'พิธา' นำทัพ 'ก้าวไกล' เลาะโขง ไล่อัดโครงการรัฐ ชูนโยบายจริงจังแก้แล้ง แสดงว่า 8 ปีมานี้ 'จิงโจ้'

'พิธา' นำทัพก้าวไกลเลาะโขง เปิดเวทีปราศรัยบึงกาฬ แนะนำว่าที่ผู้สมัคร 4 จังหวัดอีสานเหนือ ชี้ บึงกาฬเป็นถึงปลายอีสาน-กึ่งกลางอาเซียน แถมยังมีถ้ำนาคาชูโรงท่องเที่ยว แต่กลับขาดการพัฒนา ขาดแคลนทั้งโรงแรม-โครงสร้างรองรับท่องเที่ยว พื้นที่ชลประทานแค่ 1% อัดพรรครัฐบาลชูนโยบายจริงจังแก้น้ำแล้ง แปลว่าที่ผ่านมาจิงโจ้หรือไง ลั่นก้าวไกลเป็นรัฐบาลเมื่อไรพร้อมดันทันที ‘สร้างงานซ่อมประเทศ’ ดัน พ.ร.บ.โฮมสเตย์-แก้ พ.ร.บ.โรงแรม สร้างดีมานด์แปรรูปยางพารา กระจายงบลง รพ.สต.

(11 ก.พ.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เดชรัตน์ สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ร่วมเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ในจังหวัดภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร โดยในช่วงเช้า มีการเปิดเวทีที่ลานตลาดนัด บ้านอีสานพัฒนา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ก่อนที่ในช่วงเย็นจะมีการเปิดเวทีที่ ตลาดอำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย

ในเวทีช่วงเช้าที่ จ.บึงกาฬ พิธาได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะตอบโจทย์ปัญหาของชาวบึงกาฬ โดยระบุว่าจังหวัดบึงกาฬเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก ทั้งอยู่สุดปลายอีสาน และกึ่งกลางอาเซียน มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างถ้ำนาคา แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีการส่งเสริมให้มีโครงสร้างที่รองรับจุดเด่นเหล่านี้ ด้านการท่องเที่ยวบึงกาฬทุกวันนี้ยังมีปัญหาโรงแรมไม่พอ ไม่มีตำแหน่งงานในภาคการท่องเที่ยวรองรับมากพอ ตนไปถามคนทำรีสอร์ตที่พักเมื่อคืน ทราบมาว่ายังมีข้าราชการมารีดไถ เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมมีข้อจำกัดและอุปสรรค ที่เอื้ออำนวยกับแค่โรงแรมขนาดใหญ่เท่านั้น

ดังนั้น นอกจากต้องกระจายงบประมาณที่เกี่ยวกับการโปรโมตการท่องเที่ยวลงมามากกว่าเดิมแล้ว เรายังต้องแก้ พ.ร.บ.โรงแรม และทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กมีโอกาสทำมาหากินได้อย่างถูกกฎหมาย ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เราจะผลักดัน พ.ร.บ.โฮมสเตย์ พร้อมแก้ พ.ร.บ.โรงแรมให้รองรับผู้ประกอบการขนาดเล็กทันที

พิธากล่าวต่อไป ว่าบึงกาฬยังมีเศรษฐกิจหลักอีกด้านหนึ่ง คือยางพารา ที่ผ่านมาประสบปัญหาราคาตกต่ำ ที่นี่มีโรงงานแปรรูปยางพาราแต่ก็ไม่สามารถทำการแปรรูปได้เพราะติดปัญหาคดีความเกี่ยวกับการทุจริต นี่คือปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการนำของรัฐบาล ด้วยวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกลในการ ‘สร้างงาน ซ่อมประเทศ’ เราจะนำความต้องการและความขาดแคลนของประชาชนไปสู่การสร้างอุตสาหกรรม ทำให้เกิดอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า สนามเด็กเล่น ของเล่นเด็ก รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์มากพอเช่นนี้ เราจะสามารถทำให้ยางพาราราคาขึ้นได้แน่นอน

