ยุทธการกวาดล้างมังกรซ่อนกาย

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ทำการสืบสวนคนต่างด้าวที่มีหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติขึ้นไป โดยได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม. พบว่ามีคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยในประเทศไทย จำนวน 117 ราย จากนั้นกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้ประสานไปยังสถานทูตตามหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวเหล่านั้น เพื่อขอทำการตรวจสอบประวัติ จากการตรวจสอบประวัติของคนต่างด้าวดังกล่าวทั้ง 117 ราย พบว่า เป็นบุคคลที่รัฐบาลต่างประเทศได้มีการออกหมายจับไว้ที่ประเทศต้นทาง จำนวน 17 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับ แชร์ลูกโซ่ และ ฉ้อโกง ซึ่งทั้ง 17 ราย ได้หลบหนีและเข้ามาพำนักในประเทศไทย  

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จึงได้นำข้อมูลคนต่างด้าวทั้ง 17 ราย มาตรวจสอบโดยละเอียดรวมทั้งขอหนังสือยืนยันและสำเนาหมายจับจากสถานทูตเพื่อนำมาประกอบการขออนุมัติเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยในระหว่างการประสานข้อมูลกับสถานทูตนั้น ได้มีคนต่างด้าวบางส่วนได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว คงเหลืออยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียง 3 ราย เมื่อได้รับการยืนยันและสำเนาหมายจับจากสถานทูต กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจึงได้ทำการอนุมัติเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรไทย ของคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย ดังกล่าว และได้ออกสืบสวนติดตามคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย เพื่อนำตัวมาผลักดันส่งออกนอกราชอาณาจักรไทย  

นอกจากนี้ จากการสืบสวนยังพบว่า คนต่างด้าว ใน 117 ราย ที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และยังไม่ได้เดินทางออกไปจากราชอาณาจักไทย เป็นผู้ที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) อีกจำนวน 58 ราย  

ต่อมาวันที่ 9 ก.พ. 2566 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน เปิดปฏิบัติการ ยุทธการกวาดล้างมังกรซ่อนกาย ขึ้น โดยได้ทำการจับกุม คนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และมีหมายจับของประเทศอื่น ซึ่งกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยไปแล้ว ได้จำนวน 3 ราย ซึ่ง คนต่างด้าวทั้ง 3 รายนี้ เป็นผู้ที่หลบหนีการกระทำผิดมาพำนักและอยู่ในประเทศไทย โดยมีรายละเอียด ดังนี้  

1.) นาย เสี่ยว (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี มีหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหา ความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ จับกุมได้ที่คอนโดหรูย่านพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
2.) นาย ลี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี มีหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหา ฉ้อโกง จับกุมได้ที่บ้านพักย่านพัฒนาการ เขตสานหลวง กรุงเทพฯ  
3.) นางสาว เฉิน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี มีหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหา ฉ้อโกง จับกุมได้ที่หน้าร้านอาหารย่านสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 

จากนั้น ได้นำตัวคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย ส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอผลักดันส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรไทยต่อไป ส่วนคนต่างด้าวที่มีหมายจับของทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 14 ราย ที่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปก่อนแล้ว กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้นำรายชื่อทั้ง 14 ราย ขึ้นบัญชีเป็นคนต้องห้ามและเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 

ในส่วนคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) อีกจำนวน 58 ราย ได้มอบหมายให้ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ,3 และ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ร่วมกันสืบสวนจับกุม ซึ่งมีผลการปฏิบัติ ดังนี้  

กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 จับกุมคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้จำนวน 4 ราย  
กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 จับกุมคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้จำนวน 8 ราย  
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จับกุมคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้จำนวน 19 ราย  

รวมจับกุมคนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ และอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้จำนวน 31 ราย