Tuesday, 7 May 2024
WEEKEND NEWS

เปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ 2 ชาติผู้นำเกษตรอาเซียน 'ไทย-เวียดนาม'

ยกระดับความร่วมมือด้านเกษตรสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มรายได้เกษตรกรตอบโจทย์ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ภายหลังได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ไปปฏิบัติราชการ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามให้เข้าร่วมและกล่าวในพิธีเปิดงาน 'เทคโนโลยีเกษตรแห่งเอเซีย 2022' (Agritechnica Asia 2022) ที่นครเกิ่นเทอ และการประชุมหารือกับนายเล มิน ฮวาน (Mr. Le Minh Hoan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนา ทำๆชนบท สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายเจิ่น แทงห์ นาม (Mr. Tran Thanh Nam) รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ดร.เจิ่น หงับ ถัดห์ (Dr. Tran Ngoc Thach) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยข้าวสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (MDRRI :Mekong Delta Rice Research Institute) ถึงแนวทางกรอบความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามซึ่งมี นายจักรกริช เรืองขจร รองกงสุลใหญ่นครโฮจิมินห์ นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรเวียดนามเข้าร่วม

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะขยายความร่วมมือทางด้านการเกษตรอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเกษตร การผลิต การแปรรูปและการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารโดยจะมีการจัดตั้งกลไกใหม่ๆ ในระดับนโยบายและหน่วยงานและระบบสื่อสารระหว่างกันทั้งการทำงานเชิงรุกและการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

อนุสรณ์ อัด!! สัญญาค่าแรงขั้นต่ำ 425 รัฐทำไม่ได้ เป็นการตระบัดสัตย์ หลอกประชาชนหวังผลคะแนน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี มติคณะกรรมการค่าจ้างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2565 ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต ค่าแรง 354 บาทต่อวัน ส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้, น่าน และอุดรธานี ถูกสุด 328 บาทต่อวัน ว่า พรรคพลังประชารัฐที่ตอนนี้มีหัวหน้าพรรคเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี รู้สึกอย่างไร ที่นโยบายหาเสียงเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน ไม่สามารถทำได้ตามสัญญาทั้งที่มีอำนาจล้นมือ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ หลอกลวง เพื่อหวังผลคะแนนตอนเลือกตั้งหรือไม่ 

ตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ พอมาเป็นรัฐบาลปรับแต่ละครั้งกะปริบกะปรอย แต่ละพื้นที่ก็ปรับไม่เท่ากัน ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำ จนปลายอายุรัฐบาล จังหวัดที่ได้มากที่สุดก็ยังห่างไกลจาก 425 บาทที่หาเสียงอยู่มาก แทนที่จะพูดในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่พูด กลับพูดแล้วไม่ทำ และอาจเตรียมไปพูดโม้ใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เกียรติภูมิของความเป็นพรรคการเมืองแทบไม่เหลือ กกต.จะดำเนินการอย่างไร ถ้าพรรคการเมืองไปหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ แล้วไม่เกิดผลอะไรทางกฎหมาย ต่อไปพรรคไหนอยากพูดอะไร อยากสัญญาอะไร พอทำไม่ได้ก็ไม่มีความผิด ไม่ต้องรับผิดชอบ กลายเป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่าหลอกลวงประชาชน นโยบายที่ใช้หาเสียงแล้วทำไม่ได้ควรมีราคาที่ต้องจ่าย จะยุบพรรคหรือถูกลงโทษอย่างไรก็ควรต้องมีบรรทัดฐาน 

'อัษฎางค์' สวดพวกต่ำช้า เหยียดหยาม 'บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่' ทั้งที่ไม่เคยทำประโยชน์อะไรเพื่อชาติและประชาชน

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุว่า...

