Sunday, 12 May 2024
ชัยวุฒิธนาคมานุสรณ์

‘ชัยวุฒิ’ สั่งจัดการ-ตรวจสอบ กรณี ‘9near’  กร้าว!! เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่น มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

(31 มี.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี ผู้ใช้งานบัญชี ‘9near’ ได้โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้าง

โดยวันที่ 30 มี.ค.66 เว็บไซต์ 9near.org (https://9near.org/) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบัญชี 9near โพสต์ ขายข้อมูลบนเว็บไซต์ Bleach Forums) ได้แอบอ้างใส่ชื่อ นายปริญญา หอมเอนก (อ.ปริญญาฯ) เป็นผู้สนับสนุน (Sponsored By...) พร้อมทั้งนํา Youtube Video Clip สัมภาษณ์ อ.ปริญญาฯ รายการ Digital Life Spring ช่อง Spring News ใส่บนเว็บไซต์ด้วย ซึ่งในเว็บไซต์ มีลิงก์ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล (!! Download !!) ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูล รายชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ โดยมีการปิดบังในลักษณะ xxxx ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด ส่วนด้านล่างของ เว็บไซต์ได้ระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทําการเผยแพร่ข้อมูล 

ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการ ปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว 

ในวันเดียวกัน ด้านผู้ประกาศข่าว นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ได้โพสต์ข้อความใน facebook ส่วนตัว ว่าได้รับข้อความ SMS ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ประกอบด้วย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, เบอร์มือถือ จาก 9 near

ทั้งนี้ รัฐมนตรีชัยวุฒิ กล่าวถึงแนวทางการดําเนินการของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า...

1) ดศ. ได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สําหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็น ผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค. 66 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมี การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป ซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทําให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือ ดําเนินการจากผู้ให้บริการ

2) ดศ. อยู่ระหว่างดําเนินการขอคําสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเข้าข่าย

‘ชัยวุฒิ’ ชี้ ระบบเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ทำคนไทยแตกแยก ชู ‘พปชร.’ เดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง ยัน!! ม.112 แก้ไม่ได้

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 66 ที่บริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 พรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดเวทีปราศรัยย่อยโซนธนบุรีเหนือ ‘พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ’ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยเรื่อง การก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยได้กล่าวถึงประเด็นการแบ่งแยกเลือกตั้งผู้ว่าในแต่ละจังหวัด ว่า…

“การแบ่งแยกเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด ทำให้เกิดความไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน จังหวัดนี้ของพรรคนี้ เสื้อสีนี้ จังหวัดนี้ของบ้านใหญ่พรรคนี้ เข้าใจคำว่า ‘บ้านใหญ่’ ใช่ไหมครับ แล้วจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร แบบนี้ก็ทะเลาะกันทั้งจังหวัด แล้วจะไปปกครองบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไร ประเทศไทยก็แตกออกเป็นจังหวัด ๆ ราชอาณาจักรไทยก็ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน เราจะยอมให้ประเทศเป็นแบบนั้นไม่ได้ และพรรคพลังประชารัฐ ขอยืนยันกับทุกคน ว่าเราจะต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ดูแลประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อให้คนไทยอยู่ดีกินดี เราต้องรักษาสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องคงอยู่อย่างมั่นคงสืบต่อไป”

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังพูดถึงกรณีมาตรา 112 อีกว่า ตนไปฟังมาหลายเวทีแล้วบอก 112 เป็นคดีการเมือง มันเป็นการเมืองตรงไหน มันเป็นคดีอาญา สมัยก่อนก็ไม่เคยมี มามียุคนี้นี่แหละ เพราะมีคนไปยุยงปลุกปั่น เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง ก็เลยวุ่นวายทั้งที่ความจริงไม่มีปัญหา

“ผมขอบอกเลยมาตรา 112 แก้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว การแก้หรือยกเลิกมาตรา 112  ทำไม่ได้แน่นอน เพราะถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นายชัยวุฒิ กล่าว

‘ชัยวุฒิ’ เผย เสียงตอบรับ ‘พปชร.’ ดีเยี่ยม ประชาชนคุ้นเคยกันดี - ฐานแฟนคลับแน่น

(3 เม.ย.66) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ใน กทม. ว่าเท่าที่ไปช่วยผู้สมัคร เสียงตอบรับดีมาก ซึ่งพรรค พปชร. เป็นภาพที่เคยได้รับการเลือกตั้งใน กทม. มาแล้วรอบหนึ่ง ประชาชนรู้จักคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงเชื่อว่ายังมีแฟนคลับอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เท่าเดิมใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นเป้าหมาย เราไม่อยากให้น้อยกว่าเดิม จะพยายามทำให้ดีที่สุด 

