Wednesday, 2 July 2025
POLITICS

กองทัพเรือ ทูลเกล้าฯ ถวาย เครื่องหมายนักทำลายใต้น้ำจู่โจม แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้บัญชาการทหารเรือ ย้ำให้ทุกหน่วยต้องปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้กองทัพเรือได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมีพลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานการประชุม ณ กองบังคับการชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธิน ที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน เขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Tele Conference : VTC) 

สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญคือ กองทัพเรือ ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องหมายความสามารถพิเศษ นักทำลายใต้น้ำจู่โจม แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในโอกาสที่กองทัพเรือ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นอาจารย์พิเศษ ทรงบรรยายหลักสูตร “การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย” แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 4 อีกทั้ง ทรงนำนักเรียนนายเรือ ชั้นปีที่ 4 ฝึกการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนนายเรือซึ่งจะเติบโตเป็นนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือในอนาคต มีความตระหนักรู้ในคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และเป็นกำลังหลักในการปลูกฝังให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำริให้จัดโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยทรงมีความห่วงใยปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรม ของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล การทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยน้ำมือมนุษย์โดยตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น การอนุรักษ์และการสร้างจิตสำนึกในการ หวงแหนและรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนระบบนิเวศที่มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไทย โดยกองทัพเรือได้ดำเนินการสนองพระดำริ และบูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อจัดทำและดำเนินโครงการ แผนงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถตอบสนองพระดำริของพระองค์ท่านได้อย่างเป็นรูปธรรม ในการรักษาสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลไทยให้มีความยั่งยืนสืบไป

สำหรับเรื่องสั่งการในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือในวันนี้ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ปรับรูปแบบในการปฏิบัติงานของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจที่ต้องมีการปฏิบัติใกล้ชิดกับประชาชน และการช่วยเหลือในการบรรเทาสาธารณภัย โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการระวังป้องกันอย่างเข้มงวด

นอกจากนั้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะมีการรับทหารกองประจำการผลัดใหม่เข้าทำการฝึกภาคสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการรวมกำลังพลจำนวนมาก ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่เริ่มขึ้นรถ เพื่อเดินทางมายังหน่วยฝึก ซึ่งเป็นไปตามกรอบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกรมแพทย์ทหารเรือเป็นหน่วยกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้กองทัพเรือได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ โดยมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น มั่นใจในมาตรการ และเป็นการแสดงออกซึ่งความตั้งใจจริงในการดูแลบุตรหลานของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

จากกรณีเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย และแอฟริกาใต้ ได้เริ่มแพร่ระบาดในประเทศไทยแล้วนั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้กำลังพลทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการระวังป้องกันตนเองมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้ดำรงความเข้มข้นในการลาดตระเวนตรวจการณ์ รวมทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามพื้นต่าง ๆ ตลอดจนให้มีการประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่ และส่วนกลาง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสูงสุด พร้อมทั้งกำชับไปยังกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องระวังตนเองตลอดเวลา โดยขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ยังได้แสดงความเป็นห่วงกำลังพลที่ต้องสูญเสียรายได้จากอาชีพเสริมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูครอบครัว โดยได้มอบหมายให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ ของกองทัพเรือทุกนาย เอาใจใส่ดูแลกำลังพลโดยใกล้ชิด รวมทั้งช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกำลังพลที่ได้รับความเดือดร้อน และขอให้กำลังพลและครอบครัว ร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ บนพื้นฐานการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท และมีความพอเพียง

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่าในขณะนี้ กองทัพเรือ ได้เร่งสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์แก่กำลังพล ให้มีความเข้าใจในการรับการฉีดวัคซีน ตลอดจนเตรียมความพร้อมตั้งแต่ในเรื่องของการเตรียมข้อมูลส่วนตัว บัตรประชาชน และสุขภาพร่างกาย พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายการ “กองทัพเรือร่วมใจต้านภัย โควิด-19” ทางช่อง FACEBOOK และ YOUTUBE CHANNEL เพื่อให้การฉีดวัคซีนในภาพรวมของกองทัพเรือ สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามแผนงาน เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ส่งผลทำให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ปัจจุบันศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโควิด-19 กองทัพเรือ ได้ร่วมกับ สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ คณะกรรมการจัดทำสารคดีและสื่อโทรทัศน์ กองทัพเรือ ได้ผลิตรายการ “กองทัพเรือร่วมใจต้านภัยโควิด-19” เพื่อเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้ในสถานการณ์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ของกองทัพเรือ

ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอมาแล้วจำนวน 3 ตอน โดยมี แพทย์แผนจีนหญิง ปรียาดา บัวสมบุญ หรือ หมอพลอย ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เป็นพิธีกรหลัก โดยมีพิธีกรรับเชิญ อาทิ แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, จ๊อบ นิธิ สมุทรโคจร รวมถึงแขกรับเชิญ ที่จะมานำเสนอข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 และเรื่องราวที่น่าสนใจของกองทัพเรือ ให้แก่กำลังพลตลอดจนผู้สนใจได้รับทราบ โดยสามารถรับชมและติดตามได้ทาง FACEBOOK :  กองทัพเรือร่วมใจต้านภัยโควิด-19 https://m.facebook.com royalthainavyfightagainstcovid19/ โดยจะมีการออกอากาศเป็นประจำทุกวันศุกร์/เสาร์ ของทุกสัปดาห์

เกษตรฯ เตรียมมาตรการรับมือช่วงฤดูฝน

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ออกมาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมรีบมือฤดูฝน โดยได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ดำเนินการ ทั้งติดตามข่าวสารพร้อมทำการแจ้งเตือนข้อมูลคาดการณ์พื้นที่เสี่ยง และคาดการณ์ฝนตก เพื่อให้เกษตรกรมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และลงพื้นที่เร่งสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้เกษตรกรปรับตัวรับสถานการณ์ โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะเสี่ยงน้ำท่วม ให้เร่งสร้างการรู้เรื่องวิธีการดูแลรักษาพืช และการจัดการความชื้นในฤดูฝน การจัดพื้นที่และการระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งการฟื้นฟูหลังพืชประสบปัญหาน้ำท่วม 

ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าจะเสี่ยงภัยแล้ง ให้เร่งสร้างการรับรู้เรื่องการเลือกชนิดพืชและระยะเวลาการเพาะปลูก เพื่อลดความเสี่ยงจากฝนทิ้งช่วง การดูแลรักษาพืชในสภาวะฝนทิ้งช่วง และการรักษาความชื้นในแปลงเพาะปลูกพืช และการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า พร้อมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเบื้องต้น และเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง กรณีพื้นที่เกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิง และติดตาม เยี่ยมเยียน แนะนำ ให้กำลังใจเกษตรกรในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

“กรมฯ ขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้รับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำเอกสารคำแนะนำสำหรับเกษตรกรในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ได้แก่ การฟื้นฟูไม้ผลหลังน้ำลด การปลูกและดูแลรักษาพืชผักในช่วงฤดูฝน การเตรียมตัวของเกษตรกรเพื่อรับมือภัยแล้ง การรับมือฝนทิ้งช่วงในสวนไม้ดอกไม้ประดับ และการควบคุมศัตรูพืชหลังน้ำลด”

กมธ.สธ. ขอบคุณ ‘ลุงตู่’ หนุนใช้ ฟ้าทะลายโจร ควบคู่ ฟาวิพิราเวียร์ เล็งหารือต่อยอดสมุนไพรไทย ฝ่าวิกฤต พร้อมฝากประชาชน ใช้ฟ้าทะลายโจร ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าว ขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทย อย่างฟ้าทะลายโจร มาสนับสนุนใช้ควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ในส่วนของกมธ.สาธารณสุข เตรียมเชิญ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมหาวิทยาลัยมหิดล มาให้ข้อมูล เพื่อร่วมกันสนับสนุนแนวทางพัฒนาใช้สมุนไพรไทยในการรักษาโรค และฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ เพราะยังมีสมุนไพรไทยอีกหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยาต้านไวรัส ไข้หวัด และสรรพคุณที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ในการกระตุ้นเม็ดเงิน สร้างรายได้เข้าประเทศได้ อย่างเช่น กระชายขาว ขิง พลูคาว เป็นต้น

