‘พิธา’ กร้าว!! กาก้าวไกลได้ประโยชน์ถึง 3 เด้ง 1. ‘ประยุทธ์’ ออก 2. ‘ประวิตร’ ออก 3. ได้คนใหม่ ‘เปลี่ยนประเทศ’

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นปราศรัยปิดเวทีปราศรัยใหญ่และแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่สวนชมน่าน จังหวัดพิษณุโลก โดยนายพิธาเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า ตน และ ส.ส.ปดิพัทธ์ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ‘ความเป็นพ่อคน’ พวกเราทำงานการเมือง เพราะเราไม่สามารถส่งต่อสังคมแบบนี้ให้กับลูกของเรา ตนและพรรคก้าวไกลมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้มีความเท่าเทียมกัน มีความเปิดกว้างหลายหลายให้กับคนทุกคนอย่างเสมอภาค และเอาระบบอำนาจนิยมออกไป

นายพิธา กล่าวต่อไปอีกว่า การเมืองที่ตนอยากเห็นในฐานะคนเป็นพ่อ คือ ประเทศที่มีการศึกษาที่เท่าเทียมกัน เด็กที่มาจากครอบครัวร่ำรวยสามารถพูดได้ 3 ภาษา การศึกษาในประเทศนี้ก็ต้องมีศักยภาพทำให้เด็กทุกคนพูดได้ 3 ภาษา ตนต้องการที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียม หลากหลาย ปราศจากอำนาจนิยมและปิตาธิปไตยให้กับคนรุ่นต่อไป

“อีก 10 ปี อาจเป็นลูกของผมหรือลูกของท่าน ที่ไปเรียกร้องเพื่อความเท่าเทียม ทำไมเรื่องเหล่านี้ต้องให้คนหนุ่มสาวออกมาพูด ไม่ใช่ผู้แทนราษฎรที่มีกระดูกสันหลังในสภาฯ ที่พูด ทำให้คนหนุ่มสาวออกไปตามหาความฝันของเขาไม่ได้ ชีวิตลูกของผม ลูกของหมออ๋อง และลูกของเราทุกคนจะดีขึ้น เมื่อพวกเราอยู่ในสังคมที่เท่าเทียมกัน” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ยังเสนอว่า สังคมที่เท่าเทียมกันต้องมีโอกาสที่เท่าเทียมกันระหว่างคนที่มีความพิการและคนอื่น ๆ ในสังคม โดยพรรคก้าวไกล 1.) จะเพิ่มเบี้ยผู้พิการ 3,000 บาท 2.) จะผลักดันนโยบายการออกแบบเพื่อคนทุกคนให้สามารถกำหนดชีวิตประจำวันในการเดินทางให้ได้ 3.) คือการสร้างงาน จากปัจจุบันที่รัฐฯ บังคับเฉพาะบริษัทเอกชนให้จ้างงานคนพิการ แต่ในรัฐบาลพรรคก้าวไกลจะจ้างงานคนพิการเป็นข้าราชการทันที 20,000 ตำแหน่ง และ 4.) สร้างอุตสาหกรรมเพื่อผู้พิการ เช่น รถเข็นของคนพิการ จากที่นำเข้ามีราคาแพง ให้สามารถผลิตได้ในประเทศ

นายพิธา ยังเสนออีกว่า ตนและพรรคก้าวไกลต้องการให้คนรุ่นต่อไปได้อากาศสะอาดไว้หายใจ นี่คือสาเหตุให้พรรคก้าวไกลผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด ซึ่งกฎหมายอากาศสะอาดของพรรคก้าวไกลต้องไม่ใช่แค่มีผลในประเทศ แต่จะไปเจรจากับต่างประเทศให้มีมาตรฐานคุณภาพอากาศเดียวกันทั้งอาเซียน ไม่ใช่ปล่อยให้กลุ่มทุนภาคเกษตรหนีจากประเทศที่มีมาตรฐานสินค้าเกษตรสูงแล้วไปทำไร่ข้าวโพดในลาวและเมียนมา

สุดท้าย นายพิธาฝากถึงประชาชนชาวพิษณุโลกและคนไทยทั้งประเทศว่า เลือกพรรคก้าวไกล ประชาชนจะได้ประโยชน์ถึง 3 เด้ง เด้งแรก เอา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากอำนาจ เด้งที่สอง เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากการเมือง เด้งที่สาม ได้คนใหม่ไปเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น แถมได้ ส.ส.เขตแบบก้าวไกล ที่ทำงานการเมืองแบบใหม่เข้าไปทำงานในสภาฯ

ก่อนจบ นายพิธาฝากถึงกรณีที่มีข่าวลือเรื่องพรรคก้าวไกลจะตัดบำนาญข้าราชการว่า ตนคือลูกของข้าราชการบำนาญ และในอดีตก็เคยเป็นข้าราชการ เข้าใจความยากลำบากของข้าราชการดี พรรคก้าวไกลไม่เคยเสนอตัดบำนาญข้าราชการ งบช้างป่วย คืองบประมาณและการเก็บภาษีของประเทศนี้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเจอโควิด เจอวิกฤตเงินเฟ้อ เจอสงครามรัสเซียยูเครน ก็ยังจัดงบประมาณเหมือนเดิมทุกปี นี่คือปัญหาของประเทศ

“พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่เห็นความสำคัญของบำนาญ ทั้งบำนาญข้าราชการและบำนาญของประชาชน ย้ำอีกครั้ง บำนาญของท่านจะมั่นคงที่สุด ภายใต้รัฐบาลพรรคก้าวไกล เพราะเราจะไปรีดเงินกองทัพเพื่อมาสร้างความมั่นคงให้งบประมาณประเทศ 14 พฤษภานี้ กาทั้งทีขอให้กาอย่างมีวิสัยทัศน์ กาก้าวไกล ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” นายพิธา กล่าวทิ้งท้าย