‘วรนัยน์’ ชี้ ไทยไร้ภาวะสงคราม ไม่จำเป็นต้องบังคับเกณฑ์ทหาร แนะ ควรมองบริบทโดยรวมที่แตกต่างของแต่ละประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ นายวรนัยน์ วาณิชกะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า ได้โพสต์คลิปผ่านติ๊กต็อกส่วนตัว ชื่อ ‘voranai11’ ถึงกรณีการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร โดยได้ยกตัวอย่างสาเหตุของแต่ละประเทศในการต้องมีทหาร ว่า…

“เนื่องจากเป็น ส.ส. สอบตก ทำให้ในช่วงนี้ผมได้มีเวลามากขึ้น เพราะฉะนั้น อยากจะใช้โอกาส ตอบข้อโต้แย้งเกี่ยวกับประเด็นวิดีโอยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่ผมได้ทำมาประมาณเดือนกว่าแล้ว และได้ยอดวิวในติ๊กต็อกมาประมาณ 3 ล้านวิว

ประเด็นแรก หลายคนพูดว่า ประเทศไทยไม่ควรและไม่จำเป็นต้องทำแบบประเทศอื่น ผมอยากจะเสนอแนวคิดนี้ครับ มนุษย์เราอยู่บนโลกที่กว้างใหญ่ มีความรู้ไร้ขีดจำกัด การวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นก็คือการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะเรียนรู้ได้ สิ่งใดที่ดี เรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ สิ่งใดที่ไม่ดี เรียนรู้ เพื่อที่จะไม่นำมาประยุกต์ใช้ นี่คือวิถีของมุนษย์ ที่ไม่ยอมที่จะอยู่ในกะลา

ประเด็นที่สอง ประเทศอิสราเอล ประเทศเกาหลีใต้ หรือประที่เจริญแล้ว ก็ยังมีการเกณฑ์ทหาร ถูกต้องครับ แต่เราต้องเข้าใจบริบทของ geopolitics หรือ ที่เราเรียกว่า ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ หรือ ‘ภูมิศาสตร์การเมือง’ ของแต่ละประเทศ ผู้นำทั่วโลกต่างตระหนักดีว่า เกาหลีเหนือมีความต้องการที่จะบุกยึดเกาหลีใต้ ผู้นำทั่วโลกตระหนักดีว่า อิหร่านมีความต้องการที่จะบุกยึดอิสราเอล เพราะฉะนั้น ทั้ง 2 ประเทศนี้ จึงต้องมีความพร้อมที่จะสู้รบสงครามครั้งใหญ่ทุกเมื่อ เกาหลีใต้ จึงต้องมีการเกณฑ์ทหาร และนอกจากนี้ อิสราเอลยังมีการเกณฑ์ทหารทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย นั่นคือบริบทของประเทศนั้นๆ”

เมื่อถามถึงบริบทของประเทศไทย นายวรนัยน์ กล่าว่า ไม่มีประเทศเพื่อนบ้านของเราประเทศไหน ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย หรือประเทศใดก็ตาม มี national agenda หรือ ‘วาระแห่งชาติ’ ที่จะบุกยึดประเทศไทย เมียนมาก็ไม่มี national agenda ที่จะบุกยึดประเทศไทย เพราะนายพลของเมียนมา มีความสนิทสนมกับนายพลของประเทศไทย มีความรักกันมาก รักกันยิ่งกว่ารักประชาชนในประเทศของตัวเองเสียอีก ตนไม่ได้กลัวว่านายพลของเมียนมาจะส่งทหารมายิงคนไทย แต่ตนเป็นห่วงว่านายพลของไทย จะส่งทหารมายิงคนไทย นี่คือ บริบทของประเทศไทยของเรา

เมื่อถามว่า ชายแดนของไทยเรามีปัญหาหรือไม่? นายวรนัยน์ ตอบว่า มี แต่ทหารอาสาที่สมัครใจมาเป็นทหารที่เรามีอยู่ สามารถจัดการได้ ทหารพรานที่สมัครใจ สามารถจัดการได้

อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดถึง คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่หลายคนโต้แย้งว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ได้อยู่ในบริบทที่จะมีใครมาบุกยึดด้วยซ้ำไป เป็นนายธนาคารของทั้งโลก แต่ก็ยังมีการเกณฑ์ทหาร นายวรนัยน์ ได้อธิบายไว้ว่า “ถูกต้องครับ เขามีการเกณฑ์ทหาร เมื่อถามว่าบริบทคืออะไร ประการแรก คือ ทหารเกณฑ์ของประเทศเขา ไม่ใช่ทหารรับใช้ ไม่มีใครต้องมานั่งซักเสื้อผ้าให้คุณนาย หรือคอยรับใช้นายพล เขาเหล่านั้นเป็นทหารที่ถูกฝึกและใช้งานอย่างมืออาชีพ ประเด็นที่สอง เขามีทางเลือก หากใครไม่อยากเป็นทหาร เขาสามารถเลือก Alternative civilian service หรือ ‘บริการพลเรือนทางเลือก’ ได้ ว่าจะไปอยู่หน่วยกู้ภัย หรือหน่วยอื่นๆ ตรงส่วนนี้ก็สามารถเลือกได้”

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการทำประชามติ ว่าจะยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ ผลออกมาคือ 70% บอกว่า “ไม่ยกเลิก” ไม่ยกเลิก ก็คือไม่ยกเลิก นี่คือวิถีของประชาธิปไตย ร่วมกันตัดสินใจ

เมื่อถามว่า แล้วอย่างนี้ ประเทศไทยควรมีการร่วมกันทำประชามติ เรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่? นายวรนัยน์ ตอบว่า “ไม่จำเป็น ตอนนี้เลือกตั้งเสร็จแล้ว พรรคใหญ่ที่ชนะการเลือกตั้ง อันดับ 1 และ อันดับ 2 ทั้ง 2 พรรค ชูนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ดังนั้น เขามีมติอยู่แล้ว ในสภาฯ ก็ผ่านได้ เพราะฉะนั้น การยกเลิกเกณฑ์ทหารก็เป็นวิถีของประชาธิไตยอยู่แล้ว และนี่คือ การใช้หลักการประชาธิไตย ที่จะตัดสินทิศทางของประเทศไทยต่อไป”