ขับรถในบอสตัน กฎระเบียบสุดเคร่งครัด ‘ทั้งจอด-ทั้งขับ’ สุ่มสี่สุ่มห้า เจอค่าปรับแบบไร้ปรานี

ความเดิมจากตอนที่แล้ว...เมื่อทุกคนไม่เห็นรถแวนที่จอดทิ้งไว้ ต่างก็หน้าม่อยไปตาม ๆ กัน คิดว่ารถถูกสอยไปเรียบร้อยแล้ว เผอิญคุณอาผู้หญิงมองรอบ ๆ อีกครั้ง ตาท่านก็ไปหยุดอยู่ที่ป้ายบนเสา ที่มีตัวหนังสือสีเขียว ‘ที่จอดรถของผู้พักอาศัย’ (Resident Permit Parking) ท่านเลยถึงบางอ้อ!! ว่ารถของท่านจอดผิดกฎหมาย คงถูกบริษัทลากรถเอาไปไว้ที่รถชานเมืองแน่ ๆ 

เมื่อคิดได้ดังนั้น ท่านจึงโทรศัพท์ไปที่อู่จอดรถ เราสามคนต้องนั่งรถแท็กซี่ไป ตอนลงรถจ่ายรวมค่าบริการ 30 เหรียญ แถมต้องจ่ายค่าปรับอีก 100 เหรียญ รวมแล้วก็มากโขอยู่สำหรับค่าของเงินเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ว่าแล้วผู้เขียนก็ขออนุญาตเอาเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณอามาเป็นอุทาหรณ์สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจจะไปเที่ยวหรือเรียนที่รัฐแมสซาซูเซตส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในใจกลางเมืองบอสตันว่า ‘อย่าจอดรถสุ่มสี่สุ่มห้า’ ให้สังเกตสภาพแวดล้อมให้ดีเสียก่อน อ่านป้ายที่ทางการติดไว้ให้เข้าใจว่าจอดได้จริงๆ จำไว้ว่าถ้าเราหยอดมิเตอร์แล้วจ่ายเงินเต็มช่วงเวลา สมมติว่าหยอดมิเตอร์ได้สูงสุดสองชั่วโมง เขาไม่อนุญาตให้เรามาหยอดต่อเมื่อใกล้หมดสองชั่วโมง เราต้องย้ายไปจอดที่อื่น มิฉะนั้นเขาจะปรับ 40 เหรียญ 

และอย่าคิดว่าถ้ามีมิเตอร์ให้หยอดเหรียญจ่ายค่าจอดแล้วเราจะจอดได้ทั้งวันทั้งคืน เพราะบางแห่ง วันจันทร์ถึงศุกร์หลัง 6 โมงเย็น จนถึง 10 เช้าของวันถัดไป เขาอนุญาตให้แต่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นที่มีสติ๊กเกอร์จอด ป้ายจะเขียนว่า ‘Resident Permit Parking 6 pm - 10 am Mon. to Fri.’ ถ้าเราไปฝืนกฎ เราต้องจ่ายค่าปรับหกสิบเหรียญ 

นอกจากนั้นแล้ว ต้องระมัดระวังวันและเวลาที่ทางเมืองทำความสะอาดถนน บางแห่งจะจอดข้ามคืนไม่ได้ในวันที่เขากำหนดเช่น ‘Street Cleaning Tuesday 2 AM - 7 AM’ ถ้าวันที่เราจะจอด เช่น วันจันทร์กลางคืนข้ามไปถึงอังคารเช้า เราก็ต้องไปหาที่อื่น บางแห่งป้ายยิ่งชวนงง เช่น ‘Street Cleaning 2nd & 4th Tuesday 12 noon - 4 pm’ ถ้าเจอแบบนี้ ต้องงัดปฏิทินในมือถือมาดูว่าอังคารนี้ที่ 2 หรือ 4 ของเดือนหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็ห้ามจอดจากเที่ยงวันถึง 4 โมงเย็น ถ้าฝืนเราจะโดนปรับ 40 เหรียญ 

แต่ส่วนใหญ่หลังจาก 30 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม เขาจะไม่ทำความสะอาดถนน เพราะเข้าฤดูหนาว สิ่งที่เราต้องระวังในช่วงนั้นคือเขามีป้าย ‘No Parking During Snow Emergency’ หรือเปล่า ถ้ามี เราเห็นหิมะตก เราต้องคอยดูข่าวว่ามีประกาศห้ามจอดหรือไม่ ถ้าขี้เกียจดูข่าว ก็สามารถโทรไปเช็กที่ (617) 635-3050 ถ้าเราดันทุรังจอด เราจะต้องจ่าย 45 เหรียญ ที่แย่กว่านั้นถ้าหากรถเราโดนลากไปอู่ เราต้องจ่ายทั้งค่าปรับและค่าลาก ยิ่งไปกว่านั้นสมมติว่าเราจอดในช่วงที่เขาประกาศห้ามจอดเพราะหิมะตกหนัก แล้วรถเราถูกลาก เราต้องจ่ายค่าปรับ 45 เหรียญบวกกับค่าลากอีกประมาณ 100 เหรียญ รวมสะระตะแล้ว 145 เหรียญเลยครับ แล้วโปรดจำไว้ด้วยว่าเขารับแค่เงินสดเท่านั้น 

ฉะนั้นถ้าหากเราสงสัยว่ารถถูกลาก แล้วอยากจะรู้ว่ารถเราอยู่อู่ไหน เราสามารถไปเว็บไซต์ https://www.cityofboston.gov/towing/search แล้วใส่เบอร์ทะเบียนรถเราลงไป เราก็จะได้ข้อมูลว่ารถเราถูกลากหรือไม่ ถ้าถูกลาก เขาจะบอกว่าเราจะไปเอารถได้จากอู่ไหน

กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน หลังจากที่ย้ายเข้าบ้านอีกไม่นาน ผมก็ต้องไปสอบใบขับขี่เพื่อที่จะไปเอารถที่พี่ชายทิ้งไว้ให้ที่บ้านลูกพี่ลูกน้องในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ โดยปัจจุบันสมัครสอบข้อเขียนได้ที่ https://www.mass.gov/how-to/apply-for-a-passenger-class-d-learners-permit สำหรับใบขับขี่รถส่วนตัว ซึ่งทางอเมริกาเขาเรียกว่าใบขับขี่แบบ ‘Class D’ พอกรอกใบสมัครเสร็จ อย่าลืมขอคู่มือผู้ขับรถ (Driver’s Manual) จากในเว็บไซต์มาอ่านและจำให้ขึ้นใจเพราะข้อสอบจะมาจากข้อมูลในหนังสือเล่มนั้น เมื่อถึงวันสอบทางรัฐแมสซาซูเซตส์ให้ยื่นเอกสารที่แสดงว่าเราถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีเอกสาร I-20 ทางสถานศึกษาหรือวีซ่าทำงานก็ใช้ได้ พร้อมด้วยเลขที่บัตรประกันสังคม (Social Security Number) และหลักฐานว่าเราอยู่อาศัยในรัฐ เช่นใบแจ้งหนี้จากบริษัทไฟฟ้า น้ำ หรือสัญญาเช่าอพาร์ตเมนต์ 

ย้ำว่า!! ทุกเอกสารต้องเป็นตัวจริง ก่อนจะไปสมัครสอบข้อเขียนควรจะเช็กข้อมูลอีกทีที่เว็บไซต์ https://mass.gov/guides/massachusetts-identification-id-requirements เพราะได้อ่านข่าวมาว่าทางรัฐกำลังจะเปลี่ยนแปลงให้คนต่างด้าวที่อยู่อย่างผิดกฎหมายสมัครใบขับขี่ได้ ถ้าสอบข้อเขียนผ่าน ก็จะได้ใบขับขี่ชั่วคราว (Learner’s Permit) แต่ไม่สามารถขับรถได้ถ้าหากไม่มีผู้ที่มีใบขับขี่ในรัฐมาแล้วหนึ่งปีขึ้นไปนั่งในรถไปด้วย 

ดังนั้นจึงควรรีบสมัครสอบขับรถ (Road test) ให้เร็วที่สุดที่ https://mass.gov/how-to/schedule-your-road-test#what-you-need โดยก่อนจะกรอกใบสมัคร ก็ลองถามเพื่อนหรือญาติที่มีใบขับขี่อย่างต่ำมาหนึ่งปีว่าว่างจะไปนั่งไปเป็นพยานในตอนสอบหรือไม่ เพราะทางการเขาบังคับให้มีผู้รับรอง (Sponsor) นั่งไปด้วยตอนสอบขับ 

อ้อ!! พอถึงเวลาสอบสิ่งที่ควรระมัดระวังคือ หยุดรถให้สนิทเมื่อเจอเครื่องหมายให้หยุดรถ (Stop sign) ขยับรถแค่สามครั้งเมื่อกลับรถ (Three-point turn) ถอยจอดขนานทางเท้าอย่างเร็วที่สุด (Parallel parking) เวลาถอยจอดอย่ามองแค่กระจกหลัง จงเอี้ยวตัวไปมองกระจกหลังด้วย มิฉะนั้นคนคุมสอบซึ่งคือคุณตำรวจจะไม่ให้ผ่าน 

ตอนที่ผู้เขียนไปสอบ คุณอาผู้หญิงเป็นผู้รับรอง ท่านนั่งอยู่ข้างหลัง พอคุณตำรวจสั่งให้ทำนู่นนี่ คุณอาท่านจะคอยช่วยบอกให้ ซึ่งคุณตำรวจก็แอบดุคุณอาว่าอย่าพูดเยอะ เดี๋ยวผมจะไม่ให้หลานคุณผ่าน โชคดีที่วันนั้นเราสอบผ่าน ไม่ต้องเสียเงินกลับมาสอบอีกรอบหนึ่ง หลังจากที่สอบผ่านเราก็เอาผลสอบไปแสดงให้ที่เคาน์เตอร์ พนักงานจะแสดงความยินดีและถ่ายรูปติดใบขับขี่ แต่เขาจะแค่ออกใบสำรองเป็นขาวดำให้ก่อน ใบจริงจะมาโดยไปรษณีย์ภายในสี่ถึงห้าอาทิตย์

เมื่อเราได้รับใบขับขี่ตัวจริงแล้ว ผมก็จองตั๋วเที่ยวเดียวบินไปรับรถที่โอไฮโอ โดยผมได้ไปเจอกับเพื่อนพี่ชายที่เคยขับรถมาส่งตอนที่เพิ่งมาเรียน ซึ่งพี่เขานั่งรถมาเป็นเพื่อนเพราะรู้ว่าเราดูแผนที่ไม่ค่อยเป็น 

แต่คืนก่อนเดินทางเขาพาผมไปเที่ยวบาร์ มีเหตุเกิด ทำให้เราเกือบจะไม่ได้ขับมาบอสตันวันรุ่งขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ซะงั้น...


เรื่อง: ดร.ชัยวุฒิ จิตต์กุศล
อักษรจรัสรุ่นที่ 55 อดีตเคยเป็น Senior Lecturer ที่ University of Massachusetts, Boston (สอนเฉพาะวิชาภาษาสเปน) ปัจจุบันหันมาทำไร่ดอกไม้และผลไม้