บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกข้อกำหนดเมื่อวันพุธ (8 ธ.ค.) ให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน สวมหน้ากากในที่สาธารณะและใช้บัตรผ่านวัคซีนเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน หลังพบข้อมูลการแพร่เชื้อรวดเร็วมาก ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 2 ถึง 3 วัน และตัวเลขที่แท้จริงอาจเฉียด ๆ 10,000 คนแล้ว

จอห์นสันระบุว่า โอมิครอนกำลังระบาดอย่างรวดเร็วและเขาไม่มีทางเลือกยกเว้นแต่เคลื่อนเข้าสู่ "แผนบี" พร้อมกับเริ่มดำเนินโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งนี้ แม้ยังคงห่างไกลจากมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบที่เคยกำหนดในช่วงต้น ๆ ของโรคระบาดใหญ่ แต่มาตรการใหม่นี้ถูกโวยวายว่าเป็นค้อนทุบธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่และห้างร้านทั้งหลาย ที่คาดหวังว่าการค้าขายในช่วงคริสต์มาสจะช่วยกอบกู้สถานะทางการเงินของพวกเขา

ส.ส. หลายคนในพรรคการเมืองของจอห์นสันเองก็แสดงความไม่พอใจต่อข้อจำกัดรอบใหม่เช่นกัน ด้วยหวั่นเกรงต่อผลกระทบของมาตรการดังกล่าว หลังจากเศรษฐกิจของประเทศหดตัวถึง 10% เมื่อปีที่แล้ว รุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์

"ขณะที่ภาพรวมอาจดีขึ้น ซึ่งผมก็หวังด้วยความจริงใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่เรารู้ว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อแบบก้าวกระโดด อาจทำให้จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และน่าเศร้า ด้วยเหตุนั้น จำนวนผู้เสียชีวิตก็อาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน" จอห์นสันกล่าวระหว่างแถลงข่าว

นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ซึ่งยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19 เกือบทั้งหมดในอังกฤษในเดือนกรกฎาคม ตามหลังโครงการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว เคยประกาศเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาวโดยปราศจากทางเลือกของการล็อกดาวน์รอบที่ 4 แต่สำรองไว้ซึ่งมาตรการที่เรียกว่า "แผนบี"

บางส่วนของมาตรการเหล่านั้น เช่น การกลับมาบังคับสวมหน้ากากบนระบบขนส่งสาธารณะและตามห้างร้านต่าง ๆ ได้ถูกบังคับใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในวันพุธ (8 ธ.ค.) จอห์นสันระบุเพิ่มเติมว่า เวลานี้ประชาชนควรทำงานจากที่บ้าน

มาตรการสวมหน้ากากจะถูกบังคับใช้ในสถานที่สาธารณะ อย่างเช่น โรงภาพยนตร์และโรงละคร และจะมีการบังคับแสดงบัตรผ่านโควิด-19 สำหรับเข้าไปในไนต์คลับและสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้คนจำนวนมาก

จอห์นสันกล่าวว่า มาตรการนี้มีความจำเป็น หลังพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 568 รายในประเทศ ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่ามันใช้เวลา 2 ถึง 3 วันในการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขระบุ พวกเจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่ยืนยันอย่างเป็นทางการราว ๆ 20 เท่า นั่นหมายความว่ายอดผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนน่าจะเฉียด ๆ 10,000 คนแล้ว

ในขณะที่ภาคธุรกิจจำนวนมากปรับตัวได้อย่างดีสำหรับการทำงานจากที่บ้าน อย่างเช่น ภาคบริการ แต่ภาคบันเทิงและการเดินทางได้รับผลกระทบอย่างหนัก และหนนี้จากมาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่าน ๆ มา เนื่องจากจะไม่มีมาตรการรักษาการจ้างงานที่เรียกว่า “Job Retention Scheme” อีกแล้ว

โครงการนี้รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกพักงานชั่วคราว (furlough) คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 80% ของเงินเดือนของลูกจ้างคนที่ถูกพักงานชั่วคราวดังกล่าว

ผลสำรวจความคิดเห็นของ Savanta ComRes บ่งชี้ว่า ประชาชนอาจมีความตั้งใจลดลงในการปฏิบัติตามข้อจำกัดใหม่ ๆ หลังมีการออกมาแฉเกี่ยวกับปาร์ตี้คริสต์มาสของทำเนียบนายกรัฐมนตรีเมื่อปีก่อน

คลิปหลุดเผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบหัวเราะและพูดติดตลกกันอย่างสนุกสนาน อ้างเหตุผลต่าง ๆ ของการรวมตัวกันที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่งเมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่อยู่ระหว่างมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 ช่วงคริสต์มาส เหตุการณ์อื้อฉาวที่ทำให้ จอห์นสัน ต้องรุดออกมาขอโทษ

นายกรัฐมนตรีรายนี้บอกด้วยว่าข้อจำกัดโควิด-19 ในครั้งนี้ จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายและประเทศแห่งนี้อาจจำเป็นต้องพูดคุยหารือเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากคิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ยังคงปฏิเสธเข้ารับวัคซีน

---

(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000121720