‘ดร.หิมาลัย’ วอน อย่าให้ทุนนอกครอบการเมืองไทย หลังมีคนปูด ‘นักการเมือง’ รับเงินแก้ ม.112

จากกรณีที่มีนักกิจกรรมทางการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีนักการเมืองบางคนของพรรคที่จ้องจะแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 เคยได้รับเงินสนับสนุนจากทุนต่างชาติ เพื่อให้แก้ไขมาตราดังกล่าว รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา มีข้อมูลว่า ทุนจากต่างชาติให้การสนับสนุนกลุ่มเอ็นจีโอ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า การที่เอ็นจีโอได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเป็นการใช้เพื่อช่วยเหลือทางด้านสังคม ทางด้านเศรษฐกิจ หรือ การพัฒนาการเมือง แต่หากนำมาใช้เป็นทุนเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศนั้น ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นบ่อนทำลายชาติ

ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้มุมมองต่อว่า ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่ถูกต่างชาติแทรกแซงทางการเมืองจนนำไปสู่ความล่มสลาย ประเทศย่อยยับ ประชาชนต้องลี้ภัยหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพราะฉะนั้น จึงอยากจะตั้งคำถามกับพี่น้องคนไทยว่า เราจะยอมรับให้องค์กรต่างประเทศสนับสนุนการเงิน เพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วทำให้ประเทศเราพังทลายเช่นนั้นหรือ?

“ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีคนเคยถามผมหลายครั้งว่า ถ้าพรรคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาเป็นรัฐบาล จะรู้สึกอย่างไร ผมบอกว่าไม่ได้รู้สึกเสียใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ถึงอย่างไร ไทยก็ปกครองไทยด้วยกันเอง แต่หากเป็นพรรคการเมืองที่มีทุนต่างชาติหนุนหลัง และพยายามจะแทรกแซงการปกครองของไทย อันนี้ ผมจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็จะไม่มีวันยอมเช่นเดียวกัน”

ขณะเดียวกัน ดร.หิมาลัย ยังฝากถึงพรรคการเมืองและประชาชนที่พยายามจะยกเลิกมาตรา 112 ว่า อยากให้ทุกคนศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้และเป็นธรรม ในอดีตที่ผ่านมา สถาบันกษัตริย์ได้ต่อสู้กู้ประเทศชาติบ้านเมือง มีคุณูปการเป็นอเนกอนันต์ ด้วยความเสียสละ และวิริยะอุตสาหะอย่างมาก จนทำให้เรายืนหยัดเป็นชาติที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาตินักล่าอาณานิคม ทั้งจากเงินถุงแดง ที่รัชกาลที่ 3 ท่านทรงเก็บไว้ดูแลบ้านเมือง และได้นำไปไถ่ประเทศเมื่อครั้งเกิดวิกฤต ร.ศ.112

หรือแม้แต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างสัมพันธไมตรีกับชาติมหาอำนาจ ก็เพื่อรักษาประเทศชาติให้คงเอกราชไว้ให้ลูกหลาน

“ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำให้กับชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่จะมีคนรู้สึกรักและผูกพันกับสถาบันฯ และไม่ไว้วางใจพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่จะล้มสถาบันให้ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูถูกและด้อยค่าความจงรักภักดีที่คนส่วนใหญ่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ดร.หิมาลัย กล่าว