‘บิ๊กป้อม’ ปราศรัยใหญ่ที่สงขลา ชู หนุนภาคใต้สู่เขต ศก.พิเศษ สร้างอาชีพ-รายได้ให้ลูกหลาน อ้อน ปชช.เลือก ‘พปชร.’ ทั้ง 9 เขต

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำภาคใต้, นายคณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค ปราศรัยนำเสนอนโยบาย และแนะนำผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 9 เขต ได้แก่

เขต 1 นายภวัต นิตย์โชติ เบอร์ 7
เขต 2 นายอดิสัณห์ ชัยวิวัฒน์พงศ์ เบอร์ 6
เขต 3 นายอาทิตย์ สุวิทย์ เบอร์ 5
เขต 4 นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว เบอร์ 1
เขต 5 นายญาณพง เพชรบูรณ์ เบอร์ 6
เขต 6 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์  เบอร์ 5
เขต 7 นายธเนศ ล่องนาวา เบอร์ 7
เขต 8 นายธีรพงศ์ ดนสวี เบอร์ 3
เขต 9 นายล่องหิ้น ทิพย์แก้ว เบอร์ 2

ทั้งนี้ ได้มีประชาชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยเต็มความจุศูนย์ประชุมฯ พร้อมส่งเสียงเชียร์เบอร์ 37 และโบกธงโลโก้พรรคเพื่อให้กำลังใจ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรค พปชร.นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ ทั้งเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน ลดราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้า ทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ จะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดูแลทุกช่วงวัย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้อง เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือนจนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลบุตรเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ เพื่อให้สตรีมีขวัญกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร รวมถึงนโยบาย มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่ที่อาศัย และมีเงินสนับสนุนเงินให้เกษตรกร ทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจน

ด้านนายนิพิฏฐ์ กล่าวปราศรัยว่า ถ้าเลือกพรรค พปชร.หมายความว่า ประชาชนเลือกตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลที่จะมาดูแลพวกเราอย่างเต็มศักยภาพ ทำให้ชีวิตของชาวใต้ยกระดับขึ้น ขอให้ทุกคนคิดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับอะไรคืนมา ประเทศไทยวันนี้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พรรคพลังประชารัฐจึงเล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุในประเทศไทยทุกคน ด้วยการมอบสวัสดิการดูแลเป็นรายเดือน รวมไปถึงอนาคตของลูกหลานของเรา ก็ต้องได้รับการดูแลตั้งแต่คลอดออกมา และต้องมีการศึกษาที่ดี เพื่อที่จะได้เติบโตไปอย่างมีศักยภาพและจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไป ซึ่งคนทั้ง 2 กลุ่มถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง ปกป้องให้พวกเขาเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเข้มแข็ง

นางนฤมล กล่าวว่า เรามั่นใจว่าเราจะได้รับความเมตตาจากพี่น้องที่นี่ ผู้สมัครครั้งนี้แม้หน้าตาจะเปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายที่จะเข้ามาดูแลสวัสดิการของประชาชน แต่พรรค พปชร.เป็นพรรคแรกที่พูดแล้วทำจริง ตั้งแต่ปี 62 และครั้งนี้ก็เช่นกัน เราต้องการจะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ให้เข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เด็กเกิดมาก็ต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ประชาชนทั่วไปต้องได้รับการส่งเสริมให้มีอาชีพ เพื่อที่เขาจะสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองให้ได้ สิ่งนี้ภาครัฐก็จะต้องเข้าไปดูแลเช่นกัน

“เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครั้งนี้หลังจากวันที่ 14 พ.ค.เมื่อเราเข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อ จะพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ ผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้มีความเจริญมากขึ้น จึงขอฝากผู้สมัครทั้ง 9 คน ของพรรค”

ร.อ.ธรรมนัส ปราศรัยว่า ชื่อพรรคบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม คือ การรวมพลังของประชาชน ทั้ง 77 จังหวัดภายใต้การดูแลของรัฐฯ คือ รัฐบาล ประเทศไทยมีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคนำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง เพราะตั้งแต่มีการต่อสู้ทางการเมือง หลายคนติดคุก มีคดีติดตัว เสียลูกเมีย เสียผู้นําครอบครัว มีแต่เพิ่มความบอบช้ำ เกิดความแตกแยกความสามัคคี และบ้านใดเมืองใดไม่มีความสามัคคี อย่าหวังความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน มีแต่ประชาชนอดอยากปากแห้ง จึงเป็นที่มาเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่มีการแบ่งแยกสี รวมพลังของคนไทยทั้งแผ่นดิน รวมเป็นหนึ่งเดียว พรรค พปชร.นโยบายบริหารจัดการที่ดินทำกิน-น้ำ โดย พปชร.จะสานต่อนโยบายการบริหารจัดการน้ำ ยกระดับทั้งระบบ และปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด พร้อมจัดที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คนไร้ที่ทำกินกว่า 2 ล้านคน ทันทีที่เราเข้าไปบริหารประเทศในฐานะรัฐบาล

ด้านนายคณิศ กล่าวว่า 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สตูล นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา พรรคจะผลักดันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเป็นเท่าตัว และภาคใต้เป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นรากแก้วที่ต้องทำให้เกิดการฟื้นตัว โดยหัวหน้าพรรค ได้พูดคุยกับอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งร่วมกัน

เมื่อพรรค พปชร.ได้จัดตั้งรัฐบาลจะดูแลเรื่องสินค้าเกษตร การท่องเที่ยวทั้งระบบ รวมถึงการเปิดเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อม กระตุ้นการท่องเที่ยวพัฒนาเป็นแลนด์บริด เชื่อมติดกับอันดามันและฝั่งอ่าวไทย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ สานต่อโครงการเซาท์เทิร์นซีบอร์ดให้ทั้ง 14 จังหวัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่จะยกระดับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับลูกหลานต่อไป

ดังนั้น ถ้าอยากให้เปลี่ยนอนาคตของลูกหลาน ขอให้เลือกพรรค พปชร.และ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30