‘สธ.’ เผย!! โควิดยืน 1 ทำหญิงตั้งครรภ์ดับหลายประเทศ ด้านไทยน่าห่วง หลังหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนแค่ 25%

ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย แถลงข่าวการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทย ว่า กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าทั่วโลกหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 50-60% จากภาวะปกติ และการเสียชีวิตส่วนหนึ่งเกิดจากโควิด 

โดยหลายประเทศโควิดเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของหญิงตั้งครรภ์ในประเทศแทบยุโรป และสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยมีการเก็บข้อมูลย้อนหลัง 1 ปีตั้งแต่ ต.ค. 2563 - ก.ย. 2564 ในช่วงที่มีการระบาดของโควิดในช่วงการระบาดครั้งที่ 2 และ 3 พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตทั้งหมด 192 ราย เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 78 ราย ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นสัดส่วนการตายอันดับหนึ่งในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึง 38% ของหญิงตั้งครรภ์

นพ.เอกชัย กล่าวว่า การติดเชื้อ และการเสียชีวิตบ่อยขึ้นของหญิงตั้งครรภ์ เกิดขึ้นเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา เม.ย. - ก.ย. เราพบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 4,778 ราย มีทารกติดเชื้อ 226 ราย และในจำนวนนี้มารดาเสียชีวิต 95 ราย และทารกเสียชีวิต 46 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามนโยบายการฉีดวัคซีนในสตรีมีครรภ์เพิ่งเกิดขึ้นในไทยเมื่อเดือนก.ค. และเริ่มรณรงค์อย่างหนักในเดือนส.ค. พบว่าหญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีนเข็มแรกเพียง 74,625 คน เข็มสอง 51,989 คน เข็มสาม 526 คน

นพ.เอกชัย กล่าวอีกว่า ช่วงเดือนธ.ค.นี้ จะมีหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ประมาณ 3 แสนคน ซึ่งขณะนี้ฉีดได้เพียง 25% โดยภาคตะวันออกฉีดได้สูง 40% แต่ภาพรวมยังน้อย โดยเฉพาะภาคอีสานฉีดได้เพียง 10-20%

สำหรับการสำรวจของอนามัยโพล โดยการสำรวจในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ว่ามีทัศนคติอย่างไรต่อการฉีดวัคซีนโควิด จาก 1.5 พันคนพบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ตอบแบบสอบถามกว่าครึ่งหนึ่งยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยมี 60% ตั้งใจจะฉีดวัคซีน ส่วนที่เหลือยังคงลังเลอยู่ เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน

ด้านนพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ข้อมูลการฉีดวัคซีนในวันนี้ เพิ่มขึ้น 914,527 โดส สะสม 66,592,321 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 38,137,096 ราย เข็มสอง 26,474,522 ราย และเข็มสาม 1,980,703 ราย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเป้าหมายแต่ละเดือนหลังจากนี้จะประสบความสำเร็จเพราะว่า ตัวเลขของเป้าหมายปลายเดือนต.ค.ที่บอกว่าให้ถึง 50% ของจำนวนประชากรเราบรรลุผลแล้ว

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ตัวเลขการติดเชื้อในกรุงเทพฯ ปริมณฑลลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนต่างจังหวัดยังไม่ลดลงเท่าที่ควร แต่มีหลายจังหวัดก็มีการคงตัวในระดับสูง ส่วนชายแดนใต้ยังมีการติดเชื้อในระดับที่สูงอยู่ ถ้ามองภาพรวมประเทศ ถ้าเรายังคงมาตรการได้ดี การติดเชื้อรายใหม่คงจะลดลงตามแนวโน้ม อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงเจอคลัสเตอร์ที่รายงานเข้ามาเรื่อยๆ คืองานศพ ซึ่งคนที่ไปจะยังต้องเข้มงวดมาตรการป้องกัน


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/120209