Sunday, 5 May 2024
ทหารมีไว้ทำไม

‘พิธา’ ขึ้นเวทีปราศรัยเมืองกาญฯ ชู ‘ทลายทุนทหาร’ คืนที่ดิน-งบประมาณให้ ปชช. เอาทหารออกจากการเมือง

เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัย จังหวัดกาญจนบุรี เผย ตั้งแต่เดินทางมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ตนนึกถึงโจทย์ความท้าทายทางการทหาร พร้อมยกตัวอย่างวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีเป็นวัน ‘Anzac Day’ ของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นความทรงจำแรกต่อกาญจนบุรีของตน ซึ่งเป็นวันแสดงความรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในสงคราม โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นจุดที่ทำให้คิดถึงความท้าทายในยุคสมัยนั้น เป็นความท้าทายทางทหารในอดีต

แต่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ความท้าทายทางทหารแบบเดิมก็เปลี่ยนไป กลายเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ความท้าทายจากสังคมสูงวัยและทางดิจิทัลแทน แม้ว่าทุกวันนี้ความท้าทายและความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่ แต่ไม่มีใครเอาทหารไปรบกันตรง ๆ เป็นหลักอีกแล้ว ดังนั้น ตนจึงอยากตั้งคำถามถึงปัจจุบันว่า ทหารมีไว้ทำไม คำตอบคือ ทหารมีไว้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วันนี้ตนจึงชวนมาทำลายทุนทหารที่กาญจนบุรีด้วยกัน

นายพิธากล่าวกลางเวทีปราศรัยว่า พื้นที่ที่เป็นที่ดินของกองทัพมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ คือ ที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมยกตัวอย่างโรงสูบน้ำเพื่อประชาชน ที่ตำบลท่าเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท แต่ไม่สามารถสูบน้ำได้สักหยด เนื่องจากอยู่บนที่ดินทหาร พี่น้องที่แก่งเสี้ยนอยากจัดการขยะก็จัดการไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่ทหาร

นายพิธาย้ำอีกว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทหารจำเป็นต้องใช้ที่ดิน โดยที่ดินราชพัสดุมีทั้งหมด 12 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งของที่ราชพัสดุเป็นที่ดินของกองทัพ คิดเป็นขนาดง่าย ๆ คือ มี 5 กรุงเทพรวมกัน ยังไม่มากเท่าที่ดินทหาร เมื่อมีที่ดินกองทัพก็นำมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด โยนตั้งคำถามต่ออีกว่า ทหารทำธุรกิจ แต่งบประมาณในการทำธุรกิจของกองทัพ ทำไมไม่เคยเข้าหลวงเลย แต่กลับเก็บเงินเข้าขุมทรัพย์สีเขียว พร้อมตั้งคำถามว่านี่คือหน้าที่ของทหารไทยหรือไม่

โดยนายพิธาเชื่อว่า ตนขึ้นมาพูดนโยบาย ‘ททท.’ เพื่อชาวกาญจนบุรี นั้นต่างจากพรรคการเมืองที่ผ่านมา เพราะ ‘ททท.’ ของตน ไม่ใช่นโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่คือ ‘ทลายทุนทหาร’

“ทหารมีไว้เพื่อทำสนามกอล์ฟ สนามมวย สนามม้า ปั๊มน้ำมัน บาร์ลับ ร้านกาแฟ โรงแรมหกดาว ทำบ้านสวัสดิการโกงกินจนเกิดเหตุกราดยิงที่โคราช นี่คือหน้าที่ทหารหรือ?” นายพิธาตั้งคำถาม

นายพิธาเปิดเผยต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงสำคัญในการตัดวงจรอุบาทว์ เอาทหารออกจากการเมือง ให้เหมือนแยกน้ำออกจากน้ำมัน ไม่ให้มีวันบรรจบกันอีก การแก้แบบก้าวไกล คือ การแก้ไขปัญหาทั้งหมด ทำแบบที่นักการเมืองเขาไม่ทำหรือไม่กล้าที่จะทำกัน

โดยหัวหน้าพรรคเสนอการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

1.) แจกใบแดงให้นายทหาร ภายใน 7 ปีหลังเกษียณไม่สามารถเข้าสู่การเมืองได้
2.) ระบบเสนาธิการร่วม ผู้นำกองทัพอยู่ใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
3.) ยกเลิกศาลทหาร
4.) ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ
5.) รีดไขมันจากกองทัพ เอางบประมาณมาทำสวัสดิการประชาชน

โดยบนเวทียังมีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.​พรรคก้าวไกล 5 จังหวัด พร้อมการปราศรัยแนวนโยบาย ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล และนางอมรัตน์ โชคปมิตตกุล

โดยว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลทั้ง 5 จังหวัด ประกอบด้วย

จังหวัดราชบุรี
เขต 1 นภดล อารีประเสริฐกุล
เขต 2 ปีรเมษ มณีโชติ
เขต 3 ภิญโญศิลป์ สังวาลวงศ์
เขต 4 วิชา อินทร์จันทร์
เขต 5 ธนพจน์ ทรัพย์ยอดแก้ว

เจาะนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและปฏิรูปกองทัพ พรรค 'ก้าวไกล-เพื่อไทย-เสรีรวมไทย' คิดอะไรกันอยู่?

