‘หยก’ โพสต์ทวงความชัดเจนสถานภาพจากโรงเรียน จี้ถาม “ทำไมคุณครูปล่อยเพื่อนๆ ทำอะไรต่างๆ กับหนู”

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 จากเฟซบุ๊ก ‘Thanalop Phalanchai’ ของ ‘หยก ธนลภย์’ เยาวชนนักเคลื่อนไหวการเมืองและผู้ต้องหา ม.112 อายุ 15 ปี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 6 กันยายน 2566

วันนี้หนูมาโรงเรียน ที่โรงเรียนให้หนูเข้ามาที่ห้อง แต่ห้องปิดไฟ ดับไฟ ไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่ห้องข้างๆ เรียนกันอยู่ แต่ห้องหนูเพื่อนหายไปหมด หนูมาทราบทีหลัง ผู้ปกครอง-ครู บอกว่า “เพื่อนไม่สบาย”

หนูเลยนั่งเรียนพยายามอ่านหนังสือไปเอง ไม่ได้ไปตามหาว่าเพื่อนไปไหน สักพักจากนั้นผู้ปกครองของเด็กที่อุ้มหนูก็เข้ามา ผู้ปกครองคนอื่นก็เข้ามา รอง 2 คนของโรงเรียนก็เข้ามา เขาเริ่มพูดถึงด้วยการว่าพี่บุ้ง และบอกว่าคนแบบนี้สุดท้ายเป็นยังไง ก็ต้องลี้ภัย จนหนูทนไม่ไหวเลยไปนั่งริมหน้าต่าง แล้วบอกให้เขาออกไป ตอนแรกเขาก็ออก แต่ต่อมาก็เอาครูคนอื่นมาพูดใส่หนู หนูเลยใส่หูฟังนอนก้มหน้าหลับตาไป

ช่วงประมาณก่อนเที่ยง หนูหลับไป อาจเป็นเพราะไม่ค่อยสบาย พี่คนนึงที่มาก็ขึ้นมาดูหนู แต่หนูไม่รู้ หนูหลับอยู่ พี่อีกคนที่ตามมาดูหนูก็เดินเข้ามา หนูถามว่าเข้ามาได้ไง พี่เค้าก็เล่าว่าหน้าโรงเรียนมีคนให้เข้ามาเลย พอผ่านประตูมาก็มีครูมารับแล้วพาเดินมาหาหนู หนูก็นั่งในห้องเรียน พี่เค้าอยู่ด้วย ส่วนครูกับผู้ปกครองที่เคยเดินเข้ามาว่าก็ไม่มาแล้วพอพี่เขามา ต่อมาก็มีเพื่อนนักเรียนผู้หญิงสองคนนั่งเฝ้าหน้าห้อง แต่หนูไม่รู้ว่ามาเองหรือโรงเรียนให้มานั่งเฝ้า จนบ่ายสามโมง เวลาเลิกเรียนหนูก็ออกมา

หนูเห็นสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนออกจดหมายถึงหนู หนูเห็นด้วยกับสิ่งที่เค้าเรียกร้องกับโรงเรียน เรื่องขอความชัดเจนในสถานะของหนู เพราะหนูก็อยากรู้ หนูก็เห็นว่าการไม่แจ้งอะไรเป็นตัวหนังสือหลักฐานมาเลย แต่ก็อ้างว่าอยากช่วย ‘เด็กที่ไม่มีชื่อในระบบ’ ให้เริ่มต้นใหม่ คือการให้หนูมาเจออะไรแบบนี้เหรอ ทำไมหนูถึงไม่มีชื่อ เป็นความผิดใคร มอบตัวแล้วเกิดความผิดพลาดไม่ให้เรียนอยู่ๆ ก็คืนเงินได้เลยใช่ไหม โรงเรียนมีแผนการอะไรหรือให้ความชัดเจนอะไรได้ และทำไมมันถึงไม่มีความชัดเจนมาจนวันนี้ คือโรงเรียนอาจจะเคยไปบอกเพื่อนๆ ลับหลังหนูว่าหนูไม่ใช่นักเรียน แต่หนูไม่เคยได้เอกสารแจ้งชัดเจนเลยนะคะ และไม่มีการอธิบายด้วยว่าเพราะอะไรถึงมอบตัวไม่สำเร็จ แค่เพราะไม่มีผู้ปกครองมาใช่ไหม

นอกจากเห็นด้วยกับสมาคมผู้ปกครองในเรื่องนี้แล้ว หนูอยากเรียกร้องพ่อแม่ของเพื่อนๆ คนอื่นเหมือนกัน ว่าบางทีครูอาจจะทำไม่ถูก บางเรื่องที่เป็นความไม่ปลอดภัยหรือการสนับสนุนพฤติกรรมของนักเรียน คุณครูไม่น่าจะทำ และคุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนๆ น่าจะต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้ ที่คุณครูปล่อยหรือสนับสนุนให้เพื่อนๆ ทำอะไรต่างๆ กับหนู

สุดท้าย จดหมายที่สมาคมผู้ปกครองบอกให้หนู “ขอโทษ” หนูไม่เห็นด้วยเลย หนูเองไม่เคยได้รับคำอธิบายจากศาลเยาวชนฯ จากบ้านปรานีฯ จากโรงเรียน จากคุณครู ไม่เคยมีใครบอกอะไรกับหนู และไม่เคยมีใครมาขอโทษหนูเหมือนกัน กับทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา และหนูคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหนูไม่ใช่เรื่องปกติ และนอกจากหนูในโรงเรียนนี้แล้วก็มีเด็กคนอื่นๆ ที่เจอเรื่องแบบนี้อยู่ทั่วประเทศ เช่นเด็กที่ถูกพักการเรียน 1 ปี เพราะใส่ชุดไปรเวท 1 วัน หรือเด็กที่โรงเรียนทำให้ออกจากโรงเรียน เพราะโดนมาตรา 112

หนูไม่ใช่คนไม่กล้าที่จะพูดคำว่าขอโทษ หนูเคยพูดคำนี้ในชีวิตมาแล้ว เมื่อพิจารณาแล้วมีเหตุผลสมควรที่จะพูด คำว่าขอโทษ ถ้าสมควรจะพูดหนูก็สามารถพูดได้ ไม่ต้องใช้ความกล้าหาญใดๆ