อย่าหวั่นเสียงขู่ของพวกตกยุค ‘ก้าวไกล’ ยืนยัน ข้อเสนอแก้มาตรา 112 ของพรรคไม่ล้มล้างการปกครอง ‘โรม’ จี้ ‘ประธานชวน’ เร่งบรรจุวาระเพื่อใช้สภาเป็นทางออก

รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยประเด็นว่า ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของประชาชนผู้ชุมนุมถือเป็นการล้มล้างการปกครองฯ เป็นต้นมา เห็นได้ว่าเริ่มมีบางคนบางกลุ่มพยายามนำมาเป็นข้ออ้างในการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพรรคก้าวไกล ราวกับเป็นขั้นตอนต่อไปของแผนการที่ได้ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบางคนบางกลุ่มจากนอกสภาที่อ้างเหตุที่ ส.ส. ของพรรคไปประกันตัวให้ผู้ชุมนุมบ้าง หรือที่พรรคพยายามยื่นเสนอแก้มาตรา 112 ต่อสภา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เราก็ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตในฐานะผู้แทนประชาชน ที่จะต้องช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน และผลักดันสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้เกิดผล

“หรือในสภาด้วยกันเอง ก็ยังมีบางคนบางกลุ่มจากฟาก ส.ว. พยายามกดดันไม่ให้มีการนำข้อเสนอแก้มาตรา 112 ของเราเข้ามาพิจารณาในที่สภา ทั้งยังบอกใบ้ไว้ล่วงหน้าด้วยว่าเตรียมหาทางล้มข้อเสนอดังกล่าวตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มพูดคุย เรียกได้ว่าพอมีคำวินิจฉัยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน เป็นปฏิปักษ์ต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเกิดขึ้นมา ตัวแทนแห่งความตกยุคเหล่านี้ก็ไม่พลาดที่จะรีบยกมันขึ้นมาเพื่อเหนี่ยวรั้งสังคมให้ต้องทนล้าหลังอยู่ด้วยกันกับพวกตัวเอง”

รังสิมันต์ ยังระบุอีกว่า ตนและพรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้งว่า ข้อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้ข้อเสนอ สถาบันพระมหากษัตริย์จะยังคงอยู่ต่อไป ทั้งยังได้หน่วยงานของรัฐมาช่วยรับฟังความคิดเห็นต่อสถาบันฯ ได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เรื่องเช่นนี้อันที่จริงสมควรได้รับการพิจารณาโดยเร็วด้วยซ้ำ จึงขอเรียกร้องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะ พิจารณาบรรจุข้อเสนอดังกล่าวของพรรคก้าวไกลเข้าสู่การอภิปรายในสภา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้หาทางออกให้แก่เรื่องนี้ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อเสียงข่มขู่ของพวกตกยุคล้าหลังที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชนอยู่ร่ำไป แต่มามองถึงอนาคตข้างหน้าของประเทศและประชาชนคนไทยจะดีกว่า