วิเคราะห์นโยบายของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๖

การเกณฑ์ทหารคือ การระดมและเตรียมพร้อมสรรพกำลังของชาติ เพื่อดำรงคงไว้ซึ่ง ‘ศักย์สงคราม’ (War Potential) เพื่อให้ประเทศชาติมีความพร้อมต่อภัยคุกคามจากอริราชศัตรู

หลาย ๆ คนที่ตั้งคำถามว่า เราจะเตรียมทหารให้พร้อมเพื่อรบกับใคร การรบครั้งล่าสุดของกองทัพไทยเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาคือ กรณีการปะทะกับกัมพูชาตามแนวชายแดน อันเนื่องมากจากข้อพิพาทระหว่างกันในเรื่อง ‘เขาพระวิหาร’ พ.ศ. 2553 และพึ่งจะครบ 35 ปี ในกรณีการปะทะกับสปป.ลาว อันเนื่องมากจากข้อพิพาทระหว่างกันในเรื่อง ‘ชายแดนบริเวณบ้านร่มเกล้า อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก’   

อีกทั้งบนโลกใบนี้มีสงครามและความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา การดำรงคงไว้ซึ่ง ‘ศักย์สงคราม’ เพื่อให้ประเทศชาติมีความพร้อมในการป้องกันประเทศจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยถือเป็นการประกันเอกราชและอธิปไตยของชาติ

นอกจากนั้นแล้ว หน่วยทหารของเราตลอดแนวชายแดนไม่ว่าทางบกหรือทางน้ำ ต้องทำหน้าที่สกัดกั้นหยุดยั้งภัยคุกความต่อความมั่นคงและสังคม ไม่ว่าจะเป็น การจับกุมคาราวานยาเสพติด การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง สินค้าหนีภาษี การบ่อนทำลายทรัพยากรธรรมชาติของชาติ เช่น การลักลอบตัดไม้ การจับสัตว์น้ำ ฯลฯ ด้วยกำลังและยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบภารกิจนั้น ๆ ไม่เพียงพอต่อภารกิจที่ต้องดูแลรับผิดชอบ

กองทัพไทยยังต้องรับผิดชอบดูแลสถานการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้นับแต่เหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2547 ซึ่งถูกมองว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในระลอกใหม่ ต่อเนื่องยาวนานมากว่า 19 ปีแล้ว 

และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อเกิดบรรดาพิบัติภัยต่าง ๆ ขึ้น ก็ต้องอาศัยกำลังพลตลอดจนยุทโธปกรณ์ของกองทัพในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในทุกมิติ

‘พลทหารหนุ่ม’ อัดคลิปติ๊กต็อก ตอกกลับชาวเน็ตปากแจ๋ว หลังเจอคอมเมนต์เหมารวม ถาม “ศักดิ์ศรีของทหาร ยังมีอยู่หรือ?”

เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งชื่อ ‘9bill official’ ได้ออกมาพูด ถึงกรณี ‘ศักดิ์ศรีของทหาร’ โดยเจ้าตัวเผย ว่า ตนเป็นทหารยศสิบเอก เป็นทหารชั้นผู้น้อย การที่ตนได้ออกมาทำคลิปดังกล่าวนั้น เป็นการทำเพื่อสาธารณประโยชน์ และให้ความรู้ ความเข้าใจแก่น้อง ๆ เยาวชน เพื่อนำไปใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจ ในการสมัครทหาร หรือการสอบนายสิบ

โดยพลทหารหนุ่มได้กล่าวต่อว่า ทหารทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณฐานตามแนวชายแดน และในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ การที่ทหารเหล่านี้ต้องจับปืน ออกไปเสี่ยงภัย ไปทำหน้าที่เพื่อปกป้องประชาชน และความสงบสุขของประเทศชาติ ยังไม่เสียสละพออีกหรือ?

นอกจากนี้ พลทหารหนุ่มได้ย้อนถามกลับผู้ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่าร้ายทหารแบบเหมารวม ว่า มีความกล้าแบบนี้หรือไม่ แม้แต่เกณฑ์ทหารยังไม่กล้าเลย

“ชายไทย อายุ 21 ปี ต้องเกณฑ์ทหาร เราเป็นชายไทย เกิดเป็นผู้ชายก็ต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ถูกต้องไหม? ซึ่งคุณจะสมัคร หรือหยิบใบดำใบแดงก็แล้วแต่คุณ แต่อย่ามาพูดแบบนี้อีกนะน้องนะ พี่เตือนไว้นะ อย่าไปพูดแบบนี้อีก ถ้าด่าผมคนเดียว ผมไม่ว่าอะไรเลย ผมจะไม่ตอบกลับเลย แต่นี่คุณเหมือนด่าองค์กรผม ผมขอบอกเอาไว้เลยนะครับว่า องค์กรทหาร เป็นองค์กรที่ศักดิ์สิทธิ์ ทหารไม่ได้เพิ่งมีเมื่อปี 24 นะครับ ทหารมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สืบทอดกันมา ทหารเรามีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ดูแล ปกป้องประชาชน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

การอพยพพี่น้องคนไทยจากซูดาน ยามศึกเรารบ...ยามสงบเราช่วยเหลือประชาชน ตอบคำถาม..ทหารมีไว้ทำไม!

เหตุการณ์ความไม่สงบในซูดาน จากปากของนักเรียนไทยซึ่งเพิ่งลงเครื่องบินลำเลียง C-130 ของกองทัพอากาศที่ปัตตานี ว่าสถานการณ์ที่ซูดาน เลวร้าย ชนิดที่โรงพยาบาลไม่พอรองรับผู้บาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตตามท้องถนนให้เห็นโดยทั่วไป


สำหรับคนไทยในซูดานมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศไปรับจากที่พักขึ้นรถบัสเพื่อไปลงเรือเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย เพื่อขึ้นเครื่องบินที่รัฐบาลไทยส่งมารับรอบแรก 73 คน ต้องเดินทางและรอ 2 วัน จึงได้ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศไทยกลับบ้าน


เรื่องที่เหนือความคาดหมายคือ บรรดาประเทศใหญ่ ๆ ที่มีสถานทูตตั้งอยู่ในซูดานในเบื้องต้นได้ทำการอพยพเฉพาะเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกมาหมด ก่อนประกาศปิดสถานทูต แต่ยังไม่ได้อพยพพลเมืองของตัวเองออกมา เพียงแต่บอกว่า ให้ระวังตัว และอย่าออกมานอกบ้าน (สหรัฐฯเริ่มทำการอพยพพลเมืองที่อยู่ในซูดานเมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน) แต่ไทยซึ่งไม่มีสถานทูตตั้งอยู่ในซูดาน ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการอพยพคนไทยออกจากซูดาน ตอนนี้คนไทยอพยพออกจากกรุงคาร์ทูมซึ่งเป็นจุดที่มีการสู้รบรุนแรงที่สุดออกมาได้ คนไทยและนักศึกษาไทยทุกคนช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ พยายามหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อันนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภารกิจประสบผลสำเร็จ จึงต้องขอแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและพี่น้องคนไทยเหล่านั้นด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อต้อนรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในสาธารณรัฐซูดาน ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เป็นชุดแรก จำนวน 78 คน แบ่งออกเป็นผู้ชาย 38 คน และผู้หญิง 40 คน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ


เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง แล้ว คนไทยทั้ง 78 คน ได้รับบริการตรวจสุขภาพ โดยกรมควบคุมโรค และกรมสุขภาพจิต, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, การตรวจสอบสิทธิ์และให้คำแนะนำด้านต่าง ๆ โดยกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น

‘ทภ.2’ ปล่อยคลิปการ์ตูน สื่อถึงความสำคัญของการมีทหาร ตัดพ้อโซเชียล!! ถูกโจมตี-ถูกตั้งคำถาม ทั้ง ๆ ที่ทำเพื่อชาติ

(8 พ.ค. 66) ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งคลิปภาพการ์ตูนประกอบเพลงแร็ป ที่ชื่อว่า ‘มีทหารไว้ทำไม’ เผยแพร่โดยไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้จัดทำขึ้น เนื้อหาเล่าเรื่องราวการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในสนามรบ ท่ามกลางความเป็นห่วงของครอบครัวในเรื่องความปลอดภัย แต่ทหารก็ยังย้ำในหน้าที่ปกป้องชาติ และ ประชาชน ก่อนที่คลิปดังกล่าวจะตัดไปเป็นภาพการ์ตูนผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตขาวชี้นิ้ว และมีข้อความเป็นคำพูดว่า “เราไม่ต้องการทหาร กลับเข้ากรมกองไป ไร้ประโยชน์ ประเทศอื่นเขาไม่รบกันแล้ว สมัยนี้เขาใช้เรือประมงไปรบแล้ว เปลือง และกระจอก เขาไม่รบกันแล้ว รบไปก็ไม่ชนะ“ โดยมีฉากหลังเป็นทหารเดินลาดตระเวนในสนาม 

นอกจากนั้น ยังมีภาพการ์ตูนทหารในภารกิจช่วยประชาชนช่วงน้ำท่วม ตัดสลับกับการ์ตูนชายเชิ้ตขาวคนเดิม ชี้นิ้วพร้อมคำพูดที่ว่า “กลับไป ไม่ใช่หน้าที่ทหาร อย่ามายุ่ง” ก่อนจะเป็นคำพูดของทหารที่บอกว่า “หน้าที่ของพวกเราคือช่วยประชาชนไม่ใช่เหรอ ?” ต่อด้วยประโยคคำพูดที่ว่า “เราคงต้องอดทน อดทนเข้าไว้ ไม่ว่าใครจะเกลียดเรา” 

ตบท้ายด้วยการ์ตูนทหารกราบเท้าหญิงสูงอายุนอนป่วย พร้อมกล่าวอำลา มีข้อความว่า “วันนี้ไม่ชอบทหารก็ไม่เป็นไร แต่ทหารพร้อมช่วยเหลือประชาชนอยู่เสมอ แม้ว่าประชาชนบางส่วนไม่ต้องการทหาร แต่ทหารก็ยังเตรียมตัวพร้อมไว้เสมอ เพราะนี่คือทหารไทยที่พร้อมรับทุกสถานการณ์ ขอให้กำลังใจทหารที่ทำงานมาโดยตลอด อีกทั้งขอขอบคุณทหารไทย จนกว่าจะพบกันใหม่เมื่อประชาชนต้องการ 

‘วรนัยน์’ ชี้ ไทยไร้ภาวะสงคราม ไม่จำเป็นต้องบังคับเกณฑ์ทหาร แนะ ควรมองบริบทโดยรวมที่แตกต่างของแต่ละประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ นายวรนัยน์ วาณิชกะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า ได้โพสต์คลิปผ่านติ๊กต็อกส่วนตัว ชื่อ ‘voranai11’ ถึงกรณีการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร โดยได้ยกตัวอย่างสาเหตุของแต่ละประเทศในการต้องมีทหาร ว่า…

“เนื่องจากเป็น ส.ส. สอบตก ทำให้ในช่วงนี้ผมได้มีเวลามากขึ้น เพราะฉะนั้น อยากจะใช้โอกาส ตอบข้อโต้แย้งเกี่ยวกับประเด็นวิดีโอยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่ผมได้ทำมาประมาณเดือนกว่าแล้ว และได้ยอดวิวในติ๊กต็อกมาประมาณ 3 ล้านวิว

ประเด็นแรก หลายคนพูดว่า ประเทศไทยไม่ควรและไม่จำเป็นต้องทำแบบประเทศอื่น ผมอยากจะเสนอแนวคิดนี้ครับ มนุษย์เราอยู่บนโลกที่กว้างใหญ่ มีความรู้ไร้ขีดจำกัด การวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นก็คือการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะเรียนรู้ได้ สิ่งใดที่ดี เรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ สิ่งใดที่ไม่ดี เรียนรู้ เพื่อที่จะไม่นำมาประยุกต์ใช้ นี่คือวิถีของมุนษย์ ที่ไม่ยอมที่จะอยู่ในกะลา

ประเด็นที่สอง ประเทศอิสราเอล ประเทศเกาหลีใต้ หรือประที่เจริญแล้ว ก็ยังมีการเกณฑ์ทหาร ถูกต้องครับ แต่เราต้องเข้าใจบริบทของ geopolitics หรือ ที่เราเรียกว่า ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ หรือ ‘ภูมิศาสตร์การเมือง’ ของแต่ละประเทศ ผู้นำทั่วโลกต่างตระหนักดีว่า เกาหลีเหนือมีความต้องการที่จะบุกยึดเกาหลีใต้ ผู้นำทั่วโลกตระหนักดีว่า อิหร่านมีความต้องการที่จะบุกยึดอิสราเอล เพราะฉะนั้น ทั้ง 2 ประเทศนี้ จึงต้องมีความพร้อมที่จะสู้รบสงครามครั้งใหญ่ทุกเมื่อ เกาหลีใต้ จึงต้องมีการเกณฑ์ทหาร และนอกจากนี้ อิสราเอลยังมีการเกณฑ์ทหารทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย นั่นคือบริบทของประเทศนั้นๆ”

เมื่อถามถึงบริบทของประเทศไทย นายวรนัยน์ กล่าว่า ไม่มีประเทศเพื่อนบ้านของเราประเทศไหน ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย หรือประเทศใดก็ตาม มี national agenda หรือ ‘วาระแห่งชาติ’ ที่จะบุกยึดประเทศไทย เมียนมาก็ไม่มี national agenda ที่จะบุกยึดประเทศไทย เพราะนายพลของเมียนมา มีความสนิทสนมกับนายพลของประเทศไทย มีความรักกันมาก รักกันยิ่งกว่ารักประชาชนในประเทศของตัวเองเสียอีก ตนไม่ได้กลัวว่านายพลของเมียนมาจะส่งทหารมายิงคนไทย แต่ตนเป็นห่วงว่านายพลของไทย จะส่งทหารมายิงคนไทย นี่คือ บริบทของประเทศไทยของเรา

เมื่อถามว่า ชายแดนของไทยเรามีปัญหาหรือไม่? นายวรนัยน์ ตอบว่า มี แต่ทหารอาสาที่สมัครใจมาเป็นทหารที่เรามีอยู่ สามารถจัดการได้ ทหารพรานที่สมัครใจ สามารถจัดการได้

อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดถึง คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่หลายคนโต้แย้งว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ได้อยู่ในบริบทที่จะมีใครมาบุกยึดด้วยซ้ำไป เป็นนายธนาคารของทั้งโลก แต่ก็ยังมีการเกณฑ์ทหาร นายวรนัยน์ ได้อธิบายไว้ว่า “ถูกต้องครับ เขามีการเกณฑ์ทหาร เมื่อถามว่าบริบทคืออะไร ประการแรก คือ ทหารเกณฑ์ของประเทศเขา ไม่ใช่ทหารรับใช้ ไม่มีใครต้องมานั่งซักเสื้อผ้าให้คุณนาย หรือคอยรับใช้นายพล เขาเหล่านั้นเป็นทหารที่ถูกฝึกและใช้งานอย่างมืออาชีพ ประเด็นที่สอง เขามีทางเลือก หากใครไม่อยากเป็นทหาร เขาสามารถเลือก Alternative civilian service หรือ ‘บริการพลเรือนทางเลือก’ ได้ ว่าจะไปอยู่หน่วยกู้ภัย หรือหน่วยอื่นๆ ตรงส่วนนี้ก็สามารถเลือกได้”

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการทำประชามติ ว่าจะยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ ผลออกมาคือ 70% บอกว่า “ไม่ยกเลิก” ไม่ยกเลิก ก็คือไม่ยกเลิก นี่คือวิถีของประชาธิปไตย ร่วมกันตัดสินใจ

เมื่อถามว่า แล้วอย่างนี้ ประเทศไทยควรมีการร่วมกันทำประชามติ เรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่? นายวรนัยน์ ตอบว่า “ไม่จำเป็น ตอนนี้เลือกตั้งเสร็จแล้ว พรรคใหญ่ที่ชนะการเลือกตั้ง อันดับ 1 และ อันดับ 2 ทั้ง 2 พรรค ชูนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ดังนั้น เขามีมติอยู่แล้ว ในสภาฯ ก็ผ่านได้ เพราะฉะนั้น การยกเลิกเกณฑ์ทหารก็เป็นวิถีของประชาธิไตยอยู่แล้ว และนี่คือ การใช้หลักการประชาธิไตย ที่จะตัดสินทิศทางของประเทศไทยต่อไป”
 

'รองโฆษก รทสช.' ยกเหตุการณ์ 'ฮามาส' บุก 'อิสราเอล' หนุนไทยยังต้องมีเกณฑ์ทหารและฝ่ายค้านบางพรรคควรตระหนัก

(18 ต.ค. 66) นายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก 'เก็ต ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา' ระบุว่า...

ทำไมไทยถึงยังต้องมีเกณฑ์ทหาร?

ดูเหตุการณ์ปะทะระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์สิครับ

กองกําลัง Hamas สามารถบุกเข้าโจมตีอิสราเอลได้ ลักพาตัวประกันได้ (นี่ขนาดอิสราเอลมีเกณฑ์ทหารทั้งชายเเละหญิง)

หันมาที่บ้านเรา ก่อนที่ฝ่ายค้านจะค้านว่าเราไม่ได้มีสงคราม หรือ เป็นศัตรูกับใคร อย่าลืมว่าเฉกเช่นกับการเมืองไทย การเมืองโลกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ชนวนความขัดแย้งภูมิภาคสามารถปะทุได้ทุกเมื่อ หากเรามีกองกําลังไม่พอ พอเกิดเหตุการณ์ที่ ‘ไม่คาดฝัน’ เราจะไม่มีอะไรมาประกันความปลอดภัยของคนไทยนะครับ

เเน่นอนเรื่องปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย และจัดการเรื่อง corruption ในกองทัพต้องมีการแก้ไขเเละตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

ผมสนับสนุนให้ยังคงมีเกณฑ์ทหาร เพิ่มสัดส่วนภาคสมัครใจควบคู่กันไป เพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้ทหารชั้นผู้น้อย และงบการฝึกซ้อมยุทโธปกรณ์ เพื่อที่กองทัพไทยจะพร้อมรบ ปกป้องดินแดนไทยเเละคนไทยครับ

10 ประเด็นจาก Pigkaploy ตะลุยชายแดน อาจคลายปมข้อข้องใจ “มีทหารไว้ทำไม?”

หลายท่านที่มีโอกาสได้ติดตามช่อง ‘Pigkaploy’ ของ ‘พลอย’ พลอยไพลิน ตั้งประภาพร นักแสดงอิสระ และยูทูปเปอร์สาวด้านการท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับคนที่มักจะมีคำถามถึง การมีอยู่ของ ‘ทหาร’ ในยุคนี้ จำเป็นแค่ไหน? มีไว้ทำไม? และมักจะขยายความถึงเม็ดเงินภาษีที่ต้องเสียไปเพื่อดูแลเหล่าทหารหาญเหล่านี้ในเชิงลบ คงสะอึกกับภาพที่เกิดขึ้นจริงผ่าน EP ที่มีชื่อว่า ‘ลองใช้ชีวิตเป็นทหารชายแดนเหนือ 3 วัน 2 คืน l ไทย-เมียร์มาร์’ เพื่อติดตามภารกิจการปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ว่าจะการปราบปรามการลักลอบข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายผ่านเส้นทางธรรมชาติ การลักลอบขนยาเสพติด และตัดไม้ทำลายป่า และล่าสัตว์โดยผิดกฎหมาย โดยเธอสวมเครื่องแบบทหารจริง

