เปิดเหตุผล...ทำไม? ‘ลุงตู่’ ต้องอยู่ต่อ!!  จากปากคนใกล้ชิด 'ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ'

ทำไม? ถึงตัดสินใจร่วมงานกับ ‘ลุงตู่’? นี่คือคำถามที่ THE STATES TIMES ได้สอบถามกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยท่านได้ตอบว่า...

สำหรับผม การที่เลือกมาช่วยงานท่านพลเอกประยุทธ์ เนื่องจาก ผมมีความศรัทธาในตัวท่านในหลาย ๆ เรื่อง เพราะว่าผมได้เห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ๆ 

อันดับแรกเลย คือ ท่านเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทหารทุกท่าน และประชาชนทุกคน มีความรักดีต่อสถาบันฯ ร่วมกันอยู่แล้ว 

อันดับที่สอง คือ ท่านเป็นคนที่ทำพวกเราเห็นว่า ท่านเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมากในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนมีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมมากมายในสมัยรัฐบาลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสาธารณูปโภค ในเรื่องความก้าวหน้า ในเรื่องของไอที หรือเรื่องของความสำคัญระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในรัฐบาลนี้ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งท่านก็สามารถพื้นความสัมพันธ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอเราย่างมหาศาล

อันดับต่อมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านโดนตรวจสอบไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เพื่อหาประเด็นตรวจสอบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับตัวท่าน แต่ก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นรูปประธรรมอย่างชัดเจน ที่จะกล่าวหาท่านได้เลย แม้แต่ที่เราเห็นว่าบุคคลใกล้ชิดท่านหรือใกล้เคียงท่าน ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตต่าง ๆ นั้น ท่านก็ไม่เคยใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีไปปกป้อง ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการตรวจสอบ และจะเห็นว่าที่ผ่านมานั้น โครงการอะไรก็ตามที่มีปัญหา หรือมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการทุจริต ท่านก็จะรับฟัง ตรวจสอบ และรับโครงการ เพื่อให้มีความโปร่งใส มีความชัดเจน ก่อนที่จะให้โครงการนั้นเดินหน้าต่อไป

อันดับที่สี่ ผมยังเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของ ‘ลุงตู่’ อย่างมาก เห็นชัดเจนได้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คือ ท่านกล้าที่จะตั้ง ศปค. และสิ่งที่ท่านทำถือเป็นสิ่งใหม่ของประเทศ นั่นคือการที่ท่านนำเอาอาจารย์หมอทั้งหลาย มาเป็นผู้นำของ ศปค. ข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ นักการเมือง มาเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของ ศปค. โดยที่มีอาจารย์หมอเป็นผู้นำ สิ่งที่ท่านทำนั้นเป็นผลประจักษ์ ทำให้ WHO นั้น นำไปยกย่องเป็นต้นแบบของการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศชาติ

ในขณะเดียวกันสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศเรานั้น ประเทศเรานับว่า ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็วมาก ดูได้จาก ‘ภูเก็ต Sandbox’ ซึ่งตอนที่ท่านจัดตั้งครั้งแรกนั้น ก็มีเสียงข้อห่วงใยหลายอย่าง แต่ว่าที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าท่านสามารถทำได้ดี เราสามารถเปิดประเทศได้เร็วกว่าหลายประเทศ และทำให้เศรษฐกิจของเรานั้นฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 

อันที่จริง ยังมีเหตุผลต่าง ๆ อีกมากมาย แต่ผมคิดว่า เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมตัดสินใจที่จะมาช่วยงานทางการเมืองกับท่าน และอยากให้ท่านได้อยู่ต่อ

แน่นอนว่า ในสังคมปัจจุบัน ที่ผู้คนต่างนิยมชมชอบภาพลักษณ์อันสวยหรู ถ้อยคำประดิษฐ์ประดอย และวาทกรรมงดงาม ซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ในคุณสมบัติของชายที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่าไรนัก คงมองภาพ 8 ปีแห่งความเจริญ ว่าเป็นแค่มายาคติตามกระแสธารแห่งการบั่นทอนจากขั้วตรงข้าม

หากแต่ลองยอกย้อน และลองคิดให้มากขึ้น ลองพรากคำพูดโผงผางซึ่งแลดูไม่เป็นมิตรทิ้งไป จะพบว่า...

'ดีแต่พูด' ช่างเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับผู้นำสุดโผงผางผู้นี้จริงๆ เพราะคงไม่น่าจะมีนักโอ้อวดวาทกรรมใดๆ จะพามีปัญญาพาชาติไทยที่ยุ่งเหยิง ผ่านหลากปัญหา และนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าตลอด 8 ปีมานี้ได้เท่านี้อีกแล้วกระมัง

'ทองแท้ ไม่แพ้ไฟ'