‘แพรรี่’ ตกใจบทสัมภาษณ์ของแม่ผู้ก่อเหตุ สะท้อน ‘สังคม-สถาบันครอบครัว’ กำลังล้มเหลว

แพรรี่ไพรวัลย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ตกใจ 2 เรื่องบทสัมภาษณ์แม่ฆาตกรที่บอกว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม เป็นเรื่องของอดีตชาติที่ฆาตกรกับเหยื่อเคยทำร่วมกันมา พร้อมสะท้อนมุมมอง สังคมและสถาบันครอบครัวกำลังล้มเหลว

จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู กราดยิงศูนย์เด็ก อบต.นากลาง ต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุด (7 ต.ค. 65) ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ให้ข้อคิดเห็น โดยระบุข้อความว่า... 

ได้ฟังบทสัมภาษณ์แม่ของฆาตกร ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่งแล้วตกใจมาก ตกใจ 2 เรื่อง เรื่องแรก คือเรื่องที่แม่ของฆาตกรพูดคล้ายกับว่า เขารู้เห็นกับพฤติกรรมการเสพยาเสพติดของลูกชายมาโดยตลอด ทั้งยังให้สัมภาษณ์ประหนึ่งว่า พฤติกรรมเช่นนั้นเป็นเรื่องปกติ “เราอยู่ในสังคมที่คนในครอบครัวรู้เห็นและเมินเฉยกับการเสพยาเสพติดของสมาชิกในครอบครัว เรื่องนี้น่ากลัวมาก”

ตกใจเรื่องที่ 2 แพรรี่ไพวัลย์ ระบุว่า แม่ของฆาตกรมองว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเวรกรรม เรื่องของอดีตชาติที่ฆาตกรกับเหยื่อเคยทำร่วมกันมาเมื่อชาติที่แล้ว ดังนั้นมันควรเป็นสิ่งที่เราต้องอโหสิหรือให้อภัยกัน ซึ่งแพรรี่ไพวัลย์ แสดงความคิดเห็นว่า “วิธีคิดเช่นนี้เลวร้ายมากกับกรณีนี้ มันสะท้อนได้ชัดว่า สังคมของเรากำลังล้มเหลวมาก สถาบันครอบครัวล้มเหลว การกล่อมเกลาและการปลูกฝังเอาใจใส่สมาชิกในครอบครัวถูกละเลย ที่สำคัญที่สุด ความเชื่อทางศาสนา (บวกกับความเข้าใจผิดๆ) มีส่วนทำให้คนมองข้ามปัญหาและปัดความรับผิดชอบต่อความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับสังคม”

ต่อมาแพรรี่ไพรวัลย์ ยังได้โพสต์ข้อความ ให้ข้อคิดเห็นกรณี “ป. : ทำยังไงก็คนมันติดยา ?” ด้วยว่า ทำยังไงก็ได้ ให้มันอยู่ในที่ ๆ คนติดยาควรต้องอยู่ อยู่สถานบำบัด หรือเรือนจำพิเศษก็ให้อยู่ไป คนติดยา ไม่ควรใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ปกติ การตรวจเยี่ยมและตรวจปัสสาวะต้องทำสม่ำเสมอ การสอดส่องดูแลลูกบ้านต้องเข้มงวด ที่สำคัญทำอย่างไรก็ได้ให้ยาเสพติดมันเป็นสิ่งที่ซื้อขายกันไม่ได้ง่ายเหมือนซื้อก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย (แถมยังราคาถูกกว่าก๋วยเตี๋ยวอีก)

“ทำค่ะ ท่านมีอำนาจแล้วท่านต้องทำ ใช้อำนาจให้สมดุลกับสติปัญญาของท่านนะคะ จะได้เป็นประโยชน์กับสังคมและชาติบ้านเมือง” สำหรับเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู แพรรี่ไพรวัลย์ สะท้อนมุมมองว่า ทุกครั้งที่โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น สังคมควรถอดบทเรียน แม้เราจะรู้สึกโกรธแค้นหรือเจ็บปวดต่อการสูญเสียแค่ไหนก็ตาม เราต้องหาแนวทางเพื่อการแก้ไขป้องกันค่ะ ทำอย่างไรเหตุการณ์แบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นซ้ำอีก

การหาเหตุผลและแรงจูงใจในการทำผิด ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกับการหาความชอบธรรมให้กับฆาตกร (ฆาตกรยังไงก็คือฆาตกร) ในทางกลับกัน การมองให้เห็นถึงเหตุ เป็นการช่วยกันปิดกั้นและขัดขวางเพื่อไม่ให้ใครสักคนหนึ่งลุกขึ้นมาเป็นฆาตกรได้ง่ายๆ ต่างหาก ถ้าเราเกลียดฆาตกร เราก็ควรเกลียดต้นเหตุอะไรบางอย่าง ที่เปลี่ยนจิตใจของคนให้กลายเป็นฆาตกรด้วย

เราควรเกลียดยาเสพติด เกลียดสารกระตุ้น ซึ่งทำให้คนปราศจากสำนึกของความรู้จักบาปบุญคุณโทษหรือความผิดชอบชั่วดี เกลียดความหละหลวม ความเพิกเฉย ไม่ว่าจะจากคนที่มีอำนาจหรือคนเกี่ยวข้อง ซึ่งเปิดช่องให้ใครก็ตามเอาชีวิตเข้าไปอยู่ในวงจรอุบาทพวกนี้ได้ และมหันตโทษที่ว่านี้อยู่ใกล้ตัวของเราเกินกว่าที่เราจะเมินเฉยกับมันได้ ไม่ควรมีใครสักคนไม่ว่าเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ที่ต้องกลายมาเป็นเหยื่อและถูกสังเวยให้กับความคุ้มคลั่งที่ยาเสพติดมอบคืนให้กับคนที่ตกอยู่ภายอำนาจของมัน

ดิฉันขอแสดงความอาลัยต่อดวงจิตอันขาวสะอาดดวงน้อย ๆ ของเด็ก ๆ ทุกคน (ซึ่งควรเติบโตและมีอนาคตที่ดีบนโลกใบนี้) ที่ต้องถูกพรากไปอย่างไม่ยุติธรรม ขอแสดงความอาลัยต่อดวงจิตอีกหลายดวง ทั้งของคุณครูผู้เสียสละและของชาวบ้านที่ไม่ได้มีความผิดบาปใด ๆ ต่อเหตุการณ์ครั้งนี้เลย ดิฉันขอโอบกอดกุมมือและซับน้ำตาพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก ๆ ทุกคน ซึ่งต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ ขอให้ศีลธรรมและความยำเกรงบาป จงกลับคืนมาสู่สังคม ขอให้ความรุนแรงและขาดหิริจนบำราศหายไป ขอให้ผู้คนห่างไกลจากสิ่งเสพอันชั่วร้าย ขอให้สติปัญญา ตลอดจนถึงความรักและกรุณา นำพาผู้คนไปสู่สันติสุขอย่างแท้จริง


ที่มา: https://www.topnews.co.th/news/451285