ระบบการศึกษาเวียดนาม ความคล้ายคลึงที่อาจไม่ต่างจากไทย เน้นสอนให้ท่องจำไว้ เพื่อดันผลคะแนนสอบ PISA ให้ได้สูงๆ

(8 ธ.ค.66) จากเพจ ‘Mr Strategist’ ได้โพสต์ข้อความชวนคิดในหัวข้อ ‘เด็กเวียดนามเรียนเก่งกว่าไทยจริงไหม?’ ความว่า...

เด็กเวียดนามเรียนเก่งกว่าไทยจริงไหม? วัดกันยากครับ ผมเคยไปพูดคุยกับคณะทำงานของฝั่งเวียดนาม เจ้าหน้าที่ระดับล่างและระดับกลางบ้านเขาก็ไม่ได้พูดอังกฤษเก่งนะ (จากการประเมินของผม)

ภาษาอังกฤษเขาก็ติดสำเนียงท้องถิ่น พูดแบบไม่แม่นแกรมม่าเหมือนบ้านเรานี่แหละ แต่เขาดูมีความพยายามมากๆ ในการพูด ถามว่าการแข่งขันเขาสูงไหม สูงมากครับ

สูงไม่ต่างจากจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น เขาแข่งกัน ในแบบที่บ้านครอบครัวเด็กยากจนยังวิ่งหาเงิน เพื่อจ่ายค่าติวเตอร์/ส่งลูกเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนน่ะ…

เรื่องคะแนนคณิตศาสตร์เนี่ย แน่นอน พูดกันในเรื่องการออกแบบหลักสูตรแล้ว มันไม่ค่อยซับซ้อนอะไรมาก รัฐบาลเวียดนามสั่งกระทรวงศึกษาฯ ไปว่าอยากได้คะแนนสอบ PISA เยอะๆ

ทางโรงเรียนก็ไปเร่งสอน ไปบีบเด็กให้ท่องจำ ไปเน้นอัดความรู้ให้เด็กๆ แค่นี้เองครับ คนแวดวงการศึกษาของเวียดนามเคยเล่าให้ผมฟัง คะแนนคณิตศาสตร์บ้านเขาดี ก็เพราะหลักสูตรมันเน้นอัดทุกอย่างให้เด็กท่องจำไม่ต่างจากบ้านเรา

ดังนั้น ผมว่าแค่คะแนนอะไรพวกนี้มันน่าจะวัดความเก่ง หรือสติปัญญาไม่น่าจะได้ และคะแนนที่เก็บสถิติมามันก็แค่ค่าเฉลี่ย ไม่สะท้อนภาพรวมทั้งประเทศ อย่างมากอาจจะวัดภาพรวมคุณภาพและการบริหารจัดการระบบการศึกษา

(เพราะท้ายที่สุด กลุ่มตัวอย่างที่ดึงให้คะแนนภาพรวมของประเทศขึ้นหรือลง มันคือกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ถ้าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับการกระจายทรัพยากรการศึกษาที่ดีพอ ทำยังไงคะแนนภาพรวมในประเทศก็ไม่ขึ้นครับ)

แต่จุดเด่นหนึ่งที่เวียดนามเขาดีกว่าเราในตอนนี้คือ บ้านเขาประชากรยังหนุ่มสาวเยอะ มีวัยรุ่นพร้อมเป็นแรงงานราคาถูกมากกว่าประเทศไทย

เขาผลิตเด็กออกไปเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมได้ แต่ไทยเราควรเลิกหวังเรื่องผลิตเด็กออกไปเป็นแรงงานพวก Semi Skilled หรือ Unskilled ได้แล้ว

ค่าแรงบ้านเราแพงครับ ยังไงก็แข่งไม่ได้ โรงงานของบริษัทข้ามชาติยังไงก็ชอบเวียดนามกับอินโดนีเซียมากกว่าบ้านเราในระยะยาว

ยังไงไทยก็ควรปรับ Position ตัวเองให้พร้อมกับการผลิตแรงงานป้อน Service Sector และ IT Sector ที่มันซับซ้อนกว่าแค่การเป็นแรงงานประกอบชิ้นส่วนครับ