Sunday, 12 May 2024
กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ - โฆษกกองทัพเรือเผย อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมบริจาคสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์

วันนี้ (18 พฤษภาคม 2564) พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย คุณหญิงมัญชุมาศ ห้าวเจริญ อดีตนายกสมาคมภริยาทหารเรือ เข้ามอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท เพื่อสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อผู้ป่วย Covid-19 โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ โดยมี พลเรือตรี นิธิ พงศ์อนันต์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ, นาวาเอกหญิง ภาวิกา ธรรมโน  รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ฝ่ายศึกษาอบรมและวิจัย และนาวาเอกหญิง พิมพ์สิริ ชมะนันทน์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องรับรอง สำนักงานผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ กรุงเทพฯ


และท้ายสุด โฆษกกองทัพเรือ ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนรวมทั้งภาคประชาชน ร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่อผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้มีจิตศรัทธายังสามารถร่วมบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือบริจาคเงินผ่านมูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า “เพื่อผู้ป่วยไวรัสโควิด-19” ทั้งนี้สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ศูนย์รับบริจาค โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02 475 2576 และ 06 3442 2614 หรือบริจาคผ่านบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า” เลขที่บัญชี 040-2-00002-0 มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดย โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมอบให้แก่ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วยดีตลอดมา


ภาพ/ข่าว ปชส.โฆษกกองทัพเรือ / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 
 

กรุงเทพฯ - สภากาชาดไทย พร้อมเปิดสิทธิ์ให้ อสส. เข้าระบบแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” เพื่อขอสนับสนุนชุดธารน้ำใจฯ

สภากาชาดไทย โดย สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร สนับสนุนให้อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นำระบบแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” มาใช้ในการร้องขอการสนับสนุนชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 จากสภากาชาดไทย เพื่อนำไปมอบให้กับผู้กักกันโรค 14 วัน ที่เดือดร้อน ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค และยังไม่มีหน่วยงานอื่นให้ความช่วยเหลือในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและมีการยกระดับมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด
นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จะได้รับ User Account ในการเข้าระบบแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” เพื่อทำการปักหมุดตำแหน่งของผู้กักกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับความเดือดร้อนด้านเครื่องอุปโภคบริโภคจากการกักตัว 14 วัน และยังไม่มีหน่วยงานอื่นให้การช่วยเหลือ จากนั้นข้อมูลจะผ่านกระบวนการคัดกรอง รวบรวม และส่งคำร้องมายังสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เพื่อให้การสนับสนุนชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ จะส่งมอบชุดธารน้ำใจฯ ให้กับศูนย์บริการสาธารณสุขต่อไป”


โดยในปี พ.ศ. 2563 สภากาชาดไทย ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ดำเนินโครงการขยายผลและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานระบบฐานข้อมูลภัยพิบัติและระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) เพื่อส่งเสริมการนำระบบแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” มาสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ครอบคลุมทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ ได้แจ้งขอชุดธารน้ำใจฯ ให้ผู้ถูกกักกันโรค ผ่านแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” และส่งความความช่วยเหลือไปแล้วมากกว่า 150,000 คน


สำหรับประชาชนที่มีจิตศรัทธาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับสภากาชาดไทยที่จะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน สามารถบริจาคได้ในโครงการ “พลังใจ 99 บาท ก้าวผ่านวิกฤต COVID-19” เพื่อมอบชุดธารน้ำใจช่วยเหลือประชาชนที่ต้องกักกันตน ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้และไร้ที่พึ่ง เพื่อลดความเสี่ยง ป้องกัน และเยียวยาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการสแกน QR CODE ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารใน ระบบ E-DONATION หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ" ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 หรือธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์ ชื่อบัญชี "สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย" ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 023-6-06799-0 ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1664


 

กรุงเทพฯ - พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการของโรงพยาบาลตำรวจ ในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับข้าราชการตำรวจ ณ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่

วันนี้ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พิภพมงคล นายแพทย์(สบ ๗)โรงพยาบาลตำรวจ พลตำรวจตรี สมนึก น้อยคง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรี วิบูลย์ สีสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พลตำรวจตรี สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินการของโรงพยาบาลตำรวจ ในการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ข้าราชการตำรวจ

สืบเนื่องจาก พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ห่วงใยในสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีภารกิจและหน้าที่โดยตรงและต้องสัมผัสกับประชาชนจำนวนมาก มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรค จึงมอบหมายให้ พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และ พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ควบคุมกำกับดูแลเพื่อให้การดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการตำรวจ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความแออัด ลดการรวมกลุ่ม ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการตำรวจ จึงได้กำหนดแบ่งกลุ่มเข้ารับการฉีดวัคซีนของข้าราชการตำรวจ เป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่ม 1  ข้าราชการตำรวจรับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มแรก จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ณ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ

กลุ่ม 2 ข้าราชการตำรวจรับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มที่สอง จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ณ สโมสรตำรวจ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้สำหรับการเข้ารับวัคซีน ณ สโมสรตำรวจ สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับข้าราชการตำรวจ จำนวนวันละ 1,000 นาย โดยแบ่งกลุ่มตามสังกัด ซึ่งหน่วยต้นสังกัดจะมีการแจ้งรายชื่อให้ตำรวจทุกนายทราบและเดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันเวลาที่กำหนด โดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ คอยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลพร้อมแนะนำการปฏิบัติในทุกขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่กำหนด เช่น การคัดกรอง การเว้นระยะห่าง การกำหนดวงรอบการเข้ารับการวัคซีนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 นาย นอกจากนี้ยังมีการกำหนดและแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พื้นที่พักคอย พื้นที่ให้บริการ มีวงดนตรีจากกองสวัสดิการคอยให้บริการ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุน อาหารและน้ำดื่มอีกด้วย

พลตำรวจเอก ปิยะฯ กล่าวว่า “จากการตรวจสอบการบริหารจัดการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลตำรวจ พบว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขอย่างดีเยี่ยมและครบถ้วน ขอให้ตำรวจทุกนายได้มั่นใจ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและเพื่อนข้าราชการตำรวจ เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครับ”

กรุงเทพฯ - จก.ขส.ทร.จัดกิจกรรมวันอาภากร บริจาคโลหิต และมอบสิ่งของให้ชุมชนใกล้เคียงสู้โควิด-19

พลเรือตรี สาธิต นาคสังข์ เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ (จก.ขส.ทร.) จัดกิจกรรมเนื่องในวัน อาภากร โดยจัดพิธีบวงสรวงและอ่านคำประกาศพระเกียรติคุณ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์​บริเวณ​หน้า​กองบังคับการ​ และ​จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต​ เพื่อสนับสนุน​โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า​ กรมแพทย์ทหารเรือ​ นำโลหิตไปช่วย​เหลือผู้ป่วย​

เนื่องจากขณะนี้​โรงพยาบาลขาดแคลนเลือดเป็นจำนวนมาก​ พร้อมกันนี้​ได้มอบสิ่งของอุปโภค บริโภค อาหาร ยารักษาโรค ให้กับ​ชุมชน​บ้านพระยาทำ ​ซึ่งอยู่ติดกับ​กรมการขนส่งทหารเรือ​ ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19​ โดยเชิญผู้นำชุมชน​เป็นผู้แทนมารับ ​และส่งต่อให้คนในชุมชนต่อไป​ เมื่อ 19 พ.ค.64


ภาพ/ข่าว กพร.ทร. / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

กรุงเทพฯ - มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อน้ำใจไทยอีกกว่า 5.6 ล้าน มอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เสริมทัพบุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัยโควิด-19

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564) นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ มอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ในโครงการ “ส่งต่อน้ำใจไทย สู้ภัยโควิด-19” แก่โรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 20 แห่ง และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 3 แห่ง รวม 23 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 5.6 ล้านบาท เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยมี นายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ พร้อมคณะเป็นผู้รับมอบในส่วนสังกัดสำนักการแพทย์ ณ ลานสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และ ผศ.พิเศษ นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา พร้อมคณะ เป็นผู้รับมอบผ่านระบบออนไลน์ พร้อมกำหนดนัดหมายมอบให้กับรพ.สังกัดกรมการแพทย์อื่น ๆ เพื่อรับมอบต่อไป

อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ประกอบด้วย เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 4 เครื่อง ชุด PPE (EN 14126) หน้ากาก N95 (ยี่ห้อ 3M / 8210) หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และชุดของใช้ประจำวันหรือชุดแรกรับ มอบให้กับโรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม สังกัดสำนักการแพทย์ 20 แห่ง และกรมการแพทย์ 3 แห่ง รวม 23 แห่ง ประกอบด้วย รพ.กลาง รพ.สิรินธร รพ.นพรัตนราชธานี รพ.สมุทรปราการ รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ รพ.ราชพิพัฒน์ เขตบางแค รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ รพ.ลาดกระบัง รพ.คลองสามวา รพ.บางนา ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์เอราวัณ) รพ.สนาม เอราวัณ 1 บางบอน รพ.สนาม เอราวัณ 2 หนองจอก รพ.สนาม เอราวัณ 3 ทุ่งครุ รพ.สนาม (รพ.บางขุนเทียน) รพ.สนาม (รพ.ราชพิพัฒน์) เขตทวีวัฒนา รพ.สนาม (รพ.กลาง) Hospital โรงพยาบาลสิรินธร ( โรงแรม Elegant Airport Hotel) เขตประเวศ Hospital โรงพยาบาลตากสิน (โรงแรม บ้านไทย บูทีค) เขตบางกะปิ พร้อมกันนี้ยังได้มีการมอบเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัลแก่สถาบันประสาทวิทยาผ่านระบบออนไลน์

สำหรับการมอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ริเริ่มดำเนินการมามอบมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา โดยในครั้งแรก มูลนิธิฯ ทุ่มงบ 110 ล้านบาท มอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั้งในกรุงเทพฯ และถิ่นทุรกันดารในต่างจังหวัด รวม 37 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ มูลนิธิฯ ได้ประสานโรงพยาบาลต่าง ๆ ให้แสดงความประสงค์สิ่งที่ขาดแคลน และเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้อย่างเร่งด่วน หลังจากนั้นภายหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มูลนิธิฯ พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุน “ธารน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” มอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนต่อเนื่อง

และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ระลอกใหม่นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ปรับแผนการดำเนินงานการช่วยเหลือประชาชนทั้งด้านบรรเทาสาธารณภัย สังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน พร้อมประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเชิงรุกทั้งในส่วนของประชาชน ชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในขณะนี้ รวมงบประมาณดำเนินการออกช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 32.9 ล้านบาท

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ติดต่อสอบถาม รวมถึงติดตามข่าวสารกิจกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ – ผู้ประสบภัยต่าง ๆ ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

กรุงเทพฯ - นิพนธ์ เดินหน้าจัดของเติมตู้ปันสุข ของกระทรวงมหาดไทย เชิญชวน พี่น้องประชาชนผู้มีกำลังฯร่วมกิจกรรม เพื่อเติมกำลังใจให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด

ที่ บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มาเติมเต็มที่ตู้ปันสุข เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยรอบกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลายความทุกข์ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

สำหรับกิจกรรม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด 19” กรมการปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ตามปรัชญากระทรวงมหาดไทยที่ว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จัดระเบียบผู้ที่มาเลือกหยิบของจาก "ตู้ปันสุข" ให้เป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ รมช.มท.ได้กล่าวเชิญชวน ว่า "ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้ที่พอมีกำลังทรัพย์ที่จะนำสิ่งของมาใส่ในตู้ปันสุขได้ ก็ขอให้มาร่วมเติมกำลังใจ ให้ได้มาร่วมกิจกรรมกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ยังคงมีอยู่ต่อไปอีกสักระยะ ซึ่งยังมีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด ดังนั้น การจัดกิจกรรมของเราก็จะคงจัดอยู่ไปจนกว่าสถานการณ์โดยรวมจะเข้าสู่สภาวะปกติ"


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

กรุงเทพฯ - ด้วยความห่วงใย ศาลเยาวชนฯ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 นางอโนชา ชีวิตโสภณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง นางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง และคณะผู้พิพากษาสมทบ (โครงการติดตามด้วยความห่วงใย โดย ดร.นิลุบล ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานโครงการฯ และโครงการติดตามด้วยใจ

โดยนางณัฐา อินทวงศ์ คณะทำงานและผู้ประสานงาน) เป็นตัวแทนมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส บ้านกรุณา บ้านมุทิตา บ้านอุเบกขา บ้านปรานี บ้านสิรินธร และบ้านกาญจนา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 ณ โถงกลาง ชั้น 2 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จตุจักร กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ - นิพนธ์ ลงพื้นที่คลองเตย ร่วมผู้บริหารเนชั่น นำถุงยังชีพมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และมูลนิธิเนชั่น พร้อมส่งกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิดฯ"

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่โรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ นายนิพนธ์  บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมการมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ร่วมกับคุณฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารบริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย - วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ  ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวสารขนาดบรรจุ 5 กก. อาหารแห้ง น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เครื่องอุปโภค สิ่งของจำเป็นจากมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ให้กับชาวชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

นายนิพนธ์ กล่าวว่า "การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อหวังส่งกำลังใจให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดฯ อย่างมาก โดยได้นำสิ่งของเพื่อการบริโภคอุปโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมามอบให้ ซึ่งมูลนิธิเสนีย์ฯ และ มูลนิธิเนชั่น ได้ร่วมกันนำมามอบให้แก่พี่น้องประชาชนถึงพื้นที่อยู่อาศัยอีกด้วย ทั้งนี้สถานการณ์ต่างๆยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่อย่างต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนต้องให้ความร่วมมือการ์ดต้องไม่ตก โดยรัฐบาลยังคงทำงานอย่างจริงจังเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ให้คลี่คลายและให้เกิดผลกระทบที่สร้างความลำบากต่อพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุดเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว"

กรุงเทพฯ - พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของจุดบริการฉีดวัคซีนกองบัญชาการกองทัพไทย

วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของจุดบริการฉีดวัคซีนกองบัญชาการกองทัพไทย ณ อาคาร 15 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ จากที่รัฐบาลได้มีการกำหนดฉีดวัคซีนป้องกัน covid -19 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรค โดยเริ่มการฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 

กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพลกลุ่มเสี่ยงที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลในการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป เพื่อสนับสนุนการกระจายวัคซีนและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยมีความพร้อมทั้งในส่วนของสถานที่และบุคลากร สำหรับเป็นพื้นที่ให้บริการในการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป


ภาพ/ข่าว ทีมข่าว v.13 รายงาน

กรุงเทพฯ - รมต.กีฬา เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายโชติ  ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายแพทย์อดินันท์  กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, ดร.ก้องศักด  ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมในพิธี ณ บริเวณด้านหน้าอาคารอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้การจัดกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ต้องงดหรือมีการเลื่อนจัดการแข่งขันออกไป ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วน ในการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการจัดตั้งศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานการบริการทางการแพทย์ ให้กับนักกีฬาและบุคลากรกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1, 2 และ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการด้านบริการทางการแพทย์ ให้แก่ นักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา ให้ได้รับการเข้าถึงการบริการฉีดวัคซีนเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้นักกีฬา สามารถเดินทางเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในเกมส์ระดับนานาชาติต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือก เพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ พาราลิมปิกเกมส์ และการแข่งขันในระดับนานาชาติอีกหลาย ๆ รายการ รวมถึง นักกีฬาอาชีพ และบุคลากรที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทำให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง ให้แก่ประเทศต่อไป ดังนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้นำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

โดยการจัดตั้งสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล เพื่อรองรับในการฉีดวัคซีนให้บริการแก่ นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และได้ขอรับความอนุเคราะห์วัคซีนจากทางกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 10,000 โดส ในเบื้องต้นได้รับมาแล้ว 2,000 โดส ซึ่งได้เริ่มทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1, 2 และ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา และจะมีการทยอยส่งวัคซีนมาให้อีกในสัปดาห์หน้า ซึ่ง กกท.ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ในการเป็นโรงพยาบาล คู่ปฏิบัติการในการฉีดวัคซีนโควิด -19 ในครั้งนี้  อย่างไรก็ดี หลังจากที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว การกีฬาแห่งประเทศไทย มีแผนจะเปิดบริการให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นลำดับถัดไป

ทั้งนี้ มีนักกีฬา บุคลากรกีฬา และบุคลากรในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนแล้ว รวมจำนวน 5,500 คน ในช่วงเข็มแรก โดยสามารถเข้ามารับวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 8-15 มิถุนายน 2564 ในวันจันทร์-ศุกร์  เวลา 8.30-15.30 น. ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top