Saturday, 4 May 2024
ชัยวุฒิ_ธนาคมานุสรณ์

‘ชัยวุฒิ’ หนุนไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งเป้าปี 70 เพิ่มมูลค่าแตะ 30% ของ GDP

รมว.ดีอีเอส โชว์วิสัยทัศน์พัฒนาดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์ พร้อมเดินหน้าหนุนไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตั้งเป้า เพิ่มมูลค่าแตะ 30% ของ GDP ภายในปี 70

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Huawei Connect 2022 Bangkok หัวข้อ “มุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เฟื่องฟู” ว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ทำให้เกิดการหยุดชะงักในระบบเศรษฐกิจส่งผลกระทบในด้านของคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลก ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เทียบเท่าในช่วงสถานการณ์ปกติก่อนเกิดวิกฤตโควิด เป็นสิ่งที่ทุกประเทศกำลังทำรวมถึงประเทศไทยก็พร้อมที่จะส่งเสริมกำลังของไทยเพื่อก้าวสู่อนาคตในฟื้นฟูกับเส้นทางที่มีความมั่นคงมากขึ้น

เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มต่าง ๆ ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปตามรูปแบบการเติบโต และรูปแบบการเติบโตที่นำโดยนวัตกรรม และตั้งอยู่บนองค์ความรู้ ท่ามกลางการเกิดการแพร่ระบาดเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาสังคมได้เกิดความก้าวหน้าอย่างมีนับสำคัญ เกิดการรุกตลาดในเทคโนโลยีดิจิทัลในส่วนที่เป็นแอพพลิเคชัน เช่น โมบายเพย์เมนต์ การค้าอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น ชยายตัวมากกว่า 120% ถือเป็นบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

ในปี 64 อัตราการเติบโตรายปีของเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ จะสูงแตะ 44% และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์จะขยายตัวมากถึง 26% รวมถึงอุตสาหกรรม Big Data จะขยายตัวได้ 4% ขณะเดียวกันมีหลายแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย อาทิ

1. การเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และสภาพแวดล้อมภายนอกต่าง ๆ ซึ่งการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นหลักประกันว่าจะสามารถฟื้นตัวและพัฒนาต่อไปในด้านของเศรษฐกิจได้

2. แนวคิดหรือนโยบาย 4.0 รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 จะกลับกลายมาเป็นศูนย์กลางของโลกในด้านอุตสาหกรรมและดิจิทัลอัจฉริยะ รวมถึงการใช้นวัตกรรมดิจิทัลต่าง ๆ ที่จะสร้างโอกาสและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย

3. ไทยได้กำหนดพันธกรณีคือไทยต้องการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นเศรษฐกิจรวบรวมอุตสาหกรรมที่ใช้คาร์บอนต่ำ รวมถึงแนวคิด BCG ของไทยก็จำเป็นต้องใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าต่อไป

ด้วยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและสภาพแวดล้อมภายนอกต่าง ๆ ประเทศไทยได้มีการทำมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลผ่านโครงการที่ริเริ่มด้านนโยบาย โดยกระทรวงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล หรือดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์ ซึ่งจะเป็นเสาหลักในการที่จะบรรลุความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจดิจิทัล นอกจากนี้ จะเป็นการกระตุ้นการลงทุนและขับเคลื่อนความเติบโตเศรษฐกิจด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2570 มูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลจะขยายตัวสูงถึง 30% ของจีดีพีประเทศไทย และความสามารถในการแข่งขันของไทยตามอันดับความสามารถในการแข่งขันของโลก หรือ world digital competitiveness ranking มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ใน 30 อันดับแรก และที่สำคัญที่สุดประเทศไทยเป็นเว้นทางหลักในการแลกเปลี่ยนข้อมูลในภูมิภาคอาเซียนตอนเหนือ และศักยภาพการทำงานข้ามพรมแดน การวางเคเบิลใต้สมุทร และการจัดตั้งศูนย์ Data center ขนาดใหญ่นั้น จะยังคงมีการพัฒนาต่อไปตลอดทั่วทั้งภูมิภาคของประเทศ

