Wednesday, 24 April 2024
เชียงใหม่

เชียงใหม่ เปิดโครงการพัฒนา และฝึกอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ สำหรับมัคคุเทศก์ ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รุ่นที่ 1

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 รองศาสตราจารย์  ดร.ชรินทร์ เตชะพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้เกียรติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาและฝึกอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุสำหรับมัคคุเทศก์ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2564  ณ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมด้วย  แขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานผู้สนับสนุนโครงการ และเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ ผศ. สุรพงษ์ เลิศทัศนีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสโครงการเมดิโคโพลิสเชียงใหม่ ภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) , นายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ , นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ , ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และสมาคมสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.ชรินทร์ เตชะพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เซ็กชั่นที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) มากที่สุดก็คือ เช็กชั่นการท่องเที่ยว กลุ่มมัคคุเทศก์ ซึ่งเดิมมีอาชีพหลักอยู่ก็ทำให้ได้รับผลกระทบในระยะยาว  ยังคิดว่าในระยะ 1 ปียังไม่พลิกฟื้นที่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องหาทางเลือกในการประกอบอาชีพให้เขา ประกอบกับทาง TCELS  สนับสนุนในเรื่องงบประมาณในการฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุ ก็มองเป้าหมายมาที่กลุ่มของมัคคุเทศก์ก่อน เพื่อจะบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด 19

และเป็นการเตรียมคน เพราะว่าผู้สูงอายุไม่ได้มีเฉพาะคนไทย รวมถึงถ้าการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาแบบสมบูรณ์ กลุ่มตลาดท่องเที่ยวใหญ่ที่ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มองเป้าไว้ในเรื่องโครงการเมดิโคโพลิส ก็คือ การทำให้เราเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ กลุ่มหนึ่งก็คือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นผู้สูงอายุ ฉะนั้นก็จะสอดรับกับกลุ่มมัคคุเทศก์ที่เข้ามา ในการรับการฝึกอบรมในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวฟื้นตัวแล้วเขาไม่ได้ประกอบอาชีพนี้ แต่ท้ายที่สุดมีการท่องเที่ยวของกลุ่มผู้สูงอายุอยู่มัคคุเทศก์ก็สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปที่จะไปดูแลได้  

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่ระบาดไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศให้โรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินระดับนานาชาติ (Public health emergency of international concern – PHEIC) ทำให้หลายประเทศออกมาตรการห้ามการเดินทางเข้า - ออกประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเทียวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุดที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมากเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นตัวแปรสำคัญในโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

โดยในปี พ.ศ. 2563 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ถึง 83.21% ส่งผลให้ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในเมืองท่องเที่ยว เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบ และว่างงานเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาที่สำคัญ และควรบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์อย่างเร่งด่วน เพื่ออุดหนุนให้ผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกภาคส่วนให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะเดียวกันนี้ ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2564 โดยจะมีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวพบเช่นเดียวกันเกือบทุกประเทศทั่วโลก

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับความไว้วางใจจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (Thailand Center of Excellence for Life Sciences – TCELS) , สมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่และเครือข่ายพันธมิตร ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดโครงการพัฒนาและฝึกอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุสำหรับมัคคุเทศก์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) รุ่นที่ 1 ขึ้น เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ใหม่ด้านการดูแลผู้สูงอายุให้แก่มัคคุเทศก์ เพื่อแก้ไขปัญหามัคคุเทศก์ผู้ว่างงานอันเนื่องมากจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา-19 และเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยบูรณาการความรู้ร่วมกับการให้บริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยผู้เข้าอบรมจะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎี/ภาคปฏิบัติ รวมถึงฝึกปฏิบัติภาคสนาม

สำหรับการจัดโครงการพัฒนาและฝึกอบรมในครั้งนี้ มีมัคคุเทศก์เข้าร่วมการอบรมทั้งสิ้น จำนวน 50 คน จากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลผู้สูงอายุของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผศ. สุรพงษ์ เลิศทัศนีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสโครงการเมดิโคโพลิสเชียงใหม่ ภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า TCELS  ได้มาเริ่มโครงการเมดิโคโพลิสที่เชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2562“และทราบจากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ว่ากลุ่มมัคคุเทศก์ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ทาง TCELS ก็ได้ไปปรึกษากับทางคณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะอบรมมัคคุเทศก์ให้มีความรู้เบื้องต้นในการดูแลผู้สูงวัยในระดับเบื้องต้น เพื่อที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปช่วยในการดูแลผู้สูงวัย และนักท่องเที่ยว เป็นโครงการแรกที่เริ่มทำในปีนี้ และจะมีโครงการต่อๆไปที่ทำร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่” 

นายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากระหว่างที่โรคระบาดโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย และมัคคุเทศก์ก็ยังตกงาน และเพื่อเป็นการให้มัคคุเทศก์ได้เพิ่มทักษะในการดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะหลังโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย  แล้วมัคคุเทศก์กลับมาทำงาน ก็จะได้ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะในการดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีผลในด้านความปลอดภัยในสุขภาพของนักท่องเที่ยวในระหว่างที่มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทยซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

ที่ผ่านมามัคคุเทศก์ก็มีทักษะในการดูแลช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น การอบรมครั้งนี้ก็จะเพิ่มความรู้ให้มัคคุเทศก์ที่สามารถสังเกตและให้ความดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้สูงอายุชาวต่างชาติเป็นความรู้ที่เราจะสามารถเรียนรู้แล้วไปต่อยอดใช้กับงานด้านมัคคุเทศก์ ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยแล้วมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะมัคคุเทศก์ได้ผ่านการอบรมโครงการผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้ว


ภาพ/ข่าว  วิภาดา เชียงใหม่

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ มั่นใจระบบมาตรการป้องกันโควิด – 19

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 15.00 น. สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดแถลงข่าว การเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ยังอยู่ในช่วงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย แต่ก็ยังคงต้องดำเนินการตามมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ชนิดตรวจวัดอุณหภูมิความร้อนมาติดตั้งบริเวณทางเข้า เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยวก่อนการเข้าพื้นที่ รวมทั้งการแสกน QR Code ไทยชนะ การติดตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ในทุกพื้นที่รอบบริเวณ ฉีดพ่น และเช็ดถูทำความสะอาดรถให้บริการ และจุดให้บริการต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยว ทุก ๆ 2 ชั่วโมง รวมทั้งการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 - 2 เมตร และการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในการเข้าพื้นที่ โดยจะต้องลงทะเบียนก่อนการเข้าเที่ยวชมทุกครั้ง

โดยการเข้ามาตรวจเยี่ยมพื้นที่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้ ได้เข้าดูกิจกรรม Behind the zoo และการให้บริการในพื้นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งคาดว่าในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์นี้จะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้าเที่ยวชมจำนวนมาก ขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และที่สำคัญต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวในการลงทะเบียนก่อนการเข้าเที่ยวชม เพื่อเป็นช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 อีกทางหนึ่ง

และสำหรับการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในปีนี้ นอกจากการเน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังเน้นการจัดงานในรูปแบบการสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมกับชุมชน ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเรียนรู้และลงมือทำ ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ อาทิ การตัดตุง การพับดอกใบเตย การจัดซุ้มสรงน้ำพระ การจัดจุดถ่ายภาพรดน้ำดำหัวตามประเพณีสงกรานต์ลานนา การจัดกาดหมั้วชุมชน เป็นต้น และกิจกรรมอื่นๆ ที่สร้างสีสันการท่องเที่ยว โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 - 17 เมษายน 2564 นี้

นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ร่วมมือกับสายการบินไทยสมายล์, แอร์เอเชีย, นกแอร์, เวียตเจ็ท และไลอ้อน แอร์ มอบของขวัญพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว กับกิจกรรม “บินลัดฟ้าสู่ล้านนา” ตลอดเดือนเมษายนนี้ ซึ่งในระหว่างวันที่ 1 - 30 เมษายน 2564 มอบส่วนลด 20% และพิเศษสุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในช่วงวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน 2564 ที่เดินทางมากับสายการบินไทยสมายล์, แอร์เอเชีย, นกแอร์, เวียตเจ็ท และไลอ้อน แอร์ เพียงแสดงบัตรโดยสาร หรือ Boarding Pass ที่เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ ภายใน 7 วัน พร้อมบัตรประชาชน รับส่วนลด 50% ในการเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

และมอบแพ็กเกจ “ราคาเดียวได้เที่ยวได้พัก” ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติ โดยมอบราคาพิเศษที่พักเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รีสอร์ท ในราคา 999 บาท พร้อมบัตรเข้าชมฯ 2 ท่าน โดยแสดงบัตรโดยสาร หรือ Boarding Pass พร้อมบัตรประชาชน โดยจุดหมายปลายทางในบัตรโดยสารต้องเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ภายใน 7 วัน (นับจากวันที่มาถึง) และสงวนสิทธิ์การจองล่วงหน้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 - 999000 หรือ Line@ : nightsafari, Facebook: เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari


ภาพ/ข่าว : นภาพร ขัติยะ เชียงใหม่

เชียงใหม่ - ทอท. ลงพื้นที่มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การศึกษา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติฯ

วันที่ 2 เมษายน 2564 นายกฤษฎา พุกะทรัพย์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายสนับสนุนธุรกิจ) พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงานฝ่ายกิจการเพื่อสังคม และผู้บริหาร พนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นผู้แทน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติ (บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ2 เมษายน 2558 อุปถัมภ์) ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การศึกษา จำนวน 100,000 บาท โดยมีพันตำรวจโท ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 และดาบตำรวจหญิง กัญญารัตน์ ขวัญทรัพย์กิจ รักษาการครูใหญ่ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน

ทั้งนี้ ทอท.ได้ให้การสนับสนุนและดูแลโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติฯ มาตั้งแต่ปี 2558 โดยได้สร้างอาคารเรียน และสนับสนุนงบประมาณการบริหารจัดการด้านการศึกษาของโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีศิษย์เก่าของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติฯ ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนในถิ่นทุรกันดารเกิดความมุ่งมั่นในการศึกษาต่อไป


ภาพ/ข่าว  นภาพร  เชียงใหม่

เชียงใหม่ - เฮ!!ผู้มีความเสี่ยงสูงของสวนสัตว์เชียงใหม่ ปลอดโควิด19 จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดภายในพื้นที่ต่อเนื่องเข้มงวดทุกวัน

นายอรรถพร ศรีเหรัญผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สั่งการสวนสัตว์เชียงใหม่ ทำความสะอาด พื้นที่อย่างเนื่อง หลังจาก พบนักศึกษาฝึกงาน 1คน ติดโควิด19 ที่ผ่านมา สวนสัตว์เชียงใหม่ งดให้บริการเที่ยวชมเป็นเวลา 14 วันตั้งแต่ 11-24 เม.ยนี้ 

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้มอบหมาย ให้ทุกฝ่ายทำความสะอาดพื้นที่และฉีดพ่นเป็นซิลเวอร์นาโน(Nano9)ทุกๆวันโดยจัดเจ้าหน้าที่สลับเวรกันมาปฎิบัติงานทำความสะอาดและฉีดพ่นนาโน9 ในพื้นที่ เช่นถนน อาคารสถานที่ ส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ อควาเรียม  รถบริการนำชม รถกอล์ฟไฟฟ้า ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องน้ำภายในสวนสัตว์ และสถานที่รองรับประชาชนอย่างเข็มงวดในช่วงงดบริการเที่ยวชม

ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้ทีมสัตวแพทย์ตรวจ ติดตามสัตว์กลุ่มเสี่ยงจำนวน 125 ตัวประกอบไปด้วยตระกูลลิง  ตระกูลเสือ  ตระกูลชะมดอีเห็น พบว่ามีสุขภาพแข็งแรง ระบบทางเดินหายใจปกติ และไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ จากการตรวจสุขภาพสัตว์ในวันนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และพนักงานเจ้าหน้าที่ ในอนาคตต่อไป

ล่าสุดผลการตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน6คน มีผลเป็นลบทั้งหมด ไม่ติดโควิด19แต่ต้องกักตัว14วันและทำการตรวจซ้ำตามมาตราการที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดต่อไป


ภาพ/ข่าว  นภาพร  เชียงใหม่

เชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 เป็นประธานการ ประชุมติดตามผลการปฏิบัติงาน ระบบทางไกลผ่านจอภาพ (VDO- Conference)

ผบช.ภ.5 เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกการจราจรห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2564  และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ Covid19 ในพื้นที่ ภ.5

วันที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 10.30 น.พล.ต.ท.ประจวบ  วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกการจราจรห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2564  และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ Covid19 ในพื้นที่ ภ.5

โดยมี พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี  รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล  กรึงไกร  ผบก.อก.ภ.5, พล.ต.ต.สุเทพ ฐาปนวรกุล ผบก.กค.ภ.5, ผกก.ฝอ.1 – 6 บก.อก.ภ.5, ข้าราชการตำรวจ ฝอ.บก.อก.ภ.5 และ บก.สส.ภ.5 ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ภ.5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในส่วนหน่วยงานในสังกัด ภ.5 เฝ้าฟังการประชุมระบบทางไกลผ่านจอภาพ (VDO- Conference)  ณ ที่ตั้ง ของหน่วย


ภาพ/ข่าว  นภาพร เชียงใหม่

เชียงใหม่ - ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564

วันที่​ 16 เม.ย.​ 2564 สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ โดย นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564​  ณ​ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1, 2 และ 3  โดยจัดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความพร้อมของตัวรถ และอุปกรณ์ส่วนควบ ด้านความปลอดภัยของรถโดยสาร​ ตามแบบ Checklist  ได้แก่ ล้อและยาง กระจกกันลม ระบบไฟฟ้า ประตูฉุกเฉิน เข็มขัดนิรภัย และค้อนทุบกระจก ตรวจสอบรถ จำนวน 90 คัน พบว่ารถโดยสารมีความพร้อมทุกคัน ไม่พบข้อบกพร่อง

นอกจากนี้ได้ทำการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ จำนวน 90 ราย พบว่าพนักงานขับรถมีความพร้อมทุกราย ไม่พบการกระทำความผิดกฎหมาย

ในการนี้ได้ให้คำแนะนำ แก่ผู้โดยสารบนรถโดยสารประจำทาง  เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง​ ได้แก่ การคาดเข็มขัดนิรภัย​ การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน​ ประชาสัมพันธ์การแจ้งร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ ทางสายด่วน 1584 

ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับพนักงานขับรถและผู้โดยสารให้ปฎิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID19 อย่างเคร่งครัด  โดยจัดให้มีการวัดอุณหภูมิพนักงานขับรถ  ผู้บริการ และผู้โดยสารทุกคนเพื่อคัดกรอง ,   พนักงานขับรถ  ผู้บริการ และผู้โดยสารทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  ,จัดให้มีเจลหรือแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือก่อนขึ้นรถ และทุกครั้งที่มีการสัมผัส ,ทำความสะอาดรถด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังการใช้งาน และต้องเข้มงวดการให้ผู้โดยสารทุกคนต้องลงทะเบียนข้อมูลการเดินทางและสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ  และรถขาเข้าทุกคันต้องให้ผู้โดยสารทุกคนสแกนคิวอาร์โค้ด CM - CHANA ก่อนเข้าเชียงใหม่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในการติดตามตัว หากพบผู้ติดเชื้อโควิดด้วย


ภาพ/ข่าว นภาพร เชียงใหม่

เชียงใหม่ - โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าคลอดผู้ป่วยโควิด-19 ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่าคลอดหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 อายุ 33 ปี วันนี้ (23 เมษายน 2564) เวลา 15.00น. เบื้องต้นเป็นทารกเพศหญิง ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับการประสานว่ามีผู้ป่วยหญิงที่ครบกำหนดคลอด 39 สัปดาห์ อายุ 33 ปี มีอาการปวดท้องรุนแรงจากการที่มดลูกหดตัวเริ่มจะมีอาการใกล้คลอด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องวางแแผนการดูแลรักษาและเตรียมการผ่าตัดคลอดอย่างเร่งด่วนตั้งแต่กระบวนการรับผู้ป่วยจากจุดรับเข้าด้วยแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อความดันลบสำหรับป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จนถึงห้องผ่าตัดเพื่อให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทันทีที่ทราบทางรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ได้ประสานทีมสหวิชาชีพแพทย์และเตรียมความพร้อมร่วมทีมสูตินรีเวชวิทยา ทีมวิสัญญีแพทย์ และทีมกุมารแพทย์ โดยมีรศ.นพ.กิตติภัต เจริญขวัญ หัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ,ผศ.พญ.ฌานิกา โกษารัตน์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และรศ.พญ.นุชนารถ บุญจึงมงคล หัวหน้าภาควิสัญญีวิทยา และทีมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ภายในโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วยในทันที

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การผ่าตัดครั้งนี้วิสัญญีแพทย์ได้ใช้เทคนิคการฉีดยาชาเข้าสันหลังหรือการบล็อกหลัง วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ปลอดภัยทั้งผู้ป่วย ลูก และบุคลากรที่ให้การดูแล ทีมแพทย์สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ได้ทำการผ่าคลอดทารกเพศหญิงในเวลา15.00น. แม่และทารกปลอดภัย ซึ่งทีมกุมารแพทย์ได้เข้าไปดูแลเด็กตั้งแต่แรกคลอดและเคลื่อนย้ายมายัง cohort ward หรือหอผู้ป่วยแยกโรคโดยมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งโอกาสที่เด็กติดเชื้อจากในครรภ์มีน้อยมาก ส่วนแม่เข้ารับการรักษาต่อที่ห้องแยกความดันลบสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ณ ตึกโรคปอด อาคารนิมมาน ชุติมา รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ต่อไป”

การผ่าตัดหญิงตั้งครรภ์ป่วยโควิด-19 ในครั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัยทั้งแม่ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ ภายหลังการผ่าตัดโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณห้องผ่าตัดและจุดเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทุกจุด บุคลากรทางการแพทย์ได้ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อบริการประชาชนให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และเราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นภาพร  เชียงใหม่

เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้มตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ให้กับกลุ่มพนักงานลูกจ้างที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสผู้ป่วย รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน โดยได้รับการสนับสนุนรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่

วันที่ 26 เมษายน 2564 นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ส่วนการแพทย์ ร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ที่นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน มาให้บริการตรวจคัดกรองผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รวมถึงพนักงาน ลูกจ้าง พนักงานสายการบิน ส่วนราชการและผู้ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการทำงาน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมีผู้มารับการตรวจคัดกรองจำนวนทั้งสิ้น 263 คน

ทั้งนี้รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเป็นรถที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพ ที่ 1-12 ทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน กรกฎาคม 2563 เสริมความพร้อมการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ประชาชนเชิงรุก เช่น ในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัดและกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่” สัตว์แห่งแอฟริกา

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่” สัตว์แห่งแอฟริกา พร้อมเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด COVID – 19 อย่างต่อเนื่อง

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหารพัฒนาพิงนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า เนื่องจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2564  ตามมาตรการเฝ้าระวังระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งในช่วงเวลานี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง  รวมทั้งการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์กว่า 1,266  ตัว 129 ชนิด  เป็นอย่างดี พร้อมทั้งต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่”  จำนวน 1 ตัว เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 (ยังไม่ทราบเพศ)และได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ตามธรรมชาติ ปัจจุบันอาศัยรวมกับฝูงกูดูใหญ่อยู่ภายในส่วนแสดงซาวันนาซาฟารี ซึ่งเป็นส่วนแสดงสัตว์จากทุ่งหญ้าซาวันนา และสัตว์ผู้ถูกล่าในธรรมชาติ และนับเป็นสมาชิกกูดูใหญ่ ตัวที่ 9 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

สำหรับ “กูดูใหญ่” (Greater dudu) เป็นสัตว์แอนทีโลปที่มีความสูงที่สุดแห่งแอฟริกา มีจุดเด่นที่ทำให้มันโดดเด่นสะดุดตาคือเขาที่บิดเป็นเกลียวอย่างสวยงาม ซึ่งจะมีเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายดอกสว่าน ใช้เวลาในการบิดเต็มที่ประมาณ 5 ปี โดยความยาวเฉลี่ยของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร (ถ้ายืดตรง) กูดูใหญ่ตัวเมียชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และจะปลีกตัวออกจากฝูงในช่วงเวลาตกลูก ส่วนตัวผู้บางครั้งอยู่ร่วมกันเป็นฝูงเล็ก แต่ส่วนมากชอบอยู่อย่างสันโดษ สามารถพบในแถบแอฟริกาตะวันออกถึงแอฟริกาใต้ อาศัยอยู่ตามป่าไม้สูง ไม้เตี้ย และป่าโปร่ง กินหญ้าและใบไม้เป็นอาหาร มีอายุเฉลี่ยถึง 23 ปี

และเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ระลอกใหม่ ที่มีการพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีความห่วงใยและตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงขอแจ้งหยุดให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน- 4 พฤษภาคม 2564 และระหว่างช่วงปิดให้บริการ ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ดำเนินการทำความสะอาด Big Cleaning ในทุกพื้นที่ รวมถึงการฆ่าเชื้อบริเวณกรงสัตว์ การฉีดวัคซีน และการดูแลสัตว์อย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงส่วนต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข่าวสารและชมภาพบรรยากาศ พร้อมคลิปน่ารักๆ ของเหล่าบรรดาสมาชิกสัตว์ป่าของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ในช่องทาง TIKTOK: https://vt.tiktok.com/ZSJdBmEAR/, IG : https://bit.ly/3nhUqs0, LINE@ : nightsafari และ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

เชียงใหม่ - เซเว่น อีเลฟเว่น ซีพีเอฟ ส่งมอบอาหารและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่อง

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เร่งเดินหน้าโครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19”ตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยคนไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้ในเร็ววัน

ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายบวรเวทย์ ตันตรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในพื้นที่ ส่งมอบแอลกอฮอลล์ทำความสะอาด, หน้ากากอนามัยและน้ำดื่ม ตามโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ของเซเว่น อีเลฟเว่น พร้อมด้วย ผู้แทนซีพีเอฟ ร่วมส่งมอบอาหารปลอดภัย ในโครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ภายใต้ “ซีพี ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด” โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ

อีกทั้งยังได้ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับ นพ.ยุทธศาสตร์ จันทร์ทิพย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย, นายวริช ไกยสิทธิ์ และ นายนพดล นวนพนัส ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมรับมอบ เพื่อนำไปสนับสนุนการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ของโรงพยาบาลสนามในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

สำหรับ โครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ของเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นการส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และน้ำดื่ม เพื่อสนับสนุนภารกิจในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยบริษัทยังเดินหน้าประสานความร่วมมือผ่านทางมหาเถรสมาคม เพื่อน้อมถวายเครื่องวัดอุณหภูมิและแอลกอฮอล์ให้กับวัด พระสงฆ์ สามเณร และทยอยมอบของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามปณิธานองค์กรของซีพี ออลล์ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยทั้งหมดภายใต้ โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การระบาดครั้งแรก จะส่งตรงถึงโรงพยาบาลสนาม โดยทีมโลจิสติกของซีพีเอฟ ประกอบด้วยอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานหลากหลายเมนู อาทิ เกี๊ยวกุ้ง, ข้าวอบธัญพืชและไก่, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าและราเมนโฮลวีตผัดขี้เมาไก่ เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top