

(30 ม.ค. 66) ที่ทําการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า สำหรับตน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ตรงไหนที่เป็นส่วนรวมที่เราทำประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้ก็จะทํา ไม่สำคัญว่าอยู่ที่ไหนตนจะต้องอยู่ที่ไหน หรือตำแหน่งอะไร อยู่ที่การกระทำของเรา วันนี้มาเพื่อช่วยทำงานให้บ้านเมืองและประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลับมาแล้วจะสามารถทำงานร่วมกันได้ ใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง เพราะไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ทุกคนมีผิดพลาดได้ ไม่มีใครดี 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นถ้ามาขอโทษเรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่ติดใจอะไร ถ้าติดใจก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะมาแตกแยกกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะช่วยดูพื้นที่ใดบ้าง พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ทุกพื้นที่ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ลงพื้นที่

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘นครปฐม-ราชบุรี’ ติดตามแก้ปัญหาน้ำ ชาวบ้านแห่ต้อนรับ-ขอบคุณ เชียร์ให้เป็นนายกฯ

(1 ก.พ. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอนช. พร้อม รมช.คลัง และคณะ ได้เดินทางปฏิบัติราชการ ลงพื้นที่ จ.นครปฐม และจ.ราชบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาน้ำ ในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางถึง ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาคกลางเขต 3 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม ให้การต้อนรับ โดยรับฟังการบรรยายสรุป ภาพรวมสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ จาก จังหวัด สทนช. กรมชลประทาน กรมโยธาธิการฯ และ ปภ. 

ทั้งนี้ จ.นครปฐม มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตลุ่มน้ำท่าจีน ปัญหาน้ำท่วมยังเป็นปัญหาหลัก เนื่องจากมีระบบระบายน้ำในชุมชน ไม่เพียงพอ รวมทั้งมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ การบุกรุกลำน้ำ ในพื้นที่หลายอำเภอ ซึ่งรัฐบาลได้มีการสนับสนุนงบประมาณโครงการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่ปี 61-65 โดยมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน 14,732 ไร่ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 29,679 ไร่ (80,192 ครอบครัว) และแผนงานโครงการสำคัญ ซึ่งจะได้รับประโยชน์อีก 922,206 ไร่

'เปลว สีเงิน' เผยมรดกลุงตู่ เปิดบ้านเช่าเก็บเดือนละ 250 บาท ทรัพย์สินที่ได้จากพ่อผู้ล่วงลับ ที่กำชับห้ามคิดใครแพงเกินกว่านี้

เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 66) 'เปลว สีเงิน' ได้นำเสนอบทความ ในหัวข้อ 'ลุงตู่ รวยแล้วไม่โกง' โดยระบุว่า…

"ลุงตู่" กับ "บิ๊กป้อม" นี่ จาก "ทหารครึ่งตัว-การเมืองครึ่งตัว" โจนลงสนามเลือกตั้งเป็นนักการเมือง "ระบบเลือกตั้่ง" เต็มตัว คึกยังกะม้าโดปยา เตะคอกเปรี้ยงปร้าง!

ยิ่ง "บิ๊กป้อม" ด้วยแล้ว .... "ถั่งเช่า" หรือจะสู้ "ใจบันดาลแรง" จาก "ป้อมไม่รู้" ตอนนี้เป็น "ป้อมกูเกิล" ถามอะไร ตอบได้หมด!

ทั้งพี่-ทั้งน้อง ตอนนี้ดูจะหลงเสน่ห์การลงพื้นที่ได้คลุกคลีกับชาวบ้านแต่ละจังหวัด ต่างคน-ต่างฟิต พี่ไปจังหวัดโน้น น้องไปจังหวัดนี้ บางที่ดอด "ตีท้ายครัว" กันเองก็ยังมี!

ก็สนุกดี ประชาธิปไตยเนื้อแท้นั้น ถ้าเข้าใจมันว่า การแข่งขันหาเสียงสู่สภา ปรัชญาของมัน ไม่ใช่ "นักเลือกตั้ง" เป็นผู้ได้

หากแต่ประชาชน คือชาวบ้านตะหาก ต้องเป็น "ผู้ได้" มันก็จะสนุกสนาน-สบายใจ ทั้งชาวบ้าน "ผู้ได้" และคนการเมืองที่เป็น "ผู้ทำ" ให้เขาได้

ไม่ใช่ได้เงินซื้อเสียง....

