ถอนลึกถึงราก!! ‘บิ๊กเด่น’ ลุยหน้า! กวาดล้าง ‘ซัว มาเฟียฯ’ ออกหมายจับ - ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1.4 พันล้าน

(3 มี.ค.66) ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ดำเนินการตรวจสอบคดี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว อดีตข้าราชการตำรวจ หลังจากมีประเด็นกรณีเป็นเจ้าของเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป จำนวน 55 บริษัท มีพฤติการณ์ในการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวนพบว่า สารวัตรซัว และบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ เบื้องต้นเชื่อว่า มีบริษัทกว่า 30 บริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ปที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทผลิตเกมส์, ผลิตโปรแกรม, พัฒนาซอฟแวร์, จัดการบัญชี, จดทะเบียนพาณิชย์, จัดการเงิน, แลกเปลี่ยนเงิน และทำการตลาด

นอกจากนี้ ยังพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2555 ได้มีภาพซึ่งปรากฎข้อความที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ติดอยู่บริเวณหน้าบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป จากข้อมูลดังกล่าวจึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า สารวัตรซัว น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ มาตั้งเเต่ปี พ.ศ.2555  เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยจากการสืบสวนพบมูลคดีที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ของสารวัตรซัวเป็นจำนวนหลายคดี ซึ่งอยู่ระหว่างทำการสืบสวน
 

ทั้งนี้ ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตรวจสอบพบอีกว่า เมื่อปี พ.ศ.2560 คดีที่มีผู้เสียหายเป็นแอร์โฮสเตส เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้นั้น จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในคดีดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้นำคดีดังกล่าวกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง และได้มีการโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)

ซึ่งจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงไปยัง สารวัตรซัว และนายธีรพงศ์ฯ หรือนายจิ๋ว ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้ดำเนินการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.161/2566 และ จ.162/2566 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งในส่วนของนายธีรพงศ์ฯ หรือนายจิ๋ว พบว่ามีการสั่งจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์จำนวนกว่า 300 ล้านบาท ไปให้กับบุคคลอื่นๆ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้ทําการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว รวมหมายจับทั้งสิ้น 14 หมายจับ (เป็นหมายจับสารวัตรซัว และนายจิ๋ว จำนวน 2 หมายจับ และเป็นหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสารวัตรซัวจำนวน 12 หมายจับ)

ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เปิดปฏิบัติการ ทลายอาณาจักร “ซัว มาเฟียคาสิโนออนไลน์” ลงพื้นที่ตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ 5 จังหวัด (กรุงเทพ, จันทบุรี, ชลบุรี, นนทบุรี และ ปทุมธานี) ตรวจค้นเป้าหมายกว่า 63 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งสิ้น 6 ราย ดังนี้

1. นายธีรพงศ์ฯ หรือนายจิ๋ว (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.162/2566 ลงวันที่ 1 มี.ค.66 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”
2. นายอนุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2720/2565 ลงวันที่ 6 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน”
3. นางอำภา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2721/2564 ลงวันที่ 6 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน”
4. นางสาวเกศกนก (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2732/2565       ลงวันที่ 6 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน”
5. นายนรินทร (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2735/2565 ลงวันที่ 6 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน”
6. นายชาตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2729/2565 ลงวันที่ 6 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน”

และตรวจยึดทรัพย์สินจากผู้ต้องหา จำนวนกว่า 100 รายการ รวมมูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท ดังนี้

1. รถยนต์จำนวน 3 คัน (ยี่ห้อ Lexus, Benz, Audi)
2. โฉนดที่ดินจำนวนรวมกว่า 446 ไร่ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท
3. สมุดบัญชีธนาคาร 184 บัญชี พบเงินหมุนเวียนจำนวน 700 ล้านบาท
4. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 100 รายการ

ทั้งนี้ ยังได้มีตรวจค้นเครือข่ายขบวนการดังกล่าวในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพิ่มเติม โดยพบเงินสดประมาณ 20 ล้านบาท และยาเสพติด (ยาเค) จำนวน 30 กรัม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับ สารวัตรซัว และผู้ต้องหาอื่นๆ ที่ยังหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และจะดำเนินการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ที่มา : https://www.naewna.com/local/715051