‘RAC’ เตือน!! ‘รถอีวี’ อาจเสี่ยงใช้งานไม่ได้ ท่ามกลางอากาศหนาวจัด เหตุสภาวะเย็นยะเยือกกัดกร่อนประสิทธิภาพรถ-ทำสถานีชาร์จไฟขัดข้อง

(28 ม.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รถยนต์ไฟฟ้าเสี่ยงใช้งานไม่ได้ในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอุณหภูมิที่หนาวเหน็บส่งผลกระทบต่อสถานะของแบตเตอรี อ้างถึงคำเตือนจาก ‘RAC’ บริษัทผู้ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินด้านยานยนต์แห่งสหราชอาณาจักร

ระยะทางการขับขี่ของรถอีวี ที่อาจลดลงราวๆ 20% ในสภาพอากาศหนาวเย็น กำลังก่อความกังวลใหญ่หลวงแก่เจ้าของรถไฟฟ้า เนื่องจากมันอาจทำให้ผู้ขับขี่ต้องแวะชาร์จไฟบ่อยครั้งขึ้น และก่อความเสี่ยงใช้งานไม่ได้ เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าเพียงพอสำหรับการเดินทาง

RAC เปิดเผยว่าพวกเขาจำเป็นต้องปรับตัวเข้ากับปัญหาที่พบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเวลานี้ จึงตัดสินใจติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟพิเศษบนรถตู้ของทางบริษัท

จากข้อมูลของ RAC พบว่าในทุกสายเรียกเข้าที่โทรศัพท์แจ้งให้ไปดูรถยนต์ไฟฟ้า มีอยู่ราวๆ 6% เป็นเพราะรถยนต์เหล่านั้นพลังงานหมด

คริส มิลล์วอร์ด ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาเทคนิคของ RAC ถึงขั้นอ้างว่าปัญหาขัดข้องที่เกิดขึ้นกับรถยนต์อีวี ทำให้ช่างของพวกเขาเจองานยากลำบากกว่าเดิม

เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไอทีวีนิวส์ว่า “มันมีความต่างกัน เพราะถ้ารถอีวีแบตหมด ทุกๆอย่างจะหยุดทำงานและล้อจะถูกล็อก ดังนั้นมันจึงเป็นงานยากกว่าเดิมที่จะเคลื่อนย้ายออกจากถนน”

เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา สถานีชาร์จไฟสำหรับรถไฟฟ้าทั้งหลายทั่วเมืองชิคาโก ได้รับการเรียกขานจากพวกชาวบ้านว่าเป็น ‘สุสานของเทสลา’ เนื่องจากสภาพอากาศอันหนาวเหน็บกัดกร่อนประสิทธิภาพการทำงานของรถอีวี ขณะที่สถานีชาร์จไฟทั้งหลายเกิดเหตุขัดข้อง ไม่สามารถจ่ายไฟป้อนแก่รถอีวีได้

สภาพอากาศเย็นสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า ลดระยะทางการวิ่งได้ลงอย่างมากในหลายรุ่น เช่นเดียวกับปัญหาขัดข้องอื่นๆ ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม 18 รุ่น จาก Recurrent บริษัทวิเคราะห์รถยนต์อีวี พบว่าสภาพอากาศหนาวสุดขั้วทำให้ระยะการขับขี่ลดลงโดยเฉลี่ยถึง 70% โดยที่โมเดล S ของเทสลา เป็นหนึ่งในรุ่นที่ทำผลงานได้แย่ที่สุด

เมื่อปีที่แล้ว ทั้งเซ็นตริกา และรอยัลเมล รายงานพบ ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรีของพวกเขา มีระยะการวิ่งลดลง 40% ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดต่ำลง ส่วนผลการศึกษาหนึ่งของทางนิตยสาร WhatCar? พบว่ารถยนต์ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดคือ นิสสัน อริยะ แต่กระนั้นรถยนต์รุ่นนี้ก็มีศักยภาพลดน้อยกว่าเดิมถึง 16%

รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรุ่นนี้ มีระยะทางการขับเพียงเหลือเพียง 296 ไมล์ (ราว 476 กิโลเมตร) ในสภาพอากาศเย็น จากระดับ 322 ไมล์ (ราว 581 กิโลเมตร) ในสภาพอากาศปกติ ส่วนเทสลา โมเดล วาย ตามมาเป็นอันดับ 2 แต่ศักยภาพในการขับขี่ ลดลง 17.8% จากระดับที่แล่นได้อย่างเป็นทางการ 331 ไมล์ (500 กิโลเมตร)

‘เอ็ดมุนด์ คิง’ ประธานสมาคมยานยนต์แห่งสหราชอาณาจักร ยอมรับระยะการวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบ และประเด็นความน่าเชื่อถือเกิดขึ้นกับรถเกือบทุกคันในสภาพอากาศหนาวเหน็บ อย่างไรก็ตามเขามองว่าประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอเมริกานั้น เป็นการพูดเกินจริงเลยเถิดจนเกินไป

“ข้อเท็จจริงคือ รถยนต์ทุกคันเย็นขึ้นและรถไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากภาวะที่เย็นขึ้น ในแง่ของระยะการวิ่ง มันเป็นบางอย่างที่เกิดขึ้นตอนสภาพอากาศเย็นจัด คาดหมายว่าระยะการวิ่งจะลดลงราว 10% ถึง 20%” เขากล่าว

“ดังนั้น ในแง่ของความเป็นจริง ถ้าหากรถของคุณมีระยะการวิ่งสูงสุด 200 ไมล์ (ราว 320 กิโลเมตร) มันอาจลดลงเหลือ160 ไมล์ (ราว 257 กิโลเมตร) ทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวกับแบตเตอรีลิเทียมไอออนและปฏิกิริยาทางเคมี ปฏิกิริยาทางเคมีจะช้าลงเมื่ออยู่ในสภาพอากาศหนาวสุดขั้วและร้อนสุดขั้วจริงๆ อย่างไรก็ตามพวกผู้ขับขี่ส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้วว่าพวกเขาต้องแลกกับอะไรในฤดูหนาวเช่นนี้ ระยะในการเดินทางทำได้ไม่ไกลนัก”