Saturday, 27 April 2024
หยก

‘ศาลเยาวชนฯ’ แจงเหตุออกหมายจับ ‘หยก’ เยาวชนคดี 112 เหตุประวิงเวลา เบี้ยวหมายเรียกครั้งที่ 2 อ้างติดสอบแต่ดันไปม็อบ

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง แจงออกหมายจับ ด.ญ.หยก เยาวชนอายุ 15 ปี คดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ตามขั้นตอนกฎหมาย เหตุประวิงเวลา เบี้ยวพบตำรวจในการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 อ้างติดสอบปลายภาค แต่กลับไปร่วมกิจกรรมม็อบหน้า UN จึงออกหมายจับ และนำตัวเข้าสถานพินิจฯ ยังไม่มีผู้ปกครองมาขอรับตัวหรือยื่นประกันตัว

(13 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงการดำเนินคดี เยาวชน (ชื่อเล่น หยก) อายุ 15 ปี ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงว่า ตามที่เด็กหญิง ธ. ได้ถูกดำเนินคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 368 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 และมีการสื่อในสังคมออนไลน์กล่าวถึงการใช้ดุลพินิจของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในการออกหมายจับและการควบคุมตัวเด็กหญิง ธ. ว่ากระทำไปโดยไม่ชอบนั้น

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอออกหมายจับเด็กหญิง ธ. ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้เด็กหญิง ธ.มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 2 ก.พ. 2566 เวลา 10.00 น. แต่เด็กหญิง ธ. ไม่ไปพบตามหมายเรียกและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 ให้เด็กหญิง ธ. ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 ก.พ. 2566 โดยในครั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้มีหนังสือเรื่อง ขอแจ้งเหตุขัดข้องไม่อาจมาพบพนักงานสอบสวนได้ โดยให้เหตุผลว่า เด็กหญิง ธ. อยู่ระหว่างการเตรียมและสอบวัดผลปลายภาคเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อเนื่องรายงานตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทำให้ไม่สามารถไปพบพนักงานสอบสวนได้ และขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 9 เม.ย. 2566 เวลา 10.00 น.

แต่กลับปรากฏว่าหลังจากขอเลื่อนเพียง 3 วัน คือ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. เด็กหญิง ธ. ได้ไปทำกิจกรรมบริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ อันแสดงให้เห็นว่าการขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งที่ 2 เป็นการประวิงเวลา ศาลพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 และพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 67 แล้ว เห็นว่ากรณีมีเหตุให้ออกหมายจับ จึงอนุญาตให้ออกหมายจับเด็กหญิง ธ. ตามขออันเป็นการออกหมายจับโดยชอบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566 เด็กหญิง ธ. ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมและถูกควบคุมตัวมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 ศาลได้ตรวจสอบการจับตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 73 โดยศาลตั้งที่ปรึกษากฎหมายแก่เด็กหญิง ธ. แม้เด็กหญิง ธ. ปฏิเสธการลงลายมือชื่อในใบแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมาย แต่ถือว่าศาลได้ตั้งที่ปรึกษากฎหมายให้ตามกฎหมายแล้ว และเห็นว่าการจับและปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ในวันตรวจสอบการจับ เด็กหญิง ธ. ไม่มีบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การ ซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วยมาศาล คงมีเพียงนาย ส. แถลงต่อศาลว่าเป็นคนรู้จักกับเด็กหญิง ธ. และเป็นบุคคลที่เด็กหญิง ธ. ไว้วางใจและมาทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองชั่วคราว เนื่องจากมารดาของ เด็กหญิง ธ. เจ็บป่วยไม่สามารถมาศาลในวันดังกล่าว จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฎชัดเจนว่าเด็กหญิง ธ. อยู่ในความปกครองของมารดา ไม่ปรากฎว่านาย ส.เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายหรือเป็นบุคคล ที่เด็กหญิง ธ. อาศัยอยู่ด้วย ศาลย่อมไม่อาจมอบตัวเด็กหญิง ธ. ให้แก่บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลซึ่งเด็กหญิง ธ. อาศัยอยู่ด้วยตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มาตรา 73 ได้ 