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า รัฐได้เสริมความแข็งแกร่งเพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกคน และการพัฒนาที่มีความมั่งคั่ง เช่น กระทรวงได้จัดตั้ง Data center และบริการคลาวด์ที่จะสนับสนุนนวัตกรรมและทำให้รัฐสามารถมอบบริการสาธารณะที่มีความเท่สเทียมได้ นอกจากนี้ สามารถดำเนินการเพื่อส่งเสริม สนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมได้ด้วยเช่นกัน เป็นต้น

ด้วยพื้นฐานระดับสูงที่มีอยู่ในวันนี้และการใช้เทคโนโลยีประมวลผลต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ และทำให้อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัล เช่น ยุคสมัยของเว็บ 3.0 ธุรกรรมต่าง ๆ จะเกิดขึ้นในแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล และดิจิทัลคอนเทนท์อีโคโนมี หรือเศรษฐกิจดิจิทัลคอนเทนท์แบงก์เสมือนจริง ๆ เมตาเวิร์ส เป็นต้น จะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และไทยมีความยินดีที่จะเห็นว่าการดำเนินการเหล่านี้ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย จึงมีเป้าหมายจะบรรลุการให้บริการอินเตอร์เน็ตไฮสปีดที่สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมด้วยราคาสมเห็นสมผล ขณะเดียวกันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

‘ชัยวุฒิ’ ซัด ก.ล.ต. ปล่อยปละละเลย Forex 3D  ลั่น “หากไม่ทำ จะทำเอง” เล็งขอเพิ่มอำนาจดีอีเอส

‘ชัยวุฒิ’ ยัน ซัดเป็นหน้าที่ ก.ล.ต. ตรวจสอบการจดทะเบียน เปิดบริษัทระดมทุน Forex 3D ลั่น “หากไม่ทำ จะทำเอง” ขอเพิ่มอำนาจดีอีเอส เตรียมเรียกประชุม คกก.อาชญากรรมออนไลน์ปิดเว็บ 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่มีอำนาจในการเข้าไปกำกับดูแล คดี Forex 3D เพราะว่าฟังแล้วรู้สึกเสียใจเพราะต้องมีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ หากปล่อยให้บริษัทตั้งขึ้นมาลงทุน แล้วมาระดมทุนจากประชาชนผ่าน เครือข่ายการแชร์ลูกโซ่หรือโซเชียลมีเดียเป็นพันล้าน หมื่นล้าน หลอกลวงให้ประชาชนเสียหาย จะไม่มีคนรับผิดชอบ

ส่วนที่ ก.ล.ต. ระบุว่าคดีนี้เป็นเรื่องการหลอกลวงต้องเป็นคดีอาญานั้น ตนจะนัดประชุมคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หากพบเป็นช่องโหว่กฎหมาย ให้สามารถเปิดบริษัทแล้วหลอกลวงประชาชนมาลงทุนผ่านโซเชียลมีเดีย หรือเครือข่ายต่างๆ ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตแสดงว่ากฎหมายไทยไม่ทันสมัยต้องมีการปรับปรุง ซึ่งตนอยากปิดเว็บ และช่องทางเหล่านี้ จะต้องเพิ่มอำนาจให้กระทรวงดีอีเอสเข้ามาดู 

‘ดีอีเอส’ ร่วมมือ มธ. เปิดศูนย์ Thammasat AI Center ต่อยอดความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์สู่คนรุ่นใหม่

(22 ก.ย. 65) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดพิธีเปิด ‘ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ หรือ ‘Thammasat AI Center’ เพื่อเป็นศูนย์กลางฝึกอบรม วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ให้คนรุ่นใหม่และผู้สนใจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้เกียรติร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้บริหาร เยี่ยมชมบรรยากาศการเรียนการสอน AI ณ อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีโลกเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มุ่งส่งเสริมองค์กรต่างๆ ในการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ การพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ พร้อมจัดตั้ง ‘กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม’ ซึ่งได้สนับสนุน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดตั้ง ‘ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ หรือ Thammasat AI Center เป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้และพัฒนาการวิจัยด้าน AI ร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ยกระดับศักยภาพและกระตุ้นการคิดค้นต่อยอดนวัตกรรม สร้างระบบนิเวศชุมชนใช้ AI เป็นเครื่องมือดำเนินธุรกิจ คาดว่ามูลค่าการตลาด AI ทั่วโลกจะสูงกว่า 15.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 565 ล้านล้านบาทในปี 2030 เพิ่มมูลค่าถึง 26% นำไปสู่โอกาสพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยในอนาคต

ด้าน รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการขับเคลื่อนโครงการใหม่ๆ พัฒนานวัตกรรม ความรู้ และทักษะด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดตั้ง Thammasat AI Center มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมความรู้ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ภาคธุรกิจ และบุคคลทั่วไป ตลอดจนเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ผลงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ให้โดดเด่น พร้อมยกระดับสู่ความร่วมมือระดับชาติและนานาชาติ รองรับการเปลี่ยนผ่านที่ท้าทายของประเทศไทยต้องก้าวสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ในอนาคต

ปัจจุบัน นอกจาก Thammasat AI Center แล้ว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังได้ริเริ่มโครงการใหม่ 3 โครงการได้แก่... 

1. โครงการ Medical Valley ต้นแบบศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา
2. โครงการ 88 sandbox ศูนย์การเรียนรู้ทักษะผู้ประกอบการแห่งอนาคต
3. โครงการ TU Metaverse ที่จะสร้าง Campus ที่ 5 ใน Metaverse พร้อมหลักสูตร AI ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก สอน Online และ Offline ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ กว่า 60 องค์กร พัฒนานวัตกรและวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ เสริมศักยภาพ AI ของประเทศ

'ชัยวุฒิ' รับคำร้องตรวจสอบระบบจองสลากบนตู้ ATM ลั่น!! เรื่องนี้สำคัญ จะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด

'ชัยวุฒิ' รมว.ดีอีเอส รับคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากสลากออนไลน์ โดย ฟิล์ม-รัฐภูมิ และประธานชมรมผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย นำทีมตัวแทนผู้ค้าสลากเกือบ 200 คน ยื่นหนังสือวอนตรวจสอบระบบจองคิวสลากจากตู้เอทีเอ็ม ข้องใจโควตาเต็มเร็วมาก ทำให้ไม่ได้รับสลากไปขาย เดือดร้อนหนักขาดรายได้หลักพันบาทต่องวด

วันนี้ (26 ก.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการขายสลากออนไลน์ นำโดย นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) ดร.เกณิกา อุ่นจิตร์ และนายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย พร้อมผู้ค้าสลากเกือบ 200 ราย เป็นตัวแทนประชาชนกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสลากดิจิทัล เข้ามาร้องเรียนเพื่อขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ ช่วยประสานงานแก้ปัญหา

เนื่องจากล่าสุดผู้ที่ได้รับสิทธิขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกือบ 200,000 ราย เมื่อไปกดจองคิวสลากจากตู้เอทีเอ็ม พบปัญหาไม่ได้สลาก ทั้งที่หลายรายไปต่อคิวแต่เช้ามืดเพื่อให้ได้กดรับสิทธิเป็นลำดับต้น ๆ แต่ปรากฏว่าจำนวนกลับหมดเร็วมาก โดยตู้ขึ้นข้อความว่า “สิทธิจองคิวโควตาสลากฯ งวดนี้เต็มแล้ว” ทำให้ไม่ได้รับสลากไปขาย เกิดความเดือดร้อนเพราะทำให้ขาดรายได้หลายพันบาทต่องวด

“ในฐานะของ รมว.ดิจิทัลฯ จะลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากมองว่าอาจเป็นปัญหาจากระบบคอมพิวเตอร์ จากระบบของเอทีเอ็ม ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม บางคนไปกดแล้วไม่ได้ สลากที่เป็นโควตาหายไป ก็ต้องชี้แจงให้ได้ก่อน ว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์มีการทำผิดระเบียบหรือผิดกฎหมายหรือไม่ มีการไปใช้ช่องว่างบางอย่างเพื่อหาประโยชน์หรือไม่ ซึ่งกระทรวงฯ ก็จะเข้าไปช่วยตรวจสอบ” นายชัยวุฒิกล่าว

