Saturday, 18 January 2025
POLITICS

ส.ส. ก้าวไกล บุกกรมราชทัณฑ์ จี้ตอบกรณีคุกคามผู้ต้องขังกลุ่ม ‘ม็อบ 3 นิ้ว’ กลางดึกในเรือนจำ ด้านรองอธิบดีฯแจง การตรวจโรคกลางดึกเป็น ‘เรื่องปกติ’ ส่วนชายชุดน้ำเงินไม่ติดป้ายชื่อ เป็นเรื่องของ ‘โอกาส’ ในการแต่งเครื่องแบบ

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่กรมราชทัณฑ์ ท่าน้ำนนท์ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางสาวเบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล, และนายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงต่อกรมราชทัณฑ์ ในกรณีเหตุการณ์คุกคามนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา “ไผ่ ดาวดิน” และนายภานุพงศ์ จาดนอก “ไมค์ ระยอง” สองผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร

โดยมีความพยายามนำตัวทั้งสองออกจากแดนคุมขังที่ 2 ในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร ออกจากแดนคุมขังกลางดึก โดยอ้างว่าจะนำไปตรวจโรคโควิด-19 โดยเป็นการกระทำหลายระลอก มีการใช้เจ้าหน้าที่พร้อมกระบองเสริมกำลังเข้ามากดดัน และมีการนำตัวบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน ไม่ระบุชื่อและสังกัด เข้ามาร่วมปฏิบัติการ ต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ไปจนถึงเวลา 03.00 น.ของเช้าวันที่ 16 มีนาคม 2564 แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม เนื่องจากเป็นการปฏิบัติที่ผิดปกติวิสัย ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังคดีการชุมนุมกลุ่มราษฎรในเรือนจำ

ซึ่งนางอมรัตน์ ได้เดินทางมาถึงกรมราชทัณฑ์ในเวลาประมาณ 14.00 น. พร้อมกับมีประชาชนผู้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าร่วมสังเกตการณ์และขอรับทราบข้อเท็จจริงร่วมกับนางอมรัตน์ด้วย โดยทางกรมราชทัณฑ์ ได้ส่งนายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าพบเพื่อรับหนังสือและอธิบายข้อเท็จจริงต่อนางอมรัตน์

โดยหนังสือของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสองกล้องวงจรปิดในห้องขังเรือนจำ และตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่เข้าออกเรือนจำกลางดึกเมื่อคืนนี้ และขอให้ชี้แจงกับประชาชนให้เกิดความกระจ่างและความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์

ด้านนายแพทย์วีระกิตติ์ ผู้ลงมารับหนังสือ ได้พยายามอธิบายข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่ากรณีดังกล่าว ทางกรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว การตรวจหาเชื้อโควิด-19 กลางดึกในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งผู้ต้องขังในกลุ่มอื่นๆด้วย ความพยายามนำตัวผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรทั้งสองออกจากแดน ไม่ใช่การนำออกไปที่อื่น แต่เป็นการนำไปรับการตรวจในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเอง ซึ่งมีสถานที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อยู่แล้ว

การมีหลายระลอก เพราะระลอกแรกผู้ต้องขังเข้ามาถึงเรือนจำในเวลาประมาณ 19.00 น. เข้าไปห้องกักเดียวกันกับผู้ต้องขังที่มาจากพื้นที่เสี่ยงโดยบังเอิญ จึงได้ขอเจรจาว่าจะนำผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรแยกไปอยู่ในห้องกักอื่นที่ยังว่างอยู่

เมื่อมีการปฏิเสธจึงต้องมีการป้องกันความปลอดภัยทางสุขภาพของผู้ต้องขัง คือการตรวจหาโรคโควิด-19 โดยเร็วที่สุด จึงได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อเข้าไปขอทำ swab เป็นเจ้าหน้าที่ ๆ มีใบประกอบโรคศิลป์ ซึ่งทั้งสองคนได้ปฏิเสธ ในขณะที่ผู้ต้องขังรายอื่นๆให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งหมดเป็นไปตามความชอบธรรมของนโยบายการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีการปฏิบัติกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เมื่อทั้งหมดไม่ยอมตรวจ ทางกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรอีก เพราะไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้า มีเพียงการนำผู้ต้องขังรายอื่นที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วออกจากห้องขังนั้นไป

ส่วนบุคคลชุดน้ำเงินที่เข้ามา เป็นชุดปฏิบัติการปกติของกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำผู้ต้องขังอื่นๆที่อยู่ร่วมกันและให้ความร่วมมือออกไปจากห้องขัง ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายหรือการกระทำอื่นใดผู้ต้องขังทั้งสิ้น

“เรื่องป้ายชื่อเนี่ยมันเป็นโอกาสที่เขาจะใส่ชุดใดๆ ซึ่งเครื่องแบบชุดนั้นผมไม่ได้สังเกต แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีการทำร้ายหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น เราได้บันทึกภาพ บันทึกอะไรต่าง ๆ ไว้หมด แล้วในกรณีนำไปเปรียบเทียบกับหมอหยองไม่ได้ เพราะหมอหยองไม่ได้อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพก่อนเกิดเหตุ มันเป็นความชอบธรรมในเรื่องนโยบายโควิด เพราะคุกมันมีความแออัด มีคนตั้ง 3 - 4 พันคน การตรวจโควิดเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ” นายแพทย์วีระกิตติ์กล่าว

จากนั้น นางอมรัตน์จึงได้ซักถามเพิ่มเติม กรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ผู้ต้องขังระหว่างการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อีกรายหนึ่งจากกรณีการชุมนุมกลุ่มราษฎร ถูกแยกตัวออกไปคุมขังร่วมกับนักโทษเด็ดขาด (นักโทษประหาร) ว่าเป็นความปกติหรือไม่

นายแพทย์วีระกิตต์ ตอบเพียงว่าเป็นความปกติ เรื่องนี้เป็นเรื่องในทางปฏิบัติและทัณฑวิทยา โดยไม่อาจให้รายละเอียดของเหตุผลได้ เมื่อความพยายามอธิบายของนายแพทย์วีระกิตติ์ ยังคงไม่สามารถทำให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังข้อเท็จจริงเกิดความสิ้นสงสัยได้ ทั้งในกรณีข้ออ้างการตรวจโรคโควิด-19 กลางดึก และกรณีของนายพริษฐ์ จึงเกิดการโต้แย้งแสดงความไม่พอใจออกมา จนทำให้นายแพทย์วีระกิตต์รับหนังสือจากนางอมรัตน์และเดินกลับเข้าไปในกรมราชทัณฑ์ทันที

หลังจากการยื่นหนังสือ นางอมรัตน์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และประชาชนที่มาร่วมชุมนุมติดตามการชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์ในวันนี้ โดยระบุว่าทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายเบื้องต้นแล้ว ยังคงไม่มีการแสดงหลักฐานอื่นใดจากทางกรมราชทัณฑ์ แม้ทางรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะระบุว่ามีภาพหลักฐานทุกอย่างที่พร้อมนำมาแสดง ส่วนที่ยังไม่ได้รับความกระจ่างนักคือกรณีเจ้าหน้าที่ในชุดสีน้ำเงินที่ไม่ได้ติดป้ายระบุชื่อและสังกัด ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็คงจะต้องออกมาแถลงสร้างความกระจ่างให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งให้สิ้นความสงสัยต่อไป

“เป็นเหตุการณ์ที่ดูแล้วไม่ปกติ เราห่วงใยในความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี ยังไม่ได้ถูกตัดสิน ยังไม่ได้เป็นนักโทษ วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ท่านช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสองการเข้าออก และให้ท่านได้ชี้แจงให้สังคงกระจ่างด้วยว่าเหตุการณ์นี้มันปกติหรือไม่ เพราะในยามวิกาลจะมีคนแปลกหน้าในชุดสีน้ำเงินมาพยายามนำตัวผู้ถูกคุมขังออกไป ก็ขอให้ท่านชี้แจงกับสังคมให้กระจ่างด้วย ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” นางอมรัตน์กล่าว

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2564

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน

ประจำวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2564

คนไทย “พร้อม” หรือ “ยังไม่พร้อม” ใช้รถยนต์ไฟฟ้า | PoliticsQuiZ EP.4

Politics QuiZ อีพีนี้จะพาทุกคนมาสำรวจความคิดเห็นคนไทยบางกลุ่ม ว่าพวกเขา “พร้อม” หรือ “ยังไม่พร้อม” ที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตอนนี้!! 

.

รมว.ยุติธรรม ปัด ไม่เคยเห็นจดหมาย ‘ทนายอานนท์’ ขอความช่วยเหลือ ชี้! ให้เจ้าหน้าที่แจงรายละเอียด ปมนำผู้ต้องขังออกนอกแดน ยามวิกาล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเผยแพร่จดหมายของนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำราษฎร เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวออกนอกเเดนในยามวิกาล ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบและยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเป็นเรื่องรายละเอียดที่ตนไม่ได้ติดตามและยังไม่เคยได้ยิน เพราะตั้งแต่เช้าก็เตรียมตัวที่จะมาฉีดวัคซีนและประชุมครม. ดังนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าตามกฎของเรือนจำสามารถนำตัวผู้ต้องขังออกไปนอกแดนในยามวิกาลได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ไม่ได้ยิน และไม่ทราบเรื่องระเบียบของเรือนจำ แต่ถ้ามีความจำเป็นก็เห็นยังเข้าออกในเวลากลางคืนได้ เช่น เวลาฝากขังก็เห็นทำได้ แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ทำกันในยามวิกาล เพราะหากเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ก็ควรจะทำกลางวัน เว้นแต่มีกรณีจำเป็นเท่านั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีการนำจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผยอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ยังไม่ได้ตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็มีประเด็นแบบนี้เรื่อย ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เขาก็ทราบว่าเรื่องอะไรที่ควรจะชี้แจงบ้าง แต่ตนไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ"

