'ดร.เอ้' เชื่อ!! ความรู้ยุคนี้เปิดกว้าง แต่มหาวิทยาลัยก็ยังไม่ถูกทิ้งขว้าง เพราะ 'การอยู่ร่วมกัน-เรียนรู้ชีวิตที่แท้จริง' หาไม่ได้จากสื่อโซเชียล

เมื่อไม่นานมานี้ ติ๊กต็อกช่อง @aesuchatvee ของ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้โพสต์คลิปวิดีโอช่วงหนึ่งของรายการ Secret Sauce หลังจากได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็น ‘มหาวิทยาลัยยังจำเป็นอยู่ไหม?’ ในโลกที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากหลากหลายแหล่ง ซึ่ง ดร.เอ้ ก็ได้แชร์มุมมองเอาไว้ว่า...

“มหาวิทยาลัยยังจำเป็นอยู่หรือไม่นั้น...เราไม่สามารถตอบได้ อีก 20 ปีอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ แต่การศึกษาจะยังคงมีอยู่ เพราะฉะนั้นไม่มีใครตอบได้ ดังนั้น แล้วมันยังจําเป็นไหม ขอยืนยันว่าจําเป็น… เพราะมหาวิทยาลัยมันไม่ได้สอนวิชาการเท่านั้น“

จากนั้น ดร.เอ้ ได้ยกภาพยนตร์เรื่อง Good will hunting เพื่ออธิบายต่อว่า “Good will hunting เป็นจุดกําเนิดของ ‘แมตต์ เดม่อน’ กับ ‘เบน แอฟเฟล็ก’ ที่ได้ ‘โรบิน วิลเลียมส์’ มาแสดงเป็นครูมัธยม ซึ่งในหนังพระเอกซึ่งก็คือ แมตต์ เดม่อน รับบทเป็นภารโรงประจำสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (MIT) แต่เกเร เรียกว่าได้เอาไม่อยู่ จึงต้องให้ครูมัธยมอย่างโรบิน วิลเลียมส์มาสอน ปรากฏว่าเด็กอัจฉริยะคนนี้มันเกเรจริง ๆ จากนั้นโรบิน วิลเลียมส์จึงพาไปนั่งสวนสาธารณะที่บอสตัน ซึ่งฉากนี้เป็นฉากที่ได้รับรางวัลออสการ์ ‘เขียนบทยอดเยี่ยม’ โดยโรบิน วิลเลียมส์ได้พูดกับพระเอกเอาไว้ว่า ‘รู้นะ...ว่าเธออ่านหนังสือทั่วโลกมาแล้ว เธออ่านหนังสือเล่มภายในไม่กี่นาที เธออาจจะรู้นะว่าในโบสถ์ซิสทีนที่วาติกันนั้นไมเคิลแอนเจโลเขียนรูปอะไรไว้บ้าง หรือเขียนรูปพระเจ้าชนนิ้วยังไงบ้าง แต่เธอไม่เคยไป…เพราะฉะนั้นความรู้ที่เธอมีจากที่อ่านมา เธออาจจะตอบคําถามได้ทุกอย่างทั่วโลก แต่เธอไม่เคยไปสัมผัส เธอจึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าแท้จริงแล้วนั้น โบสถ์ซิสทีนไมเคิลแองเจโลทำได้ยังไง…เพราะเธอไม่เคยสัมผัสกลิ่น ไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศ ซึ่ง ’มหาวิทยาลัย‘ คือตรงนั้น…’

ดังนั้น มหาวิทยาลัยจะเป็นทุกอย่าง ไม่ว่าการอยู่ร่วมกัน เพราะอาจารย์มหาวิทยาลัยในไทยเก่งแค่ไหนก็คงไม่เก่งเท่าอาจารย์ฟิสิกส์ที่ได้ Nobel Prize ที่ฮาเวิร์ดหรือที่ทําพอดแคสต์...อาจารย์ลาดกระบังเก่งแค่ไหน ก็คงสู้วิศวะจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ไม่ได้ เขาก็ไปเรียนได้อยู่แล้ว แต่การมาเรียนที่ ม.ลาดกระบัง, ม.จุฬาฯ, ม.เกษตรฯ, ม.ธรรมศาสตร์ หรือ ม.ราชภัฏต่าง ๆ การมาอยู่ร่วมกัน การได้เป็นศิษย์เป็นครูกัน และการเห็นคนที่เสียสละ…วันหนึ่งนั้นเขาก็ต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ เป็นผู้นําองค์กร และมีครูที่ใกล้ตัวเป็นโรโมเดล ได้ทํากิจกรรมชมรม ออกกําลังกายด้วยกัน รู้แพ้รู้ชนะ โดยถ้าหากแพ้ก็ไม่ได้ชกต่อยกัน สอนให้รู้จักความเป็นผู้นํา ให้รู้จักเสียสละ สิ่งพวกนี้แหละที่ทำให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยนั้นยังมีความจําเป็นที่สุด…