'ชัยวุฒิ' วอนหยุดม็อบการเมือง ปล่อยรัฐช่วยน้ำท่วมเต็มที่ ยังมีผู้ประสบภัยจาก 'พายุโนรู' ที่รอการช่วยเหลืออีกมาก

(30 ก.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคกลาง ที่ จ.สิงห์บุรี พร้อมประชุมติดตามสถานการณ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจราชการ พื้นที่ภาคกลาง ในวันจันทร์นี้

โดย รมว.ดีอีเอส กล่าวนำความห่วงใย จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้กำลังใจ เเละติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมซึ่งพลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ ภาคกลางในวันจันทร์นี้

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันมีผลกระทบในหลายพื้นที่ วันนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ 'พายุโนรู' รวมถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่องเร่งจัดการ ตั้งแต่การให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง หน่วยแพทย์ พยาบาล เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วมขัง โดยหากที่พักอาศัยของครอบครัวใดประสบเหตุจากน้ำท่วมหนัก ก็จะมีหน่วยงานเข้าดูแลและเร่งพาไปศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ ได้กำชับให้เตรียมน้ำ อาหาร ยารักษาโรค ห้องน้ำเคลื่อนที่ 

ขณะเดียวกัน ก็เร่งให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน หากพื้นที่ใดประสบเหตุน้ำท่วมหนัก ก็จะเร่งการเปิดทางระบายน้ำท่วมขังโดยทันที ทั้งนี้หากสถานการณ์คลี่คลายเเล้ว ทางรัฐบาลได้มีการเตรียม มาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ให้เร็วที่สุดด้วย พร้อมกับฝากประชาชนว่า รัฐบาลทำงานต่อขอให้มั่นใจใน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าท่านตั้งใจช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอร้องกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่า ขอให้เห็นใจ ประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ขอให้รัฐบาลได้ทำงานเต็มที่ ในการรับมือน้ำท่วมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจะดีกว่าการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะที่กฎหมายเลือกตั้งยังไม่เสร็จ 

'ชัยวุฒิ' เผย กรมอุตุฯ จับมือ LINE ไทยแลนด์ เปิดตัว LINE Alert เตือนให้รู้ ก่อนภัยพิบัติ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และ LINE (ประเทศไทย) เพื่อนำร่องแพลตฟอร์ม LINE Alert บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง ซึ่งเริ่มเปิดใช้งานภายในประเทศ ให้คนไทยสามารถเกาะติดสถานการณ์ภัยธรรมชาติได้อย่างทั่วถึงและทันเวลา 

โดยนางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กรมอุตุฯ มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแจ้งเตือนภัยพิบัติ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร ที่ประชาชนนิยมสื่อสารผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว 

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเสริมว่า การแจ้งเตือนภัยพิบัติ ที่ผ่านมา ไม่ค่อยพบปัญหามากนัก ซึ่งคนไทยถือว่าค่อนข้างมีความตื่นตัว ในการรับข้อมูลข่าวสาร และเตรียมพร้อมรับมือตามคำแนะนำ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ของทุกหน่วยงาน ถือเป็นตัวช่วยในอีกระบบ ที่รวดเร็วและสามารถเข้าถึงประชาชนได้เป็นวงกว้าง ถือเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านภัยพิบัติ ที่เป็นอีกทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชน

'ชัยวุฒิ' หวั่น!! คันกั้นน้ำขาด เร่งระบายด่วน! ยันมติครม. ต้องเอาน้ำลง 11 ทุ่ง ช่วยลดผลกระทบ

(9 ต.ค. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ บริเวณ เเนวคันกั้นน้ำขาด เเละเสียหาย ที่ บริเวณวัด ประสาท อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมกับ นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง โดย นายชัยวุฒิ ได้ให้กำลังใจ พร้อมพูคคุยกับประชาชน ผู้ประสบภัย ขณะที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้นำอาหารเเห้ง จากผู้มีจิต ศรัทธา มามอบให้ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 2,000 ครอบครัวด้วย

