จตุพร’ มั่นใจ!! ‘พิธา’ อาจก้าวไม่ไกลถึง ‘นายกฯ’ ปมถือหุ้นสื่อ-ไม่สามารถรวมเสียงได้ถึง 376 เสียง

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ‘หนีความจริงไม่พ้น….’

นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งว่า คุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง ผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกฯ นั้น ไม่ใช่เรื่องจะนำมาวัดค่าว่า เป็นคนดีหรือไม่ดี อีกทั้งไม่เกี่ยวกับความชอบหรือไม่ชอบ แต่เป็นข้อกฎหมายห้ามไว้ให้กระทำได้หรือทำไม่ได้ ดังนั้น กฎหมายจึงเป็นหลักในการชี้ขาดคุณสมบัติทางการเมือง

กรณีการถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ล้วนเป็นต้นตอมาจากตัวเองฝ่าฝืนข้อห้ามของกฎหมาย โดยตอนแรกอาจไม่คาดคิดจะเกิดปัญหาขึ้น ส่วนวันนี้จะยอมรับความจริงหรือไม่ก็ตาม ก็หนีไม่พ้น อย่างไรก็ตาม แม้เทขายหรือโอนหุ้นออกไปจากตัวเองแล้ว แต่ไม่มีผลอะไรที่จะหนีข้อห้ามตามกฎหมาย ซึ่งได้กระทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว

“ปมการถือหุ้นของนายพิธา ขณะนี้ทุกฝ่ายล้วนเล่นเกมกันหลายฝ่าย เป็นเกมที่เริ่มตั้งแต่การออกกติกา แล้วช่วงแข่งขันเลือกตั้งก็ยังเล่นเกมลำหักลำโค่นชิงชัยชนะกันอยู่ อีกทั้งยังมีเกมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาผสมส่วนร่วมเล่นกรณีแจกใบเหลือง แดง ส้มกับว่าที่ ส.ส. ประมาณ 30 คนด้วย หากในจำนวนนี้มีบางส่วนหรือบางคนเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาถมทับหนักเข้าไปอีก โดยอาจถึงขั้นมีความผิดอาจลามไปถึงยุบพรรค ดังนั้น จึงควรจับตาในช่วง กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส. ในเดือน มิ.ย. นี้จะได้ครบถ้วนจำนวน 95% ของจำนวน ส.ส. 500 คนหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การเปิดประชุมสภาได้เลือกตำแหน่งประธานสภา” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า นายพิธา ควรต้องทำใจเย็นเอาไว้ พร้อมทั้งต้องคิดถึงการแก้ปัญหาจะเป็นอย่างไร หากจะสู้ให้รอด จะเป็นได้จริงหรือไม่ หรือถ้ารอดโดยให้มีโทษจะลดน้อยไม่ก่อกระทบกับคนอื่นอย่างไร ดังนั้น หลักคิดจึงอยู่ที่ความรับผิดชอบ ไม่ใช่เรื่องดี-ชั่ว ถึงอย่างไร แม้ไม่มีคดีหุ้นเป็นอุปสรรคในชัยชนะแล้วก็ตาม แต่โอกาสได้เป็นนายกฯ ยังยากอยู่ดี เพราะไม่ได้เสียงครบ 376 เสียงจากทั้งหมด 750 เสียงของสองสภารวมกัน

“พวก คสช.คณะยึดอำนาจชุดนี้ เหมือนทำวิจัยในช่วง 90 ปีมาอย่างดี โดยพิจารณาข้อดี ข้อด้อยของแต่ละรัฐบาลที่ผ่านมา และยังศึกษาความบกพร่องและอารมณ์ของคนไทย ดังนั้น ถ้า 3 ป. เป็นคนหักไม่ยอมงอ ประเภทคำไหนคำนั้น พวกเขาคงไปจากอำนาจนานแล้ว แต่คนพวกนี้กลับมีทั้งเล่นบทอ่อนและแข็งยึดหยุ่นกันไป เมื่อเสนอเรื่องอะไรถ้าถูกค้านก็ถอย ดังนั้นพวกเขาปกครองด้วยการไม่ใช่วิถีคนจริง แต่เป็นการลู่แรงลมต้านในบางช่วงขณะให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลาย แล้วคนไทยก็เบาใจมาตลอด 9 ปี” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ มีปัจจัยภายนอกเป็นเงื่อนไขทับซ้อนมากมาย 
วันนี้คนคิดเป็นนายกฯ ยังเห็นหน้าลอยในมุมมืดเฝ้ารอคอยอยู่ ส่วนนายพิธา ตนมั่นใจว่า ไม่ได้เป็นนายกฯ 100% เพราะมีคุณสมบัติต้องห้ามและไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 376 เสียง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางกฎหมายและเกมกติกากำหนด โดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ตามที่อารมณ์ความรู้สึกต้องการ