'ครูธัญ' มองความต่าง สมรสเท่าเทียม 'ไทย-ไต้หวัน' ชี้!! ไทยยัง 'อนุรักษ์นิยม-ไม่เข้าใจความหลากหลายทางเพศ'

ธัญวัจน์ กมลวงวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ร่วมเสวนา เสวนามองสมรสเท่าเทียมผ่านบทเรียนไต้หวัน โดยมี Joyce Teng – Deputy Executive Director of Taiwan Equality Campaign

ภายในงานพูดถึงการต่อสู้ของสมรสเท่าเทียมในไต้หวันและประเทศไทย และก้าวต่อไปของสมรสเท่าเทียมในอนาคต

ธัญวัจน์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า "การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเริ่มมีเสียงที่ดังขึ้นเพราะการเติบโตของสื่อโซเชียลมีเดียที่แพร่หลายและส่งผลต่อการรับรู้ในสังคมจึงทำให้การพูดเรื่องสมรสเท่าเทียมกลับมาอีกครั้งในช่วงหลังการเลือกตั้ง 2562

"ความแตกต่างระหว่างประเทศไต้หวันและประเทศไทย คือ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในประเทศไทยสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับสังคมในวงกว้าง และสิ่งนี้ตนมีความเห็นว่าการศึกษาไทยยังเป็นความคิดอนุรักษ์นิยมและยังไม่มีความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศ และตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญก็แต่งตั้งจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ตนและคณะกรรมาธิการกำหนดระยะเวลาว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมและคู่ชีวิตต้องเสร็จในวันที่ 18 กันยายน 2565 เพื่อที่จะให้ประธานสภา ได้บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมปลายปีนี้ในวาระ 2 และวาระ 3 เมื่อผ่านการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว 2 ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ก็จะถูกส่งต่อให้กับสมาชิกวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป และคาดว่าเมื่อวุฒิสภาพิจารณาน่าจะมีความคืบหน้าในการประกาศใช้ในช่วงกลางปีหน้า และในฐานะที่ตนเป็นกรรมาธิการในขณะนี้ มีหน้าที่สำคัญต้องทำให้ ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองหลักการออกมาสู่สภาอย่างสมบูรณ์ที่สุด“

ครูธัญ กล่าวต่ออีกว่า “หลายครั้งได้รับคำถามว่าสมรสเท่าเทียมจะถูกปัดตกหรือไม่ หากพิจารณาให้รอบด้าน การปัดตกสมรสเท่าเทียม ใครได้ใครเสีย หากเราให้สมรสเท่าเทียมผ่าน เราทุกคนก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งประชาชน พรรคการเมืองหรือแม้แต่ฝ่ายรัฐบาลเอง แต่หากปัดสมรสเท่าเทียมตก ผู้ที่เสียก็คือประชาชนและผู้มีอำนาจ มันก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้มีอำนาจว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไร

"แต่อย่างที่ทราบโดยทั่วกันเราทุกคนต่างรู้ว่ามีอำนาจบางอย่างที่อาจจะปัดสมรสเท่าเทียมตก แต่การต่อสู้ต้องไม่หมดหวังเพราะความหวังคือจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง ความหวังซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ขายไม่ได้ด้วยเงิน เพราะเราทุกคนต่างใช้ชีวิตด้วยความหวังด้วยกันทั้งสิ้น" ธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย