'ก้าวไกล' จี้!! เยาวชนถูกยิงดับหน้า ‘สน.ดินแดง’ ชี้!! คดีไม่คืบหน้า สังคมยังมีข้อกังขาหลายจุด

พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในฐานะรองประธานในคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง (Fact finding) กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ภายหลังจากที่สื่อมวลชนรายงานว่าเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม 2564) นายวาฤทธิ์ สมน้อย หนึ่งในเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดง บริเวณหน้าสน.ดินแดง เข้ารักษาตัวที่ร.พ.ราชวิถี ด้วยอาการวิกฤตเนื่องจากกระสุนฝังบริเวณไขสันหลังส่วนบน ร่วมกับมีภาวะสมองบวมจากการขาดออกซิเจนเสียชีวิตแล้ว

พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวว่า กว่า 2 เดือนแล้วจากเหตุการณ์ยิงเยาวชนหน้า สน.ดินแดง ในขณะที่ตนและคณะทำงานของกรรมาธิการได้เปิดหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงจนพบกลุ่มคนต้องสงสัยที่ตำรวจควรจะตามตัวมาได้ไม่ยาก แต่คดีนี้ในชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จนกระทั่งผู้ถูกกระทำได้จากไปแล้ว 

“ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ วาฤทธิ์ วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรี มุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ ก่อนถูกยิงล้มลง ซึ่งมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง ระบุทิศทางการยิงมาจากซอยหน้า สน.ดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ ที่สำคัญรัฐจะต้องเร่งหาตัวคนร้าย ผู้ก่อเหตุและผู้สั่งการต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม”

ทั้งนี้ พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนร่วมใจกันทวงถามความยุติธรรมจากรัฐ เราจะต้องไม่ปล่อยให้ครอบครัวของเขาต้องสู้อย่างเดียวดาย และจะต้องไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และสิ่งที่เกิดขึ้นคุ้มแล้วหรือกับเยาวชนอนาคตของชาติที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ ต้องมาแลกกับชีวิตของตนด้วยปลายกระบอกปืน อย่าปล่อยให้เป็นความอยุติธรรมที่ถูกกลืนหายไปโดยไร้คำตอบ

ขณะที่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ที่ตั้งคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง (Fact finding) กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงใน วันที่ 16 สิงหาคม 2564 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งหลังการแถลงข่าวเปิดข้อมูลของคณะทำงานที่รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น 

ทางกรรมาธิการได้ส่งต่อข้อมูลหลักฐานทั้งหมดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับใด ๆ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลย ทั้งที่ข้อมูลที่ทางคณะทำงานฯ ส่งมอบนั้นมีหลักฐานชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจริงใจที่จะดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีก็ไม่ยาก แต่นี่กลับนิ่งเฉยจนกระทั่งเหยื่อจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเสียชีวิต ในฐานะตัวแทนของประชาชนขอประณามความนิ่งเฉยนี้ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ จะเชิญเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีนี้มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการต่อไป แม้วันนี้น้องจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ความอยุติธรรมต้องไม่เงียบไปพร้อมกับชีวิตของเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือเพื่อสืบหาความจริงต่อกรณีดังกล่าว”

นอกจากนี้ นายณัฐชา ระบุว่า จะเดินทางไปคารวะศพของ นายวาฤทธิ์ สมน้อย ก่อนมีการฌาปนกิจในวันอาทิตย์นี้ และขอยืนยันว่าต้องไม่มีใครเสียชีวิตอย่างสูญเปล่าจากความรุนแรงที่สันนิษฐานได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง