Monday, 1 July 2024
ตั๋วปารีส

‘สมบัติ’ ตามหา ‘วิโรจน์’ ขุดต้นตอ ‘ตั๋วปารีส’ ซัด!! เก่งกับคนอื่น คราวพรรคตัวเองเงียบกริบ

(27 ก.ค. 66) จากกรณีโซเชียลติดแฮชแท็ก #ตั๋วปารีส หลังจากที่มีทวิตเตอร์ Headache Stencil ของนายสมรนนท์ แย้มอุทัย หรือ ‘แป้ง’ ศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง แนวร่วมม็อบราษฎร ทวีตข้อความแฉว่ามีนายทุนคนไทยชื่อ ‘Nick Paris’ ผู้ต้องหาคดี ม.112 ให้ความช่วยเหลือการเงินให้แก่กลุ่มหมิ่นสถาบันขบวนการลี้ภัยเพื่อเคลื่อนไหวในการแก้ไขมาตรา 112

นายสมบัติ ทองย้าย อดีตการ์ดเสื้อแดงและม็อบสามนิ้ว โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณี ‘ตั๋วปารีส’ ดังนี้ ใครกันแน่หลอกประชาชน ฝากตามตั๋วช้างปารีส ด้วยครับ อย่ามามัวสร้างวาทกรรม สวย ๆ แบบนี้เลยครับ #นพพรคือใคร

นึกถึงหน้าใครบางคน เก่งนักกับคนอื่น คนของพรรคตัวเอง เงียบกริบ

ตามหาวิโรจน์ ครับ มัวแต่ตามหาทุนจีนสีเทา ช่วยตามหาทุนจากปารีสหน่อยครับ อยากรู้เส้นทาง หัวมาจากไหน ท้ายไปตกที่ใคร ฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ

‘ลูกสาวไตรรงค์’ ชำแหละ ‘ก้าวไกล’ แบบหมดเปลือก ปมตั๋วปารีส - แก้ ม.112 - รื้อ รธน.หมวดพระมหากษัตริย์

(28 ก.ค. 66) ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ผู้สมัคร สส.กทม. เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย พรรครวมไทยสร้างชาติ ลูกสาวไตรรงค์ สุวรรณคีรี โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งหัวข้อ ‘ก้าวไกล… ฉันสงสัยในตัวคุณ I question YOU’ โดยมีรายละเอียดดังนี้

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งคือวันแรกของการโหวตเลือกนายกหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นไป และคุณพิธาได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกคนที่ 30 ของประเทศไทย คนทั้งประเทศจับตาดูการอภิปรายจาก สส. หลากหลายพรรคในสภา และเห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจคือแทบจะทุกพรรคในสภามีความเห็นตรงกันเกี่ยวกับนโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล มีการตั้งคำถามในทิศทางเดียวกันว่าพรรคก้าวไกลสามารถถอนจุดยืนที่จะดำเนินการตามนโยบายนี้ได้ไหม ขณะที่คุณชาดา ไทยเศรษฐ์ ออกปากว่าหากถอนนโยบายแก้ ม.112 จะยกคะแนนของทั้งพรรคภูมิใจไทยให้… แต่สุดท้ายพรรคก้าวไกลก็ยืนกรานในนโยบายหนึ่งข้อนี้ และมติการโหวตในสภาฯ ก็คือ คุณพิธาไม่ได้เป็นนายก

ในนาทีนั้น เนเน่เชื่อว่าหลายคนคิดเหมือนกันว่า “มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? อะไรมันค้ำคอพรรคก้าวไกลอยู่หรือ ถึงจะถอยออกจากเรื่องนี้ไม่ได้เลย”

จากคำถามในวันนั้น หากเราย้อนมองกลับไป จะสังเกตได้ว่ามีสิ่งที่น่ากังวล (ปนน่าสงสัย) อยู่หลายส่วนค่ะ มาลองตั้งคำถามไปด้วยกันนะคะ

ใครคือคนจุดประกายไฟ
สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน (ที่คุณต๋อม ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เคยเป็นถึงอดีตบรรณาธิการ) ผลิตหนังสือ เช่น ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ และ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรีย์ เป็นหนังสือที่มีการเผยแพร่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันกษัตย์ที่สังคม และนักวิชาการหลายท่านตั้งข้อสงสัยถึงความถูกต้องของข้อมูล ถึงขนาดที่ผู้ที่ถูกอ้างอิงข้อมูล (เช่น นสพ. Bangkok Post และลูกหลานของคนในประวัติศาสตร์ที่ถูกอ้างอิง) ต้องออกมาชี้แจง ฟ้องร้อง ว่าข้อมูลที่หนังสือกล่าวถึงไม่มีจริง (ดูแหล่งข้อมูลจากลิงก์ด้านล่างได้ค่ะ)… แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือเหล่านี้กลับเป็นหนังสือที่โปรดปรานประหนึ่งเหมือนกับพระคัมภีร์ให้กับเยาวชนนักต่อสู้ (เช่น รุ้ง เพนกวิน ที่ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นหนังสือเล่มโปรด) ที่เป็นฐานเสียงกลุ่มสำคัญของพรรคก้าวไกล

ใครคือคนเติมฟืนใส่ไฟ
คณะก้าวหน้าเดินสายทำกิจกรรมในรั้วมหาลัย เผยแพร่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันกษัตย์ที่ ถูกตั้งข้อสงสัยถึงความถูกต้องของข้อมูล ชักชวนเยาวชนต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ (แต่พูดถึงภราดรภาพบ้างรึเปล่าน้าาา) การแยกตัวของรัฐปาตานี และอีกหลากหลายหัวข้อที่สร้างความโกรธ เกลียด ในสังคมไทย และที่สำคัญคือทำให้คนส่วนหนึ่งมีความรู้สีกไม่ดีต่อสถาบัน… นี่พูดแค่เรื่องเติมฟืนใส่ไฟให้เยาวชนนะคะ… ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเติมเงินเข้ากระเป๋านะ… ตอนนี้เรื่อง #ตั๋วปารีส ที่มีคนบางกลุ่มตั้งข้อสังเกตและชี้ให้เห็นว่าคุณมี “เงินทุนจากต่างชาติ” มาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ หากเป็นจริง แสดงว่าประเทศไทยเรามีมหาอำนาจต่างชาติเข้ามาแทรกแซงจริงๆ สินะ… เอ… คนในที่เปิดประตูให้คนนอกเข้ามาเผาบ้านตัวเองนี่ เขาเรียกว่าอะไรน้าาาาา … ยังไงก็รอดูหลักฐานกันต่อไปนะคะ ว่าจริงแท้แน่เท็จขนาดไหน ความจริงมีหนึ่งเดียว รอดูกันไปๆ

ใครเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อม รอโอกาสดำเนินการ
ขอชวนไปลองอ่าน ‘เปิดร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 พระมหากษัตริย์’ บนเว็บของคณะก้าวหน้าที่นี่ https://progressivemovement.in.th/article/special/5069/ เพื่อเห็นกับตาตนเองว่ามีการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ไว้แล้ว #ใครคือคนสร้างบรรทัดฐานทำชั่วได้ดี คณะ สส. ของพรรคก้าวไกลหลายคนมีคดีติดตัวและมีประวัติพฤติกรรมถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นสถาบันกษัตย์อย่างโจ่งแจ้ง เปิดเผย ชัดเจน แต่พรรคก้าวไกลกลับส่งเสริมให้คนที่ถูกดำเนินคดีกลุ่มนี้ ได้ดิบ ได้ดี ได้เป็น สส. อันทรงเกียรติ มาทำงานขับเคลื่อนฝั่งนิติบัญญัตในสภาฯ

ใครกลืนน้ำลายเก่ง พลิกลิ้นไปเรื่อย
วันนึงคุณก็ขึ้นเวที ติดสติกเกอร์ในฝั่งยกเลิก ม.112 และมาอีกวันคุณบอกว่าจะแก้เฉยๆ และล่าสุดบอกปรับเพื่อยกระดับให้สถาบันกษัตย์มีมาตรฐานที่ดีขึ้นเทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ แต่เมื่อดูในรายละเอียดดีๆ การกำหนดโทษลดลงเยอะ ถ้าหมิ่นประมาทกษัตริย์โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ถ้าหมิ่นประมาทราชินี โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน (ต่ำกว่าหมิ่นประมาทเดิมที่คนธรรมดาที่จำคุกไม่เกิน 1 ปีอีก) สิ่งที่สังคมสงสัยว่าคุณจะทำให้เกิดขึ้นคือการเลิกการคุ้มครองพระบารมี และคงเหลือไว้แต่การคุ้มครองชื่อเสียงของกษัตริย์ด้วยกฎหมายหมิ่นประมาทเช่นคนทั่วไป โดยมีความพิเศษเล็กๆ น้อยๆ เช่น ให้ในหลวงไม่ต้องร้องทุกข์เอง ให้สำนักพระราชวังร้องทุกข์แทนได้ เป็นต้น …ถ้าจะขนาดนี้ มันก็ไม่ต่างกับการยกเลิกหรอกค่ะ

ใครเร่งจนสร้างปัญหา
ถ้าคุณจะลดความรุนแรงของบทลงโทษ คุณได้ให้เวลาและความสำคัญกับการปรับพฤติกรรมและความเข้าใจคนในประเทศด้วยแล้วหรือยัง ของญี่ปุ่น โทษการหมิ่นประมาทกษัตย์เทียบเท่ากับการหมิ่นประมาทคนทั่วไป แต่ที่สวีเดนการดูหมิ่นกษัตริย์และสมาชิกราชวงศ์ยังเป็นความผิดทางอาญา โดยมีโทษถึง 4 ปี หรือ 6 ปี… ฉะนั้น ขอถามว่ามาตรฐานของโลกคืออะไร เนเน่ว่าคำตอบคือ “หลากหลายและแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละประเทศ” ไม่ใช่ว่าเราเห็นของเพื่อนดีแล้วต้องซื้อตามเพื่อเสมอใช่ไหมละคะ เราต้องดูความเหมาะสมกับเราด้วย ในเมื่อปัจจุบันนี้สังคมไทยยังแตกแยกกันเพียงแค่หยิบประเด็นนี้มาพูดถึง ก็หมายความว่าเราอาจจะยังไม่พร้อม หรือเราต้องการเวลามากกว่านี้หรือเปล่า …ทำไมคุณต้องเร่งคะ?

ฉะนั้น ก้าวไกลคะ อุดมการณ์อยู่ที่การกระทำไม่ใช่คำพูด ที่คุณพิธาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ และล่าสุดกับ CNN ว่าโดนเกมการเมืองเอา ม.112 มากลั่นแกล้ง กีดกันตนเองที่ชนะมาด้วยเสียงของประชาชน จนไม่ได้รับตำแหน่งนายก… ก่อนจะตีหน้าเศร้า เล่านิทานว่าตนเป็นผู้ถูกกลั่นแกล้ง และโดนเข้าใจเจตนารมย์ผิด ที่อยากแก้ ม.112 คืออยากยกระดับสถาบันกษัตย์ไทยให้เท่ามาตรฐานโลกคุณมองย้อนหลังสักนิดนะคะ

ในวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมาคุณมีโอกาสเข้ามาทำงานตามที่ประชาชน 14 ล้านเสียงได้เลือกคุณมา (ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดแน่นอนที่อย่างแก้ ม.112 หลายคนหวังพึ่งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท และเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ 3,000 บาท และอีกหลายๆ นโยบายดีๆ) แต่คุณก็เลือกที่จะทิ้งโอกาสนั้นไป ทิ้ง 299 นโยบาย เพียงเพื่อนโยบายเพียง 1 เดียวของคุณ

การกระทำย้อนหลังไป 20 ปีของพวกคุณ ของกลุ่มที่สังคมสงสัยถึงความเชื่อมโยงกับพวกคุณ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ของคณะก้าวหน้า หรือแม้แต่ของคนในพรรคก้าวไกล และรายละเอียดในนโยบายของคุณเอง…. ทุกสิ่งมัน #ย้อนแย้ง โดยสิ้นเชิง การกระทำของคุณทำให้เรา ‘สงสัย’ เชื่อไม่ลงจริงๆ ว่าคุณมีความบริสุทธ์ใจ อยากทำเพื่อ ‘ยกระดับมาตรฐานให้สถาบันกษัตย์’ จริงๆ  พวกเราจำต้องยืนกรานพูดว่า “ไม่ใช่แค่เรื่อง ม112 แต่ด้วยแนวทางและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้” 

หรือให้เราพูดตรงๆ ก็คงต้องพูดเลยว่า…

“ที่คุณบอกว่าตั้งใจเข้ามายกระดับสถาบันกษัตย์ไทยให้เท่ามาตรฐานโลกนั้น #อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อค่ะ”

‘ทนายบอน’ ชงใช้ กม.ฟอกเงิน ปราบพวกทำลายความมั่นคงชาติ จี้!! สาวไส้คนบงการขบวนการตั๋วปารีส พร้อมเช็กบิลย้อนหลัง

(30 ก.ค. 66) นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ‘ทนายบอน’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อเรื่อง “ความผิดในการบ่อนทำลายความมั่นคงราชอาณาจักร ต้องใช้ ‘กฎหมายฟอกเงิน’ สาวไส้ ทลายรัง แบบ Forex-3D” โดยระบุรายละเอียดว่า

“ทุกวันนี้ในการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดที่บ่อนทำลายความมั่นคง บ่อนทำลายสถาบัน มักสาวไปไม่ถึงตัวบงการ ทั้ง ๆ ที่ตามพฤติการณ์ เราเห็นตัวการผู้ยุยง แต่ทำอะไรไม่ได้ พวกนี้จึงยุยงส่งเสริมคนอื่นออกมารับโทษแทน ทำตัวเป็นผู้บงการข้างหลัง อย่างเลือดเย็น ไม่เว้นแม้แต่หลอกใช้เด็ก เรื่องมาเริ่มชัดขึ้นกับไอ้ตั๋วปารีส แต่ก็เห็นว่ายังเฉยๆ และดูท่าว่ายังจะสาวไม่ถึงไอ้ตัวบงการ อีกแล้วหรือ ผมมีข้อเสนอให้บัญญัติฐานความผิด ‘ความมั่นคงของราชอาณาจักร’ ให้เป็นความผิดมูลฐานของ ‘การฟอกเงิน’ เพื่อเพิ่มอาวุธสาวไส้ขบวนการชั่วพวกนี้ทำนองเดียวกับคดียาเสพติด คดีการพนันออนไล์ คดีค้ามนุษย์ และคดีก่อการร้าย ถ้าให้ทันสมัยหน่อยก็แบบคดี Forex-3D ที่สาวได้ทุกธุรกรรม”

ทนายบอน ชี้ว่าเมื่อกำหนดให้เป็น ‘ความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน’ ปปง.จะตรวจสอบทะลุทุกธุรกรรม ทุกเครือข่ายความเชื่อมโยง ซึ่งสามารถนำไปสู่การ ‘สาวไส้ ทลายรัง’ ได้ พวกค้ายาเสพติด พวกค้ามนุษย์ โดยเฉพาะพวกพนันออนไลน์ สยองเหลือเกินกับกฎหมายนี้ เพราะโดนตามยึดทรัพย์ทลายรัง ไม่มีเหลือ ถ้ากำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เช่น มาตรา 112 หรือ มาตรา 120 สมคบกับต่างชาติทำลายความมั่นคงเป็น ‘ความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน’ จะสามารถทะลวงได้ถึงทุกธุรกรรม ทุกเครือข่าย สาวไส้ ทลายรัง ได้ทั้งขบวนการ ใครจ่ายเงินให้ใครไปหมิ่นสถาบัน ใครจ่ายเงินให้ใครไปชุมนุมก่อความไม่สงบ รู้หมด ถึงทุกไส้ ทุกรูขุมขน และสาวไส้ได้ ‘ย้อนหลัง’ ตั้งแต่ริเริ่มขบวนการ

ทนายบอน ระบุอีกว่า “นอกจากยึดทรัพย์แล้ว เราจะได้เห็นโครงข่ายเชื่อมโยงของขบวนการทั้งหมด เปิดหน้ากากตัวบงการได้ซะที เราจะรู้ได้ทั้งหมดใครบงการบ่อนทำลายสถาบันฯ ใครอยู่เบื้องหลังตั๋วปารีส ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ต้องอาศัยการเสนอแก้ไขกฎหมายในสภาฯ แล้วเชื่อไหมระหว่างการแก้ไข เราจะได้เห็นโฉมหน้าตัวบงการ โฉมหน้าขบวนการแนวร่วมได้ง่ายขึ้น ก็คือไอ้พวกที่คัดค้านหัวชนฝาในสภาฯ นั่นล่ะ และหลังจากแก้ไขกฎหมายได้แล้ว จะได้เริ่มสาวไส้ เปิดหน้ากาก ยึดทรัพย์ ดำเนินคดีอาญา ทะลวงรังซะที เห็นด้วยช่วยกันส่งเสียง จะได้เอาไปขับเคลื่อนกันต่อครับ”

‘ดร.หิมาลัย’ วอน อย่าให้ทุนนอกครอบการเมืองไทย หลังมีคนปูด ‘นักการเมือง’ รับเงินแก้ ม.112

จากกรณีที่มีนักกิจกรรมทางการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีนักการเมืองบางคนของพรรคที่จ้องจะแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 เคยได้รับเงินสนับสนุนจากทุนต่างชาติ เพื่อให้แก้ไขมาตราดังกล่าว รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา มีข้อมูลว่า ทุนจากต่างชาติให้การสนับสนุนกลุ่มเอ็นจีโอ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า การที่เอ็นจีโอได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเป็นการใช้เพื่อช่วยเหลือทางด้านสังคม ทางด้านเศรษฐกิจ หรือ การพัฒนาการเมือง แต่หากนำมาใช้เป็นทุนเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศนั้น ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นบ่อนทำลายชาติ

ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้มุมมองต่อว่า ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่ถูกต่างชาติแทรกแซงทางการเมืองจนนำไปสู่ความล่มสลาย ประเทศย่อยยับ ประชาชนต้องลี้ภัยหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพราะฉะนั้น จึงอยากจะตั้งคำถามกับพี่น้องคนไทยว่า เราจะยอมรับให้องค์กรต่างประเทศสนับสนุนการเงิน เพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วทำให้ประเทศเราพังทลายเช่นนั้นหรือ?

“ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีคนเคยถามผมหลายครั้งว่า ถ้าพรรคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาเป็นรัฐบาล จะรู้สึกอย่างไร ผมบอกว่าไม่ได้รู้สึกเสียใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ถึงอย่างไร ไทยก็ปกครองไทยด้วยกันเอง แต่หากเป็นพรรคการเมืองที่มีทุนต่างชาติหนุนหลัง และพยายามจะแทรกแซงการปกครองของไทย อันนี้ ผมจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็จะไม่มีวันยอมเช่นเดียวกัน”

ขณะเดียวกัน ดร.หิมาลัย ยังฝากถึงพรรคการเมืองและประชาชนที่พยายามจะยกเลิกมาตรา 112 ว่า อยากให้ทุกคนศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้และเป็นธรรม ในอดีตที่ผ่านมา สถาบันกษัตริย์ได้ต่อสู้กู้ประเทศชาติบ้านเมือง มีคุณูปการเป็นอเนกอนันต์ ด้วยความเสียสละ และวิริยะอุตสาหะอย่างมาก จนทำให้เรายืนหยัดเป็นชาติที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาตินักล่าอาณานิคม ทั้งจากเงินถุงแดง ที่รัชกาลที่ 3 ท่านทรงเก็บไว้ดูแลบ้านเมือง และได้นำไปไถ่ประเทศเมื่อครั้งเกิดวิกฤต ร.ศ.112

หรือแม้แต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างสัมพันธไมตรีกับชาติมหาอำนาจ ก็เพื่อรักษาประเทศชาติให้คงเอกราชไว้ให้ลูกหลาน

“ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำให้กับชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่จะมีคนรู้สึกรักและผูกพันกับสถาบันฯ และไม่ไว้วางใจพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่จะล้มสถาบันให้ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูถูกและด้อยค่าความจงรักภักดีที่คนส่วนใหญ่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ดร.หิมาลัย กล่าว

'ต้อม-ยุทธเลิศ' อัปเดต!! บทหนัง 1410 เวอร์ใหม่!! โครงเรื่องเปลี่ยน!! มุ่งเจาะ 'ตั๋วปารีส-ม็อบต้มตุ๋น'

หลังจาก ‘เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาชักชวนให้ประชาชน ร่วมกันแจ้งความผู้กำกับดัง ที่ขอเงินระดมทำหนัง แต่ก็เงียบหายไปนั้น 

ต่อมา ทาง ‘ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค’ ผู้กำกับหนังคนดัง ได้แจ้งความคืบหน้าผ่าน instagram baddirector.nmg ดังนี้...

นี่คือหนังที่ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของพรรคก้าวไกลพูดถึงและพยายามปั่นมาให้กลบข่าวแพ้คดีของตัวเอง ดีเลยจะได้ถือโอกาสนี้อัปเดตในทีเดียว

ครั้งแรกหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอุบายรวมมวลชนไปสบทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นนักเรียนนักศึกษาที่สนามหลวงเพื่อดูหนังผ่านมือถือ 

แต่เมื่อม็อบถูกสลายได้อย่างเบ็ดเสร็จ โครงเรื่องที่แต่แรกจะเล่าเรื่องแกนนำของนักเรียนนักศึกษา จึงเปลี่ยนไป 

ตัวดำเนินเรื่องจะเปลี่ยนเป็นเรื่องราวของศิลปินหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ศิลปินหนุ่มผู้ถูกเชิญไปพบกับท่อน้ำเลี้ยงของขบวนการล้มเจ้าที่มีอยู่จริงที่ฝรั่งเศส

ใช่ครับ Base on @headache_stencil 's True story ตีแผ่ขบวนการล้มเจ้าและขบวนการตุ๋นม็อบที่มาในนาม #บุ๊ง18มงกุฎ #นนท์ต้มตุ๋น และแม่ยกแซนเจริญ อย่างถึงแก่น 

สถานการณ์โครงการตอนนี้คือ เตรียมเรื่องเสนอ งบจากฝ่ายความมั่นคงของประเทศไทย

*โครงการนี้ไม่เคยเปิดรับบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวเหมือนมิจฉาชีพหลายคนในม็อบทำกัน แต่โครงการเปิดรับในลักษณะของผู้ร่วมลงทุนผ่านบัญชีบริษัท และบริษัทได้ปิดรับการโอนแต่ตั้งแต่มีเรื่องขัดแย้งกับมิจฉาชีพในม็อบ เป็นกลุ่มผู้อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าของม็อบราษฎร โครงการจึงปิดรับนายทุนไป แต่ครั้งนั้นระดมทุนได้ ล้านกว่าภายในเวลาเพียง 1 อาทิตย์ (จินตนาการถึงยอดเงินของพวกมิจฉาชีพที่จนปัจจุบันยังไม่ยอมเปิดเผยยอดบัญชีออกกันรึเปล่า?) หลังจากปิดรับเงิน ผู้กำกับก็เปิดวอร์ใช้กฎหมายไล่เช็กบิลพวกตุ๋นม็อบทีละคนทีละ จนถึงปัจจุบัน

*สำหรับใครที่เคยโอน แล้วต้องการเงินกลับ แจ้งแสดงหลักฐานได้ที่ทวิตเตอร์ ผู้กำกับเลว ได้ตลอดเวลา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top