‘ฝ่ายค้าน’ จ่อยื่นญัตติอภิปรายม.152 กลางพ.ย. ปิดทางรัฐบาลยุบสภาฯ หนี หลังจบการประชุมเอเปก

‘ชลน่าน’ เผยอภิปรายทั่วไป ม.152 ต้องหลบเหตุกราดยิงหนองบัวฯ - น้ำท่วมซ้ำซาก คาดยื่นญัตติ 15-16 พ.ย.นี้ เริ่มถล่มกลางเดือนธ.ค. หวั่นเกิดอุบัติเหตุการเมืองยุบสภาฯ 24 ธ.ค. เย้ย ขนงบฯ ลดแลกแจกแถมเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลแล้ว

(29 ต.ค. 65) ที่รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า จากเดิมที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนจะยื่นตั้งแต่เปิดสภาฯ แต่มีเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องนำเป็นเรื่องด่วนมากกว่า คือ ญัตติด่วนเรื่องโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู และปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จึงจำเป็นต้องเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปเป็นช่วงกลางเดือนพ.ย. คาดว่าเป็นช่วง วันที่ 15-16 พ.ย. 65 และคาดว่าจะได้อภิปรายในช่วงกลางเดือนธ.ค. โดยญัตติดังกล่าวจะเป็นการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน สอบถามปัญหาและเสนอแนะแนวทางให้ผู้บริหารนำไปปรับใช้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนมีความกังวลว่าการอภิปรายในช่วงเวลาดังกล่าวอาจไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี แต่เมื่อดูสถานการณ์ปัจจุบัน หากไม่ยื่นอภิปรายในช่วงนี้ก็อาจไม่มีโอกาสอภิปราย เพราะอาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองหลังการประชุมเอเปก เช่น มีการยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 24 ธ.ค.ตามกระแสข่าว จึงใช้เงื่อนไขนี้มาประเมินช่วงเวลาในการยื่นอภิปราย ซึ่งในการอภิปรายยุคนี้มีข้อดี ไม่จำเป็นต้องรอฟังสด แต่ประชาชนสามารถย้อนดูได้ผ่านสื่อต่างๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถติดตามการอภิปรายได้ 

เมื่อถามถึงความมั่นใจว่าจะมีการยุบสภาในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ ไม่มีใครรู้ เพราะผู้มีอำนาจยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองก็มาประมวลภาพรวมว่าน่าจะมีการยุบสภาฯ เกิดขึ้นก่อนครบวาระ ซึ่งมีความมั่นใจ 90% ซึ่งหากมีการยุบสภาก็เนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาลจะได้ประโยชน์มากที่สุด ทั้งในเรื่องการเลือกตั้งที่ประชาชนไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อ และต้องมีมาตรการที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่น เช่น ของขวัญปีใหม่จากงบประมาณแผ่นดิน จัดโครงการแจกแถม เช่น การเร่งให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในตอนนี้ เมื่อโครงการเหล่านี้ได้ดำเนินการแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลในช่วงที่มีการยุบสภา สำหรับเนื้อหาที่จะยื่นอภิปราย จะใช้กรอบนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะมีรายละเอียดครอบคุมทุกมิติ โดยจะเจาะลึกข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด บ่อนและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล