Monday, 29 April 2024
กระทรวงพาณิชย์

พาณิชย์ฯ ดัน 3 สินค้า GI ไทย เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น คาดดึงรายได้กลับชุมชนท้องถิ่นกว่า 1,200 ลบ.

'พาณิชย์ฯ' ดัน กาแฟดอยตุง, กาแฟดอยช้าง, สับปะรดห้วยมุ่น 3 สินค้า GI ไทย เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น เชื่อ!! สร้างรายได้ให้เกษตรกรท้องถิ่นได้กว่า 1,200 ล้านบาท

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งเสริมสินค้าชุมชนท้องถิ่นให้ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI : Geographical Indications) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับสินค้าท้องถิ่นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในคุณภาพสินค้า GI ไทย

สำหรับ GI นั้น เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพ หรือชื่อเสียงของสินค้านั้น ๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนเป็น 'แบรนด์' ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพ และแหล่งที่มาของสินค้า 

พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นสินค้าที่ผลิตได้จากท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากภูมิปัญญาเฉพาะ หรือลักษณะทางภูมิศาสตร์เฉพาะของท้องถิ่นนั้น เช่น ดิน อากาศ แร่ธาตุ ฯลฯ ทำให้ได้สินค้าที่มีอัตลักษณ์ มีลักษณะเฉพาะ หรือรสชาติเฉพาะ ที่สินค้าแบบเดียวกันของท้องถิ่นอื่นไม่มี และเลียนแบบไม่ได้

ค้นฟรี!! 'พาณิชย์ฯ' เปิด DBD DataWarehouse+ คลังข้อมูลธุรกิจออนไลน์ใหญ่สุดในประเทศ

(18 ก.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากปัญหาการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ชักจูงให้ประชาชนทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการพิจารณาการลงทุนของประชาชนหรือผู้ประกอบการในธุรกิจต่าง ๆ ล้วนต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องในการตัดสินใจ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลที่ทันสมัย ถูกต้อง ประกอบการวิเคราะห์ในภาพรวมอุตสาหกรรม ขณะนี้ ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “DBD DataWarehouse+” เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนใช้ประโยชน์ฟรี ทั้งการตรวจสอบสถานะนิติบุคคล ข้อมูลงบการเงิน วิเคราะห์ธุรกิจ และค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจและเป็นข้อมูลประกอบก่อนการตัดสินใจลงทุน และกำหนดนโยบายต่าง ๆ ใช้งานง่ายผ่าน www.dbd.go.th หรือค้นหาข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน DBD e-Service ทั้งนี้ เป็นไปตามตามข้อสั่งการนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นางสาวรัชดา กล่าวถึงประโยชน์ของการค้นหาข้อมูลจาก DataWherehouse อาทิ 
1.) การตรวจสอบสถานะนิติบุคคล โดยสามารถค้นหาข้อมูลของนิติบุคคล พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อมูลในประเภทธุรกิจเดียวกันเพื่อให้ทราบถึงสถานะของตนเองแยกตามขนาดธุรกิจ รวมทั้ง ผลประกอบการเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจ และอัตราส่วนทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวัดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกิจการ สะท้อนให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน ช่วยวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไข หรือพัฒนาการดำเนินงานขององค์กรให้ได้ผลการดำเนินงานตรงตามแผนงานหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ของกิจการ

2.) การวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถค้นหาข้อมูลภาพรวมของกลุ่มธุรกิจแต่ละประเภท วิเคราะห์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจตามผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจลงลึกถึงระดับภาคและจังหวัด เพื่อให้เห็นแนวโน้มการประกอบธุรกิจในแต่ละพื้นที่ อัตราการอยู่รอดของธุรกิจ พร้อมทั้ง สัดส่วนการลงทุนในนิติบุคคลแบ่งตามสัญชาติ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจเป้าหมายที่สนใจ หรือปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน (Supply Chain)

‘เพื่อไทย’ เชือด ‘จุรินทร์’ ตามจิกทุจริตถุงมือยางภาคสอง

‘เพื่อไทย’ เชือด ‘จุรินทร์’ ตามจิกทุจริตถุงมือยางภาคสอง ทอดเวลาเปิดทางให้โยกย้าย- ฟอกเงิน เปิดเอกสารเส้นทางเงิน2 พันล้าน คาดเงินวกกลับกระทรวงริมแม่น้ำเจ้าพระยา อัด ‘บิ๊กตู่ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กลัวเก้าอี้นายกฯสะเทือน จ่อนำข้อมูลใหม่ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ

(20 ก.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายฯ ถึงนายจุรินทร์ในข้อหาการทุจริตถุงมือยางภาคสอง โดยพล.อ.ประยุทธ์รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นอย่างดีในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนความเสียหายเกิดขึ้นและปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินกลับคืนมาได้ พล.อ.ประยุทธ์กลับทำตัวกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ รู้ว่านายจุรินทร์มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เกรงใจไม่กล้าปลดออกจากตำแหน่ง เพราะเกรงว่าสถานะนายกฯอาจไม่มั่นคง เพราะเกรงว่านายจุรินทร์จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงปล่อยปละละเลยการทุจริตที่เกิดขึ้น นายจุรินทร์มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น สาเหตุเนื่องจากกลุ่มบุคคลทุจริตนั้นเป็นบุคคลใกล้ชิด เป็นบุคคลที่ตนเองแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่อายัดเงินให้ทันต่อเหตุการณ์

อีกทั้งยังมีเจตนาทอดเวลาจนในที่สุดกลุ่มผู้กระทำการทุจริตได้นำเงินที่ได้นั้นไปทำการฟอกเงิน กระจายเงินไปตามบัญชีต่าง ๆ จนไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งการอภิปรายฯครั้งนี้มีข้อมูลใหม่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การฟอกเงิน โดยมีเส้นทางการเงินของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดว่ามีการโอนเงินไปให้ใคร องค์การคลังสินค้าได้ทำสัญญาขายถุงมือยาง จำนวน 7 สัญญามูลค่า 186,100 ล้านบาท สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่ามีการสั่งซื้อจากบริษัท 7 แห่งจำนวนมาก เพื่อต้องการอ้างเหตุว่ามีออเดอร์ โดยจัดซื้อจากบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดจำนวน 500 ล้านกล่อง กล่องละ 225 บาทมูลค่า 112,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาทจากองค์การคลังสินค้า แต่องค์การคลังสินค้า ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางแต่อย่างใด และปัจจุบันได้ยกเลิกสัญญาแล้ว

นายประเสริฐ อภิปรายต่อว่า จากการอภิปรายฯ ครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ (18 ก.พ. 64) เห็นได้ชัดว่าการทุจริตเกิดขึ้นจริง เงิน 2,000 ล้านบาทยังติดตามคืนไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตยังใช้ชีวิตหรูหรา ใช้นาฬิกายี่ห้อริชาร์ดมิลล์ ซื้อรถแลมโบกินี่ รถบีเอ็มดับบลิว และบ้านใหม่หลายล้านบาท ลอยนวลในสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยตนได้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 64 ต่อมาป.ป.ช.ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 64 จำนวน 22 ราย มีการไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีมูลความผิดจริงจนป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า แต่นายจุรินทร์ไม่สนใจปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปจนหมดวาระ และไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวน พฤติกรรมของ นายจุรินทร์ อ้างผอ.องค์การคลังสินค้าว่ามีรายงานให้ตน 4 ครั้ง เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวและเคยตอบในสภาฯว่าตนเองเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ ตนคิดว่าถ้าเป็นแค่นั้นอย่ามาเป็นรัฐมนตรีเลย แต่กลับปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งที่กฎหมายให้อำนาจ วันนี้ตนมาทวงถามให้นายจุรินทร์ได้ตอบว่าเคยมีหนังสือไปบอร์ดองค์การคลังสินค้าหรือไม่ในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้น

ชาวสวนปาล์มเฮ!! พาณิชย์ เคาะงบ 6,128 ล้านบาท ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน รอบใหม่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ปีที่ 4 โดยหลักเกณฑ์เหมือนกับ 3 ปีที่ผ่านมาทุกประการ ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาทครอบครัวละไม่เกิน 25 ไร่ และผลปาล์มต้องอายุ 3 ปีขึ้นไป 

โดยกำหนดจำนวนเกษตรกรไว้ 3.8 แสนครอบครัว จะมีการจ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด ถ้าราคาปาล์มในตลาด ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท โดยจะกำหนดราคาอ้างอิงทุก 30 วัน เริ่มจ่ายส่วนต่างงวดแรก 15 ก.ย. 65 – 15 ส.ค. 66 วงเงินที่เตรียมไว้สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างปาล์ม 6,128 ล้านบาท

'ก.พาณิชย์' เผยตัวเลขต่างชาติลงทุนไทยยาวทั้งปี 65 ผลจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนรอบด้านของภาครัฐ

(16 ธ.ค. 65) นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวว่า ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ตลอด 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค. - พ.ย.) อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 530 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน198 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 332 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 112,466 ล้านบาทจ้างงานคนไทย 5,008 คน 

ทั้งนี้ ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 137 ราย เงินลงทุน 39,000 ล้านบาทสิงคโปร์ 85 ราย เงินลงทุน 11,999 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 70 ราย เงินลงทุน 3,343 ล้านบาท ฮ่องกง 38 ราย เงินลงทุน 8,451 ล้านบาท และ จีน 25 ราย เงินลงทุน 22,677 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม โดยช่วง 11 เดือน 2565 นั้น ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตฯ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

ประเทศไทยเนื้อหอม! ต่างชาติแห่ลงทุนกว่าแสนล้าน | THE STATES TIMES Y WORLD EP.49

ปีทองของไทย!! ต่างชาติรุมตอม เม็ดเงินลงทุนหมุนสะพัดในไทยกว่าแสนล้านบาท!!

'กระทรวงพาณิชย์' เผย 10 เดือน ปี 2565  มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ กว่า 106,437 ล้านบาท นับว่าพุ่งจากปี 2564 ถึง 72%!!

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

ที่มา : https://thestatestimes.com/post/2022122021

#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESYWORLD
#การลงทุน
#แรงงานไทย
#กระทรวงพาณิชย์

รมว.กระทรวงพาณิชย์เปิดงานโครงการ 'พาณิชย์…ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย'

กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าลดราคาสินค้า บรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร ทำให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ภายใต้โครงการพาณิชย์...ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย จำนวน 274 จุด ทั่วประเทศ 

คาดว่าสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนประมาณ 350 ล้านบาท ในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานจำหน่ายสินค้าลดราคาให้แก่ประชาชน โดยได้รับความร่วมมืออันดีจากผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ/ห้างท้องถิ่น นำสินค้าอุปโภคบริโภค มาจำหน่ายรวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ โดยลดสูงสุด 75 % ประกอบด้วย หมวดอาหารสด อาหารแปรรูป ข้าวสาร ซอสปรุงรส สินค้าชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องครัว/เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าชุมชน ระหว่างวันที่ 10 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณลานกีฬาใต้สะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลท์ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ

'จุรินทร์' สวนฝ่ายค้าน พืชเกษตรไม่ได้ตกต่ำ ยัน ราคาดีทุกตัว ชี้ ส่งออกยังบวก ลั่น!! FTA ไทย กำลังไล่แซงเวียดนาม

(16 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านประเด็นต่าง ๆ ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15 ก.พ. 66 เวลา 21.00 น.) โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ประเด็นที่พาดพิงประเด็นแรกที่พูดถึงเงินเฟ้อ และของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นประเด็นเดิมที่อภิปรายแล้ว ไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นลำดับ เงินเฟ้อลดลง เดือน ม.ค. 66 เหลือ 5% อัตราเฉลี่ยของโลก IMF คาดว่าปี 66 เงินเฟ้อโลก 6.5% แต่ไทยจะเฟ้อแค่ 2.8% ดีกว่าหลายประเทศ เพราะรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และเอกชน กำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง ราคาสินค้าดีตามสมควร

แม้ราคาน้ำมัน แก๊ส ค่าไฟยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่บอกแพงทั้งแผ่นดิน ความจริงราคาสินค้าลดลงเยอะมาก 58 รายการจำเป็น ที่ติดตามทุกวัน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หมูเนื้อแดง ที่เคยอภิปรายว่าจะ 300 บาท/กก. พบเฉลี่ย 165 บาท/กก., ผักชีลดลง 27%, กวางตุ้ง ลดลง 23%, ต้นหอม ลดลง 28%, น้ำมันปาล์ม 48-50 บาท/ขวด ลดลง 17%, ชุดตรวจ ATK ลดลง 28%, ฟ้าทะลายโจร ลดลง 63%, ข้าวสาลี ลดลง 21%, ปุ๋ยเคมีทำจากแก๊สธรรมชาตินำเข้า 100% เข้าไปกำกับดูแล แก้ปัญหาดังนี้

1.) ปุ๋ยไม่ขาด นำเข้าจากซาอุฯ หลายแสนตัน
2.) ราคาลดลง เช่น ยูเรีย 46-0-0 ลดลง 25% ประมาณ 400 บาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ลดลง 30% ลด 300 กว่าบาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลดลง 8% 100 กว่าบาท/กระสอบ เป็นต้น ที่บอกแพงทั้งแผ่นดินไม่เป็นอย่างนั้น

และที่สมาชิกอภิปรายว่า พืชเกษตรตกต่ำทุกตัว ตกต่ำมาตลอด ไม่จริง ราคาพืชเกษตเฉลี่ยดีเกือบทุกตัว โดยที่ประกันรายได้ ข้าวเปลือก เกือบ 10,000 บาท/ตัน, ข้าวหอมมะลิ 1,4000-15,000 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,000 บาท/ตัน, มันสำปะหลัง ก่อนรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละบาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่า/กก.

ล่าสุด ตนพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2,000,000 ตันที่นครราชสีมา ปากช่อง ยิ่งช่วยดีมากราคามีแนวโน้มดีขึ้น ปาล์มน้ำมันก่อนนี้ 10-12 บาท/กก. ตอนนี้ 5 บาทกว่า/กก. ก่อนรัฐบาลนี้ เพียง 2 บาทกว่า/กก., ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สมัยก่อน 6-7 บาท/กก. เดี๋ยวนี้ 12-13 บาท/กก., ผลไม้ยิ่งดี ราคาปีที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองเฉลี่ย 145 บาท/กก., มังคุดเกรดส่งออก 60 บาท/กก., ลำไยช่อส่งออก เกรดเอเอ 42.50 บาท/กก. 

และกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล ประสานงานเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ดูแลชดเชยไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว รอพิจารณา เงาะโรงเรียน  20.50 บาท/กก., ลองกอง 12.50 บาท/กก., ลิ้นจี่ 75 บาท/กก., มะม่วงน้ำดอกไม้ 45 บาท/กก., ส้มเขียวหวาน 25 บาท/กก., หอมแดงแห้ง 48 บาท/กก. จาก 26 บาท/กก., กระเทียม 78 บาท/กก. ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยกเว้นยางพารา ตอนนี้ 45-49 บาท/กก. เนื่องจาก

1.) เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ขายล้อรถน้อยลง
2.) สถานการณ์โควิดดีขึ้น ใช้ถุงมือยางลดลง แต่รัฐบาลนี้มีประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ปีที่ผ่านมา ชดเชยเงินส่วนต่างให้ แต่ปีนี้ช้าหน่อย ครม.กำลังจะพิจารณาในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะชดเชยใช้ส่วนต่างให้ได้ต่อไปเหมือนที่ผ่านมา

‘พาณิชย์’ โชว์กางเกงมวยผ้าไหมไทย สุดงาม หนุนงานศิลปหัตถกรรม - ผลักดันสู่ Craft Power

‘พาณิชย์’ โชว์กางเกงมวยผ้าไหมไทย สุดงาม เดินหน้าผลักดัน Craft Power ผ่าน 'บัวขาว' และ 'แอนนา เสืองามเอี่ยม'

(1 มี.ค. 66) นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit ดำเนินการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่แสดงให้เห็นถึงพลังของงานศิลปหัตถกรรมไทย หรือ Craft Power ดึงเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดทางการค้าและสร้างความหลากหลายทางการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเป็นที่มาของการจัดงาน 'Andaman Craft Festival' ในวันที่ 12 มี.ค. 2566 ณ ลานมังกร จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด 'Hand on the smile with Thai Craft' มอบรอยยิ้มและความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนด้วยงานศิลปหัตถกรรมไทยและความเป็นมิตรของคนไทย โดยมั่นใจว่านอกจากจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ยังจะช่วยสร้างรายได้ให้กับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยในตลาดสินค้าของขวัญของที่ระลึกในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้ เกิดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ต่ออายุเครื่องหมายรับรอง ‘ข้าวหอมมะลิไทย’ โชว์คุณภาพ-มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค

(18 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการดำเนินงานของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ต่ออายุเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย และเครื่องหมายการค้า ‘HOM MALI’ และสั่งการให้ประชาสัมพันธ์ และพัฒนาฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าของผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิไทย (List of Certified Thai Hom Mali Rice Brands) ตรวจสอบ สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐาน และขยายฐานตลาดข้าวหอมมะลิไทย ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ข้าวไทย และสั่งการ ให้หน่วยงานของไทยเร่งประชาสัมพันธ์ผ่าน https://thaihommaliricecertificationmark.dft.go.th/ และเชื่อมั่นในคุณภาพ และเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทย มีมาตรฐานและเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศ จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันส่งเสริมศักยภาพตั้งแต่ต้นทางการผลิต การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การควบคุมคุณภาพ ไปจนถึงปลายทางการส่งออกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค รวมทั้งได้เน้นย้ำให้หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ในต่างประเทศ เฝ้าระวังการปลอมปมหรือละเมิด และดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายเมื่อพบการละเมิดใช้เครื่องหมายการค้าข้าวหอมมะลิไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top