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สิ่งสำคัญตอนนี้เราเน้นจะดูเรื่องอาหารการกินมีการตั้งโรงครัวพระราชทานให้ถุงยังชีพน้ำดื่ม สะอาด แล้วก็ดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนผู้สูงอายุ คนป่วยติดเตียงที่มีสุขภาพไม่ดี ก็จะนำมาพักอยู่ที่โรงพยาบาล อําเภอพรหมบุรี ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงขณะนี้ เราเตรียมศูนย์พักพิงไว้ทุก ๆ อําเภอเพื่อ รองรับผู้ประสบภัย ที่น้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ก็มีการจัดตั้ง สุขาชั่วคราวในทุก ๆ จุดที่ประชาชนบ้านถูกน้ำท่วมด้วย โดยในภาพรวมถือว่าสิงห์บุรี เเละจังหวัดในพื้นที่ ภาคกลาง ได้มีการวางแผนมาอย่างดี

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่ตามติดน้ำท่วม จ.นครสวรรค์ เผย การจัดการน้ำ - ช่วยเหลือประชาชน เป็นไปด้วยดี

วันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมประชุมรับฟังนโยบายผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ 

โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุป ว่า จากปริมาณน้ำในพื้นที่แม้จะถึงระดับสูงสุด แต่จากการคาดการณ์ปริมาณฝน ซึ่งไม่มีการตกเพิ่มเติม ในระยะ 2-3 วัน จะส่งผลให้น้ำลดระดับได้ และปริมาณน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งระบบป้องกันน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งจังหวัดนครสวรรค์เอง และจังหวัดใกล้เคียง ถือว่ามีการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ที่ปลูกพืชในบริเวณพื้นที่รับน้ำให้มีความเข้าใจ และกำหนดรอบในการปลูกพืช เพื่อใช้พื้นที่ในการรองรับน้ำ หรือ ชะลอน้ำที่ผ่านทางจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อลดผลกระทบให้กับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย ชุมชนบางปราง ทางรถไฟ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง / วัดจอมคีรีนาคพรต ตำบลนครสวรรค์นอก อำเภอเมือง / อบต.บางเคียน อำเภอชุมแสง / วัดสระเศรษฐี และวัดสำโรง ตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ 

'ชัยวุฒิ' ปัด พปชร.ยังไม่ได้คุยสูตร 'หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม' โว!! พรรคผลงานเพียบ ยัน ยังหนุน 'ประยุทธ์'

(23 ต.ค.65) ที่ลานพระราชวังดุสิต นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เสนอสูตร 'หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม' ว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบและยังไม่ได้มีการคุยกันในพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้แพลนว่าจะเป็นแคมเปญต่อไปของพรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ และภายในพรรคยังไม่ได้คุยกัน เป็นเรื่องที่ต้องถามทางผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรค แต่วันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ แต่ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐยังเป็นพรรคหลักของรัฐบาลและสนับสนุน พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในการทำงานเพื่อเดินหน้าสร้างผลงานดูแลพี่น้องประชาชนให้เต็มที่ และตนเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลจะเป็นตัวน ไปสู่การเลือกตั้งที่ทำให้ประชาชนยอมรับ และประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ซึ่งก็มาจากการทำงานของเรา เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าเพิ่งไปพูดถึงประเด็นการเมือง เวลาที่เหลือเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเร่งทำงาน ให้กับประชาชนให้ดีที่สุดก่อน

เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้เร่งในส่วนของนโยบายใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เราเน้นทำงาน ทุกอย่างที่ทำไปคือนโยบายของรัฐบาลและเป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ขอให้ดูที่ผลงานและสิ่งที่เราทำ ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ ถ้าให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลก็มีหลายอย่างที่ดีขึ้นและพัฒนาไปมาก อย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐาน การแก้กฎหมาย การปรับปรุงหลายอย่างที่ทำให้บ้านเมืองทันสมัย แต่เข้าใจว่าในภาวะแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องของโควิด-19 ทำให้หลายคนได้รับผลกระทบ หรืออย่างกรณีสงครามยูเครนและรัสเซีย ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเพราะราคาน้ำมันสูงขึ้น ยอมรับว่าประชาชนหลายคนลำบาก แต่รัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ถ้ามองจากประเทศอื่นๆ ก็ยังมีตัวเลขด้านเศรษฐกิจหรือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เราดีกว่าหลายประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ไทยฟื้นตัวได้มาก เพราะเราสามารถแก้ไขโควิด-19 ได้ดี ซึ่งถ้ามองผลงานต่างๆของรัฐบาล ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนเข้าใจและให้ความเชื่อมั่นกับรัฐบาลที่จะทำงานต่อไปได้

เมื่อถามว่า สูตรที่ออกมาไม่ได้เป็นการหยั่งเสียงประชาชนใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าว "ผมยังไม่รู้ว่าใครพูดเลย เพราะยังไม่เคยได้ยิน ส่วนจะเป็นสมาชิกพรรคที่เสนอความเห็นออกมาหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ เพราะพรรคการเมืองและนักการเมืองมีหลายคนสามารถที่จะแสดงความเห็นได้ ทุกคนก็แสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา ก็แล้วแต่ เป็นความคิดที่แตกต่างหลากหลาย แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคและผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะพูดคุยกัน ซึ่งผมคิดว่ายังไม่ได้ข้อสรุป แล้วยังไม่เห็นเรื่องนี้เลย"

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะทำงาน ยังรักและสามัคคีเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อให้รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหากับประชาชนได้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาถือว่าประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง

นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ทางพรรคพลังประชารัฐจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัครส.ส. ในพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร

'ชัยวุฒิ' โชว์ 41 โครงการเจ๋งรับทุนต่อยอดบิ๊กโปรเจกต์ ขับเคลื่อนดิจิทัลไทยทัดเทียมระดับดิจิทัลโลก

สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดย กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศผลการพิจารณาโครงการหรือกิจกรรม ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

(27 ต.ค. 65) สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดย กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดงานแถลงข่าวประกาศผลการพิจารณาโครงการหรือกิจกรรม ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 6 ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์

งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เป็นประธานฯ 

สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 นี้ มีโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ได้รับการสนับสนุน รวมทั้งสิ้นจำนวน 41 โครงการ

โครงการที่ได้รับอนุมัติในปีนี้เป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ต่อสาธารณะ และต่อการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศมีการพัฒนาด้านดิจิทัลทัดเทียมระดับเวทีโลกต่อไป 

สำหรับตัวอย่างโครงการตามกรอบนโยบายการให้ทุนทั้ง 4 ด้าน ประกอบไปด้วย...

>> กรอบนโยบาย Digital Agriculture ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเกษตรแบบเชิงรุก จำนวน 4 โครงการ ตัวอย่างเช่น โครงการการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้วยการวิเคราะห์ภาพเนื้อเยื่อเพื่อการวินิจฉัยและประเมินการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อสำคัญในอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งเศรษฐกิจของไทย ของมหาวิทยาลัยมหิดล ​

>> กรอบนโยบาย Digital Government & Infrastructure ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการออกแบบบริการภาครัฐ จำนวน 21 โครงการ ตัวอย่าง เช่น 1) โครงการจัดหาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA-Digital ID) และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า (Face verification System) ของ กรมการปกครอง 2) โครงการ e-Service เพื่อการบริการประชาชนและการบริหารจัดการสัตว์ป่าตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ของ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

>> กรอบนโยบาย Digital Manpower ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการวางแผน การจัดการศึกษาตลอดช่วงชีวิต จำนวน 9 โครงการ ตัวอย่างเช่น 1) โครงการการพัฒนาห้องปฏิบัติการการทดลองทางเคมีในชุมชนโลกเสมือนจริง (Development of Chemistry Lab in Metaverse) ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 2) โครงการศูนย์ฝึกอบรมกำลังคนด้านโลจิสติกส์อัจฉริยะโดยใช้ Mixed Reality Simulation เพื่อรองรับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของเพื่อเชื่อมโยง GMS ของ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top