Sunday, 5 May 2024
ชวนหลีกภัย

‘ชวน’ การันตี!! ‘จุรินทร์’ เป็นคนดี-ซื่อสัตย์ เหมาะนั่งเก้าอี้นายกฯ วอนชาวพังงาหนุน ‘ปชป.’ มั่นใจ!! คว้าเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 40

(30 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายบำรุง ปิยนามวาณิช ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และ น.ส. รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค ร่วมกันขึ้นรถแห่หาเสียงตั้งแต่เที่ยงวัน โบกมือทักทายเพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพังงา บัตรสีม่วง เบอร์ 1 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

โดยนายชวน ได้กล่าวบนรถแห่ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าให้ระบบเงินซื้อเสียง เข้ามาทำลายการเมือง ทำลายประชาธิปไตยสุจริต ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกคนดี คนพังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมารักษาเกียรติ ศักดิ์ศรีของชาวพังงา และสนับสนุน กันตวรรณ ตันเถียร เบอร์ 1 ให้ได้เป็น ส.ส. ระบบเขต พร้อมทั้งขอบคุณชาวพังงาที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อให้เราได้เสียงมากพอ ให้ลูกหลานชาวพังงาได้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา

พร้อมกับระบุว่า ตนใช้เวลาพิสูจน์ถึง 22 ปี ในเส้นทางการเมือง ส่วนนายจุรินทร์ก็ใช้เวลาพิสูจน์ร่วม 30 ปี ถ้าไม่ใช่เป็นคนดีจริง พรรคก็ไม่เลือกให้มาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับได้ยืนยันความสามารถของนายจุรินทร์ในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถ จึงขอให้ประชาชนทั้งประเทศช่วยกันสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้วยการสนับสนุนประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค ซึ่งระหว่างที่รถแห่ผ่านบริเวณชุมชน มีพี่น้องประชาชนชาวพังงา ได้ยินเสียงจึงออกมาโบกมือทักทายยิ้มแย้มให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงความมั่นใจในจำนวนที่นั่งของภาคใต้ ว่า จากการพูดคุยกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ และจากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง ก็เชื่อมั่นว่า ภาคใต้มีโอกาสที่จะได้ 40+ เป็นไปได้สูงมาก ซึ่งคนที่รับผิดชอบโดยตรงประเมินให้ฟัง และตนก็รู้สึกเช่นเดียวกันจากการลงพื้นที่ แต่ในภาคใต้เป็นธรรมดาที่มีหลายพรรคลงมา เหมือนกับหลายยุคหลายสมัยที่มีหลายพรรคลงมาแข่งขันกัน แต่สุดท้ายประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะผลงาน อุดมการณ์ ความเป็นสถาบันทางการเมือง และการทำการเมืองสุจริต ไม่ซื้อเสียง ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของคนภาคใต้ ที่ทำให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่หนักแน่น มั่นคง มีอุดมการณ์ สามารถฝากอนาคตของบ้านเมืองเอาไว้ได้

“ผมลงพื้นที่เองก็เห็น และสัมผัสได้ว่า พี่น้องชาวใต้มีความรู้สึกอย่างไรกับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ และจากการสำรวจภายในของพรรค ก็สอดคล้องกับที่รองหัวหน้าภาคใต้ประเมินให้ฟัง ตรงกันหมดชัดเจน และผลโพลบางโพลก็บอกว่า ในซีกรัฐบาลเดิม เราก็มีโอกาสที่จะมาที่ 1 ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เราก็จะทำงานหนัก ไม่หยุดหรอก จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และถึงหมดการเลือกตั้งแล้ว ประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่เพื่อรับใช้พี่น้องต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

สำหรับที่จังหวัดพังงา ตนมีความเชื่อมั่นว่าชาวพังงายังสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 เขต และไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จากการที่ตนเป็น ส.ส.จังหวัดพังงา 6 สมัย และเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ 5 สมัย รวม 11 สมัย ไม่เคยทิ้งจังหวัดพังงา จึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาจะสนับสนุนต่อไปทั้งคนทั้งพรรค

‘ชวน’ หนุน ‘แนน ศิริภา’ ลุยขอคะแนนชาวฝั่งธนฯ ย้ำ!! 14 พ.ค. เข้าคูหาเลือกคนซื่อสัตย์ ทำงานเพื่อบ้านเมือง

‘นายหัวชวน’ เดินเท้าตลาดพลู ขอชาวฝั่งธนหนุน ‘แนน ศิริภา’ ย้ำ 14 พ.ค. เลือกคนซื่อสัตย์ เข้าสภาฯ ยกคดีส.ส.ตบทรัพย์ เป็นบทเรียนประชาชน อย่าเลือกนักการเมืองสีเทา 

(2 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลงพื้นที่ย่านตลาดพลู เขตธนบุรี ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคฯ และผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ หมายเลข11 โดยนายชวน เดินพบปะทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนวัยทำงาน ที่มักจะมาท่องเที่ยวตลาดยามค่ำ ซึ่งเป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญของฝั่งธนบุรี มีร้านค้าอาหาร หลากหลายคงความดั้งเดิมและวิถีชีวิตของชาวตลาดพลูทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก 

นายชวน ได้ขอคะแนนเสียงให้ชาวฝั่งธนบุรี ช่วยกันเลือก น.ส.ศิริภา เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ เชื่อว่า จะสามารถเป็นตัวแทนของชาวฝั่งธนบุรี ได้เป็นอย่างดี สมกับที่ตนสนับสนุนในฐานะที่เคยเป็นเลขาของตนระหว่างทำหน้าที่ในสภาฯ พร้อมกับ ขอคะแนนเสียงให้กับตนเอง ในฐานะผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ หมายเลข 26 พรรคประชาธิปัตย์ด้วย

‘ชวน’ นำทีม ‘ปชป.’ ลุยหาเสียง อ้อนขอคะแนนชาวปัตตานี ย้ำ!! ช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองสุจริต อย่าเลือกเพราะเงิน

‘ชวน’ นำทีมประชาธิปัตย์ บุกขอคะแนนชาวปัตตานี วอนอย่าเลือกเพราะเงิน ลั่นปชป. จะขึ้นหรือลงก็อยู่พรรคนี้ ย้ำยึดหลักปชต.สุจริต แซะหัวหน้าบางพรรค ถูกสอบทุจริต

(3 พ.ค. 66) ที่ จ.ปัตตานี นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ขึ้นรถแห่รอบพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ช่วยหาเสียงให้นายสนิท นาแว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 8 และเข้าสักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ปัตตานี ก่อนเดินทางไปตลาดปาลัส อ.ปะนาเระ และเทศบาลเมืองตะลุบัน อ.สายบุรี หาเสียงให้ นายยูนัยดี วาบา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 เบอร์ 6

นายชวน กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักการประชาธิปไตยสุจริต ไม่มีหัวหน้าพรรคคนไหนที่ถูกคดีทุจริต ไม่เหมือนบางพรรค ที่มีหัวหน้าพรรคมาไม่กี่คนก็ถูกสอบทุจริต ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มการให้เบี้ยผู้สูงอายุ วันนี้เราจะเพิ่มให้อีกมากกว่า 1,000 บาทตามสภาพเศรษฐกิจ แม้หลายพรรคจะแข่งกันเสนอตัวเลขว่าจะให้มากกว่า แต่สุดท้ายต้องดูความเป็นไปได้ เพราะแจกเงินก็ได้ผลแค่ช่วงแจก แต่ไม่ยั่งยืน ระยะยาวเป็นภาระหนี้สินของประเทศ แต่พรรคทำนโยบายที่ยั่งยืน เช่น นมโรงเรียน โครงการกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อให้เด็กไทยมีโอกาสในการศึกษา

‘ชวน’ นำทีม ‘ปชป.’ อ้อนขอคะแนนชาวสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยัน!! ‘ปชป.’ อยู่มา 77 ปี ไม่เคยโกง ย้ำ!! เลือกคนสุจริตมาบริหารประเทศ

‘ชวน’ เดินเท้าหาเสียง อ้อนแม่ค้าพ่อค้าเมืองสุไหงโก-ลก เลือกทั้งคนทั้งพรรค

(4 พ.ค.66) นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รวมทั้งนางวทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ได้เดินเท้าลงพื้นที่ตลาดสดเก็นติ้ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อช่วยนายเมธี อรุณ หรือ เมธี วงลาบานูน ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 2 เบอร์ 1 หาเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาช่วยลูกพรรคหาเสียงของนายชวน หลีกภัย ครั้งนี้ ได้แต่งตัวแบบเป็นกันเอง พร้อมกับชูนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ การกู้เงิน กยศ. ให้เด็กได้เรียน รวมไปถึงนโยบายของผู้สมัครในพื้นที่ เพื่อขอคะแนนสนับสนุนให้ผู้สมัครของพรรคทั้งแบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อ เราอาจไม่รู้ว่าคนนั้นดีหรือไม่ดี พรรคการเมืองก็เช่นกัน ทุกพรรคมีนโยบายที่ดีทั้งสิ้น แต่จะดีหรือไม่ดีนั้น พิสูจน์ได้จากการทำงานว่า ทุจริตหรือโกงกิน

อีกทั้งได้เน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่มาได้ถึงวันนี้ ครบ 77 ปี ด้วยการยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายอาหารในตลาดสด โดยบางรายได้ถือโอกาสมอบดอกไม้และผลไม้ ให้นายชวนได้นำไปรับประทาน พร้อมทั้งได้ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้ นายชวน และคณะ ได้ขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อของพรรค ไปตามถนนภายในเขตเทศบาล ในการขอสนับสนุนคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ ที่ได้มีการโปรยมือทักทายนายชวน และคณะ ตลอดเส้นทางที่รถยนต์ผ่าน ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มที่ไม่คิดว่านายชวน จะลงพื้นที่หาเสียงเองให้กับทางพรรค

และจุดสุดท้ายที่นายชวน และคณะ ได้เปิดปราศรัยย่อที่บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก โดยมีการสลับปรับเปลี่ยนกันปราศรัยหาเสียงของ นายนิพนธ์ นายสุชัชวีร์ นางวทันยา และนายเมธี ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนกว่า 2,000 คน ได้เดินทางมารับฟังนโยบาย

นางวทันยากล่าวปราศรัยว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายไม่เซ็กซี่เหมือนพรรคอื่นๆ ท่านรู้มั้ยว่าเราเป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเท่าไร หนี้นับ 10 ล้านล้านบาท ใครเดือดร้อนพวกท่านๆ ที่นั่งตรงนี้เดือดร้อน ส่วนใหญ่ต้องไปพึ่งการกู้หนี้ยืมเงินนอกระบบ แล้วท่านจะลืมตาอ้าปากได้เมื่อไหร่ นอกจากนี้ นโยบายกัญชา ถามว่าตนเอาไหม บอกเลยว่าไม่เอา มีเพียงอย่างเดียวใช้ในทางการแพทย์ ส่วนกัญชาเสรีนั้น ดูซิคนหรือเยาวชนใน กทม.ติดกัญชากันจนผู้ปกครองบ่นว่าเดือดร้อน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะต่อต้านเรื่องกัญชาเสรี

ด้าน นายนิพนธ์ขึ้นปราศรัยใจความได้ว่า ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ การติดอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุดทั่วประเทศ จุดประสงค์หลักคือ นักเรียนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนที่สะดวก แม้แต่ในโรงเรียนหรือทางบ้าน เราต้องให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชน

ด้านนายชวนกล่าวปราศรัยใจความว่า เล่นการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชนมาเกือบทั้งชีวิต ซึ่งคนของพรรคทุกคนไม่เคยโกงกินหรือติดคุก เราซื่อสัตย์ต่อพี่น้องประชาชน นโยบายต่าง ๆ ที่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี การสร้างรถไฟรางคู่ซึ่งก็ได้คืบหน้าไประดับหนึ่ง แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล นโยบายต่าง ๆ จึงถูกโละทิ้ง ถือว่าไม่ใช่นโยบายของพรรคนั้น ๆ เขาก็ไปพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขา ภาคใต้บ้านเราจึงไม่เจริญเท่าที่ควรจะเป็น

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ เร่งทำคะแนนโค้งสุดท้าย เผย ส่งข้อความให้กำลังใจผู้สมัคร อย่าท้อ ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ ส่งข้อความถึงผู้สมัคร ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย อย่าท้อ เสียดาย โพลชี้ จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถึง 10 คน เร่งรณรงค์โค้งสุดท้าย ชี้!! เลขขั้วรัฐบาลชัดไม่น่ามีปัญหาตั้งรัฐบาล แต่อาจเป็นปัญหาถ้าพรรคการเมืองไม่ยอมรับ โยน กก.บห.คิด จะจับขั้วใคร

(8 พ.ค. 66) นายชวน หลีกภัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการ มุมการเมือง ทางไทยพีบีเอส ถึงปรากฎการณ์ ประชาชนตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ กันมากกว่า เป็นเรื่องดี

เมื่อถามว่า มีประชาชนกังวลเรื่องความพร้อมจัดการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และห่วงเรื่องการทุจริตนั้น นายชวนกล่าวว่า กกต.คงพยายามจะทำให้ดีที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เรื่องความพร้อมและเรื่องการจับทุจริตหรือความไม่ชอบเรื่องการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินเป็นเรื่องยาก ซึ่งนักการเมืองบ่นกันอยู่ว่า กกต.อาจไม่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม แม้ว่าจะมีกระแสเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยสำหรับการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งก็น่าจะรู้แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกระบวนการและวิธีการที่นักการเมืองใช้ ไม่ใช่หมาหอนแบบสมัยก่อน แต่อาจเป็นการทำอะไรล่วงหน้าเช่น จดชื่อเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปก่อน ต่างจากสมัยก่อน วิธีการยากที่จะไล่จับ อยู่ที่ความจริงจังและประสิทธิภาพของแต่ละคน

เมื่อถามถึงความเข้มข้นในการหาเสียงช่วงสุดท้ายนายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีหากหาเสียงโดยวิธีการที่ชอบ เช่น การปราศรัยหรือประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นการเตือนให้คนออกมาใช้สิทธิ์ และจนถึงขณะนี้ ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบเรื่องตัวเลข เบอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งถ้ารณรงค์ในช่วงใกล้เลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นว่าเปลี่ยนระบบเป็นบัตรสองใบ พรรคเบอร์หนึ่ง ผู้สมัครเขตอีกเบอร์หนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ควรมีการเน้นย้ำ

'ชวน' แนะ 'พิธา' อย่าก้าวก่ายพรรคการเมืองโหวตเลือกนายกฯ ชี้!! ทุกพรรคการเมืองมีสติปัญญาพิจารณาเองได้

(16 พ.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองต่าง ๆ ร่วมโหวตให้ตนเป็นนายกฯ นายชวนกล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าไปก้าวก่ายคนอื่นเขาเลย แต่ละพรรคคิดอย่างไรก็ให้เขาคิดเอา และมีมติของเขาเอง ดังนั้นอย่าไปก้าวก่ายหรือลุกล้ำ ไม่ควรให้คนอื่นเขาคิดเหมือนตัวเอง แต่ละพรรคเขาคิดเองได้ และเขามีสติปัญญาที่จะคิดเองได้

เมื่อถามว่ามองบทบาทของนายพิธาอย่างไร นายชวนกล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเสียงที่เขาชนะมา เขาก็ต้องให้ความเห็นเอง แต่เท่าที่ประเมินดูในเวลาที่เราออกไปหาเสียง จะพูดได้ว่าในท่ามกลางของการยิงด้วยเงิน พรรคกาวไกลไม่มีครหาเรื่องนี้ แต่เขาใช้เรื่องการสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียในการหาเสียง

‘ชวน’ เตือนสติ ปมขัดแย้งชิง ประธานสภาฯ ยึดตามอำเภอใจ ปัญหาไม่จบ แนะ ก้าวไกล-เพื่อไทย ให้หารือกันใกล้ชิด

28 มิ.ย. 2566 นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ผ่านทีวีรัฐสภา ในรายการ 91 ปีก้าวแห่งความมั่นคงรัฐสภาไทย เนื่องในวันสถาปนารัฐสภา วันที่ 28 มิถุนายน ว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น สภา จะเป็นผู้เลือกโดยยึดดุลยพินิจของส.ส. ที่ผ่านมาเคยมีกรณีประธานสภา ไม่ได้มาจากพรรคอันดับหนึ่ง เพราะเป็นข้อตกลงของพรรคร่วม ที่ผ่านมาพบว่าพรรคที่ได้เสียงใกล้เคียงกัน จะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลเพราะจะทะเลาะกันเหมือนปัจจุบัน ใครที่ได้เสียงข้างมากชัดเจน ตกลงได้ว่าได้เป็นนายกฯและประธานสภา

เมื่อถามว่าขณะนี้เสียงของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความไม่ชัดเจน นายชวน กล่าวว่า ถือเป็นประสบการณ์ตั้งรัฐบาล ปกติการตกลงร่วมกันจะใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นสำคัญ เพราะจะง่ายต่อการแบ่งปันตำแหน่ง ทั้งนี้ การตั้งรัฐบาลในปัจจุบัน ตนมองว่าง่ายกว่าในอดีต เพราะมีเพียง 8 พรรค ขณะที่มีเพียง 2 พรรคเท่านั้นที่รวมเสียงได้เกินครึ่ง แต่เที่ยวนี้ดูแล้วมีปัญหา เพราะมีประเด็นความต้องการประธานสภา และ ตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเขามีเหตุผลและเป็นปกติที่เป็นไปได้ แต่หากเอาทุกอย่างปัญหาไม่จบ

ต่อข้อถามว่าพรรคก้าวไกล กังวลว่าหากไม่ได้ประธานสภา จะผลักดันกฎหมายของตนเองไม่ได้ นายชวน กล่าวว่า ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะประธานสภา ไม่สามารถทำตามอำเภอใจหรือทำสิ่งที่ขัดกับข้อบังคับการประชุมได้

ส่วนที่ระบุว่าหากไม่ได้ประธานสภา จะไม่ได้ตำแหน่งนายกฯนั้น ก็ไม่จริง เพราะการเลือกนายกฯ ต้องลงมติจากสมาชิก ซึ่งประธานสภา ต้องดำเนินการตามมติของสภา ไม่สามารถเปลี่ยนคนได้ ประธานสภาจะเกี่ยง ถ่วง หรือเสนอชื่อคนอื่นไม่ได้ ดังนั้น หากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา ตำแหน่งนายกฯ จะมีปัญหานั้นไม่เกี่ยวกัน อีกทั้งการผลักดันกฎหมาย ประธานสภาไม่สามารถทำตามอำเภอใจว่าจะเอากฎหมายของใครขึ้นมาพิจารณาก่อนได้ ต้องเป็นไปตามลำดับการเสนอจากสมาชิก หากจะเปลี่ยนวาระต้องขอมติจากที่ประชุม ไม่ใช่อำนาจของประธานสภา

“ฝ่ายที่ตั้งรัฐบาล ไม่ใช่เอาทุกอย่างเป็นของตนเอง ต้องต่อรองกัน เช่นกระทรวง ผมมองว่าหากเขาพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และเข้าใจภารกิจบทบาทหน้าที่ การแบ่งอำนาจ จะทำให้เกิดความขัดแย้งน้อยลง แต่ที่มีความขัดแย้งมาก เพราะไม่เข้าใจหลายเรื่อง” นายชวน กล่าว

สำหรับปัญหาของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยนั้น ตนมองว่าหากเข้าใจบทบาทสภา จะทำให้มีข้อยุติง่าย แต่หากไม่เข้าใจและมองว่าประธานสภาบันดาลให้ใครเป็นนายกฯ ก็ได้ แบบนี้หารือกันยาก หากไม่แน่ใจว่าการตั้งนายกฯ จะผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่าน เขาไม่ได้ทั้งนายกฯ และประธานสภา จนกลายเป็นความวิตก

“ผมมองว่าหาก 2 ฝ่ายหารือกันอย่างใกล้ชิด จะทำให้คุยกันได้ง่าย ดังนั้นปัญหาของประธานสภาฯ ควรยุติด้วยการศึกษา เข้าใจ ในบทบาท อำนาจ หน้าที่ ทุกฝ่ายไม่สามารถเอาอะไรได้ตามมอำเภอใจทุกอย่าง ที่ผ่านมาการตั้งประธานสภา ไม่มีปัญหา แต่สมัยนี้มีปัญหา” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวถึงสเปกประธานสภาว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ต้องเตรียมตัว ศึกษากฎเกณฑ์ ข้อบังคับและระเบียบ คนที่ได้เป็นประธานสภา ต้องลาออกจากตำแหน่งในพรรค เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับพรรคตัวเอง หากพรรคเลือกคนของตัวเองเข้ามาเพื่อให้เลือกปฏิบัติก็ไม่สามารถทำได้

พรรคที่เลือกตัวแทนเข้ามา ต้องเลือกคนที่เป็นหน้าตาให้พรรค เพราะเลือกคนที่จะมาเป็นหัวหน้าของ 500 คนในสภา ดังนั้น พฤติกรรม นิสัยใจคอ ต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นตัวแทนของฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคการเมืองต้องเลือกคนที่เข้ามาเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย รวมถึงต้องคำนึงด้วยว่าจะทำให้การเมืองในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปในทิศทางบวกหรือลบ

'ชวน' ให้กำลังใจ 'บิ๊กป้อม' ทำหน้าที่ ส.ส.ไม่หลุด  ชี้!! ปมก้มหน้า แค่เรื่องเล็กน้อยไม่ใช่ประเด็น

(6 ก.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขณะเข้าร่วมประชุมสภาฯ นัดแรก เพื่อโหวตเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ ก้มหน้าในห้องประชุมคล้ายนั่งหลับ ว่า ตนขอให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ที่มาร่วมประชุมและได้เข้าแสดงตนเพื่อเป็นองค์ประชุม

"ผมมองเห็นว่าท่านนั่งอยู่ตลอดไม่ได้ไปไหนเลย ส่วนท่านจะก้มหน้าหรือเงยหน้า หรือจะทำอะไรก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย"

นายชวน ระบุว่า ขออย่าวิพากษ์วิจารณ์หรือเอามาเป็นประเด็น เพราะท่านสามารถเลือกที่จะไม่นั่งในที่ประชุมก็ได้ แต่นี่นั่งอยู่เป็นองค์ประชุมตลอด ในการโหวต ถือเป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. และรักษาองค์ประชุมของสภา ตรงนี้ต่างหากที่เป็นประเด็นที่ต้องให้กำลังใจกัน ซึ่งทำให้ครบองค์ประชุมและสามารถเดินต่อหน้าต่อไปได้ ตนจึงขอเป็นกำลังใจให้ในการทำหน้าที่ต่อไป

‘ราเมศ’ ออกโรงป้อง หลักการ ‘ชวน’ ไม่ใช่มรดกความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องของความถูกผิด-อุดมการณ์พรรค ที่ทุกคนต้องเรียนรู้

(25 ส.ค. 66) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงประเด็นมติที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ว่า…

“ต้องยอมรับว่ามีข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงในหลายประเด็น การประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนวันที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของนายชวน หลีกภัย ที่ได้แจ้งต่อที่ประชุมและได้บอกเหตุผลว่าเหตุอันใดที่มีความจำเป็นต้องโหวตไม่เห็นชอบ ไม่มีผู้ใดขัดข้อง มติที่ประชุมเป็นไปตามที่โฆษกที่ประชุม สส.คือนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ได้ออกมาแถลงผลการประชุมคือ ที่ประชุมมีมติให้งดออกเสียง กรณีของนายชวน จึงไม่ใช่การฝ่าฝืนมติที่ประชุมแต่อย่างใด

นายชวนได้อยู่พรรคมานาน เป็นบุคคลที่ยึดมั่นในหลักความถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้อง นายชวนไม่ทำอยู่แล้ว และแนวคิดของนายชวน ในเรื่องการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ท่านได้ต่อสู้มาโดยตลอด ไม่ใช่ความเคียดแค้นส่วนตน แต่เป็นเรื่องความถูกผิด เป็นเรื่องของอุดมการณ์พรรค ประชาชนภาคใต้ยังจดจำการเลือกปฏิบัติกับพี่น้องในภาคใต้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ไม่ได้ยึดกฎหมายบ้านเมือง เหตุการณ์ที่กรือเซะที่ตากใบ การทุจริตโครงการจำนำข้าว เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เห็นว่าอุดมการณ์ในทางการเมือง ความซื่อสัตย์สุจริตการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอีกหลายเรื่อง มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

นายชวน หลีกภัย คือ ‘เสาหลักของพรรคประชาธิปัตย์’ ผมเชื่อว่าถ้าไม่มีคนชื่อ ‘ชวน หลีกภัย’ ประชาธิปัตย์ไม่สามารถอยู่อย่างยั่งยืนได้ในวันนี้ และเชื่อว่าทุกคนในพรรคระลึกถึงบุญคุณของนายชวน ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับพรรคตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คงไม่มีใครคิดขับท่านชวนออกจากพรรค วันที่คนของพรรคเพื่อไทยแกล้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ท่านชวน คือคนที่ต่อสู้และต่อสู้ด้วยความยากลำบากจนชนะคดีพรรคไม่ถูกยุบ แนวคิดประสบการณ์ในทางการเมืองคือสิ่งสำคัญที่คนรุ่นหลังมีความจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อนำหลักการที่ดีไปปรับประยุกต์ใช้ในการนำพาพรรควันข้างหน้า เชื่อว่าทุกคนยอมรับว่าการเมืองเปลี่ยนไปมาก แต่พรรคประชาธิปัตย์มีหลักคิดที่ดีมีสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เราทุกคนจะทำอย่างไรที่จะซึมซับสิ่งเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า”

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ขณะนี้ก็ต้องแจ้งพี่น้องประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มรูปแบบ ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศอย่างเต็มที่ ฝ่ายค้านคงไม่ใช่แค่การตรวจสอบอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการทำงานในเชิงรุกที่ตนในฐานะโฆษกพรรคได้แถลงไว้ก่อนพรรคอื่น คือจะใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันแก้ปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงการยกร่างและการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้การขับเคลื่อนในการแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนทั่วทั้งประเทศ ที่จำต้องมีการสังคายนากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

‘ชวน’ รับปริญญา ‘ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์’ ใบที่ 21 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มอบเพื่อเชิดชูเกียรติในผลงาน

(31 ส.ค. 66) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาทัศนศิลป์ ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณามอบให้นายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัด นับเป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบที่ 21 ของนายชวน หลีกภัย

สำหรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบแรกจนถึงปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้

1.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2528
2.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2530
3.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ พ.ศ. 2536
4.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2537
5.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล พ.ศ. 2541

6.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัย San Marcosสาธารณรัฐเปรู พ.ศ. 2542
7.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2545
8.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า พ.ศ. 2547
9.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2549
10.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ พ.ศ. 2552

11.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2552
12.) ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย พ.ศ. 2555
13.) ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประเภททั่วไป สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต พ.ศ. 2556
14.) ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2557
15.) นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย พ.ศ. 2559

16.) นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. 2562
17.) ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารจัดการการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม พ.ศ. 2561
18.) นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แขนงวิชานวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
19. )ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
20.) ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคม ศาสนา และวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข
21.) ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาทัศนศิลป์ สถาบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top