เยอรมนี ส่อวิกฤต! โควิดระบาดซ้ำ ชี้! อาจคร่าชีวิตอีกนับแสน หากไม่ลงมือสกัด

นักไวรัสวิทยาระดับสูงของเยอรมนี เตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มอีกกว่า 100,000 คน หากไม่ดำเนินการใด ๆ ในการกำหนดข้อจำกัดอันเข้มงวดในทันที เพื่อยับยั้งการจู่โจมของการแพร่ระบาดระลอก 4 ที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว

เสียงเตือนจาก คริสเตียน ดรอสเทน หัวหน้าแผนกไวรัสวิทยาแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชารีเท ในกรุงเบอร์ลิน มีขึ้นในขณะที่ประเทศแห่งนี้พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง

ดรอสเทน กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 100,000 คน เป็นการประเมินตัวเลขในเชิงสงวน (conservative estimate) หรือเลี่ยงประเมินด้วยตัวเลขที่สูงเกินไป ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น พร้อมระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์อีกรอบจะเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่สามารถเร่งโครงการฉีดวัคซีนให้คืบหน้าอย่างรวดเร็ว

"ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแท้จริง" เขากล่าวถึงสถานการณ์ตามห้องไอซียูตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ "เราจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างในทันที"

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น มีผู้คนในเยอรมนีเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้ว 96,963 ราย

ดรอสเทน คาดหมายว่าฤดูหนาวปีนี้จะเป็นฤดูหนาวที่เหนื่อยยากมาก ๆ หากการฉีดวัคซีนไม่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และมองว่ารัฐบาลเยอรมนีจะจำเป็นต้องพิจารณาบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ นานา

"เป็นไปได้มากว่าเราจำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้งผ่านมาตรการป้องกันการสัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่แค่อาจจะ แต่แน่นอนว่าเราต้องทำ" เขากล่าว "เราอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ เรามีอีก 15 ล้านคนที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนและควรฉีดวัคซีน"

ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการพบว่าราว 67% จากประชากรทั้งหมด 83 ล้านคนของเยอรมนี ฉีดวัคซีนครบแล้ว และจนถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนกับกลุ่มอาชีพไหน ๆ

เสียงเตือนอย่างน่ากลัวของนักวิทยาศาสตร์มีขึ้นในขณะที่ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติของเยอรมนี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันในวันพุธ (10 พ.ย.) ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

สถาบันโรเบิร์ต คอช รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 39,676 คน ทุบสถิติเดิม 37,102 คน ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการติดเชื้อของเยอรมนี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 232.1 เคสต่อประชากร 100,000 คน ในช่วง 7 วันหลังสุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลยังคงเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่มีเจตนากำหนดมาตรการล็อกดาวน์ และหันไปวิงวอนขอประชาชนให้เข้าฉีดวัคซีนแทน

ปัจจุบันเยอรมนีมีรัฐบาลรักษาการตามหลังศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกันยายน และ 3 พรรคการเมืองของเยอรมนี ที่อยู่ระหว่างเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม เห็นพ้องว่าจะไม่ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป

พวกเขาเสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่งแทนในช่วงเย็นวันจันทร์ (8 พ.ย.) ที่เป็นการปรับแก้กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เปิดทางให้เดินหน้าบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างเช่น บังคับสวมหน้ากากและเส้นระยะห่างทางสังคมในสถานที่สาธารณะต่อไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า

สถานที่สาธารณะในร่มจำนวนมากและกิจกรรมต่าง ๆ ถูกจำกัดการเข้าถึงเฉพาะกับผู้ที่ฉีดวัคซีนต้านไวรัส บุคคลที่หายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 และมีผลตรวจเชื้อเป็นลบเมื่อไม่นานที่ผ่านมา แต่กลุ่มหลังนี้ ในปัจจุบันถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในบางพื้นที่แล้ว

โรงพยาบาลหลายแห่งเปิดเผยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าการทำงานของพวกเขากลับเข้าสู่ภาวะจำกัดอีกครั้ง ด้วยห้องไอซียูเต็มไปด้วยคนไข้โควิด-19 ดังนั้นจึงไม่สามารถรับผู้ป่วยรายใหม่ได้ในเวลานี้

คริสเตียน คาราเกียนนิดิส ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์แห่งสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินและอภิบาลผู้ป่วยหนัก DIVI ระบุ ด้วยที่คาดหมายว่าเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นั่นหมายความว่าตารางผ่าตัดบางอย่างจะถูกเลื่อนออกไป

ส่วนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชารีเทเปิดเผยในวันอังคาร (9 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องยกเลิกกำหนดการผ่าตัดต่าง ๆ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งต้องไปทำหน้าที่ดูแลคนไข้โควิด-19 ในขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าในบรรดาผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนไข้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

ดรอสเทน ยอมรับว่าข้อจำกัดสกัดโควิด-19 อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ อาจเจอปัญหาในศาล และเชื่อว่าการดึงประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น คือทางออกระยะยาวที่ดีที่สุด


(ที่มา:เดลิเมล)
https://mgronline.com/around/detail/9640000111770