โดยคลิปดังกล่าวจะเป็นตอนที่ 1 จากซีรีส์ตระเวนชายแดนที่ตอนต่อไปจะเป็นการไปเยือนชายแดนภาคอีสาน-เขาพระวิหาร และ ชายแดนใต้ ยะลา-ปัตตานี

สำหรับในส่วนของสาระสำคัญจากคลิปซีรีส์ชายแดนไทย-เมียร์มานั้น หากให้สรุปแล้ว จะมีประเด็นสำคัญให้พิจารณาตาม ดังนี้…

1. การเดินทางจากฐานปฏิบัติการห้วยเป้า อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปยังแปกแซม อ.เวียงแหง ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ด้วยการนั่งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อทางทหาร เป็น 3 ชั่วโมงที่ทรหดมากๆ สำหรับคนธรรมดา

2. สภาพที่นอนปกติของเจ้าหน้าที่ทหารประจำฐานทั้ง 16 นายในฐานที่พัก มีแค่อาคารมุงกระเบื้องขนาดเล็ก สำหรับเป็นที่นอน และที่เก็บสัมภาระส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องประจำการอยู่บนฐานตลอด 1 ปีก่อนที่จะมีการผลัดเปลี่ยน อีกทั้งไม่มีไฟฟ้าใช้นอกจากโซลาร์เซลล์

3. การนอน จะไม่สามารถนอนได้อย่างเต็มที่ ต้องระแวดระวัง ผลัดเวรกันตลอด และก็ต้องไม่มีการติดไฟด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกมองเห็นจากภายนอกได้ง่าย 

4. การกิน เจ้าหน้าที่จะมีการลงเขาไปนำเสบียงขึ้นมาเพื่อใช้ทำอาหาร 5 วันต่อครั้ง โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำอาหาร ซึ่งทุกคนจะต้องทำอาหารเป็นโดยใช้ฟืน ไม่ได้มีอาหารการกินแบบพร้อมสรรพ

5. น้ำดื่มเป็นน้ำบรรจุขวดที่ขนขึ้นมา เนื่องจากสะดวกใช้งานมากกว่า ในขณะที่น้ำใช้ จำเป็นต้องใช้ปั๊มดูดขึ้นมา แต่ต้องใช้อย่างประหยัด

6. การปฏิบัติหน้าที่ จะเห็นภาพการปฏิบัติการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ทหาร ป้องกันการถูกโจมตี ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์รบเกิดขึ้นเลย แต่จำเป็นจะต้องปฏิบัติเอาไว้เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน หากมีสถานการณ์เกิดขึ้นจริง ก็จะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที7. ต่อเนื่องจากข้อที่ 6 จะไม่มีวันหยุด ไม่มีเสาร์อาทิตย์ ทุกคนจะต้องมาเฝ้าเวรทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมงตลอดทั้งปี

8. หากมีการเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการใกล้เคียง (ฐานสุบรรณ) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แนวตะเข็บชายแดน เพื่อเอาเสบียงไปให้เจ้าหน้าที่ในฐานนั้น ต้องเดินเท้าไปเท่านั้น โดยมี ‘ล่อ’ ช่วยบรรทุกเสบียงที่ราว 80 กิโลกรัมต่อครั้ง และระหว่างทางอาจต้องพบเจอกับฐานของทหารพม่า และทหารว้า ซึ่งไม่ได้ขึ้นตรงกับกองทัพเมียนมาแต่อย่างใดด้วย

9. พลอยได้ลองแต่งเครื่องแบบทหาร ที่มีเกราะหนัก 5 กิโลกรัม และต้องแบกเป้ทหารหนัก 25 กิโล ซึ่งถ้ารวมกับน้ำหนักปืนและหมวกเข้าไปด้วยแล้ว ก็จะมีน้ำหนักรวมราวๆ 40 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว 

10. พลอยได้ลองร่วมเดินลาดตระเวน เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ ตรวจตราคนข้ามประเทศ หรือการกระทำความผิดอื่นทุกวัน เช่น ลักลอบขนยาเสพติด เพราะมีโอกาสจับได้ เนื่องจากผู้ลักลอบอาจคิดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน รวมถึงในบางครั้งอาจจะพบการรุกล้ำอาณาเขตของฝ่ายพม่า ด้วยการเข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ใช่ของชาวบ้าน ซึ่งทหารจำต้องผลักดันกลับไป โดยมีเรื่องน่าตื่นเต้น คือ ในระหว่างการเดินทางคณะของพลอยได้พบกับการลักลอบล่าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย และพบกับทหารว้าด้วย

ในช่วงท้าย พลอย ได้สรุปถึงการร่วมภารกิจ ที่แม้จะเป็นเพียงแค่การจำลองเหตุการณ์ (ของจริงหนักกว่านี้) แต่เธอมองว่ามันอันตรายมากๆ หลังจากนั้นเธอก็ได้นั่งรอบกองไฟร่วมกับพี่ๆ ทหาร พร้อมกับคำถามที่ว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” ซึ่งคำตอบที่ได้ก็มีความแตกต่างกันไป (ไม่ได้ระบุชัด) แต่ทุกคนต่างเคารพในความเห็นของกันและกัน

สำหรับใครที่อยากรับชมเรื่องราวเต็มๆ สามารถคลิกชมได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=W_HQ8gBie5M แล้วคุณคงจะได้คำตอบเองว่า ‘ทหารมีไว้ทำไม?’

ทัวร์ลง!! ‘Pigkaploy’ จนต้องลบคลิป ‘ทหารมีไว้ทำไม’ เจ้าตัวยัน!! ไม่ได้รับบรีฟจากกองทัพ หรือเป็นพรรคพวกฝั่งใด

(19 ม.ค. 67) จากกรณีที่ ยูทูบช่อง ‘Pigkaploy’ ของพลอย พลอยไพลิน ปล่อย EP. ล่าสุด ชื่อตอน ‘ทหารมีไว้ทำไม EP.1’ ตอน ‘ลองใช้ชีวิตเป็นทหารชายแดนเหนือ 3 วัน 2 คืน l ไทย-เมียร์มาร์’ เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการติดตามการทำงานของทหารชายแดนเหนือไทย-เมียนมา ที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ทั้งการปราบปรามการลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมายผ่านเส้นทางธรรมชาติ การลักลอบขนยาเสพติด ตัดไม้ทำลายป่า ฯลฯ จนเรียกเสียงวิจารณ์จากโลกโซเชียลไม่น้อย 

และยังมีเพจของทหารที่พร้อมใจกันแชร์คลิปดังกล่าว จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คลิปดังกล่าวเป็นการทำขึ้นตามที่รับบรีฟจากกองทัพบกหรือไม่ จน ‘พลอย’ ต้องออกมาชี้แจงว่า “โปรเจ็กต์นี้ไม่มีการรับบรีฟจากกองทัพบก มีเพียงได้รับการสนับสนุนในการถ่ายทำ”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพลอยจะได้เปลี่ยนปกคลิปและชื่อคลิป จาก ‘ทหารมีไว้ทำไม’ เป็น ‘ตามติดชีวิตทหารชายแดน’ เพื่อป้องกันคนเข้าใจผิด แต่ก็ยังมีผู้ที่มองว่า ปัญหาอยู่ที่เนื้อหาในคลิป และได้กลายเป็นพื้นที่ต่อคารมกันระหว่างผู้ที่เห็นต่าง โดยในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบ ต่างพากันชื่นชมคลิปของพลอย และขอบคุณที่ทำคลิปออกมาปกป้องทหาร และบอกว่า พลอยเป็นพรรคพวกเดียวกับพวกเขา ซึ่งในคอมเมนต์ดังกล่าว พลอยถึงกับต้องออกมาตอบว่า “ไม่ใช่นะคะ”

ล่าสุด พบว่าคลิปดังกล่าวได้หายไปจากช่อง Pigkaploy แล้ว แต่ก็ยังมีบางช่องที่โหลดคลิปเก็บไว้เรียบร้อย

‘Pigkaploy’ แจงทุกประเด็นดรามา หลังทัวร์ลง ทำคลิป PR ทหาร รับ!! คิดน้อยไป ทำผู้คนตีความได้หลายแบบ ปัดฟอกขาวให้ใคร

จากกรณีกระแสดรามา ยูทูบช่อง Pigkaploy ของ ‘พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร’ ปล่อยคลิปวิดีโอล่าสุดชื่อ ‘ทหารมีไว้ทำไม EP.1’ ตอน ลองใช้ชีวิตเป็นทหารชายแดนเหนือ 3 วัน 2 คืน l ไทย-เมียร์มาร์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ว่าคลิปดังกล่าวเป็นการทำขึ้นตามที่รับบรีฟจากกองทัพบกหรือไม่ ก่อนที่จะมีการลบคลิปดังกล่าวออกไป

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 ‘พลอย-พลอยไพลิน’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘Pigkaploy’ ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า…

“สวัสดีค่ะ พลอยขอชี้แจงประเด็นที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ อย่างแรกเลย พลอยอยากจะอธิบายเจตนาในการทำเรื่องราวของทหารชายแดน เจตนาของพลอยก็คือ อยากให้ทุกคนได้เห็นการทำงานของพี่ๆ ทหารชายแดน เพราะพลอยรู้สึกว่าน้อยคนที่จะได้เข้าไปเห็นการใช้ชีวิต พลอยทราบดีว่า ทุกคนรู้ว่าทหารชายแดนทำอะไรบ้าง แต่พลอยอยากเล่าในมุมมองที่ว่าเขากินอะไรบ้าง อยู่ยังไงบ้างและการปฏิบัติงานเขาต้องทำงานยังไง

เห็นความตั้งใจของพี่ๆ ทหารและความลำบาก ที่พี่ๆ เขาต้องใช้ชีวิตที่ตะเข็บชายแดน และให้คนตั้งคำถามถึงพี่ๆ ทหารชายแดนว่าควรได้รับการดูแลแบบไหน และการเป็นอยู่รั้วของชาติควรเป็นอยู่แบบใด โดยเล่าผ่านภาพและมุมมองที่พลอยไปเจอ และพลอยก็ได้ความร่วมมือจากกองทัพบกโดยตรง ในการช่วยประสานงานเข้าไปดูพื้นที่ในการปฏิบัติงาน เพราะเป็นพื้นที่ต้องขออนุญาต จริงๆ พลอยมีถามประเด็นที่หลายคนสงสัยไปในคลิปเช่นกัน แต่พลอยตัดออก เพราะพลอยไม่อยากให้พี่ๆ ทหารชายแดน และคนที่ช่วยประสานงานให้พลอยได้รับผลกระทบ

ในส่วนของประเด็นชื่อคลิป ‘ทหารมีไว้ทำไม?’ เป็นเพียงการนำเสนอในคลิปแรกเท่านั้น แต่ไม่ใช่ชื่อของทั้ง Project พลอยผิดจริงๆ ที่คิดน้อยไปทำให้ประโยคนี้คนตีความไปได้หลายแบบ แต่ถามว่าพลอยไม่ทราบจริงๆ เหรอ? ว่า คำถามนี้คนเขาหมายถึงใคร พลอยทราบค่ะ ว่าเขาหมายถึงคนมีอำนาจบางกลุ่มหรือนายพลยศใหญ่ แต่ประโยคนี้พลอยเลือกมาเป็นปกคลิปหรือการปูเนื้อหาเข้าวิดีโอ เพราะพลอยได้คุยกับพี่ๆ ทหารชายแดน ว่าเขาได้อ่านคอมเม้นที่ด่าว่า แบบเหมารวมทหารทั้งหมด ถึงแม้ว่าคนที่คอมเม้นท์เหล่านั้นคนจะไม่ได้หมายถึงพวกเขา

แต่พี่ๆ เขาก็น้อยใจ และเจ็บปวดกับคำถามนี้ และพลอยก็คิดว่าการตั้งประโยคนี้ เพราะหวังว่าจะเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ทหารจริงๆ มีไว้ทำไม? แต่พลอยลืมคิดจริงๆ ว่า คนจะตีความไปได้หลายแบบ อันนี้พลอยพลาดเองค่ะที่คิดไม่รอบคอบ พลอยต้องขอโทษจริงๆ หลังจากที่เริ่มมีประเด็นพลอยก็เริ่มเห็นคนเข้ามาคอมเม้นไปในมุมต่างๆ แต่เหตุผลที่พลอยลบคลิป หรือตั้งส่วนตัวไว้ เพราะพลอยเห็นข้อความใน X หรือทวิตเตอร์ ที่แคปมาบอกว่ามีหลายๆ หน่วยงานของรัฐนำคลิปพลอยไปใช้ ไม่ว่าจะแปะบนเว็ปไซต์ ดูดคลิปพลอยไป หรือทำภาพแปะข้อความที่ไม่ได้ตรงตามจุดประสงค์และความตั้งใจของพลอยตั้งใจแต่แรก

พลอยเลยลบคลิป และตั้ง Private ในยูทูบ เพราะไม่ต้องการให้มีใครนำไปใช้ผิดจากที่พลอยตั้งใจไว้ จริงๆ พลอยอยากให้ทุกคนได้ดูคลิปกัน และวิจารณ์พลอยได้เลย พลอยน้อมรับคำติชม และนำไปแก้ไขแน่นอนค่ะ แต่พลอยเห็นการนำไปใช้ที่ไม่ถูกต้องจึงขอลบและตั้งส่วนตัวไว้ก่อน

ทั้งนี้ พลอยยังเชื่อในประชาธิปไตยที่แท้จริงที่รัฐบาลได้มาจากเสียงของประชาชน และการทำงานที่โปร่งใส พลอยก็อยากให้ทุกๆ คน ได้เห็นการเป็นอยู่ของพี่ๆ ทหารชายแดน และช่วยตั้งคำถามว่า เราควรปฏิรูปกองทัพได้แล้วหรือไม่? เพื่อความเป็นอยู่และสวัสดิการที่ดีพอสำหรับทหารที่อยู่ในพื้นที่จริงๆ นี้ คือสิ่งที่พลอยตั้งใจให้คนเข้าใจค่ะ แต่อาจจะนำเสนอได้ไม่ถึง หรือไม่ดีทำให้คนเข้าใจผิด

ทั้งนี้ พลอยต้องขออภัยที่ทำประเด็นนี้ขึ้นมา จนหลายคนมองว่าเป็นการช่วยฟอกขาว พลอยไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นจริงๆ ค่ะ สุดท้ายนี้พลอยขอโทษอีกครั้งที่ทำให้เป็นประเด็น เกิดการเข้าใจผิด และหลายคนผิดหวัง ขอบคุณและขอโทษอีกครั้งค่ะ

นอกจากนั้น พลอย ยังเขียนเพิ่มเติมในช่องคอมเมนต์ พร้อมแนบคลิปวิดีโอด้วยว่า…

“พลอยเปิดคลิปเป็นสาธารณะแล้วนะคะ สามารถคอมเมนต์ติชมได้เลย พลอยน้อมรับปรับเพื่อนำไปแก้ไข”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top