ปัญหาอีกประการของจังหวัดบึงกาฬ คือปัญหาด้านสาธารณสุข ขณะที่อัตราจำนวนแพทย์ต่อหัวประชากรที่กรุงเทพมหานคร มีอยู่ 1 คนต่อคนไข้ 500 คน ที่บึงกาฬ หมอ 1 คนต้องดูแลคนไข้เกือบ 5,000 คน แย่เป็นอันดับสองของประเทศ ทำให้หมอบึงกาฬต้องทำงานเฉลี่ย 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวนคนไข้โรคหัวใจมากติด 5 อันดับแรกของประเทศตลอด พรรคก้าวไกลมีนโยบายสาธารณสุข ในการกระจายงบประมาณลงมายัง รพ.สต. เพิ่มบุคลากรและลดเวลาการทำงานของหมอ ยกระดับบึงกาฬออกจากสถานะที่ตกต่ำด้านสาธารณสุขให้ได้

พิธายังกล่าวถึงปัญหาด้านที่ดินและการเกษตร โดยระบุว่าสิ่งที่น่าตกใจมากสำหรับบึงกาฬ คือที่นี่มีระบบชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรเพียงแค่ 1% เท่านั้น และนี่ยังเป็นปัญหาร่วมของหลายๆ พื้นที่เกษตรในประเทศนี้ ที่ผ่านมาพรรคที่เป็นรัฐบาลบางพรรคมีสโลแกนออกมาว่า “มีเราไม่มีแล้ง มีที่ทำกิน ไม่มีจน"  บอกว่าจะจริงจังกับการแก้ปัญหาแล้งให้มากขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการวางยาหรือไม่ แต่การพูดแบบนี้แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้จริงจังกับการแก้ปัญหาของเกษตรกรใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน น้ำ หรือหนี้สิน

“ที่บอกว่าจากนี้จะจริงจังมากขึ้น แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมาคือจิงโจ้ใช่ไหม ชาวบึงกาฬพอได้หรือยังกับความไม่จริงจังแบบ 8 ปีที่ผ่านมา ที่แก้ปัญหาที่ดิน ปัญหาน้ำ ปัญหาหนี้สิน ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง อย่าปล่อยให้เขามาขี้ตั๋วเราได้อีก แค่ 8 ปีที่ผ่านมามันก็มากพอแล้ว” พิธากล่าว

สำหรับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ในจังหวัดบึงกาฬ นครพนม และสกลนคร นั้นประกอบด้วย :

บึงกาฬ
(1) นาวินทร์ ลครแก้ว (อ.เมือง)
(2) สำรวย ศรีทิน (บึงโขงโหลง เซกา)
(3) ณัฐพงษ์ ป้องปิ่น (โซ่พิสัย พรเจริญ)

นครพนม
(1) เทิดศักดิ์ แพงสาร (บ้านแพง นาทุม ศรีสงคราม นาหว้า)
(2) สุพิชญ์ชญา กิตติ์พรศิริกุล (อ.เมือง โพนสวรรค์ ท่าอุเทน)
(3) ศิริพงษ์ นาคงแนบ (ธาตุพนม เรณูนคร อ.เมืองบางส่วน)
(4) วุฒิพงษ์ มีบุญ (นาแก ปลาปาก วังยาก อ.เมืองบากส่วน)

สกลนคร
(1) วีระชน นามประกาย (อ.เมือง)
(2) ภูเบศวร์ เห็นหลอด  (โคกศรี เต่างอย กุสุมาลย์ โพนนาแก้ว)
(3) ขจรศักดิ์  เบ็ญชัย (วาริชภูมิ ส่องดาว กุดบาก ภูพาน นิคมน้ำอูน)
(4) บัญชา จันทรศรี (สว่างแดนดิน)
(5) อภิชิต ถาบุตร (บ้านม่วง คำตากล้า)
(6) ภิญโญ ขันติยู  (พรรณานิคม อากาศอำนวย)
(7) ปิยะศักดิ์ เดชทองทิพย์  (วานรนิวาส พังโคน เจริญศิลป์)

หนองคาย
(1) อภิญญา บุญจันทร์ (อ.เมือง สระใคร)
(2) แสวง ราชพลแสน (โพนพิสัย เฝ้าไร่ รัตนวาปี)
(3) จริวัฒน์ ตัณทรัตน์ (ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ สังคม โพธิ์ตาก อ.เมืองบางส่วน)