‘ฟีฟ่า’ ขู่ ตัดสัญญาณถ่ายสดบอลโลก หลังพบสัญญาณหลุดไปโผล่ประเทศอื่น

‘บิ๊กก้อง’ ส่งหนังสือถึง ‘กสทช.’ หลังได้รับคำเตือนจาก ‘ฟีฟ่า’ พบสัญญาณการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลโลก 2022 จากประเทศไทย รั่วไหลไปสู่ประเทศอื่นๆ พร้อมสั่งให้เร่งแก้ไขโดยด่วน ขู่ถ้าไม่ทำตามตัดสัญญาณ หรือ ‘จอดำ’ ทันที 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ‘บิ๊กก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้ส่งหนังสือเรื่องขอความอนุเคราะห์แจ้งให้ดำเนินการเข้ารหัสสัญญาณให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation Internationale de Football Association – FIFA) หรือ ฟีฟ่า ไปยังเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

ตามที่อ้างถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ขอความอนุเคราะห์คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ให้บริการวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ อันประกอบด้วย ผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary (มัสต์ แครี) และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยเข้ารหัสสัญญาณและดำเนินการทำ OTA ของกล่องเครื่องรับระบบโทรทัศน์ดาวเทียม นั้น 

กกท. ได้รับแจ้งจากทางสหพันธ์ฟตุบอลนานาชาติ ว่า สัญญาณออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ยังคงแพร่กระจายไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น นอกเหนือลิขสิทธิ์ที่ได้รับตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฯ

ทั้งนี้ สหพันธ์ฯ ได้ขอให้ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของประเทศไทย ดำเนินการแก้ไขการเข้ารหัสสัญญาณ (Encryption) ที่ส่งผ่านดาวเทียมให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของสหพันธ์ฯ โดยด่วนที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาสัญญาณการออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น ตามที่สหพันธ์ฯ แจ้งมา

กกท. ใคร่ขอความอนุเคราะห์และความร่วมมือจาก กสทช. ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ให้ดำเนินการเข้ารหัส (Encryption) ในการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามมาตรฐานของ FIFA ซึ่งกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ BISS CA Director หรือ Power/u

2. ในส่วนของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Carry และผู้ให้บริการกล่อง STB จะต้องเข้ารหัส โดยไม่ใช่การดำเนินการในลักษณะ BISS 1 Simultcrypt เหมือนที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

3. ในกรณีที่ผู้ให้บริการใด ไม่สามารถเข้ารหัสให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์ฯ กำหนด มีความจำเป็นต้องตัดสัญญาณที่จะส่งไปเผยแพร่ผ่านผู้บริการนั้น ซึ่งต้องดำเนินการในลักษณะส่งข้อความขี้แจงข้อกำหนดการเผยแพร่ตามข้อกำหนดลิขสิทธิ์ที่ประเทศไทยได้รับ (หรือตามที่ผู้รับชมทั่วไปจะเข้าใจในลักษณะการขึ้น ‘จอดำ’)

ในการนี้ ทางสหพันธ์ฯ ได้กำชับให้ผู้ได้รับลิขสิทธิ์และดำเนินการเผยแพร่ในประเทศไทย แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วนที่สุด หากไม่สามารถดำเนินการได้ ทางสหพันธ์ฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามเงื่อนไขการซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งการดำเนินการของสหพันธ์ฯ ที่ร้ายแรงที่สุด คือ การตัดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่จะส่งมาเผยแพร่ในประเทศไทย อันจะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ของประชาชนชาวไทย ได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจบการแข่งขัน

ทั้งนี้ กกท. เห็นว่า ทั้ง กกท. และ กสทช. มีความจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยด่วนที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตามที่สหพันธ์ฯ แจ้งเตือนมา จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและขอความอนุเคราะห์ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยด่วนที่สุดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ กสทช. ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวจาก กกท. แล้วนั้น ก็ได้มีการเชิญฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประชุมอย่างเร่งด่วนผ่านระบบออนไลน์ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เวลา 16.00 น. ซึ่งผลการประชุมจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป


ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1713948/