ศาลจึงมีคำสั่งให้ส่งเด็กหญิง ธ. ไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บ้านปรานี ข้อเท็จจริงยังปรากฎ ต่อมาว่า นับตั้งแต่วันตรวจจับจนถึงปัจจุบันนี้ มารดาของเด็กหญิง ธ. ไม่เคยมาศาล เพื่อติดต่อขอรับตัวเด็กหญิง ธ.ไปดูแล ทั้งยังไม่มีบุคคลใดมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวเด็กหญิง ธ. ชั่วคราว การควบคุมตัวเด็กหญิง ธ. จึงเป็นไปโดยชอบ 

อนึ่ง เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กหรือเยาวชน คดีนี้บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การ ซึ่งเด็กหญิง ธ. อาศัยอยู่ด้วยสามารถมาแสดงตนขอรับตัวเด็กหญิง ธ.ไปอยู่ในความดูแลตาม พ ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 73 นอกจากนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กหญิง ธ. ก็มีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเด็กหญิง ธ. ได้ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106

‘ศูนย์ทนายฯ’ เผย ศาลเยาวชนฯ ยกคำร้อง คดี ม.112 เตรียมปล่อยตัว ‘หยก’ วันนี้ หลังถูกคุมขังมา 51 วัน

(18 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดเผยว่า มีรายงานว่า วันนี้หลังจากตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ยื่นขอผัดฟ้องและควบคุมตัว ‘หยก ธนลภย์’ เยาวชนวัย 15 ปี ในคดี ม.112 ต่ออีกครั้ง แต่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ยกคำร้องดังกล่าว ทำให้หยกจะได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานีในช่วงเย็นวันนี้ รวมหยกถูกคุมขังมาแล้ว 51 วัน

ทั้งนี้ กลุ่มทะลุวังระบุว่า ได้รับแจ้งว่ามีการปล่อยหยกในวันนี้ (18 พ.ค.) โดยกลุ่มเพื่อนของหยกจะเดินทางไปรับตัวหยกที่บ้านปรานี เวลา 15.30 น.

'หมอดังในทวิตเตอร์' ชี้ ตุ่ม-ผด  ที่ร่างกาย 'หยก' เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยา!!

หลังมีประเด็นดรา“หยก” เด็กนักเรีนหญิงอายุ 15 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวตามหมายจับในคดี ม.112 ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2566 หลังเข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณเสาชิงเช้า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565 โดยต่อมาถูกส่งตัวมาควบคุมที่บ้านปรานี จ.นครปฐม เผยภาพหลังออกจากบ้านปรานี มีผด ตุ่มแดงขึ้นเต็มตัว คาดติดเชื้อหลังน้ำในสถานแรกรับเด็กและเยาวชนไม่สะอาด
ด้าน แบม อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ ก็ออกมาแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของ น้องหยก ซึ่งจากภาพที่ลงได้เผยให้เห็น แผ่นหลังของเด็กนร.ชั้นม.3 เต็มไปด้วย ตุ่มและผดแดง ขึ้นตามบริเวณแผ่นหลังเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ใครจะรับผิดชอบ”

นอกจากนี้ ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระออกมาเคลื่อนไหวผ่านบัญชีโซเชียล อธิบายผดดังกล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุ “ผดแดง” ที่ขึ้นเต็มหลังของหยกว่า “ผดที่ขึ้นบนหลังหยกค่ะ (เกิดจากการติดเชื้อเพราะน้ำในบ้านปรานีไม่สะอาด +อากาศร้อน+ยุงกัด) จริงๆบริเวณรอบร่างกายมีเยอะกว่านี้นะคะ หลังจากนี้จะพาน้องไปรักษาค่ะ 

ต่อมา ทวิตเตอร์ดังอย่าง พี่หมอแนะ-น้องสอบ ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ได้อยากจะลดทอนข้อเรียกร้อง รวมถึงชื่นชมน้องที่ออกมาทำเพื่ออนาคตของเราครับ แต่ขอพูดตามความจริงทางการแพทย์ว่า lesion แบบนี้ไม่ได้เกิดจากน้ำไม่สะอาดครับ อันนี้เรียกว่า Aceniformeruption เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาครับ

‘หยก ธนลภย์’ โวย โรงเรียน นักเรียนจ่ายค่าเทอม แต่ขึ้นลิฟท์ไม่ได้  ชี้ สิ่งอำนวยความสะดวก ควรเข้าถึงทุกคน

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 นางสาวธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนที่ถูกดำเนินคดี ม.112 นักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่ายพัฒนาการ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กประกอบภาพข้อความลิฟท์โดยสารของโรงเรียน ที่มีป้ายข้อความกำกับไว้ว่า “ลิฟท์สำหรับครู นักเรียนกรุณาใช้บันได”

ด้านนางสาวธนลภย์ หรือ หยก กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า  นักเรียนจ่ายค่าเทอมแต่ทำไมถึงใช้ไม่ได้?

สิ่งอำนวยความสะดวกควรเข้าถึงทุกคน แต่ทำไมถึงมีแค่คนกลุ่มนึงที่ใช้ได้? ครูเหนื่อยนักเรียนก็เหนื่อยเป็นนะ อยากให้ทุกคนได้เข้าถึงสิ่งอำนายความสะดวก 

‘หยก’ เคยเป็น เด็กเรียบร้อย เรียนดี แต่ชีวิตไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่เริ่มรู้จัก กับกลุ่มทะลุวัง

15 มิ.ย. 2566 - เพจเฟซบุ๊ก สติค่ะลูกกกก โพสต์ภาพและข้อความว่า หลายคนอาจไม่รู้ หยกสมัยก่อนเคยเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยโดนคดี รักครอบครัว แต่งตัวเรียบร้อย เรียนดี

จุดเปลี่ยนชีวิตตั้งแต่หยกรู้จักกลุ่มทะลุวัง และพรรคก้าวไกล ชีวิตของหยกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต่อต้านระบบกฎระเบียบสังคมทุกอย่าง โดนคดีมากมาย สุดท้ายครอบครัวแตกแยก....

คนกลุ่มไหนกันที่สนับสนุนและให้ท้ายเด็กจนมีพฤติกรรมแบบนี้

‘ไอซ์’ ย้ำ!! ไม่ควรมีเด็กต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา เพียงเพราะพยายามกะเทาะเปลือกขนบเแบบดิมๆ

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ ‘ไอซ์’ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork’  เกี่ยวกับกรณี หยก-ธนลภย์ จากประเด็น ที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากสวมชุดไพรเวตและย้อมสีผมไปเรียน ก่อนทางโรงเรียนชี้แจงว่าเป็นเพราะไม่ได้เซ็นยินยอมมอบตัวในระยะเวลาที่กำหนด 

โดยไอซ์ได้โพสต์ไว้ว่า… 

“กฏระเบียบข้อไหนกันที่บังคับให้ต้องเอาพ่อแม่มาเท่านั้นถึงจะมอบตัวได้ แล้วแบบนี้เด็กกำพร้าที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ไม่ต้องมอบตัวไม่ต้องเรียนหนังสือหรือไง ถ้ากลไกลสภาฯ ยังทำงานอยู่ไอซ์จะร้องเรื่องนี้ให้กรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตอบคำถามสังคม

ไอซ์ขอยืนยันจุดยืน ไม่ควรมีเด็กคนไหนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยความไม่สมัครใจ ไม่ว่าด้วยกฏระเบียบข้อบังคับใดก็ตาม

ลองถามใจลึกๆ ดู ว่าควรมีเด็กคนไหนในประเทศนี้ต้องออกจากระบบการศึกษาไป เพราะสังคมบางส่วนรู้สึกว่าน้อง ‘ทำตัวไม่น่ารัก’ หรือเพราะไม่เคารพกฏระเบียบแบบเดิมๆ หรือป่าว เรากำลังต่อสู้กับขนบเดิมๆ กันอยู่ไม่ใช่หรือ”

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว กล่าวถึงกรณี ‘หยก-ธนลภย์’ เยาวชนอายุ 15 ปี

จากประเด็นถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากสวมชุดไปรเวทและย้อมสีผมไปเรียน ผ่านรายการ ‘The Daily Dose Live! ยามเช้า’ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 ว่า…

“ผู้ใหญ่คนไหนที่ให้ท้ายคุณ เขาไม่ได้รักคุณ นั่นคือข้อเท็จจริง ผู้ใหญ่คนไหนที่ตักเตือนคุณ ให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมได้ นั่นคือ คนที่รักคุณจริงๆ”

 

รู้จัก ‘บุ้ง เนติพร’ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ‘กลุ่มทะลุวัง’ เติบโตในครอบครัวของนักกฎหมาย แต่สุดท้ายต้องเข้าไปอยู่ใน ‘คุก’

‘บุ้ง เนติพร’ นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง  สมาชิกกลุ่มทะลุวัง วัย 27 ปี ผู้ที่ทำหน้าที่เป็น “ผู้ปกครอง” ของหยก เริ่มเป็นที่รู้จักของสังคมเมื่อตอนที่ได้ทำ 
“โพลสติกเกอร์สำรวจความคิดเห็น” เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมักจะหยิบยกคำถามที่ไม่เหมาะสม ไม่บังควรเช่น คำถามเกี่ยวกับขบวนเสด็จ หรือคำถามเกี่ยวกับงบประมาณสถาบันฯ มาเป็นตั้งโพลสอบถามในที่สาธารณะ โดยเคยทำโพลถามว่า "ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่?" และไปส่งโพลไปที่วังสระปทุมเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565

ในวัยเด็กนั้น บุ้งเติบโตขึ้นมาในครอบครัวของนักกฎหมาย มีพ่อเป็นผู้พิพากษา พี่สาวเป็นทนายความ มี “ศาล” เป็นสนามเด็กเล่น ตัวบุ้งเอง ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกคาดหวังว่าให้เรียนกฎหมายเหมือนกับพ่อและพี่สาว เพื่อจะได้เข้าไปนั่งทำงานในศาล แต่ภาพฝันของทางครอบครัวคงจะไม่มีวันเป็นความจริง เพราะปัจจุบันเขาเลือกเส้นทางชีวิตที่ตรงกันข้าม
เขาเลือกที่จะเป็นแกนนำของกลุ่มทะลุวัง และเคลื่อนไหวเพื่อทำลายสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งชาติ   

บุ้ง ถูกตั้งข้อหาประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และได้เข้ารายงานตัวที่ สน.ปทุมวันเมื่อ 10 มีนาคม 2565 ศาลได้มีคำสั่งให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์รายละ 200,000 บาท พร้อมคำสั่งติดกำไล EM ศาลยังกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวคือ
1) ห้ามทำกิจกรรมหรือการกระทำใดที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2) ห้ามโพสต์เชิญชวน ปลุกปั่น ยั่วยุ ชักจูงประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมในสื่อโซเชียลมีเดีย หรือร่วมชุมนุมที่อาจก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
3) ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล

แต่บุ้งก็ยังไม่หยุดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อมาศาลจึงมีคำสั่งให้ ควบคุมตัว บุ้ง 
ไปที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา รวมระยะเวลาที่บุ้งต้องใช้ชีวิตในสถานที่แห่งนั้นเป็นเวลาทั้งสิ้น 94 วัน

‘อี้ แทนคุณ’ ชี้ ก้าวไกล ตัดหาง ‘หยก’  ปัดให้พ้นตัว ไร้สามัญสำนึกทางสิทธิมนุษยชน

ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ  ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี  พรรคก้าวไกลแถลงข่าวไม่เกี่ยวทั้งที่กรณี "หยก"  สาเหตุมาจากนโยบายพรรคก้าวไกลที่พยายามปลุกปั่นให้ยกเลิก ชุดนักเรียน เลิกวัฒนธรรมการเคารพครูบาอาจารย์ เลิกเคารพกฎกติกาที่ตนไม่ชอบ จน"หยก" จากเยาวชนบริสุทธิ์กลายเป็น"เหยื่อ"ของความเชื่ออย่างก้าวร้าวสุดโต่งและเมื่อหยกพยายามทำตามสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ปลุกปั่นไว้โดยมีว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนทั้งการไปถือป้ายที่หน้าโรงเรียนดังกล่าวรวมทั้งการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนอย่างเต็มที่แต่พอสังคมสนับสนุนโรงเรียนให้ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดและเท่าเทียมกันโดยตนได้ฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองในเรื่องการคงให้ใส่ชุดนักเรียนขึ้นกับความพร้อมแต่ละครอบครัว บางคนห่วงเรื่องความเหลื่อมล้ำ เพราะเด็กไทยชอบถูกเปรียบเทียบ อวดแข่งกันเรื่องยี่ห้อ เรื่องแบรนด์เนม (เห็นและได้ยินกับตัวเองเรื่องการแข่งกันเรื่องยี่ห้อรองเท้า เสื้อผ้า ฯลฯ)   บางคนห่วงเรื่องความปลอดภัย จะแยกแยะอย่างไรคนไหนนักเรียนคนไหนคนนอกโรงเรียนที่เข้ามาปะปนหรือตอนออกนอกโรงเรียน บางคนห่วงเรื่องโฟกัส สมาธิต้องมาคิดทุกวันจะแต่งตัวยังไง.ชุดจะซ้ำกันไหมจะมีรสนิยมไหม ตลกไหม สวยไหม  อายเพื่อนไหม แมชกันไหม เพื่อนล้อไหม

พอหยก โดนสังคมตำหนิมากเข้าเรียกว่า "กระแสตีกลับ" จึงต้องกลับมาดูสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำคือ การแถลงการณ์ว่าพรรคตนไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องของ "หยก" เหมือนกับคนมีความสัมพันธ์กันจนมีลูก พอมีลูก ลูกทำผิดตามที่พ่อแม่สอนมา  คนเป็นพ่อแม่กลับตัดห้างทิ้ง และประกาศไม่ใช่ลูกตนเอง

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในช่วงเลือกตั้งพรรคก้าวไกลรณรงค์เรื่องนี้และกำหนดเป็นนโยบายพรรคอย่างจริงจังและมีการสนับสนุนแกนนำผู้ชุมนุมจนต่อเนื่องมาถึง การกระทำของ "หยก"  ดังนั้นการกระทำของพรรคก้าวไกลจึงถือเป็นการกระทำที่ไร้สามัญสำนึกไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม สะท้อนถึงการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพอย่างแท้จริง กล่าวคือ มีการปลุกปั่นหลอกลวง ให้หลงเชื่อ และเมื่อเกิดผลกระทบต่อชีวิตเยาวชนที่หลงเชื่อจเป็นเหตุให้ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองในหลายเรื่อง  ทั้งมาตรา 112 และกฎหมายอื่นๆ  อันจะกลายเป็นสาเหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย ครอบครัวแตกแยก  เยาวชนก้าวร้าวรุนแรงสุดโต่ง โดยถือว่าสิ่งเหล่านี้คือส่วนขยายของลัทธิคลั่งเสรีภาพที่ก้าวร้าวแบบสุดโต่งนั่นเอง
 

เยาวชนอายุ 15 ปี ที่กำลังมีประเด็นดรามา

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 เฟซบุ๊กเพจ ‘SpokeDark TV’ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของ น.ส.ธนลภย์ หรือ ‘หยก’ เยาวชนอายุ 15 ปี ที่กำลังมีประเด็นดรามา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมขณะนี้ โดยระบุว่า…

“ตอนเด็กเราไม่เคยกล้าเรียกร้องอะไร เพราะ ‘กลัว’ แต่พอเราโต เรากลับ ‘กล้า’ ที่จะทำให้เด็กหวาดกลัว ที่จะเรียกร้องอะไรๆ เราต่างเป็นผู้ใหญ่ที่น่าละอาย จงละอาย”
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top