เมื่อถามว่า วันนี้มีกลุ่มทะลุวังมาเคลื่อนไหวทางการเมือง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คิดว่ากลุ่มนี้พยายามเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตนเคยบอกแล้วว่าการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 สุ่มเสี่ยงที่จะขัดรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายได้ จึงอยากให้ระมัดระวัง 

เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าจะเกิดความวุ่นวาย เหมือนกรณีเวทีปราศรัยที่สะพานพระราม 8 หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่วุ่นวายหรอก คนไม่กี่คน ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ คนในประเทศส่วนใหญ่เขาไม่เดือดร้อนเรื่องนี้หรอก ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหากับมาตรา 112 เขาไม่อยากแก้กันหรอก เป็นแค่ความต้องการของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนเชื่อว่ามีการยุยงปลุกปั่น

‘ชัยวุฒิ’ กำชับดูแลผู้เสียหาย ปมข้อมูลหลุด 55 ล้านราย พร้อมเร่งใช้ Digital ID ช่วยยกระดับดูแลความปลอดภัย

(3 เม.ย.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี ผู้ใช้งานบัญชี ‘9near’ ที่อ้างว่ามีข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านราย บนเว็บไซต์ Bleach Forums นอกเหนือจากที่เร่งหาหลักฐานและตัวคนร้ายแล้ว ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริง ดูแลผู้เสียหายจาก 9near ตลอดจนเร่งรัดการใช้ Digital ID และยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เป็นประธานการประชุม ‘การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานรัฐ’ โดยได้เชิญหน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลส่วนบุคคลขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมากหารือ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงาน กกต. เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ในการประชุม ได้มีการ หารือประเด็นสำคัญดังนี้

1. ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรวมทั้งฐานข้อมูลของหน่วยงานเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ มีการตรวจสอบเพื่อป้องกันและแก้ไขช่องโหว่ของระบบที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ ผลเป็นอย่างไร

โดยนายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้รายงานในที่ประชุมว่า จากการสุ่มตรวจของ สคส. ได้พบการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เหมาะสมของหน่วยงานของรัฐ และได้ทำการแจ้งเตือนไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือปรับปรุงตามคำแนะนำ 

ทาง พลอากาศตรี อมร ชมเชย. เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทาง ไซเบอร์แห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า THAICERT ของ สกมช. ตรวจพบว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานถูกโจมตี และยังมีการหลุดรั่วของข้อมูล ซึ่งได้ประสานงาน เร่งแก้ปัญหาและป้องกันปัญหาอย่างต่อเนื่อง

2. แนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลในหน่วยงานของรัฐ อาทิ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ พรบ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้งประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๕ และ ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๕ 

ทั้งนี้ หากหน่วยงานทำข้อมูลรั่ว โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ต้องรีบแจ้ง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้เสียหาย รวมถึงควรทำการเยียวยาผู้เสียหายด้วย

'ชัยวุฒิ' ชู 'พล.อ.ประวิตร' ทำหน้าที่ผู้นำประเทศ ดูแล ปชช. วอนคนไทยมั่นใจ หลัง 4 ปีมานี้ เพื่อนบ้านยกไทย 'พี่ใหญ่อาเซียน'

(7 เม.ย.66) ที่อุทยานเบญจศิริ เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ ใต้ "พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ" นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า พปชร.พร้อมที่เข้าไปดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ถือเป็นเสาหลัก ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ให้กับประชาชน พร้อมประสานทุกหน่วยทั้ง 10 ทิศ แก้ปัญหาให้กับทุกคน ประสานงานกับทุกคน ทำให้วันนี้รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี แล้วเราจะทำต่อไป เด็กเยาวชนทุกวันนี้สามารถจับเงิน 1,000,000 ได้ ก็เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ที่ส่งเสริมให้เกิดการขายของออนไลน์ในระบบดิจิทัล

 

ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับ 6 ของโลก มีแต่ชาวต่างชาติชื่นชมในการมาอยู่เมืองไทย แต่มีพรรคการเมืองไปสร้างเรื่องว่า ประเทศไทยมีปัญหา อยากไปอยู่เมืองนอก ประเทศในแถบยุโรป วันนี้ฝรั่งเศสประท้วงกันเป็นแสนเป็นล้านคน ประเทศเยอรมันที่เจริญที่สุดในยุโรปตอนนี้ก็ประท้วงกัน การขนส่งมวลชนหยุดหมด เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราสงบสุขดีที่สุดแล้ว เพียงแค่อย่าทะเลาะ อยากให้ทุกคน มาช่วยกันดูแลประเทศไทยให้สงบสุข

‘ชัยวุฒิ’ ชี้ นายกฯ - รัฐบาลต้องมีเสถียรภาพ เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเสถียรภาพของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการขับเคลื่อนประเทศ บนเวทีดีเบตนโยบายหาเสียง ฟังนโยบายภาคตะวันออก

‘นพวรรณ’ แจง กรณี ‘ชัยวุฒิ’ ปราศรัยโจมตียกเลิกเกณฑ์ทหาร ชี้!! ยังมีความสำคัญ เพื่อป้องกันประเทศจากอาชญากรรมข้ามชาติ