เมื่อถามว่าในเรือนจำสามารถเขียนจดหมาย และส่งออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ก็ต้องผ่านผู้คุม แต่ในกรณีนี้ไม่ทราบว่าผ่านหรือไม่ ส่วนเนื้อหาจดหมายตอนหนึ่งอ้างว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวออกไปตรวจโควิด-19 เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ ถ้าเอารายละเอียดทุกประเด็นมาพูดก็คงสับสน ขอให้เจ้าหน้าที่เขาตอบถ้ามีกรณีดังกล่าวจริงเพราะถือเป็นหน้าที่ของเขา"

ประกันสังคม เผยโครงการ ม33เรารักกัน ตรวจสอบสิทธิ 15 - 28 มี.ค.64 กดยืนยัน 15 - 21 มี.ค.64 สำหรับผู้ยื่นทบทวนสิทธิยื่นได้ตั้งแต่ 15-28 มี.ค.64 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึง การดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ที่ลงทะเบียนรับสิทธิเงินเยียวยาจากรัฐบาล ผ่านโครงการ ม33เรารักกัน เข้าตรวจสอบสิทธิการรับเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 - 28 มี.ค. 64 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com และกดยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 15 - 21 มี.ค.64

ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับวงเงินผ่าน Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 22 , 29 มี.ค. 64 และ 5 ,12 เม.ย. 64 ครั้งละ 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาท โดยจะสามารถเริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ได้ในวันที่ 22 มี.ค. - 31 พ.ค.64

สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนตรวจสอบสิทธิแล้วไม่ได้รับสิทธิตามโครงการ ม33เรารักกัน สามารถขอทบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ได้ตั้งแต่ 15 - 28 มี.ค.64 ในเวลา 06.00 - 23.00 น. โดยขอให้ผู้ประกันตนกดเข้าไปที่เมนู “ทบทวนสิทธิ” (ปุ่มสีเหลือง) หลังจากนั้นกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการทบทวนสิทธิให้ละเอียดชัดเจน เช่น ชื่อสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสหลังบัตร วันเดือนปีเกิด จังหวัดที่พักอาศัย เบอร์โทรศัพท์

จากนั้นคลิ๊กปุ่ม “ขอทบทวนสิทธิ” ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสถานะผู้ได้รับสิทธิผ่านทางเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com พร้อมกดยืนยันตัวตนผ่าน Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 5 - 11 เม.ย. 64 ผู้ประกันตนจะได้รับวงเงินเข้า Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 12 เม.ย. 64 จำนวนเงิน 4,000 บาท เพื่อให้ผู้ประกันตนเริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ในวันที่ 12 เม.ย. - 31 พ.ค. 64

นายทศพล กล่าวในตอนท้ายว่า "สำนักงานประกันสังคมได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานทบทวนสิทธิ ม33เรารักกัน ที่สำนักงานประกันสังคม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องประสานงานทบทวนสิทธิและอำนวยความสะดวกพร้อมให้คำแนะนำปรึกษารับเรื่องการลงทะเบียน ให้ผู้ประกันตนในโครงการ ม33เรารักกัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ทุกวัน หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)"

รมว.สาธารณสุข การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค แต่ไม่กล้ารับปาก ได้เล่นสงกรานต์หรือไม่ รอ ทีมแพทย์รายงาน ศบค.ใหญ่ก่อนเคาะอีกที วอนประชาชนอย่าการ์ดตก

รมว.สาธารณสุข การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค แต่ไม่กล้ารับปาก ได้เล่นสงกรานต์หรือไม่ รอ ทีมแพทย์รายงาน ศบค.ใหญ่ก่อนเคาะอีกที วอนประชาชนอย่าการ์ดตก

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค ว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมแพทย์ลงไปตรวจเชิงรุกที่ตลาด และตามไปตรวจผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด รวมถึงชุมชนที่มีการติดเชื้อมากเป็นพิเศษ และนำผู้ที่ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลหลักคือโรงพยาบาลบางขุนเทียนของกทม. และในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน เผื่อกรณีที่กทม. เริ่มเต็ม ก็ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อสนับสนุนเอาไว้พร้อมแล้ว แต่ยังเชื่อว่าเราจะสามารถควบคุมอยู่ในวงจำกัดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าคลัสตเตอร์บางแค จะส่งผลกระทบ ต่อการพิจารณาผ่อนคลายในช่วงของเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ทุกอย่างจะส่งผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และอยู่ที่ความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก การพิจารณาอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่พิจารณาอยู่บนความสนุก ที่เราทำมาทั้งหมดทุกวันนี้ก็เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และยังต้องยึดหลักนี้อยู่

ทั้งนี้ต้องดูว่าจากช่วงนี้ไปจนถึงสงกรานต์ ที่เหลือระยะเวลาอยู่ประมาณ 1 เดือนนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเราก็สามารถควบคุมได้ แต่ว่าช่วงนี้ อาจจะการ์ดตกกันบ้าง ก็ขอให้กลับมาที่เราเคยทำ คือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างล้างมือ หากเราปฏิบัติตามหลักนี้ได้ การแพร่เชื้อก็จะถูกจำกัดวง ให้แคบมาก ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์"

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแสดงว่าถึงเวลานี้ยังไม่กล้ารับปากประชาชนใช่หรือไม่ว่าจะได้เล่นน้ำสงกรานต์หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยแต่ถ้าถามอย่างนี้ตนไม่ตอบดีกว่า เพราะไม่มีการรับปากรับคำอะไรทั้งสิ้น เราทำทุกอย่าง อยู่บนความตั้งใจที่ดีที่สุด แล้วอยู่บนความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก เมื่อถามว่า ในการประชุมศบค.วันที่ 19 มีนาคมนี้ประเด็นเรื่องการผ่อนคลายเทศกาลสงกรานต์จะถูกหยิบยกเข้าไปหารือด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ไม่ทราบ ทางศบค.จะเป็นผู้นำเสนอ เราต้องดูสถานการณ์ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด"

‘ศรีนวน พิลาดี’ ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็กต์ยักษ์อย่าง ‘มารีน่า เบย์แซนด์’ | Contributor EP.11

ไต่เต้าสตอรี่!!

ศรีนวน พิลาดี ผู้อยู่เบื้องหลัง ‘มารีน่า เบย์แซนด์’ จากเด็กนักเรียนไร้กางเกง สู่ผู้บรรเลงงานก่อสร้างระดับพระกาฬของเมืองไทย ใครจะคิดว่าคนธรรมดาที่ (ชีวิต) ไม่ธรรมดา จากเด็กแบกข้าวสาร สู่ตำแหน่ง Site Supervisor . จากเด็กบ้านนอกในฝั่งชายแดนไทย - เขมร ครอบครัวยากจน . หัวดี แต่ต้นทุนชีวิต ทำให้จบการศึกษาได้เพียงแค่ ม.3

สิ่งที่ทำได้ คือ ดิ้นรนเข้าเมืองกรุง เพียงเพื่อลืมตาอ้าปากได้แบบผู้อื่น . เริ่มต้นอาชีพแบกข้าวสาร และกรรมกรหลากรูปแบบ ด้วยความไม่ท้อ ไม่ท้อ และไม่ท้อ ทำให้วันนี้ เขาก้าวสู่ตำแหน่ง Site Supervisor ผู้คุมโปรเจ็กต์งานก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ อะไรที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ จุดเขาพูดเต็มปากว่า ‘ต้นทุนแบบเดียวกับเขา ก็ยากที่จะเป็นได้แบบเขา’ 

.

.

.

‘เพนกวิน’ แถลงอึดอัดใจ ระหว่างศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุม 19 กันยา ทำบรรยากาศส่อวุ่น ‘คนกรีดร้อง ปาขวดน้ำในศาล’ กร้าวจะขออดข้าวประท้วง

รายงานว่าระหว่างศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุม 19 กันยายน ทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี แต่มีผู้เกี่ยวข้องในคดี ผู้สังเกตการณ์ และผู้เดินทางมาให้กำลังใจส่วนหนึ่งได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี

นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำราษฎรนนทบุรี หนึ่งในจำเลย ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการพิจารณาคดีว่า ภายในห้องพิจารณาคดี "เพนกวิน" นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้ขออนุญาตแถลงต่อศาลถึงความอึดอัดที่อยู่ในใจ แต่ศาลไม่อนุญาตให้พูดในที่เปิดเผย

จากนั้น มีเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น เพนกวินจึงประกาศความอึดอัดใจว่าเหตุใดศาลไม่ให้ประกันตัว ทั้งที่ยังไม่มีคำตัดสิน โดยเทียบเคียงกับคดี กปปส. ที่ตัดสินแล้วว่ามีความผิดแต่ได้ประกันตัว และไม่ต้องตัดผม พร้อมประกาศขอประท้วงด้วยการอดข้าว ดื่มแต่น้ำ จนกว่าจะได้รับการประกันตัว ซึ่งบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีได้เกิดความวุ่นวาย มีมวลชนที่ได้เข้าไปร่วมฟังการพิจารณาระบายอารมณ์ด้วยการกรีดร้อง และเขวี้ยงขวดน้ำลงพื้น เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเพนกวินและจำเลย ลงไปควบคุมที่ห้องควบคุมจำเลยด้านหลัง

นายชินวัตร ระบุด้วยว่า หวังให้ศาลมีความยุติธรรม และป.อาญา มาตรา 112 เป็นข้อหาที่ทำร้ายประชาชน ส่วนตนเองในช่วงบ่าย จะถูกไต่สวนในคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถ่ายรูปร่วมกับนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ในห้องเวรชี้ และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย อีกทั้งมีคดีละเมิดอำนาจศาลของนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่ถ่ายรูปนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ผ่านหน้าจอแล้วไปโพสต์อีกด้วย ซึ่งในส่วนของตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาเตือน


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2050476

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า #อนุทินและธนาธรใครโกหกประชาชน มีเนื้อความว่า

ผมได้อ่านรายละเอียด ความขัดแย้งในคลับเฮาส์ ระหว่าง นายอนุทิน และนายธนาธร เรื่องการฉีดวัคซีน

โดยนายธนาธรกล่าวหานายอนุทินว่า โกหกประชาชน เรื่องแผนการฉีดวัคซีน ด้านนายอนุทินก็ชี้แจงไปว่า สิ่งที่นายธนาธรพูดนั้นข้อมูลเก่า

เมื่อผมติดตามศึกษา รายละเอียดเพิ่มเติมที่ทีมแพทย์แถลง ผมเชื่อนายอนุทินครับ เพราะแผนงานต่าง ๆ นั้นสามารถปรับได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ต่างจากโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ 3,000 บาทถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจน มีประชาชนลงทะเบียนมา 3 ล้านคน จ่ายเงินจริงแค่ 2,427 คน ที่สำคัญ มีการเอาเงินบริจาคไปทำอย่างอื่นอีก แบบนี้ถึงจะเรียกว่า โกหกประชาชน

ขอรบกวนคุณหมอท่านใด ที่สนับสนุนนายธนาธร(เพราะหมออย่างผม เขาคงไม่ฟัง) ช่วยเตือนเขาด้วยว่า อย่าเอาการเมือง มายุ่งกับงานวิจัยทางการแพทย์ วัคซีนและการรักษาพยาบาล เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของจริยธรรม คนที่ไม่มีจริยธรรมจะไม่ค่อยเข้าใจ


ที่มา: https://www.facebook.com/1635406246730420/posts/2867414883529544/

อย่าปล่อยให้ ‘ม็อบ’ ไร้ ‘แกน’ (นำ) โดย 'พิชิต ไชยมงคล' | Contributor EP.10

แม้การชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย เหตุเพราะทุกคนที่ออกมา สามารถส่งเสียงและแสดงพลัง ผ่านแนวร่วมที่มีใจเดียวกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายบางอย่างที่ถูกจุดขึ้นมาจนติด

อย่างไรก็ตาม โลกของการเคลื่อนไหวต่อสู้ ก็ต้องการผู้ที่สามารถ ‘รวมใจ’ คนทั่วสารทิศให้มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียว และทำให้เป้าหมายเดินหน้าได้ตามที่วางไว้ ไม่สะเปะสะปะ แบบต่างคนต่างลุย . แกนนำ สำคัญไฉน? หากการเคลื่อนไหว ‘ไร้แกนนำ’ ตัวจริง มาลงสนามรบบัญชาทัพด้วยตนเองแล้ว จะทำให้การเคลื่อนทัพและเป้าหมายที่ตั้งไว้ ‘ย่อยยับ’ หรือไม่? เรื่องนี้น่าสนใจ!!

พิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย อดีตโฆษกเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แกนนำมวลชนรุ่นพี่ ผู้ที่เชื่อว่าพลังของประชาชนจะใช้อย่างถูกทิศ หากมี ‘แกนนำ’ ที่ปักธงให้ร่วมสู้ได้แบบไม่สะเปะสะปะ มีคำตอบเรื่องนี้ให้กับเรา!!

.

.

 

กระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยัน ไทยไม่แพ้คดีเปิดปม 'คิงส์เกต' ฮุบ 'เหมืองทองอครา' หวังโกยกำไรแบบไม่แคร์

แม้จะมีภาคสังคมและขั้วตรงข้ามรัฐบาล หยิบยกกรณี ‘เหมือนทองอครา’ ที่มี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย เป็นคู่พิพาทกับทางรัฐบาลไทย โดยยืนยันความว่า ‘ประเทศไทยแพ้แน่นอน’

แต่สุดท้ายดูเหมือนว่า ‘ประเทศไทยจะไม่แพ้แน่นอน’ ในข้อพิพาทนี้ เหตุการณ์การฟ้องร้องโดยมี คิงส์เกต เป็นผู้เริ่มนั้น มีค่าเสียหายที่ต้องการได้รับจากรัฐบาลไทยมหาศาล โดยต้องการให้ทางรัฐบาลไทยชดเชยวงเงินกว่า 2 หมื่นล้าน หลังรัฐบาลสั่งยุติการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้การสั่งยุติกิจการของคิงส์เกตในเหมืองทองอครา มาจากการที่รัฐบาลไทยใช้อำนาจ ม.44 สั่งระงับการดำเนินธุรกิจของคิงส์เกต หลังจากตรวจพบความไร้มาตรฐานในการดำเนินงาน ทำลายสิ่งแวดล้อม กระทบคุณภาพชีวิตคนไทยในพื้นที่ข้างเคียงอย่างหนัก

และนั่นก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทย ไม่สามารถยอมได้ แน่นอนว่าในมุมของขั้วตรงข้ามรัฐบาลพยายามจะทำให้เห็นว่า การตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้ผิดพลาด และไม่มีโอกาสชนะ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเรื่องนี้ก็พลิกจากคำว่า ‘แพ้’ มาสู่คำว่า ‘ไม่แพ้’ เมื่อ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ทางรัฐบาลไทยวางใจให้เข้ามาจัดการปัญหาดังกล่าว

การลงมาเล่นเกมนี้ด้วยตัวเองของ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ดูเหมือนจะไปได้สวย ชั้นเชิงของการเป็นนักธุรกิจเดิม เพิ่มเติมกับเกมการเมืองที่สั่งสมมานาน ทำให้มหากาพย์เหมืองทองอคราที่กำลังถูกมองว่า ‘ไทยแพ้ชัวร์’ เกิดพลิก และกล้าพูดออกมาได้เต็มปากจาก ‘สุริยะ’ ว่า “ถ้าแพ้แล้วเขาจะมาขอเจรจาหรือ”

นั่นก็เพราะการลงมารวบรวมหลักฐานในการประกอบธุรกิจที่ไร้มาตรฐานของคิงส์เกต ถูก ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ งัดออกมาแบบทุกท่วงท่า และในความเป็นจริง อาจจะมีเบื้องลึกที่เป็นไม้เด็ดยิ่งกว่า จนทำให้คิงส์เกตต้องหยุดเงียบ รวมไปถึงฝ่ายขั้วตรงข้ามรัฐบาล ที่เงียบหายไปกับฝุ่ง PM2.5 นี่คืออีกกรณีศึกษาของการพิทักษ์ศักดิ์ศรีไทย ที่คนไทยควรต้องรู้

.

คุยกับ​ 'ร.อ.ดร.จองชัย วงศ์ทรายทอง'​ ผู้อยู่เบื้องหลังบัตรประชาชน​ Smart Card ในมุมมองประชาชน​ ที่หวังให้บัตรนี้ Smart สมกับชื่อ

เชื่อว่าบัตรประชาชนที่อยู่ในมือของคนไทยหลายๆ​ คนตอนนี้​ น่าจะเป็นบัตรประชาชนอเนกประสงค์ หรือ บัตรประชาชน Smart Card กันเกือบทั้งนั้นแล้ว

โดยบัตรดังกล่าวมีลักษณะแตกต่างจากบัตรทุกรุ่นที่ผ่านมา นั่นคือ ตัวบัตรทำด้วยพลาสติกชนิดพิเศษ ซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทาน แถมรายการในบัตรนี้จะมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกำกับในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ เพื่อให้คุณได้ใช้งานได้แบบสากล

แต่ที่พิเศษ​ คือ​ ตัวบัตรจะมี​ 'ไอซี ชิป'​ สามารถเก็บข้อมูลหลายๆ​ อย่าง​ โดยจุได้มากถึง 80 กิโลไบต์​ พร้อมกับลายพิมพ์นิ้วมือเจ้าของบัตร​ เพื่อใช้ในการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล ตอนไปขอรับบริการต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยตรวจสอบป้องกันการปลอมแปลงบัตรไปในตัว

บางคนอาจจะถามว่าแล้วบัตรประชาชน​ Smart​ Card​ มันมีอะไรดี?

มันมีอยู่แล้วครับ​ เพราะทางภาครัฐได้พัฒนามาเพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลและการดำเนินธุรกิจธุรกรรมต่างๆ​ ในโลกยุคดิจิทัลเชื่อมโยงกันได้ง่ายขึ้น​แบบไม่วุ่นวายระหว่างประชาชน​-รัฐ-เอกชน

อย่างการใช้งานที่เป็นรูปธรรม​ แล้วก่อให้เกิดภาพชัดๆ​ ก็ ‘โครงการเราชนะ’ ที่เปิดให้คนไม่มีสมาร์ทโฟน ใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน Smart Cart โดยใช้รูดหรือสแกนกับร้านค้าที่ร่วมรายการ​ เป็นต้น

เพียงแต่ในความเป็นจริง​ ความฉลาดหรือ​ Smart​ ของบัตรอาจจะยังไม่เพียงพอ​และไม่ครอบคลุมกับชีวิตประจำวันของคน​ จึงทำให้ส่วนใหญ่ยังนึกภาพคุณประโยชน์ของมันแบบชัดๆ​ ไม่ได้มากเท่าไร

THE​ STATES​ TIMES​ เคยได้ถามเกี่ยวกับความ Smart​ ของบัตรประชาชนรูปแบบนี้​กับ​ ร.อ.ดร.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในผู้ผลักดันให้โครงการบัตรประชาชน Smart Card เกิดและสามารถทำธุรกรรม - รับสวัสดิการต่าง ๆ​ ของรัฐได้อย่างสะดวก จนเข้าถึงคนทุกกลุ่ม​ ซึ่งเขาก็ได้บอกกับเราว่า...

“บัตรประชาชนแบบ​ Smart​ Card​ ที่เรามีกันอยู่ในทุกวันนี้นั้น​ มันมีประโยชน์อย่างมาก​ ทำให้กลุ่มคนที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี​ เช่น ไม่มีสมาร์ทโฟน​ ก็สามารถลงทะเบียนรับการช่วยเหลือจากรัฐได้

"เพราะมันถูกพัฒนามาเพื่อรองรับธุรกรรมได้หลากหลาย โดยเฉพาะกับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งบัตรใบเดียวควรจะเป็นได้ทั้งบัตรประชาชน ใบขับขี่ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ และเป็นอีวอลเล็ตในตัว พอจะไปทำธุรกรรมใด​ ๆ ก็แค่ใช้ข้อมูลต่าง ๆ​ เชื่อมโยงเพื่อเข้าถึงธุรกรรมใหม่ ๆ​ ได้ถึงกันอย่างสะดวก

"ฉะนั้นหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าพัฒนาเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถ ผมเชื่อว่าผลสัมฤทธิ์จะทำให้เกิดความสะดวกหลายประการ ต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งเป็นการประหยัดต้นทุนในการที่ประเทศต้องผลิตเงินตราออกมาใช้อีกด้วยครับ

"และหากทุกหน่วยงานบูรณาการได้สำเร็จ​ จะส่งผลดีต่อประเทศจากจุดศูนย์กลาง​ คือ​ กรุงเทพมหานคร และจะเกิดผลกระทบในเชิงบวกต่อมายังหัวเมืองใหญ่อื่น ๆ​ ด้วย

"ผมรอวันที่บัตรนี้จะฉลาดสมชื่อจริง ๆ... "

อย่างไรก็ตาม​ เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของบัตรสมาร์ทการ์ดนั้น​ ทาง​ ร.อ.ดร.จองชัย​ เป็นหัวแรงสำคัญที่พยายามผลักดันแบบสุดซอย โดยเขาบอกว่าเคยได้นำเรียนผ่านสภาฯ​ เป็นครั้งที่ 2​ ไปแล้ว​

"ผมพยายามชี้ให้สภาฯ​ เห็นว่า​ เราต้องการพัฒนาบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดในปัจจุบันให้ใช้งานให้ได้หลากหลายกว่านี้ เช่น รับเงินเยียวยาเข้าบัตรและสามารถไปกดเงินสดที่ตู้ ATM รวมถึงการทำธุรกรรมอื่น ๆ​ ทางราชการ​และเอกชนได้อย่างปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว”

ร.อ.ดร.จองชัย​ ยังบอกอีกว่า​ บัตรประชาชน Smart Card ที่ทุกคนมี ต้องสมาร์ทให้สมกับชื่อ​ ต้องใช้งานได้หลากหลาย ให้คุ้มกับงบประมาณที่สร้างขึ้นมา​ เนื่องจากประเทศไทยใช้งบประมาณมหาศาล เพื่อเปลี่ยนมาเป็นบัตรฝังชิปไปแล้ว​ จะให้อยู่แค่การยืนยันตัวตนกับรับการเยียวยาโครงการที่มาเป็นระยะ ๆ​ คงไม่เพียงพอ​ แต่ต้องให้บัตรนี้เป็นบัตรที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมในชีวิตประจำวันของคนให้ได้

"ถามว่าทุกวันนี้บัตรสมาร์ทการ์ดใช้ทำอะไรได้บ้าง ผมว่าหลายคนคงนึกออกยาก​ นอกจากมีวาระสำคัญใดๆ​ เข้ามาให้ต้องใช้​ ซึ่งผมว่ามันต้องเป็นได้มากกว่านั้น​ เอาง่าย ๆ​ ผมไม่คิดไปไกล​ ขอแค่ต่อยอดให้บัตรใบนี้พัฒนาฐานข้อมูลให้ดีและปลอดภัย​ แล้วตอนที่ได้รับเงินเยียวยามา​ สามารถไปกดเงินที่ตู้ ATM ได้เลย เอาแค่นี้ได้ก่อน​ คนก็จะรับรู้ได้ถึงประโยชน์จากการมีตัวตนของบัตรนี้”

“อีกประเด็นที่ผมเคยพูดถึงเรื่องบัตร Smart Card ต่อการใช้ในระบบขนส่งมวลชน ควรจะเป็นบัตรใบเดียว เชื่อมโยงทุกโครงข่าย"

"ยกตัวอย่างหันไปมองอังกฤษที่มี Oyster Card ส่วนญี่ปุ่น มี Pasmo และ Suica ขณะที่ ฮ่องกง ก็มี Octopus ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ Smart Card บัตรเดียวในระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเกิดประสิทธิภาพอย่างมาก”

“แต่พอมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว​ บัตรสมาร์ทการ์ด​ เติมเต็มชีวิตหรือสร้างความภาคภูมิใจใดต่อคนไทยได้บ้าง อันนี้น่าคิดจริง ๆ"

