จีน ปิ๊งไอเดีย ติดแบรนด์ ดีไซน์ชุดนักเรียน ให้โดดเด่น ทันสมัยกว่าเดิม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
เพจเฟซบุ๊ก ไทยคำจีนคำ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ชุดนักเรียนในประเทศจีน โดยระบุว่า ...
ช่วงนี้ประเทศมีประเด็นร้อน เกี่ยวกับ "ชุดนักเรียน" กันเยอะเลย
เมืองจีนเองก็มี และกลายเป็นปัญหาถกเถียง ส่วนใหญ่ในทำนองว่าทำไมชุดนักเรียนของเด็กจีนมันดู "เชย" จังเลย 🤔
โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น คนจีนยิ่งรู้สึกว่าตัวเองล้าหลังในเรื่องนี้
ยุคนี้หลายอย่างในจีนมีการนำข้อมูลตัวเลข หรือ Data เข้ามาจับ พบว่าธุรกิจชุดนักเรียนของจีน มีมูลค่าถึง 120,000 ล้านหยวน (6 แสนล้านบาท)
เพราะนักเรียนเขาเยอะ และเป็นกฎหมายที่บังคับให้ทุกโรงเรียนต้องใช้ชุดนักเรียน
สำหรับเจตนาของข้อกฎหมายตัวนี้ คือเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในสถาบันการศึกษา
และข้อสำคัญคือสร้างความ "เท่าเทียม" ให้ทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน ไม่ต้องแต่งหรูดูดีเกินไปมาอวดมาโชว์กัน
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เศรษฐกิจของจีนเติบโตมาตลาดหลายสิบปีหลัง และการเมืองค่อนข้างนิ่ง เพราะปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์มายาวนาน
ทำให้นอกจากจะไม่มีกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกชุดนักเรียนเหมือนในประเทศอื่นแล้ว กลับมีการตั้งคำถามว่า "ทำไมไม่เพิ่มมูลค่าให้กับชุดนักเรียน?"
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ "ดีไซน์" การออกแบบให้มีสไตล์โดดเด่น ทันสมัยกว่าเดิม
รวมถึงการ "ติดแบรนด์" ให้แบรนด์สินค้าเสื้่อผ้าดัง ๆ ได้เข้ามาผลิตชุดนักเรียนให้กับแต่ละโรงเรียน 🏫
แล้วแต่ว่าโรงเรียนแต่ละแห่ง มีกำลังซื้อมากน้อยเพียงใด นั่นเพื่อเป็นการเปิด "โอเพ่น" การทำการค้าการขายในตลาดนี้
ลดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นให้น้อยลง เพราะจากข้อมูลพบว่า ชุดนักเรียนทั่วประเทศจีน มีเพียง 1% ที่ผลิตแบบติดแบรนด์ โดยบริษัทที่มีชื่อเสียง
ที่เหลือเป็นการผลิตแบบ "ไม่ติดแบรนด์" ถามว่าใครจะไปผลิตให้กับโรงเรียนไหนได้บ้าง ก็ต้องอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้บริหาร
เข้าไปวิ่งเต้นพูดคุย และตกลงกันอย่างไร ผู้ปกครองและนักเรียนก็ไม่ค่อยรู้ที่มาที่ไป รู้ตัวอีกทีก็ได้ชุดนักเรียนแบบเชย ๆ ไม่สวย แต่จำใจต้องใส่มาใช้งาน
เสียงเรียกร้องให้มีการปฏิวัติภาพลักษณ์ของชุดนักเรียน ยังรวมไปถึงชุดว่ายน้ำ, ชุดพละ
โดยรัฐบาลเป็นผู้ออกมาขับเคลื่อนในสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง เร้งเร้าให้ภาคเอกชน และโรงเรียนต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และการรับรู้ของประชากรจีนในรุ่นต่อไป
พูดภาษาชาวบ้านคือ พอจีนเริ่มมีตังค์ ก็เริ่มให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ความสวยงามมากขึ้น
หลายปีต่อเนื่องมาแล้ว ในเมืองจีนมีการจัดการแข่งขันประกวดออกแบบชุดนักเรียน โดยขายคอนเซปต์ นำเสนอ จัดแฟชั่นโชว์ ถ่ายทอดสดผ่านสื่อ
ทำให้ชุดนักเรียนมีคุณค่าไม่ต่างจากเสื้อผ้าสวมใส่ทั่วไปในวาระอื่น ๆ
ด้วยประชากร 1.4 พันล้านคน และรัฐบาลผลักดันจริงจัง ทำให้อุตสาหกรรมชุดนักเรียนของจีนกำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี
และเมื่อการค้าขายคึกคักมากขึ้น มันจะส่งผลเป็นวัฏจักรไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากจะลบภาพจำของ "ชุดนักเรียนเชย ๆ" ได้แล้ว จีนยังมีหน้ามีตามากขึ้นในเวทีนานาชาติ พร้อมกับเงินในกระเป๋าของพลเมืองที่มากขึ้น
โรงเรียนไหนมีกำลังซื้อ จะใช้ชุดนักเรียนที่หรูหน่อย ก็ให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยินยอม
โรงเรียนขนาดกลางและเล็ก ปรับเปลี่ยนตามความสามารถของผู้ปกครอง ไม่มีการบังคับกัน แต่ทั้งประเทศไม่จำเป็นต้องใช้ชุดนักเรียนแบบเดียวกัน
สำคัญคือรัฐบาลเขาได้ยินเสียงบ่นของประชาชน เขานำเสียงบ่นกลับไปวิเคราะห์ออกมาเป็นรายละเอียด
และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขทันที ไม่มองว่าเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย
แม้แต่ชุดนักเรียนของเด็ก ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จีนเขามองข้าม