'พิธา' นำทัพ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ ครบ 6 เขต ชู!! เลือกก้าวไกล ‘การเมืองดี-ปากท้องดี-มีอนาคต’

‘พิธา’ ชูเลือกก้าวไกล ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ ปราศรัยนำทัพ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ครบ 6 เขต ยกเป็นจังหวัดศักยภาพสามศูนย์กลาง คมนาคม-เกษตร-วัฒนธรรม แต่มีการเมืองรวมศูนย์-ไม่เป็นประชาธิปไตยฉุดรั้ง ลั่นทางรอดเดียวของประเทศ ต้องเอาทหารออกจากการเมือง เปลี่ยนงบกองทัพเป็นสวัสดิการ กระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด

เมื่อ 20 ม.ค.66 ที่ลานมังกร อุทยานสวรรค์นครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเวทีพบปะประชาชนชาวนครสวรรค์ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. นครสวรรค์ ทั้ง 6 เขต พร้อมปราศรัยประกาศความพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และนโยบายสำคัญของพรรคก้าวไกล

พิธา ระบุว่า นครสวรรค์เป็นจังหวัดมีศักยภาพที่จะเป็นสามศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาคได้ ทั้งในด้านคมนาคม วัฒนธรรม และเกษตรกรรม แต่ขณะเดียวกัน ก็มีสิ่งที่เป็นอุปสรรคเดียวกันกับที่ทำให้จังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยไม่สามารถพัฒนาไปตามศักยภาพของตัวเองได้

ในเรื่องของการเกษตร เราจะเห็นได้ว่านครสวรรค์เป็นจังหวัดที่ปลูกข้าว อ้อย และมัน เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy และพืชพลังงานได้ ซึ่งพรรครัฐบาลก็พยายามบอกแบบเดียวกันมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาคำพูดเหล่านั้นเป็นเพียงคำหลอกลวงเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากการจัดสรรงบประมาณในปี 2566 ที่ผ่านมา กระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่ประกาศยุทธศาสตร์ให้นครสวรรค์เป็นเมือง BCG Economy กลับไม่ได้จัดสรรงบประมาณด้าน BCG Economy ลงมาเลยในปีนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ไม่มีการจัดสรรงบประมาณลงมาให้เลย ส่วนกระทรวงพลังงานก็มีงบประมาณลงมาเพียง 120,000 บาท เพื่อซื้อเครื่องถ่ายเอกสาร 1 เครื่องเท่านั้น

ในด้านการคมนาคม ถึงแม้จะมีงบประมาณลงมาถึง 1 หมื่นล้านบาทจากกระทรวงคมนาคม แต่ก็เป็นงบประมาณสร้างถนนถึง 40% โดยที่ไม่มีงบประมาณเพื่อสร้างการเชื่อมโยงทางคมนาคมในต่างรูปแบบเข้าด้วยกันเลย ผลก็คือนครสวรรค์จึงยังไปไม่ถึงจุดที่จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมได้ และกลายเป็นเพียงจังหวัดทางผ่านเท่านั้น

พิธากล่าวต่อไป ว่าปัญหาที่ทำให้นครสวรรค์พัฒนาไปมากกว่านี้ไม่ได้ ก็เพราะรัฐราชการรวมศูนย์ ที่ปล่อยให้การจัดสรรงบประมาณถูกกำหนดโดยส่วนกลางอย่างไม่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของพื้นที่ รวมทั้งการเข้าแทรกแซงการเมืองโดยทหารที่ไร้วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของโลกสมัยใหม่ และการดำรงอยู่ของกลุ่มทุนผูกขาดที่แย่งส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจจากทุกคนในสังคมไปกองอยู่ที่ตัวเอง

นี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกล เน้นย้ำชูคำขวัญเรื่อง “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” เพราะการพลิกฟื้นประเทศรวมถึงนครสวรรค์ให้กลับมามีอนาคตอีกครั้ง ต้องเริ่มที่การเลือกตั้งครั้งนี้ เอาคนรุ่นใหม่ไปปิดสวิตช์ 3 ป. เอาทหารออกจากการเมืองไทย เปลี่ยนงบประมาณกองทัพเป็นสวัสดิการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน หวยเอสเอ็มอีที่ให้คนซื้อสินค้าเอสเอ็มอีและได้เลข 6 หลักในใบเสร็จใช้แทนล็อตเตอรี่ได้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ฯลฯ และการปลดล็อกท้องถิ่นให้ประชาชนเลือกผู้ว่าของตัวเองไดั แต่ทั้งหมดต้องเริ่มต้นด้วยการแก้ปัญหาการเมือง

และนี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด ว่าจะไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลงอย่าง พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอันขาด การเอาทหารออกจากการเมือง กระจายอำนาจ และทลายทุนผูกขาด คือทางรอดเดียวของประเทศไทยเท่านั้น

“เราจะปล่อยให้ความมั่งคั่งกระจุกไม่กระจายแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เราจะปล่อยให้ส่วนกลางมาตัดสินใจแทนคนนครสวรรค์ ให้ทหารที่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจมาบริหารประเทศต่อไปไม่ได้ นี่คือปัญหาการเมืองที่ถ้าแก้ได้เมื่อไร เราจะสามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ทันที เศรษฐกิจไทยต่อไปต้องโตพร้อมกับการลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าอยากให้ประเทศไทยเอาทหารออกจากการเมือง ให้มีการกระจายอำนาจ ให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กในประเทศไทยลืมตาอ้าปากได้ ถ้าอยากให้ประเทศไทยบริหารด้วยมืออาชีพ ต้องเลือกพรรคก้าวไกลเท่านั้น” พิธากล่าว

จากนั้น พิธาได้แนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 6 คน 6 เขต ของจังหวัดนครสวรรค์ในนามของพรรคก้าวไกล ซึ่งประกอบไปด้วย...

เขต 1 กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประธานสมาพันธ์ SME ไทยภาคเหนือตอนล่าง และอดีตรองประธานคณะกรรมการจัดงานตรุษจีนปากน้ำโพ 100 ปี

เขต 2 ธนา เฉยปัญญา สถาปนิกนักเขียนแบบและผู้ประกอบการ

เขต 3 นิรุด เรืองงาม เกษตรกร

เขต 4 นริศร์ชา ชัยสุกัญญาสันต์ อดีตผู้บริหารบริษัทประกันภัย และผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร

เขต 5 อิศราพร ดวงอุปะ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์

เขต 6 ธรัตนชัย เฉลยคาม อดีตนายตำรวจเกษียณอายุราชการ

ทั้งนี้ หลังการร่วมเวทีปราศรัยเสร็จสิ้น พิธาในชุดจีนสีแดง ได้ร่วมเดินเยี่ยมชมบรรยากาศการเฉลิมฉลองตรุษจีนบนถนนคนเดินริมแม่น้ำปิง โดยมีประชาชนร่วมทักทายขอถ่ายรูปและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก