‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า กวาดส.ส.ได้เกิน 100 ที่นั่ง หลังมีเวลาเตรียมตัวนานกว่าครั้งก่อน

30 เม.ย.2565 - ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกลจัดประชุมสามัญประจำปี โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการเริ่มประชุมถึงการตั้งเป้าจำนวนส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า มีตัวเลขในใจอยู่แล้ว โดยจะพยายามพูดคุยเรื่องนี้กันภายใน แต่จะไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ ตนไม่อยากใช้ตัวเลขเป็นหลักแล้วให้ว่าที่ผู้สมัครนั่งคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ เพราะไม่อยากให้เสียกำลังใจ

"ดูได้จากผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และผลการเลือกตั้งท้องถิ่นของกลุ่มคณะก้าวหน้า มั่นใจว่าจะเกินกว่าร้อยที่นั่ง ซึ่งเราจะทำงานหนักด้วยข้อมูล และละเอียดมากขึ้น ครั้งที่แล้วที่เป็นพรรคอนาคตใหม่การเตรียมตัวมีค่อนข้างน้อย แต่ตอนนี้เราเริ่มเตรียมการมาเป็นปีแล้วในการเตรียมว่าที่ผู้สมัคร สัมภาษณ์ผู้สมัคร เทรนผู้สมัคร ให้ผู้สมัครได้ทดลองงานซึ่งคิดว่าเป็นการทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับการทำงานในสภาของส.ส. ก็จะเป็นการทำงานที่คู่ขนานกันไป แต่ก็จะเน้นทำงานในพื้นที่มากขึ้น" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า จุดแข็งของพรรคก้าวไกลคือความหลากหลายของว่าที่ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนจากหลายกลุ่มจริงๆ ทั้งกลุ่ม LGBTQ กลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและคนที่ไม่มีประสบการณ์มารวมกันอยู่ โดยประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงได้นั้นความกระจุกจะต้องกระจายออกผ่านการกระจายอํานาจ เชิงเศรษฐกิจต้องเปลี่ยนจากฐานรากขึ้นมาข้างบนโดยการทำลายทุนผูกขาด วิธีการมองต้องเอาจากข้างนอกเข้ามาข้างใน ไม่ใช่เอาความเป็นไทยไปสู่ข้างนอก ถ้าเราเขย่าประเทศกับหัวกลับหางแบบนี้ประเทศไทยก็จะมีทางรอดออกไปได้

เมื่อถามถึงกระแสนายกรัฐมนตรีสำรองที่มีชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายพิธา กล่าวว่า ตั้งระบบรัฐสภานายกรัฐมนตรีควรที่จะเป็นส.ส.และคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในช่วงการเลือกตั้ง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเหมาะสมหรือไม่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตร ก็ยังมีเรื่องที่ค้างคาใจที่ตนคิดว่าประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับข้อชี้แจง ทั้งเรื่องของป่ารอยต่อ และเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งก็ต้องมีการชี้แจง

ถามว่าถ้าเกิดมีการปลดล็อกให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกเข้ามาได้นายพิธา จะลงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ เพราะตนทำตามระบบที่รัฐสภาเป็น สถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจ ต้องรักษาระบบเอาไว้ให้มั่นต้องมาจากประชาชน และมีความชอบธรรมด้วย ถ้ามาโดยไม่มีความชอบธรรมตนว่าซูปเปอร์แมนเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะบริหาร และมีภาวะผู้นำที่เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศได้

นายพิธา กล่าวถึงการประชุมสามัญประจำปีของพรรคในวันนี้ว่า จะเป็นการประชุมภายในเรื่องข้อบังคับพรรค โดยจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อบังคับการป้องกันการคุกคามทางเพศ ซึ่งในอดีตมีอยู่แล้วแต่เป็นเรื่องของบุคลากรภายในพรรคคราวนี้ก็จะครอบคลุมไปถึงบุคลากรภายนอกพรรคด้วย เพราะการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ รวมถึงเรื่องของการตรวจสอบที่อนุญาตให้คนนอกเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจสอบและขยายเวลาในการตรวจสอบ

ที่มา : https://www.thaipost.net/politics-news/132936/