'นายกฯ' หนุนสร้างรถไฟฟ้าเชียงใหม่ ยกระดับด้าน ‘คมนาคม-ท่องเที่ยว’

(11 ม.ค. 67) ที่ห้องประชุมกองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่ง และเดินทางในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมด้วย 

นายกฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ขอขอบคุณวันนี้มาประชุมกันพร้อมเพียง ตน และคณะรัฐมนตรีมาพบทุกท่านที่เชียงใหม่ มีความห่วงใยกับสถานการณ์หมอกควัน และไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องภาคเหนือหลายจังหวัด จึงต้องการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง จากการที่ได้มาตรวจราชการเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานข้าราชการที่ช่วยกันให้ปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไข และคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอเน้นให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือโดยยึดหลักแนวทางการดำเนินงานนี้

นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำงานเต็มหน้าที่อย่างจริงจัง ขอให้ท่านแบ่งหน้าที่ และพื้นที่ความรับผิดชอบเอ็กซเรย์พื้นที่ความรับผิดชอบของท่านว่ายังมีปัญหาใดที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วน และรายงานให้ตนทราบทุกวันถ้าไม่ดีกว่าเดิมต้องแจ้งให้ตนทราบว่ามีอุปสรรคอะไร เป็นความประสงค์ของรัฐบาลนี้ที่อยากจะคืนอากาศบริสุทธิ์แก่พี่น้องประชาชนภาคเหนือให้ได้โดยเร็วที่สุด การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกไฟป่าต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนแม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสุขภาพ

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้จังหวัดและหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ สุขภาพอนามัยของเด็ก โดยเฉพาะผู้สูงอายุใช้ชีวิตความเป็นอยู่การรณรงค์ใส่หน้ากาก จัดพื้นที่เซฟตรงศูนย์พักพิงของประชาชน ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้ประชาชนมีหน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพและราคาที่เข้าถึงได้ ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกประชาชนในการรับรู้ข่าวสาร ยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชนรู้ถึงภัยของ PM2.5  พร้อมขอความร่วมมือประชาชนดูแลพื้นที่ป่าลดการเผา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ของคนใดหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาในระยะยาว ต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างอากาศบริสุทธิ์ และปฏิบัติให้ได้ 

นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันการคมนาคมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ มีการพูดคุยกับส่วนงานราชการหลาย หน่วยงาน รู้สึกกันดีเมื่อเทียบตัวเลขปีที่แล้วของ PM 2.5 พบว่าปัญหาฝุ่นลดลงไปหลายเท่าตัว การแสดงแผนที่ Red Zone อย่างมีในนัยพิสูจน์ทราบได้ว่า จากการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาจึงทำให้ตัวเลขลดลงอย่างมีนัย ส่งผลอย่างยิ่งเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ดอยอินทนนท์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 13,000 คน เป็น 17,000 คนต่อวัน แสดงให้เห็นว่าเรื่องการมี PM 2.5 น้อยลง ดูจากกราฟเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันบูรณาการ วันนี้เราจะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการคมนาคม ซึ่งหลายเรื่องยึดโยงถึง PM 2.5 ด้วย ไม่ใช่แค่การเผาป่าอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องที่เรา ใช้เรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคม กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้และจะจัดสรรงบประมาณให้เป็นลำดับความสำคัญต้นๆในการที่จะดำเนินการเหล่านี้ต่อไป 

“ขอให้ทุกท่านช่วยกัน ซึ่งการทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาต้องกราบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่ทำงานประสานงานกันอย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจุดศูนย์รวมของจิตใจและช่วยกันประสานให้ทุกฝ่าย เหมาะสำหรับการเป็นแม่แบบไปใช้ในจังหวัดต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างดีเยี่ยม ระหว่างฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สาธารณสุข เกษตร คมนาคม คือเป็นแม่แบบที่ดีมากต้องขอชื่นชม” นายกฯกล่าว 

จากนั้นนายกฯ รับฟังข้อเสนอของทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องของการแก้ไขปัญหาจราจรและการคมนาคมที่ติดขัด โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบิน 41 และถนนนิมมานเหมินทร์ นายกฯ ระบุว่า หลังกลับจากเชียงใหม่จะเชิญรมว.คมนาคม และผู้บัญชาการทหารอากาศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องการแก้ไขปัญหานี้ต่อ 

ส่วนข้อเสนอการจะทำรถไฟฟ้าเชื่อมต่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและการลดการใช้รถยนต์ เพื่ออากาศสะอาด ลดความแออัดในเมืองเป็นสิ่งที่ดี เห็นด้วยควรสร้างรถไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่ในระดับต้น ๆ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่มาก แต่ยังไม่มีระบบของรถไฟฟ้า ตรงนี้น่าจะนำมาพิจารณา ถือว่ามีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจหลักของประเทศ ทั้งนี้ในระหว่างก่อสร้างไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาจราจร จะทำจริงก็ต่อเมื่อวงแหวนการจราจรข้างต้นเสร็จก่อนเพื่อแบ่งเบาภาระการจราจรลงไปได้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณที่ช่วยกันคิดในเรื่องของการท่องเที่ยวมาอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะทำให้ความมั่นใจดีขึ้น ส่วนเรื่องการพัฒนารถสองแถวแดงพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะรถสองแถวแดงถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญต่ออากาศสะอาดด้วย หากเรื่องสองแถวรถแดง ผู้ต้องการทำรถ EV และต้องการ การสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยต่ำ ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมและขอให้เป็นวาระสำคัญ ในการพูดคุย หาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อมาสนับสนุนจุดนี้ โดยเฉพาะธนาคารที่อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคมและอยากจะมาช่วยดูแลตรงนี้

นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการพัฒนาระบบคมนาคม ซึ่งถ้าหากพี่น้องชาวเชียงใหม่และภาคเหนือได้มานั่งฟัง ก็น่าจะมีขวัญและกำลังใจขึ้นอีกเยอะ เพราะจากการทำงานบูรณาการของทุกภาคส่วน ถือว่าเป็นการทำงานที่คิดมาอย่างครบวงจรแล้ว แต่ต้องการประสานงานที่ดี ซึ่งตนอยากจะเห็นผู้ว่าราชการทุกจังหวัดมีความสามารถที่จะผนึกกำลังอย่างที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำไว้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งนี้ วันนี้ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็มา ช่วยทำให้ความมั่นใจสูงอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มองเห็นไม่ใช่แค่แผนปฏิบัติการเร่งรัด (ควิกวิน) อย่างเดียว แต่เรามีแผนการทำงานที่ชัดเจนและอาจจะกลายเป็นแผนเพิ่ม 4-5 เท่า ได้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับเรื่องฟรีวีซ่าที่รัฐบาลได้ทำ และเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาผู้ว่าฯ ททท. ได้มาพูดคุยกับตนเรื่องเที่ยวบินอินเดียที่เข้ามาประเทศไทยน้อย ซึ่งจากการที่ตนได้เจอกับเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศ ไทย ก็จะมีการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีสายการบินเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่บินเข้ามาคือนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย รองลงมาคือนักท่องเที่ยวจีน และประเทศที่ 3 ที่ทำให้ตนแปลกใจคือประเทศเกาหลี เพราะจากที่ตนเดินทางมาเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาก็เจอแต่นักท่องเที่ยวเกาหลี คาดว่าที่เชียงใหม่มีสนามกอล์ฟเยอะ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมา 

นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาคือปัญหาฝุ่น PM  2.5 ซึ่งเราได้มีการบริหารจัดการไปอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการคมนาคมก็ต้องไม่ทำให้รถติด เพราะจะทำให้เขาไม่อยากมา ซึ่งรัฐบาลได้ตอบโจทย์ในระยะใกล้ ระยะกลางและระยะยาวแล้วอย่างบูรณาการเต็มที่ รวมถึงมีการรักษาเรื่องดี ๆ ของเชียงใหม่ไว้ด้วย อาทิ รถสองแถวแดงที่ถือเป็นไฮไลต์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเราพยายามจะเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้า ตนเชื่อว่าทุกอย่างมีการคิดกันมาอย่างดีมาก ทำให้การทำงานเชื่อมต่อระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น และทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน รวมถึงพรรคการเมืองเองก็จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพที่โดดเด่นได้

นายกฯ กล่าวต่อว่า ถ้าวันนี้พี่น้องชาวเชียงใหม่ได้มาได้ยิน ได้ฟังในสิ่งที่เรามาหารือกัน ตนก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ และอยากจะนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในหลายจังหวัด รวมถึงในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าถ้าหากเราร่วมใจกันเช่นนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนสนับสนุนเราอย่างดี 

“ถึงแม้ว่ารัฐบาลนี้มาเพียงแค่ 4 เดือน แต่ก็เห็นการทำงานของทีมไทยแลนด์อย่างชัดเจน ที่ทุกคนได้ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ รวมถึงคนที่ทำงานปิดทองหลังพระอย่างฝ่ายความมั่นคง กองทัพ  ที่ทำงานในการป้องกันไฟป่าแม้เป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามไป ผมจึงขอให้รักษาตรงนี้ไว้และดำเนินการต่อไป” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องงบบูรณาการ ให้ข้อคิดตามหลักการทำงาน ถ้าปี 67 เราทำงานมีผลชัดเจนเชื่อว่าเรื่องงบเป็นเรื่องที่เราสามารถพูดคุยได้ไม่มีปัญหา เพียงแค่ต้องการเหตุผลที่ชัดเจน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เรื่องสำคัญคือลดจุดความร้อน หรือ ฮอตสปอต การทำแนวกันไฟที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจพี่น้องประชาชน หาลดการเผา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และต้องไม่เผาวัชพืชเปลี่ยนทำเป็นปุ๋ยเพื่อจะใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ขณะเดียวกันก็มีการปลูกป่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเชื่อว่าจุดความร้อนและค่า PM2.5 จะลดลง และวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี พ.ร.บ.อากาศสะอาดได้เข้าสภาแล้ว มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน

นอกจากนี้นายกฯ ขอร้องทางกองทัพภาคที่ 3 ช่วยจัดอากาศยานเพิ่ม มาช่วยปฏิบัติการแก้ปัญหาดับไฟป่า และยังเป็นการช่วยเรื่องของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเดียวกันก็จะประสานไปยังกองทัพอากาศเพื่อขออากาศยานมาช่วยขน วัชพืชส่งไปยังโรงงานต่าง ๆ เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องการขนส่งอีกทางนึง ส่วนเรื่องงบประมาณ ยืนยันรับทราบทุกหน่วยงานที่ขอมา ไม่ต้องเป็นห่วงขอให้ดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างเต็มที่

ขณะที่แม่ทัพภาค 3 กล่าวว่ายินดีและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยจะมีการประสานไปยังส่วนกลาง

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมรถไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากรถดีเซลมาเป็นรถอีวี ผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนที่จะขึ้นรถแดง ทะเบียน 30-6198 เชียงใหม่ เพื่อไปยังบริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกองบิน 41 ติดตามความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงชมสาธิตวิธีการปล่อยฝนหลวงด้วย