'อนุทิน' มั่นใจ เปิดรับ นทท.จีน ไทยได้ประโยชน์มหาศาล ยัน!! ไม่มีสองมาตรฐาน ขอให้เชื่อมั่นระบบ สธ.ไทย

(14 ม.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เราติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศจีนมาโดยตลอด เมื่อทางการจีนคลายล็อก เปิดประเทศ แล้วมีการทำสำรวจว่าชาวจีนต้องการมาประเทศไทย ทำให้เรารู้สึกยินดี และได้มีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เราต้องทำให้เขามั่นใจว่ามาเที่ยวเมืองไทย มีความปลอดภัย และต้องทำให้คนไทยรู้สึกปลอดภัย ที่ไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน การที่ชาวจีนเลือกเดินทางมาที่ไทย ย่อมเป็นประโยชน์มหาศาล เพราะภาคการท่องเที่ยว คือเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่สำคัญมาก ก่อนมีโรคระบาด ประเทศไทย ได้ต้อนรับคนจีนที่หลั่งไหลเข้ามายังประเทศ ความคึกคักเกิดขึ้น เม็ดเงินสะพัด แล้วสิ่งเหล่านี้ก็หายไปร่วม 3 ปี วันนี้เรามีโอกาสที่จะกลับไปอยู่จุดที่เราเคยอยู่ ส่วนตัวมองว่า ไทยมีความเข้มแข็ง มีจุดขายมากมาย อาหารอร่อย งานบริการยอดเยี่ยม การอำนวยความสะดวกไม่เป็นรองใคร ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจ

เมื่อถามถึงมาตรการการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่แบ่งแยก นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน โรคระบาดเกิดขึ้นทั่วโลก แล้วทำไมเราต้องมีเงื่อนไขเฉพาะกับบางประเทศ 

ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นในระบบการแพทย์ไทย มาตรการคัดกรองทั้งหลายมาจากทีมวิชาการ ในนั้นมีผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์แพทย์ ช่วยกันคิดออกมา ซึ่งเราให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ แต่ต้องบาลานซ์กับเรื่องเศรษฐกิจ 

“เรื่องไทยกับจีน ผมขอย้อนไปเล่าตั้งแต่ที่โควิด-19 เริ่มระบาด แล้วไทยตรวจพบคนจีนติดเชื้อเข้ามาในประเทศ ตอนนั้นเรารีบรักษาจนหาย และส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งต่อมานักเดินทางจากประเทศอื่นเราก็รักษาเช่นกัน แน่นอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ทางการจีนประทับใจมาก จากนั้น ตอนที่ไทยประสบปัญหา ก็ได้ทางการจีนนี่ที่เข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่ทั่วโลกไขว่คว้าหาวัคซีน ไทยก็ได้รับการสนับสนุนจากจีน ไมตรีที่เรามีให้จีน เขามองเห็นแน่นอน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะเข้ามาเที่ยว และเข้ามาร่วมมือในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ กับประเทศไทย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า มีความมั่นใจว่าไม่ใช่เฉพาะชาวจีนที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว หรือลงทุนที่ไทย เพราะนานาชาติ ต่างก็มองให้ไทยเป็นเป้าหมายในการเดินทางเข้ามา เพราะเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย ที่ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม ในระบบการรักษาที่มีประสิทธิภาพ