หมายถึง ได้ประโยชน์สุขจากนโยบายที่แต่ละพรรคหาเสียง เมื่อได้เข้าสภาแล้ว ก็ผลักดันนโยบายนั้นให้เป็นผล

พูดถึงนโยบายแต่ละพรรคที่ใช้หาเสียงกันตอนนี้ เห็นแล้วหนักใจ! แต่ละพรรค ฟังดูไม่ต่างสลากสรรพคุณยา ประเภท ทาปุ๊บหายปั๊บ-กินปั๊บหายปุ๊บ, ทาผัวหอมถึงเมีย อะไรประมาณนั้น ซึ่งมันไม่ต่าง "ยาผีบอก"

ที่สำคัญคือ "ทุกนโยบาย-ทุกพรรค" เอาเงิน "งบประมาณแผ่นดิน" เป็นสัญญาว่า "จะแจก-จะให้" ทั้งนั้น ชาวบ้านตอนนี้ เลยเป็นแมวหลงกลิ่นปลาย่างทาจมูก!

การเอาเงินแผ่นดินไปตกเบ็ดชาวบ้าน เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว รู้ใช่มั้ย....ว่าภาษีที่เก็บจากชาวบ้านได้ปีละเท่าไหร่? แล้วมันพอกันมั้ย? ที่จะเอาไปทำสวัสดิการทำนองลดแลกแจกแถมชาวบ้านคนละ 3 พัน 4 พัน แถมนั่นฟรี-นี่ฟรี

น้ำมัน-แก๊ส ก็ต้องถูก ค่าไฟฟ้า ค่ารถโดยสาร ก็ต้องถูก ค่ารักษาพยาบาลก็ต้องฟรี เฒ่าชแร-แก่ชรา ก็ต้องมีค่าขนม

ไทยใกล้เป็น "รัฐสวัสดิการ" เข้าไปเต็มตัวแล้ว!

ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งตะโกนว่า "ภาษีกู...ภาษีกู" ก็ไม่อยากถามว่า "คุณครับ...คุณเสียปีละเท่าไหร่?" ขอถามแบบให้เกียรติกันก็พอว่า....

"แล้วพวกคุณเคยเสียภาษีกันบ้างมั้ย" จะตรงประเด็นกว่า

คนไทย 65 ล้าน... อยู่ในระบบภาษีกันไม่ถึง 5 ล้าน แต่อีก 60 ล้าน อยู่นอกระบบ คือไม่ได้เสียภาษีรายได้ในแต่ละปีกันแทบทั้งนั้น แต่ทุกคนได้รับการดูแลจากรัฐตั้งแต่เกิดยันตาย จะว่าไปแล้ว ได้สิทธิประโยชน์มากกว่า "คนเสียภาษี" ด้วยซ้ำ

แล้วนี่ แต่ละพรรค ต่างออกนโยบาย "สัญญาจะให้" เห็นแล้วหนักใจ (แทนประเทศ) เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้ว ..... จะเอาเงินที่ไหนไป "ปรนเปรอ-แจกจ่าย" ตามสัญญา?

เลิกพูดไปเลย เรื่อง "พัฒนาประเทศ" น่ะ แค่เงินเดือนข้าราชการกับค่ารายจ่ายประจำ งบประมาณแต่ละปี ก็แทบไม่เหลืออยู่แล้ว แล้วนี่ แข่งกัน "ปล้นเอาเงินอนาคตประเทศ" ไปตกเบ็ดหาเสียงอีก ถามตรง ๆ ...... จะเข้าไปบริหารประเทศให้มันเจริญ หรือจะเข้าไปผลาญให้มันฉิบหาย-ขายประเทศ?

ฉะนั้น อยากให้แต่ละพรรคออกนโยบายหาเสียงแบบ "มีจิตสำนึก" และ "ความรับผิดชอบ" กันบ้าง ในฐานะคนเสียภาษี ทั้งภาษีส่วนตัวและภาษีบริษัท มาเกือบค่อนชีวิต อยากพูดบ้างซักคำว่า

"กูเหนื่อยนะโว้ย"....

กับการเป็นพลเมืองดี แม้ตอนเจ๊ง ก็ไม่เคยหนี หาเงินมาจ่ายภาษีจากเงินได้ทุกก้อน ไม่เคยขาด! ที่จริง นโยบายหาเสียงน่ะ ไม่ต้องจ้างบริษัทโฆษณาสรรหาคำหรู ๆ ไปตดทางปากให้หมาดมหรอก หัวใจนโยบายน่ะ........

ผู้นำที่ "เข้าถึง-จริงใจ" ในปรัชญาของมัน เขาจะไม่พล่ามพูด แต่งานที่เขาทำ มันจะพูดเอง นโยบายจริง ๆ มันต้องแบบบอระเพ็ด เข็ดขม จึงจะใช้รักษาไข้ให้หายได้ คือ

"ไม่เอาใจประชาชน แต่ทำที่ประชาชนอยากได้ในผลประโยชน์รวม ให้ประจักษ์"

บ้านเมืองต้องได้ สังคมต้องได้ ประชาชนต้องได้ และอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่เหยียบหัวแม่ตีนกัน นี่คือ เผด็จการ "ประชาธิปไตย"

ส่วน ครอบครัวกูต้องได้ หัวหน้าคอกกูต้องรวย หมาในคอกกูต้องท้องเต่ง และใครไม่ใช่พวกกู ต้องเอามันให้ตาย นี่คือ ประชาธิปไตย "ครอบครัว"

เมื่อวาน (1 ก.พ. 66) บิ๊กป้อม ประมุขพลังประชารัฐ "ตลบหลัง" ลุงตู่ ไปตามงานเรื่องน้ำที่นครปฐม ราชบุรี ก็ไม่มีอะไรหรอก เพียงจะบอกว่า ผมเชื่อแล้วเรื่อง "ใจบันดาลแรง!" ร่วม 8 ปี ที่ร่วมบริหารบ้านเมืองกับลุงตู่ "น้องรัก" ทุกคนก็เห็นบิ๊กป้อมใกล้เป็นตุ๊กตาล้มลุก ไหว..ไม่ไหว จะอยู่ จะไป ก็ต้องลุ้นว่าจะครบพรรษารัฐบาล คสช.มั้ยน้อ?

แต่พอ "แยกพรรค" แต่ไม่ "แยกพี่-แยกน้อง" เท่านั้่นแหละ บิ๊กป้อมแอบไปกินโมเลกุล "มณีแดง" ยาอายุวัฒนะที่จุฬาฯ กำลังวิจัย ทำให้คนอายุ 75 หวือหวาคืนวัยคนอายุ 25 มาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะฟิตเหลือเกิน ..... ออกเดินสายหาเสียงแทบทุกวัน แถมแต่งวัยสะรุ่น นุ่งยีนส์ แจ็กเกตหนัง วันก่อนไปตลาด อ.ต.ก. เล่นเอาแฟน ๆ กรี๊ดสลบ

เป็น "ว่าที่นายกฯ คนที่ 30" ยังขนาดนี้ ถ้าเลือกตั้งแล้ว ได้ขึ้นนั่งทับก้นน้องตู่บนเก้าอี้นายกฯ จะขนาดไหน?

ยังไงก็ มีดีแล้วแบ่งปันผมมั่งซักเม็ด-สองเม็ด นะท่าน...มณีแดงน่ะ กระชากวัยคนเดียว เกิดเหี่ยวปลาย ไม่มีพวกแล้วจะเหงา ขอบอก!

ถ้าพลาดเก้าอี้นายกฯ ผมเชียร์ให้บิ๊กป้อม เปิดร้านขายอาหารแข่งเจ๊ไฝ-ประตูผี ไปเลย แค่ขึ้นป้าย "เชฟป้อม" ผัดซีอิ๊ว ก็ร้านแตกแล้ว!

‘บิ๊กป้อม’ พอใจ การพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนในอีสานคืบหน้า พร้อมสั่งทุกหน่วยงานเข้ม 10 มาตรการจัดการน้ำ รับมือฤดูแล้ง

(2 ก.พ. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางลงพื้นที่ภาคอีสาน จ.ยโสธร และ จ.มุกดาหาร ตรวจติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อการเกษตร และพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ โดยมี ผวจ.ยโสธร และ ผวจ.มุกดาหาร เลขา สทนช. และหน.ส่วนราชการต่าง ๆ ให้การต้อนรับ

ภาพรวมสภาพปัญหาการขาดแคลนน้ำยังเกิดขึ้น ในบางพื้นที่ที่ฝนทิ้งช่วง ความคืบหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 61-65 จว.ยโสธร มีพื้นที่รับประโยชน์เพิ่ม 61,103 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 33,053 ครัวเรือน สามารถจุน้ำเพิ่ม 37 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับการป้องกันกว่า 2,500 ไร่ 

สำหรับ จว.มุกดาหาร มีพื้นที่รับประโยชน์เพิ่ม 51,290 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 25,089 ครัวเรือน สามารถจุน้ำเพิ่ม 11.5 ล้าน ลบ.ม. และสามารถนำน้ำบาดาลมาใช้เพิ่มเกือบ 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี โดยดำเนินทั้งการก่อสร้างแหล่งน้ำ ระบบส่งน้ำ การเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำ และระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ ต่อจากนั้นได้ลงตรวจความคืบหน้าการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน บ.หนองบึง ต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

‘บิ๊กป้อม’ ใช้ใจบันดาลแรง นำทัพ ‘พปชร.’ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่

ถ้าใครได้ฟังสิ่งที่ออกจาก ‘ลุงป้อม’ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จากงานกิจกรรมระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น จะเห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไป

อย่างแรก ก็คือ แกพูดเยอะขึ้น ไอ้ที่เห็นภาพแบบถามคำตอบคำอย่างที่คุ้นนั้น แทบจะพลิกจนคนเห็นแล้วตกใจ

ส่วนหนึ่ง ก็อาจจะเป็นเพราะการตัดสินใจ ประกาศก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ของไทย โดยมีทัพ พปชร. ที่ยังคงอยู่ให้ความเคารพ และผลักดันแบบไม่มีใครคิดแตกแถว

แถมทุกคนยังแลดูเชื่อมั่น และอยากให้พี่ใหญ่แห่ง 3ป. นี้ ขึ้นมาอยู่ในสถานภาพสมกับบารมีที่มีอย่างจริงจัง

ในวันนั้น ทุกถ้อยคำของ ‘ลุงป้อม’ บอกเล่าตามแรง ที่แกมักจะพูดว่า มีแรงกลับคืนมาได้ เพราะใช้ใจบันดาล ซึ่งเนื้อความวันนั้น จับสาระสำคัญได้เยอะกว่าที่ผ่านมา เสมือนที่ผ่านมาแกเลือกที่จะไม่พูดเลยยังไงยังงั้น

วันนั้น ลุงป้อม พูดถึง สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันวา่า สังคมไทยยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐ ยังคงมุ่งมั่น ยืนหยัด ที่จะทำงานการเมืองสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ 'การสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข' ให้พี่น้องประชาชนชาวไทย มีความอยู่ดี กินดี อย่างมีความสุข ใน 3 พันธกิจหลัก...

1.) สวัสดิการประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำ
2.) เศรษฐกิจประชารัฐ สร้างความสามารถ และโอกาสที่เท่าเทียม
3.) สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง และแบ่งปัน

พิธีกรมีการถามเรื่อง ผมไม่รู้?
ลุงป้อมตอบว่า ที่ผมตอบว่า "ไม่รู้" ความจริงแล้ว ผมอาจจะรู้ก็ได้นะครับ แต่ว่าผมก็จะต้องหาผู้รู้ที่รู้มากกว่าผม มาแนะนำผม คนที่รู้เนี่ย อยู่รอบตัวผมเยอะแยะ ผมก็เอามาใส่ในตัวผมให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

พิธีกรถามเปิดใจลุงป้อม เรื่องการใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ

ลุงป้อมตอบว่า พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง และตัวเองก็เอาใจนี่แหละครับ ในการที่จะบันดาลแรงที่ได้ร่วงโรยไป ทุกวันนี้เดินก็ไม่ค่อยไหว แต่ก็ใช้ใจบันดาลแรงนี่แหละ ในการเดิน

ตลอดงานในวันนั้น ดู ลุงป้อม จะมีความเป็นตัวเองมากที่สุด มีรอยยิ้มที่แลดูมีความสุขแบบผ่อนคลาย แถมยังมีการฉายพูดถึงสิ่งที่อยากบอกกับผู้ร่วมงานวันนั้นแบบคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ เดินหน้าประเทศไทย ลุงป้อมพูดถึงปัญหาความยากจน พวกชาวนา ชาวไร่ พวกเกษตรกรหาชาวกินค่ำ ที่จะต้องดูแลคนพวกนี้ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และก็จะได้ทำให้ประเทศไทยนั้น มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

เคล็บลับให้ได้ใจคน คือ 'ความจริงใจ' ไม่ว่าใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นฝูง เป็นน้อง พูดอะไรไป “ความจริงใจ ซื้อใจคน”

พูดถึงชีวิตช่วงผ่านศึกสงครามมาหลาย ๆ สงคราม เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร ซึ่งตลอดระยะเวลานั้นก็ได้พยายามทำงานประเทศชาติ เพื่อกองทัพ และก็เพื่อประชาชน และพอมาทำงานการเมือง ก็หวังที่จะทำการเมืองเพื่อประชาชน ให้ประชาชนเราได้อยู่ดี กินดีขึ้น

‘ชาวมุกดาหาร’ มั่น!! ‘ลุงป้อม’ ใจถึงพึ่งได้จริง เชียร์นั่งนายกฯ สานต่องานสำคัญเพื่อคนอีสาน

‘พล.อ.ประวิตร’ ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร พลิกฟื้น ‘ตลาดอินโดจีน’ กระตุ้นท่องเที่ยว/การค้าชายแดน พร้อมเปิดโครงการแก้ภัยแล้ง ช่วยเกษตรกรให้มีน้ำใช้ เพิ่มรายได้ อยู่ดีกินดี

(2 ก.พ. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการต่อเนื่อง จากจังหวัดยโสธร ในช่วงเช้า โดยในช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร บริเวณตลาดอินโดจีนมุกดาหาร ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อติดตามโครงการก่อสร้าง-ปรับปรุงพื้นที่ ตลาดอินโดจีน งบประมาณ 94 ล้านบาทเศษ

ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้ถูกพับตก ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อน จึงต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงสามารถช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชายโขง และการค้าชายแดน และยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างถนนสาย ‘มุกดาสนุก สุขชายโขง’ งบประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง และรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้อีกด้วย

'บิ๊กป้อม' ร่วมรำลึก-เชิดชูเกียรติแก่ทหารผู้เสียสละ เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์

(3 ก.พ. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี​ ด้านความมั่นคง กล่าวถึงวันทหารผ่านศึก​ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ว่า​ เป็นวันที่มีความสำคัญยิ่ง ที่คนไทยทุกคนจะได้มีโอกาส แสดงความระลึกถึงคุณงามความดี และความกล้าหาญของเหล่าบรรดาวีรชนไทย ที่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องเอกราช และอธิปไตยของแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานคนไทย จวบจนกระทั่งปัจจุบัน

พร้อมกล่าวว่า “ตนเองก็เป็น 'ทหารผ่านศึก' คนหนึ่งเช่นกัน ที่เคยผ่านสนามรบ และร่วมรบกับเพื่อนทหารหาญ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย เมื่อครั้งรับราชการทหาร จึงมีความเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความยากลำบาก ในการปฎิบัติภารกิจที่ต้องเสียสละ ใช้ชีวิตห่างไกลจากครอบครัว ไปอยู่ในสนามรบ และตามแนวชายแดนที่มีสภาพทุรกันดาร ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสู้รบได้ตลอดเวลา บางคนต้องเสียชีวิต บางคนได้รับบาดเจ็บ หรือพิการตลอดชีวิต ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ก็ยังมี”

บิ๊กป้อมลงพื้นที่มุกดาหาร แก้ปัญหาตลาดอินโดจีนสร้างไม่แล้วเสร็จถูกปล่อยทิ้งร้าง

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ตลาดอินโดจีน เทศบาลเมืองมุกดาหาร พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ตรวจโครงการก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างและปรับปรุงตลาดอินโดจีน โดยมีนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร บรรยายสรุปสภาพปัญหาการปรับปรุงตลาดอินโดจีน ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

สำหรับโครงการก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างและปรับปรุงตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหารได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2560 แต่ดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ กระทั่งงบประมาณถูกพับไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 จำนวน 94.23 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับงบประมาณมาชดเชยทำให้โครงการถูกทิ้งร้างอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยยังคงเหลืองานที่ไม่แล้วเสร็จ คือ งานสถาปัตยกรรมปรับปรุงพื้นที่ตลาด ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง งานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบดับเพลิง และงานสุขาภิบาล

โดยในเวลาต่อมา นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบกลางประจำปีงบประมาณพ.ศ 2566 จำนวน 94,228,850 บาทเพื่อมาชดเชยเงินที่ถูกพับไปจากกระทรวงมหาดไทยโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top