‘เกาหลีใต้’ ไฟเขียว!! กฎหมายห้าม ‘กิน-ซื้อขาย’ เนื้อสุนัข รับแรงหนุน 'กระแสแอนตี้-ปธน.เป็นคนรักสัตว์ตัวยง'

(10 ม.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามการจำหน่ายและบริโภคเนื้อสุนัขเมื่อวันอังคาร(9 ม.ค.) ซึ่งจะส่งผลให้ประเพณีการรับประทานเนื้อสุนัขที่มีมานานนับร้อยๆ ในแดนโสมกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ท่ามกลางกระแสรณรงค์ต่อต้านการกินเนื้อสุนัขจากบรรดานักปกป้องสิทธิสัตว์ รวมถึงบุคคลทั่วไป

กฎหมายแบนการรับประทานและจำหน่ายเนื้อสุนัขผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอย่างท่วมท้น ด้วยคะแนน 208 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังผ่านช่วงเวลาผ่อนผัน (grace period) 3 ปี

ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (ราว 795,000 บาท)

คนเกาหลีใต้สมัยก่อนเชื่อกันว่า การรับประทานเนื้อสุนัขจะช่วยให้ร่างกายทรหดอดทนต่อสภาพอากาศในฤดูร้อน ทว่าปัจจุบันสุนัขกลายเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน บวกกับมีการรณรงค์ต่อต้านการเชือดสุนัขเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ความนิยมในการกินเนื้อสุนัขลดลงไปมาก และยังคงรับประทานกันเฉพาะในหมู่คนสูงวัยเสียเป็นส่วนใหญ่

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ชี้ว่า สุนัขมักจะถูกฆ่าด้วยวิธีใช้ไฟฟ้าช็อตหรือแขวนคอให้ตาย ก่อนจะถูกนำมาแล่เนื้อ  แต่เจ้าของฟาร์มและผู้ค้าสุนัขก็ออกมาแย้งว่าพวกเขามีความพยายามที่จะปรับไปใช้วิธีการฆ่าที่ทารุณน้อยลง

กระแสต่อต้านการกินเนื้อสุนัขเริ่มแพร่หลายขึ้นในยุคของประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนรักสัตว์ และเลี้ยงสุนัขเอาไว้ถึง 6 ตัว แมวอีก 8 ตัว ขณะที่นางคิม คยอน-ฮี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาวิจารณ์การรับประทานเนื้อสุนัขเช่นกัน

ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.) โดยสถาบัน Animal Welfare Awareness, Research and Education ในกรุงโซลพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 94% ไม่ได้รับประทานเนื้อสุนัขเลยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และ 93% บอกว่าคงจะไม่รับประทานอีกในอนาคต