สธ. เซ็นจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นคอร์ส เผย ลดเสี่ยงป่วยหนัก - ตาย จากโควิดได้ถึง 88%

24 มี.ค. 65 - นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคติดเชื้อโควิด-19 มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นวงกว้าง และมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การพัฒนาวิธีการรักษารวมถึงการจัดหายารักษาโควิด-19 จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายการจัดหายารักษาโควิด-19 ที่สำคัญ คือ การเข้าถึงยาที่มีประสิทธิผลในการรักษา โดยมีข้อมูลทางวิชาการหรือผลการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อพิจารณาเลือกและจัดหายาที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย

ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อให้การรักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และยาใหม่ที่อยู่ระหว่างการจัดหาและมีการลงนามจัดซื้อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ (24 มี.ค.) คือ ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid)

จากข้อมูลจากการศึกษาวิจัย 1,379 คน ลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ กลุ่มที่ให้ยา Paxlovid นอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มยาหลอกมีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต ร้อยละ 6.31 โดยมีผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้ยาหลอก 13 คน ทั้งนี้ ยา Paxlovid เหมาะสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น

สำหรับยาแพ็กซ์โลวิด มีประสิทธิผลในการลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์รับผิดชอบสัญญาการจัดหาและจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้เข้าถึงยาต้านไวรัสชนิดใหม่ และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล


ที่มา : https://www.thaipost.net/covid-19-news/110812/