Monday, 17 June 2024
ระบาดซ้ำ

เยอรมนี ส่อวิกฤต! โควิดระบาดซ้ำ ชี้! อาจคร่าชีวิตอีกนับแสน หากไม่ลงมือสกัด

นักไวรัสวิทยาระดับสูงของเยอรมนี เตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มอีกกว่า 100,000 คน หากไม่ดำเนินการใด ๆ ในการกำหนดข้อจำกัดอันเข้มงวดในทันที เพื่อยับยั้งการจู่โจมของการแพร่ระบาดระลอก 4 ที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว

เสียงเตือนจาก คริสเตียน ดรอสเทน หัวหน้าแผนกไวรัสวิทยาแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชารีเท ในกรุงเบอร์ลิน มีขึ้นในขณะที่ประเทศแห่งนี้พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง

ดรอสเทน กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 100,000 คน เป็นการประเมินตัวเลขในเชิงสงวน (conservative estimate) หรือเลี่ยงประเมินด้วยตัวเลขที่สูงเกินไป ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น พร้อมระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์อีกรอบจะเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่สามารถเร่งโครงการฉีดวัคซีนให้คืบหน้าอย่างรวดเร็ว

"ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแท้จริง" เขากล่าวถึงสถานการณ์ตามห้องไอซียูตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ "เราจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างในทันที"

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น มีผู้คนในเยอรมนีเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้ว 96,963 ราย

ดรอสเทน คาดหมายว่าฤดูหนาวปีนี้จะเป็นฤดูหนาวที่เหนื่อยยากมาก ๆ หากการฉีดวัคซีนไม่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และมองว่ารัฐบาลเยอรมนีจะจำเป็นต้องพิจารณาบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ นานา

"เป็นไปได้มากว่าเราจำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้งผ่านมาตรการป้องกันการสัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่แค่อาจจะ แต่แน่นอนว่าเราต้องทำ" เขากล่าว "เราอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ เรามีอีก 15 ล้านคนที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนและควรฉีดวัคซีน"

ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการพบว่าราว 67% จากประชากรทั้งหมด 83 ล้านคนของเยอรมนี ฉีดวัคซีนครบแล้ว และจนถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนกับกลุ่มอาชีพไหน ๆ

เสียงเตือนอย่างน่ากลัวของนักวิทยาศาสตร์มีขึ้นในขณะที่ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติของเยอรมนี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันในวันพุธ (10 พ.ย.) ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

สถาบันโรเบิร์ต คอช รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 39,676 คน ทุบสถิติเดิม 37,102 คน ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการติดเชื้อของเยอรมนี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 232.1 เคสต่อประชากร 100,000 คน ในช่วง 7 วันหลังสุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลยังคงเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่มีเจตนากำหนดมาตรการล็อกดาวน์ และหันไปวิงวอนขอประชาชนให้เข้าฉีดวัคซีนแทน

ปัจจุบันเยอรมนีมีรัฐบาลรักษาการตามหลังศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกันยายน และ 3 พรรคการเมืองของเยอรมนี ที่อยู่ระหว่างเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม เห็นพ้องว่าจะไม่ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป

‘หมอประสิทธิ์’ เตือนหนาวนี้น่าห่วงระบาดซ้ำ หวั่นตามรอยยุโรป แนะเลี่ยง 3 ปัจจัยเสี่ยง 

ศิริราช เผย ยุโรป "โควิด-19" กลับมาระบาดซ้ำ แม้หลายประเทศฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มครอบคลุมประชากรจำนวนมาก ย้ำเดือน ธ.ค. ช่วงเสี่ยง เทศกาล อากาศเย็นลง แนะหลีกเลี่ยง 3 เสี่ยง ได้แก่ บุคคลเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง เพื่อให้ "เปิดประเทศ" ปลอดภัย

ข้อมูล องค์การอนามัยโลก มีความกังวลในการแพร่ระบาดโควิด-19 ทวีปยุโรป เพราะขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นหลายประเทศในยุโรป กลับระบาด มีการคาดการณ์ว่า หากไม่มีการจัดการอะไรเลย ในเดือน มี.ค. 65 อาจจะมีผู้เสียชีวิต มากกว่า 5 แสนราย หากวิเคราะห์เหตุปัจจัย ตั้งแต่ปีก่อนและปัจจุบัน จะพบว่าเมื่อมีการแพร่ระบาดในทวีปใดทวีปหนึ่ง ไม่นานจะกระจายไปทวีปอื่นตามมา

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเด็น สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ระลอกใหม่ใน ยุโรป โดยระบุว่า ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 64 การแพร่ระบาดใหญ่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ส่วนยุโรปชัดเจนว่า ช่วงปลาย ส.ค.- ก.ย. 64 เป็นต้นมา แนวโน้มสูงขึ้นไม่หยุด อัตราการระบาดในประเทศในยุโรปที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ก็ไต่ขึ้น โดย ต.ค. เป็นจุดเปลี่ยน สิ่งที่น่าห่วง คือ ยุโรปเข้าหน้านาว อากาศเย็นลงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง ขณะที่สถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แต่ในปีที่ผ่านมาการระบาดลดลงในลักษณะนี้และกลับขึ้นมา

"เมื่อถอดบทเรียนการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ทวีปยุโรป กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ หลายประเทศเปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น เตือนขอให้ระวัง เพราะเดือนหน้าเป็นเดือนช่วงเวลาของการเสี่ยงการติดเชื้อ"

ประเทศออสเตรีย
เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการติดเชื้อสูงสุด (รายใหม่ 925 ต่อหนึ่งแสน) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ จนรัฐบาลใช้มาตรการ Lockdown มีการฉีดวัคซีนแล้ว 12,937,047 โดส ฉีดวันละ 97,929 โดส (ประชากร 9,078,699 คน) 70.3% ของประชากร ได้รับ 1 โดส 65.8% ได้ครบโดส และ 13.7% ได้โดสที่สาม ยังพบคนที่ไม่ใส่หน้ากากเยอะ ทำให้รัฐบาลกำชับมาตรการส่วนบุคคล การป้องกันตนเอง การใส่หน้ากาก และผลักดันการฉีดวัคซีน

สหราชอาณาจักร
กำลังเฝ้าติดตามสายพันธุ์ Delta Plus (มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง E484K) ว่าจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ (ยังไม่มีหลักฐาน) รายงานใน The Guardian เมื่อ 16/11/2021 ผู้ป่วย COVID-19 ที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนัก (ICU) ทั่วสหราชอาณาจักร แทบทั้งหมดคือผู้ที่ยังไม่รับวัคซีนหรือรับไม่ครบ

ทั้งนี้ นอกจากตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีการฉีดวัคซีนเยอะอัตราการเสียชีวิตก็เริ่มกลับไปในช่วง มี.ค. ที่ยังฉีดวัคซีนไม่มาก สื่อให้เห็นว่า วัคซีนที่กระตุ้นภูมิต้านทานไม่ได้ทำให้ภูมิสูงเป็นปี ปฏิกิริยาการตอบสนองจะอยู่ช่วงเวลาหนึ่งและลดลง เมื่อลดลงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ยุโรป และสหรัฐฯ มีกลุ่มต่อต้านวัคซีน แต่ก็อยากมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น มีชาวออสเตรียราว 4 คน ที่ไปร่วมกิจกรรมในตอนเหนืออิตาลี เป็นกิจกรรมที่คนติดเชื้อโควิดมาเจอกัน อยากเอาตัวเองเข้าไปเพื่อติดเชื้อโควิด-19 เพราะหากการติดเชื้อไม่อันตรายจะเกิดภูมิคุ้มกันจากติดเชื้อธรรมชาติ ดังนั้น คนเหล่านี้จึงมองว่า ไปติดเชื้อดีกว่า แต่ขณะนี้ 4 คนดังกล่าว 1 คนเสียชีวิต 3 คนอยู่ในไอซียู และในจำนวนนี้ 1 คนเป็นเด็ก แปลว่าไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุที่ตายจากโควิด คนที่ยังไม่ได้รับภูมิคุ้มกันขอความกรุณาอย่าคิดแบบนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าติดเชื้อแล้วภูมิจะขึ้นหรือชีวิตเราจะลด

ข้อสังเกตมาตรการประเทศต่างๆ

รัฐบาลประเทศออสเตรีย ประกาศ Lockdown ประเทศเมื่อ 22/11/2021 เพื่อควบคุมการแพร่ ระบาดของ COVID-19 (64% ของประชาชน ของออสเตรีย ได้รับการฉีดวัคซีนครบ เป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป - 66%)

รัฐบาลประเทศเบลเยียม ออกประกาศเมื่อ 22/11/2021 ให้ประชาชน Work from Home อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 วัน ต้องใส่หน้ากากในสถานที่สาธารณะ สำหรับผู้ที่อายุเกิน 10 ปี ต้องใส่หน้ากากในยานขนส่งสาธารณะ ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ และในที่นอกอาคารที่มีกิจกรรมคนจำนวนมาก

รัฐบาลประเทศลัตเวีย (Latvia) ประกาศ Lockdown ตั้งแต่ 21/10/2021 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด (ประชาชนฉีดวัคซีนน้อย 61%) และยกเลิกเคอร์ฟิวเมื่อ 15/11/2021 แต่ยังคงจำกัดชั่วโมงทำงานในที่ทำงาน จำกัดจำนวนคนที่ร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และไม่อนุมัติให้มีกิจกรรมสันทนาการในอาคารลัตเวียมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในยุโรป

รัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ ประกาศ Lockdown เป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อควบคุม การระบาด ปิดบาร์ ภัตตาคาร ตั้งแต่ 20.00 น. ร้านบริการต่าง ๆ เช่น ร้านตัดผม ปิด 18.00 น. แนะนำให้ทำงานที่บ้านยกเว้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จำกัดบุคคลภายนอก เข้าบ้านสูงสุดไม่เกิน 4 คน

รัฐบาลประเทศไอร์แลนด์ ประกาศเมื่อ 18/11/2021 ให้ในต์คลับ ภัตตาคารปิดเที่ยงคืน ทำงานที่บ้านยกเว้นจำเป็นอย่างยิ่งถึงจะไปทำงานในที่ทำงาน การเข้าชมภาพยนตร์ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือหายป่วย ผลสำรวจพบ 57% ของผู้ถูกสำรวจจะลดจำนวนการพบปะผู้คนจนผ่าน Christmas 45% ยกเลิกแผนการเที่ยว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top