ทั้งนี้​ ร.อ.ดร.จองชัย คาดหวังที่จะเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลง​มาศึกษาถึงวิถีการดำเนินชีวิตอันหลากหลายของประชาชนในแต่ละวัน​ แล้วทำให้บัตรสมาร์ทการ์ดไปสร้างประโยชน์ได้ตรงจุด เช่น​ ทุกวันนี้ยังไม่สามารถใช้บัตรกับระบบขนส่งสาธารณะในไทยได้​ ไม่มีการพัฒนาความครอบคลุมเชื่อมใยงกันในหลากหลายบริการผ่านบัตรเดียว รวมไปถึงยังไม่สามารถนำไปใช้ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ​ เป็นต้น

"อันนี้น่าคิดนะ​ เพราะในวันที่เราพูดถึงสังคมยุค Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสดบ่อยขึ้นทุกวัน แต่เรากลับใช้ประโยชน์ใด ๆ​ จากมันไม่ได้เลย​ ยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา​ ประชาชนให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากขึ้น​ เพราะมองว่าเงินหรือธนบัตรก็เป็นแหล่งสะสมโรค แต่จนแล้วจนรอด​ ก็ยังไม่มีอะไรเกิด​ สรุปบัตรนี้ยังฉลาดไม่สมชื่อ"


ติดตามเฟสบุ๊ค ร้อยเอก ดร.จองชัย วงศ์ทรายทอง - ผู้กองเบิร์ด

ได้ที่ https://www.facebook.com/jongchai

ให้มันจบที่คุก !! บทเรียนราคาแพงของการต่อสู้ในระบอบการเมืองไทย 'สุริยะใส กตะศิลา' | Contributor EP.9

เมื่อการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องของคนที่มีอุดมการณ์เฉพาะกลุ่มอีกต่อไป . แต่เป็นเรื่องของผู้มีอุดมการณ์ที่หว่านเมล็ดพันธุ์พืชไว้หวังผล จนเกิดขึ้นมวลชนใหม่ ที่กำลังก่อสงครามทางความคิดระหว่างวัย ได้แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เด็กยุคใหม่จะไม่มีวันฟังผู้ใหญ่ ที่มีเพียงถ้อยวลีแห่งการบีบบังคับ ออกคำสั่ง และหยามเหยียดความเป็นเด็ก . ผู้ใหญ่ยุคเก๋าจะไม่มีวันตอบรับเสียงสนอง เพียงแค่คำคึกคะนองอวดอ้างเสรีภาพแห่งประชาธิปไตย โดยไม่สนขนบเดิมที่เคยยึดกันมา

เส้นบรรจบตรงกลางที่ไม่มีวันพบเจอกัน เกิดจากเหตุใด?

THE STATES TIMES ชวนไปหาคำตอบกับ ‘บุคคล’ ที่เคยจ่ายบทเรียกร้องราคาแพง ภายใต้การต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งจบลงที่ ‘คุก’ และเมื่อพ้นคุก ก็ได้ทิ้งไมค์การเมือง หันมาจับไมค์ทางการศึกษาในรั้วสถาบัน เพื่อนำประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตมาช่วยเชื่อมความเห็นต่างระหว่างวัยในสังคมที่หาจุดร่วม ‘เคลียร์ๆ’ ไม่เจอ...

สุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำและผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ภายใต้บทบาทใหม่ คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย(สปท.) มหาวิทยาลัยรังสิต 

.

.

ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจา 'จุรินทร์' ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับ ครม. แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เจรจาพรรคร่วม

‘จุรินทร์’ ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับครม.แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เป็นตัวแทนเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 11.45 น. ที่มัสยิด กามาลุดดีน บ้านไสเจริญ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการแลกโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีข้ามกระทรวง ว่า ตนยังไม่ได้ได้ยินการปรับครม.ในสูตรดังกล่าว ขอให้ไปสอบถามจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เผื่อมีการประสานมา

ทั้งนี้ การเจรจาเรื่องใดก็ตามกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ เป็นตัวแทนพรรคในการเจรจา โดยตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากนายเฉลิมชัยว่านายกรัฐมนตรีให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรี ในโควตาพรรคฯ เมื่อใด และคงต้องรอหลังการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นครศรีธรรมราชก่อน

“การเจรจาใด ๆ ได้มอบให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์แล้ว เมื่อได้รับแจ้ง ต้องรายงานให้ผมรับทราบ ซึ่งเรื่องใดต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ก็ต้องใช้ ถ้าเรื่องใดไม่ต้องก็ไม่ต้อง เช่น ถ้าเป็นเรื่องเสนอรายชื่อรัฐมนตรีคนใหม่ หรือตำแหน่งทางการเมือง ต้องนำเข้าที่ประชุมกก.บห. ก่อนนำเข้าที่ประชุมร่วม กก.บห. และ ส.ส. ของพรรค ตามที่ข้อบังคับกำหนด”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวถึงการปรับครม.ในตำแหน่ง รมช.คมนาคม จำเป็นต้องเป็นโควตาจ.สงขลาหรือไม่ ว่าไม่จำเป็น แต่ถือเป็นโควตาภาคใต้ ส่วนจะเป็นใคร สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมของพรรค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top