(11 เม.ย. 66) น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต 12 เขตบางเขน (เฉพาะแขวงท่าแร้ง เขตลาดพร้าว (เฉพาะแขวงจรเข้บัว) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า จากกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.ว่าได้ปราศรัยโจมตีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นการบิดเบือน ใส่ร้าย เพราะนโยบายที่พรรค พท.นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร เป็นระบบสมัครใจนั้น ว่า

ขอยืนยันว่า ประเด็นการเกณฑ์ทหารเป็นการปราศรัยในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นนโยบายของพรรคใด โดยสะท้อนให้เห็นว่ากำลังพลของทหาร มีบทบาทและหน้าที่สำคัญนอกเหนือจากปกป้องอธิปไตยแล้ว ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มาในรูปแบบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนมีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังพบการลักลอบ ยาเสพติด และแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากไทย เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เติบโต มีความสงบ จำเป็นต้องอาศัยกำลังพลทหารปกป้องประชาชนคนไทย ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภัยร้ายแรงจากอาชญากรรม

“การพูดถึงนโยบายนี้ของนายชัยวุฒิ ไม่ได้วิจารณ์เจาะจงเฉพาะพรรค พท.เเต่พูดในภาพรวมเพื่อเเสดงจุดยืนว่าพรรค พปชร. ไม่สนับสนุนการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เเต่อยากให้คงไว้เพื่อการฝึกความรักชาติเเละความเสียสละให้กับคนรุ่นใหม่ หากจะออกมาตอบโต้ประเด็นนี้ อยากให้ ย้อนกลับไปดูการขึ้นเวทีดีเบตของคนพรรค พท.เอง ที่เคยระบุว่า อาจจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งได้ปรากฏข้อความดังกล่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ได้นำเสนอออกไปแล้ว แบบนี้ จะบอกว่าทางพรรค พปชร. ตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้นไม่เป็นความจริง” น.ส.นพวรรณ กล่าว

‘ชัยวุฒิ’ ยัน!! พปชร. ไม่จับมือ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ชี้!! จุดยืน ‘ม.112 - ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ไม่ตรงกัน

(12 เม.ย.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีรถน้ำดำหัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 2566 ว่า เนื่องในเทศกาลปีใหม่ไทยคณะรัฐมนตรีจึงมารถน้ำขอพรจากนายกรัฐมนตรี และร่วมพิธีทำบุญ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้ทุกคนมีความสุข เจริญก้าวหน้า และประสบความสำเร็จ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธีในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่ออธิบายนโยบายของพรรคพลังประชารัฐให้ประชาชนได้รับทราบ

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร ระบุสาเหตุที่ไม่สามารถจับมือร่วมกับพรรคการเมืองที่ มีแนวคิดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน เราทำงานมา 4 ปีพี่น้องประชาชนรู้อยู่แล้วว่ามีแนวคิดอย่างไร ในเรื่องของการดูแลชาติบ้านเมือง ให้สงบสุขไม่มีความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องที่เราคิดว่าเป็นปัญหาและไม่ทำแน่นอน ซึ่งหากมีพรรคการเมืองไหนที่เสนอนโยบายที่เราไม่เห็นด้วย อย่าง เรื่องการแก้ไข ม.112 และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คงไม่สามารถร่วมงานกันได้อยู่แล้ว นี่เป็นแนวหลักการ ไม่ได้เป็นเรื่องของอคติ หรือความขัดแย้ง 

‘ชัยวุฒิ’ แจง คุมตัว ‘9 Near’ แล้ว เผย ทำไปเพราะอยากดัง ตัวเจ้ายัน ไม่ได้แฮกข้อมูล แต่ซื้อมาจากเว็บมืด 8 ล้านรายการ

(12 เม.ย. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงความคืบหน้าในการติดตามผู้กระทำความผิดที่อ้างว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยจำนวน 55 ล้านรายการว่า จ่าสิบโทเขมรัตน์ ได้ถูกส่งตัวมาที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนคดีทางเทคโนโลยี โดยได้มีการสอบสวนและจะนำตัวจ่าสิบโทเขมรัตน์ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านพัก

ผู้ต้องหายืนยันว่า ข้อมูลที่ได้มาไม่ได้มาจากการแฮกข้อมูล แต่ได้จากการซื้อมาจากเว็บมืดที่ผิดกฎหมาย จำนวน 8 ล้านรายการ ราคา 8 พันบาท เมื่อซื้อข้อมูลมาแล้วต้องการทดลองว่า มีรายชื่อของตนอยู่ในข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีจริง จึงนำมาโพสต์ ครั้งแรกไม่ได้รับการตอบสนอง จึงเลือกเอารายชื่อของผู้มีชื่อเสียงมาโพสต์ทำให้เกิดความสนใจมาก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top