ผมขอออกตัวก่อนนะว่า ผมไม่ใช่ติ่งลุงป้อม แต่เห็นทั้งเด็กๆ และไอ้แก่ทั้งหลาย บุลลี่ ลุงป้อม ลุงตู่ ด้วยความหยาบคาย แล้วก็เคืองแทนเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าใครจะไม่พอใจการทำงานการเมืองของลุงป้อม ลุงตู่ แต่มันถูกต้องแล้วหรือที่จะใช้ความต่ำช้าของตัวเอง ไปเหยียดหยามผู้อื่น

อยากถามว่า คนที่ไปบุลลี่ ลุงตู่ ลุงป้อม ทั้งหลายนั้น เคยทำคุณประโยชน์อะไรเพื่อชาติและประชาชนบ้างหรือยัง 

วันนี้ขอเอาบทสัมภาษณ์นี้มาฝาก (เผื่อบางคนไม่เคยอ่าน) คำพูดของใคร มันบอกความเป็นตัวตนของคนนั้น 

ลองฟังอีกมุมของลุงป้อม ที่ใครอาจไม่เคยรู้เคยเห็น

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษ ในรายการ “เนชั่นทันข่าวค่ำ” ทาง เนชั่นทีวี ช่อง 22 โดยผู้สื่อข่าว “อัญชลี อริยกิจเจริญ”

ถาม : ให้เล่าชีวิตในช่วงที่เป็นทหาร เคยผ่านสนามรบอะไรมาบ้าง เพราะปัจจุบันทหารหลายคนไม่ค่อยได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสนามรบ ในช่วงเป็นทหารวัยรุ่น?
ตอบ : จบไปก็ไปอยู่ชายแดนเลย ไปอยู่ภูพาน เดินอยู่แถวนั้นประมาณ 8 เดือน แล้วก็สมัครไปเวียดนาม ก่อนจะไปก็ไปฝึกที่เมืองกาญจน์ 6 เดือน ตอนอยู่ชายแดน ปะทะกันเกือบทุกวัน ปี 2512 ก็ลำบาก เพราะขึ้น 15 วัน ลงมา 2 วันพักแล้วขึ้นอีก 15 วัน แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ในภูพาน อยู่ประมาณ 8 เดือนได้ก็มาสมัครไปเวียดนาม ไปเวียดนามปีกว่า ประมาณ 13 เดือน ก็เป็นการรบที่แตกต่างกัน ระหว่างที่เวียดนามกับที่เมืองไทย โดยเมืองไทยใช้ยิงกัน แต่ที่เวียดนามมีอากาศยาน มาสนับสนุนช่วยเหลือ

ถาม : ทำไมถึงสมัครใจไปที่เวียดนาม?
ตอบ : ผมจบมาเป็นทหารราบ ต้องทำการรบ และผมคิดว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่ต่อไปในอนาคตต้องผ่านสนามรบทุกสนามที่เราสามารถจะไปได้ จึงสมัครไป ก็ไปรบนั่นแหละ สนามรบที่เวียดนาม การส่งกำลังบำรุงดีกว่าในประเทศไทย ประเทศไทยลำบากกว่า โดย 4 วันส่งอาหารที แต่ที่เวียดนามส่งกันทุกวัน

ถาม : มีเหตุการณ์ที่รู้สึกประทับใจกับการทำหน้าที่ทหาร?
ตอบ : มันเยอะมากเลยประทับใจเยอะมาก ต้องยิงกันอะไรกัน ต่อสู้กัน

ถาม : ในสนามรบต้องระวังตัวเองอย่างไร?
ตอบ : เราก็ต้องหลบน่ะสิ หลบไม่ให้โดนจะทำยังไง ต้องทำเป้าเราให้เล็กที่สุด ทำตัวเราให้เล็กที่สุด อะไรบังได้ก็บัง

ถาม : เสร็จจากตรงนั้นกลับมาได้อะไร?
ตอบ : ได้ประสบการณ์จากการอยู่ในสนาม อยู่กับลูกน้องอยู่กับเพื่อนฝูงอยู่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ได้รู้ว่าคนเราเวลาอยู่ในสนามรบเป็นอย่างไร เวลาอดอยากเป็นอย่างไร เพราะกินนอนอยู่ในป่า

ถาม : อยากให้เด็กรุ่นใหม่หรือทหารใหม่ๆ ได้รู้ว่าเป็นอย่างไรเพราะเขาจะไม่มีประสบการณ์ในสนามรบ แบบนี้แล้วส่วนใหญ่มีแค่เหตุที่ภาคใต้?
ตอบ : ใช่ ภาคใต้ก็ยังมีอยู่นะ แต่ว่ามันก็ ไปทางกับระเบิดอะไรพวกนี้มากกว่าที่จะมายิงกันเหมือนสมัยที่ผมเป็นเด็กๆ เป็นร้อยตรี

ถาม : ชีวิตทหารเด็กๆ ตอนนั้นลำบากไหม กว่าเราจะขึ้นมา?
ตอบ : โอ๊ย! ลำบากมาก เราก็ไม่รู้ว่าจะขึ้นมาอย่างนี้หรอก แต่เราเป็นทหารเราก็ต้องออกสนามรบ ทำเพื่อประเทศชาติใช่ไหม เราก็ทำตามนโยบายของรัฐบาล ให้เราทำอะไรเราก็ต้องทำตามนั้น เพราะเราอยากเป็นทหารเอง ไม่มีใครเขามานั่นเราหรอก เราสมัครและสอบเข้ามาเอง เราก็มาเป็นเอง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น เป็นทหารเด็กๆ มา ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นใหญ่อย่างนี้หรอก ใครจะไปคิดก็คนมันตั้งเยอะแยะ มันเป็น 3 เหลี่ยมใช่ไหม เติบโตขึ้นมา กว่าจะขึ้นมาถึงข้างบนนี้มันใช้เวลานานมากนะ แล้วต้องเหนื่อยมาก ต้องเหนื่อยมาก

ถาม : เวลาขึ้นมาถึงข้างบนตำแหน่งมันจะน้อย?
ตอบ : ก็น้อยน่ะสิ ใช่ เราจะไปรู้ได้ไง การที่เราจะเติบโตขึ้น ก็ต้องดูว่าผู้บังคับบัญชาจะมองเราอย่างไร เราต้องทำตัวเราให้มีคุณค่าของการที่จะรับใช้ประเทศชาติ รับใช้ประชาชน รับใช้กองทัพ ผู้บังคับบัญชาเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดว่าเราควรจะเป็นอะไรต่อไป ไม่มีใครจะไปรู้หรอก รู้ดีเท่ากับตัวผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาเขาจะมองเราว่าเราดี เราไม่ดี เรานิสัยเป็นอย่างไร ทำงานเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

ถาม : สมัยท่านรองเป็นทหารเด็กๆ ที่เขาลงโทษ “หัวปักพื้น” ผ่านมาหมดไหม?
ตอบ : ผ่านหมดอ่ะ ทุกอย่างอ่ะ พวกนี้ (ชี้ไปที่ลูกน้อง) ก็เหมือนกัน ผ่านมาทั้งนั้นแหละ

ถาม : มันเป็นธรรมเนียมมาอยู่แล้ว?
ตอบ : ใช่ เขาไม่สั่งให้ไปตายหรอก เขาให้ทำตามคำสั่ง เขาฝึกให้คนอยู่ในคำสั่ง

ผู้จัดแจงปมยกเลิกคอนเสิร์ต ‘นนท์ ธนนท์’ ด้านเจ้าตัวโพสต์แซว ขอวีซ่าตลกแต่แรกก็ผ่านแล้ว

ทำเอาแฟนๆ งงไปตามๆ กันหลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก Mask Off Events ออกมาประกาศเลื่อนงานคอนเสิร์ตของนักร้องดัง นนท์ ธนนท์ ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2565 ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยระบุรายละเอียดไว้ว่า

‘ประกาศสำคัญเรื่องงานคอนเสิร์ต นนท์ ธนนท์

ทางทีมงานต้องกราบขออภัยอย่างสูงสุดต่อเพื่อนๆ / สปอนเซอร์ / แฟนคลับของนนท์ ธนนท์ / และต้องขออภัยตัวน้องนนท์เองเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถทำให้งานครั้งนี้เกิดขึ้นได้ตามกำหนดการค่ะ

ส่วนใครที่อยากholdสิทธิ์ไว้ **เราขอคืนเงินให้หมดก่อน** และเมื่อเรากลับมาจัดงานนนท์อีกครั้ง

เราจะติดต่อคนที่เคยได้บัตรไป เพื่อเป็นการไม่ให้เสียโอกาสของลูกค้า ที่ได้พยายามซื้อบัตรของงานนี้

เมื่อคืนบัตรกับทางร้าน รบกวนให้ลูกค้าทิ้งอีเมล์ ชื่อ และเบอร์โทรไว้นะคะ เราจะได้คอนแทคของลูกค้าทุกคนในมือ และเราจะส่งหลักฐานการใช้สิทธิเมื่อเรามีจัดงานคอนเสิร์ตนนท์อีกครั้งค่ะ

การเลื่อนคอนเสิร์ต NONT TANONT AUSTRALIAN TOUR (LIVE IN MELBOURNE) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กันยายนนี้ เนื่องจากติดปัญหาการดำเนินการเรื่องวีซ่า ทางผู้จัดจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนงานคอนเสิร์ตนี้ออกไป โดยต้องเช็กคิวงานของศิลปิน และปัจจัยอื่นๆ จึงจะสามารถกำหนดวันงานได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดขอทำการคืนค่าบัตรให้กับลูกค้าทุกท่าน ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1.ผู้ที่ซื้อบัตรผ่านทาง LINE OFFICIAL เราจะโอนเงินคืนให้ (ขั้นตอนการคืนเงินจะแจ้งทางLINE OFFICIAL อีกครั้ง)

2.ผู้ที่ซื้อบัตรทางร้านตลาดไทย เสบียงทอง อำไพ ให้นำบัตรมาคืนพร้อมรับเงินสดคืนได้ทันที

ทีมงาน MASK OFF EVENTS และผู้จัดทาง SYDNEY และ BRISBANE ได้ทำตามกระบวนการและยื่นเอกสารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งกับผลที่ออกมาทำให้ผู้จัดรู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถ สร้างความสุขให้กับทุกคนในครั้งนี้ได้ อีกทั้งเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางผู้จัดจริงๆ จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขออภัยผู้สนับสนุนทุกท่านอย่างสูงสุดมา ณ ที่นี้’

เหตุนี้ทำให้แฟนๆ ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งในทวิตเตอร์ได้ออกมาทวีตข้อความบอกว่า...

‘น้องที่ออสบอก คอนเสิร์ตนนท์ ธนนท์ที่ออสดราม่าใหญ่โตเรื่องขายบัตร เพราะว่าบัตรขายหมดไวมาก ปรากฏต้องแคนเซิลคอนเสิร์ตเพราะวีซ่าน้องไม่ผ่าน เค้าให้เหตุผลว่าไม่เชื่อว่าน้องเป็นศิลปิน และไม่เชื่อว่าน้องจะกลับไทยเลยปฏิเสธวีซ่า 🙄 อะไรรรรรรร๊ #นนท์ธนนท์ #nonttanont #Nontfam’

ต่อมาภายหลังเกิดดราม่าขึ้นทางแฟนเพจเฟซบุ๊กผู้จัด Mask Off Events ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงอีกครั้งถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยว่า

‘ประกาศชี้แจงเพิ่มเติมกรณีเลื่อนคอนเสิร์ต

จากที่แอดมิน LINEOF FICIAL ได้ให้ข้อมูลกับลูกค้าไปโดยพลการ ก่อนจดหมายทางการจาก MASK OFF EVENTS จะออกมานั้น มีผลกระทบทำให้เป็นข่าว จึงอยากขออภัยอย่างสูงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้

INTERLINK จัดใหญ่ ให้ช้อปสินค้า ลดราคาเดือด เสิร์ฟถึงภาคเหนือ !!!

INTERLINK จัดใหญ่ ให้ช้อปสินค้า ลดราคาเดือด เสิร์ฟถึงภาคเหนือ !!!

(27 ส.ค. 65) คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ เปิดงาน “MID YEAR SALES 2022 ระเบิดความคุ้ม ลดยกใหญ่ จัดให้ปีละครั้ง” ยกขบวนสินค้าไปลดเดือด ตรึงราคา มอบโปรโมชันดีลเด็ดที่ภาคเหนือ จัดขึ้นเพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโต และตอบรับกับเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป

'กอบศักดิ์' เผยประธานเฟดพูด 'ตัดรอนไม่เหลือเยื่อใย' จ่อขึ้นดอกเบี้ย สยบเงินเฟ้อ ซัดหุ้นร่วงระเนระนาด

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

9 นาทีเขย่าโลก
“ตัดรอน ไม่เหลือเยื่อใย”
นี่น่าจะเป็นข้อสรุปที่ตรงสุด สำหรับสุนทรพจน์ของท่านประธานเฟดเมื่อคืนนี้
1,301 คำที่ชี้ว่า “เฟดจะไม่ใจอ่อน และจะไม่เปลี่ยนใจ จนเงินเฟ้อลง”

We will keep at it until we are confident the job is done.

จึงไม่น่าแปลกใจว่า เมื่อคืนนี้ 
Dow Jones -1,008 จุด หรือ -3.03%
Nasdaq -498 จุด หรือ -3.94%
Bitcoin -1,500 ดอลลาร์ ลงมาเหลือ 20,200 หรือ -6.75%
Ethereum -200 ดอลลาร์ ลงมาเหลือ 1,500 หรือ -12%
ระเนระนาด 

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะนักลงทุนแอบหวังว่า
เงินเฟ้อสหรัฐที่ลงมาให้เห็น 1 เดือนแล้ว เป็นสัญญาณที่ดี
หมายความว่า ดอกเบี้ยขึ้นไปไม่มาก แค่ 3.66% ก็จะจบ
ต้นปีหน้า เฟดน่าจะพอแล้ว
และน่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปี

แต่สิ่งที่ท่านประธานเฟดพูดเมื่อคืน มันช่างต่างจากที่นักลงทุนคิดไว้มาก
ท่านบอกว่า

📌 สิ่งที่คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐหมกหมุ่น focus อยู่ ก็คือ เอาเงินเฟ้อลงมาที่ 2%
หน้าที่ของเรา คือ การสยบเงินเฟ้อให้ได้ 
ถ้าเฟดผิดพลาดเรื่องนี้ เศรษฐกิจก็จะไม่สามารถขยายตัวอย่างยั่งยืน 
เงินเฟ้อจะสร้างความเสียหายแก่ทุกคน

📌 การเอาเงินเฟ้อกลับเข้าเป้า “ต้องใช้เวลา” 
ต้องใช้นโยบายที่ “เข้มข้น” เข้าจัดการ
จะนำมาซึ่ง เศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าปกติ
คนต้องตกงาน 
ธุรกิจต้องปิด
คนทั่วไป อาจจะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้
แต่นี่คือต้นทุนที่เราต้องแบกรับไว้ เพราะถ้าพลาดจะเสียหายยิ่งกว่านี้

📌 ล่าสุด เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอลงบ้าง 
แต่โดยรวมยังมีแรงส่งที่ดีอยู่
ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งมาก 
เงินเฟ้อกำลังกระจายไปภาคส่วนต่างๆ
ส่วนที่ลงมา 1 เดือน ถือเป็นข่าวดี 
แต่ยังไม่พอ 
ยัง falls far short ที่จะทำให้กรรมการมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะลง

📌 เฟดจะปรับดอกเบี้ยไประดับที่เข้มข้น ที่ชะลอเศรษฐกิจลงมา 
ระดับปัจจุบันที่ 2.25-2.5% เป็นระดับที่เรียกว่า Neutral rate
แต่จุดนี้ไม่ใช่จุดที่เฟดจะหยุดหรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ย 
โดยการขึ้นดอกเบี้ยครั้งหน้า อาจจะเป็น .75% 
เราจะดูข้อมูลที่ออกมาอีก 1 เดือน แล้วตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือไม่ 
ทั้งนี้ ในอนาคต เมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ยไปได้สูงพอ อัตราการขึ้นอาจจะชะลอลงได้

📌 ในการที่จะเอาเงินเฟ้อลงมา เฟดคงต้อง “คงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลาที่นานพอควร” 
เพราะบทเรียนในอดีตชี้ว่า การลดลงเร็วเกินไป เชื้อเงินเฟ้อจะไม่ตาย และจะเกิดปัญหาอีกรอบได้
โดยเมื่อมิถุนายน กรรมการมองว่าจุดสูงสุดของดอกเบี้ยรอบนี้ต้องขึ้นไปอย่างน้อยใกล้ๆ 4% 
แต่ในการประชุมครั้งหน้าจะบอกอีกทีว่าจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เท่าไหร

📌 สิ่งที่กรรมการคิด หารือแนวทางจัดการเงินเฟ้อ ตั้งอยู่บนบทเรียนสำคัญจากอดีต 3 เรื่อง

📌 เรื่องแรก – เป็นหน้าที่ของธนาคารกลางในการจัดการเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางมีเครื่องมือในการสู้ศึกดังกล่าว ที่เคยใช้ได้ผลมาในอดีต
รอบนี้ก็เช่นกัน “ต้องเอาเงินเฟ้อลงมาให้ได้ อย่างไม่มีเงื่อนไขใดใด” 
We are committed to doing that job 
เฟดมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเรื่องนี้ โดยไม่ลังเล
(หมายความว่า เศรษฐกิจจะถดถอย คนจะตกงาน บริษัทจะปิดกิจการ ล้มละลาย รัฐบาลสหรัฐจะจ่ายหนี้ยากขึ้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องไปปรับตัวเอง)

📌 เรื่องที่สอง – การคาดการณ์เงินเฟ้อของทุกคนสำคัญมาก
ในช่วง 1970 เงินเฟ้อสูง คนเคยชิน 
ยิ่งเฟ้อ ก็ยิ่งเอามาใช้ในการปรับขึ้นราคาสินค้า เงินเดือน
Paul Volcker บอกว่า หน้าที่ของเฟดคือ ตีหลังของเงินเฟ้อให้หัก 
และทำให้เงินเฟ้อไม่สามารถต่อยอดตนเองได้
Alan Greenspan บอกว่า เป้าหมายคือ เราต้องทำให้เงินเฟ้อต่ำ ต่ำจนทุกคนไม่ได้ใส่ใจ 
แต่ปัญหาใหญ่ของเราก็คือ ช่วงนี้ เงินเฟ้ออยู่ในใจทุกคน 
ยิ่งปล่อยไว้นาน เงินเฟ้อก็จะสามารถฝังรากลึก ต่อยอดตัวเองได้

📌 เรื่องที่สาม - เราต้องไม่วอกแวก ลังเล
อดีตสอนว่า ยิ่งช้า ยิ่งเสียหาย
ก่อนที่ Paul Volcker จะจัดการเงินเฟ้อสำเร็จ 
เฟดล้มเหลวแล้ว ล้มเหลวอีก เป็นเวลา 15 ปี
(ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะใจอ่อน เปลี่ยนนโยบายเร็วเกินไป เชื้อยังไม่ตาย ก็รีบเลิกให้ยา)
นโยบายการเงินที่เข้มข้น ดอกเบี้ยที่สูง ที่ค้างไว้ยาวนานพอ 
คือ หัวใจสำคัญในการหยุดเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มขึ้น และเอาเงินเฟ้อลงมา
A lengthy period of very restrictive monetary policy was ultimately needed to stem the high inflation and start the process of getting inflation down to the low and stable levels…
เราต้องมุ่งมั่นในการสู้ศึกครั้งนี้ เพื่อจะไม่พลาดเหมือนในอดีต

📌 ท่านประธานเฟดจบสุนทรพจน์โดยบอกว่า 
These lessons are guiding us as we use our tools to bring inflation down. We are taking forceful and rapid steps to moderate demand so that it comes into better alignment with supply, and to keep inflation expectations anchored. We will keep at it until we are confident the job is done.
บทเรียนทั้งสามเรื่อง คือ กรอบที่เราใช้ในการจัดการเงินเฟ้อรอบนี้
เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย “ให้แรงพอ” และ “เร็วพอ” เพื่อจัดการเงินเฟ้อ
และเราเดินหน้าต่อไป ไม่เปลี่ยนใจ 
จนเรามั่นใจว่าเงินเฟ้อยอมสยบ กลับเข้าเป้า

'ก้าวไกล' ซัด!! สิ่งแวดล้อมพังทลายครั้งใหญ่ ผลงาน 8 ปี ของรัฐบาล 'ประยุทธ์' ที่ทิ้งไว้

นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ต้องบอกว่า 8 ปีที่ผ่านมาได้ทิ้งมรดกความชั่วร้ายไว้มากมายซึ่งยังคงยากจะฟื้นได้ นอกจากจะมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยแท้จริงมาบริหารเท่านั้น ไม่ใช่ลูกครึ่งแต่งตั้งมาช่วยเลือกรัฐบาลอย่างทุกวันนี้

สำหรับในด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งตนติดตามมาตลอด ต้องถือว่าเป็น 8 ปีแห่งความพังทลายเช่นกัน ในขณะที่ปัญหาโลกร้อนและความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมากขึ้นทุกที แต่รัฐบาลนี้กลับมีแต่การสร้างเศรษฐกิจสีเขียวแบบลวงหลอก ปากอ้างปกป้อง แต่แท้จริงทำลายและหาประโยชน์ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่าง EEC ที่มีแต่ขายฝัน กระจุกผลประโยชน์เพื่อนายทุนใหญ่และกองทัพเท่านั้น ส่วนพี่น้องประชาชนถูกไล่ที่ มีการเปลี่ยนสีผังเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์จากราคาที่พุ่งสูงในที่ดินพวกพ้อง ซ้ำยังจะมีโครงการถมทะเลมาบตาพุด 1000 ไร่ ที่ส่งผลกระทบกับวีถีชีวิตผู้คน แย่งชิงฐานทรัพยากรทางทะเล ทำให้ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาล โดยไม่มีการจัดสรรงบ เพื่อเยียวยาและชดเชยให้ประชาชน และดีไม่ดี หากแลกกับทรัพยากรที่ถูกทำลาย การฟื้นฟูกลับมาอาจยากและต้องเสียเงินในการดูแลผลกระทบมากกว่าเศษกำไรที่ตกลงมาเสียอีก

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายนโยบายที่ทำให้กลไกการกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมอ่อนแอลงด้วย เช่น คำสั่ง คสช.4/2559 และ 9/2559 ที่ยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายผังเมือง และการทำ EIA นำไปสู่การปล่อยผีโรงงานสร้างมลพิษ สะสมสารเคมีอันตรายใกล้ชุมชนได้ ดังที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้จนต้องมีการอพยพประชาชน รวมถึงการหาประโยชน์จากการสร้างโรงงานขยะจนทำให้ไทยกำลังกลายเป็นบ่อขยะโลก เป็นต้น

"ยังมีอีกหลายกรณีที่นโยบายของรัฐบาลนี้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่กลับปัดตกหรือดองเค็มกฎหมายที่มีประโยชน์ที่จะมาช่วยสร้างเครื่องมือและกลไกดูแลประชาชนให้เข้มแข็งขึ้น เช่น กฎหมาย PRTR ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล

สตูล มาเลเซียขนทัพเรือคายัคโปรโมทเส้นทางธรรมชาติใหม่ 'ลังกาวี-สตูล' ให้สาวกชื่นชอบแนวผจญภัย ก่อนเปิดด่านชายแดนทางน้ำ

นักกีฬาพายเรือคายัคจากเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียจำนวน 21 ลำ 37 คน พายเรือมุ่งหน้ามายังเกาะยาว ตำบลปูยู อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เพื่อพักรับประทานอาหารและประกอบศาสนากิจทางศาสนา โดยมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อบต.ปูยูให้การต้อนรับคณะโดยเป้าหมายจะมุ่งหน้าไปยังตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล รวมระยะทาง 47 กิโลเมตร  

โดยระยะเวลาในการพายเรือครั้งนี้ใช้เวลา 5 ชม.เศษท่ามกลางสภาพอากาศที่เป็นใจ นับเป็นการพายเรือคายัคระหว่างประเทศ 'เกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย - ตำมะลัง จังหวัดสตูล' ครั้งแรกของการท่องเที่ยวแนวผจญภัยเส้นทางเรือคายัค ของกลุ่มนักกีฬาที่ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้ 

สร้างอนาคตไทย สนับสนุน!! การกีฬาเพื่อเยาวชน

(27 สิงหาคม 2565) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคกรุงเทพฯ ได้ร่วมเปิดงานการแข่งขันฟุตบอลเขตพญาไท ซึ่งจัดที่สนามฟุตบอล ในร่ม พหลโยธิน ซอย 8 โดย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณากร เป็นผู้ประสานงานการจัด

ดร.อุตตม ได้กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย เห็นความสำคัญกีฬาทุกประเภท และต้องการสนับสนุนเยาวชนไทยให้เล่นกีฬา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง, รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และให้อภัย ทั้งยังเป็นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ เยาวชนไทยจะได้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

'กรณ์' ชู 'กล้าฟื้นชีวิต' พักจ่ายต้น-ลดดอก-แขวนค่าปรับ' วอน!! 'รักษาการนายกฯ-ครม.' ทำได้ทันที ไม่ต้องใช้งบฯ

'กรณ์' เสนอ 'รักษาการนายกฯ' ประชุม ครม. นัดแรก เร่งออกมาตรการช่วยแก้หนี้ 13 ล้านบัญชี ติดหนี้ช่วงโควิด กลายเป็นหนี้เสียหลายล้านบัญชีแล้ว เสนอมาตรการ 'กล้าฟื้นชีวิต' พักชำระเงินต้น - ลดดอกเบี้ย - แขวนค่าปรับ - แคชแบ็ค ย้ำ ครม. ทำได้ทันที ไม่ต้องใช้งบประมาณ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวด่วนถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของรักษาการนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยขอให้เร่งตัดสินใจแก้ไขปัญหาหนี้ 13 ล้านบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นช่วง 2 ปีที่โควิดระบาด โดย 3 ล้านบัญชีกลายเป็นหนี้เสีย ติดแบล็กลิสต์กับเครดิตบูโรแล้ว และอีก 10 ล้านบัญชีสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นหนี้เสียในอนาคต ทั้งหมดครอบคลุมคนประมาณ 7-8 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรวัยทำงาน ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่หมดโอกาสทางเศรษฐกิจ หมดโอกาสจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่รัฐต้องเร่งมีมาตรการช่วยเหลือโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะมีหนี้เสียเพิ่มอีกเป็นล้านบัญชี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top