น.ส.พัชรินทร์ กล่าววา แม้ฟ้าทะลายโจร จะมีสรรพคุณทางยาในการปรับระบบภูมิคุ้มกัน ตามที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ แต่ในทางการแพทย์ เริ่มมีการกังวลเรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจรเกินขนาด ตนจึงอยากรณรงค์ให้ประชาชน ใช้ฟ้าทะลายโจร ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้จะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการ แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานศึกษารับรองว่าสามารถใช้ในทางป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ส่วนผู้ติดเชื้อ ก็ขอให้ใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ก็จะทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ฟ้าทะลายโจร


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“บิ๊กตู่” ถกลับ รมต.คาดหารือหลังปรับแผนกระจายวัคซีน และชะลอการใช้แอป “หมอพร้อม" รูดซิปปัดตอบสื่อ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมบันทึกเทปกล่าวอาเศียรวาท นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับครม.บางส่วนนอกรอบ อาทิ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นางตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม โดยคาดว่าอาจเป็นการหารือในประเด็นการปรับแผนการกระจายวัคซีนเพื่อให้เหมาะสมกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ หลังนายกรัฐมนตรีสั่งชะลอการใช้แอปพลิเคชัน "หมอพร้อม"

อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือนอกรอบกว่า 30 นาที นายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด

“พลังท้องถิ่นไท” หนุนเงินกู้ 5 แสนล้าน แต่ต้องเร่งอนุมัติเบิกจ่ายช่วยเหลือปชช. จ่อ ยื่นร่าง พ.ร.บ.การพนัน ถูก กม. เข้าสภาฯ หวังเก็บภาษีใช้หนี้ ตั้งกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร-นศ.

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่รัฐสภา นายชัชวาลล์ คงอุดม พรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกู้เงินมา 5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการรบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางพรรคเห็นด้วยแต่ก็อยากเสนอแนะ คืออยากให้มีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนันออกมาอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้การพนันทุกประเภทสามารถเก็บภาษีเป็นฐานสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เหมือนกับหลายประเทศที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่นประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียเป็นต้น หากรัฐบาลแก้ไขให้การพนันออนไลน์ที่มีการเล่นอย่างแพร่หลายมาอยู่ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐเป็นผู้ควบคุม คาดว่ารัฐจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งเราเป็นหนี้อยู่ประมาณ 6 ล้านล้านบาท

หากมีรายได้ส่วนนี้เข้ามาเชื่อว่าก็จะไม่ต้องไปกู้ยืมใครมาอีก และในสถานการณ์โควิด-19 จะได้ไม่ต้องเก็บภาษีห้างร้าน ซึ่งไม่สามารถเก็บได้ตามเป้าหมายแน่นอน ซึ่งเมื่อใช้หนี้แล้วในอนาคตสามารถนำไปจัดเป็นกองทุนช่วยเหลือหนี้สินให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากผลผลิตเสียหายเพราะภัยธรรมชาติต่าง ๆ และใช้หนี้สินให้กับเงินกู้เพื่อการศึกษา (กยศ.) เงินกู้นอกระบบ ให้กับนักเรียนนักศึกษา 

ด้านนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพทท. กล่าวว่า นอกจากนี้พรรคยังขอเสนอว่าเนื่องจากการอนุมัติและการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาลทำได้ล่าช้า ทั้งยังจ่ายให้ประชาชนได้ไม่เต็มที่ ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 50 ของวงเงินทั้งหมด แต่หากกู้มาใหม่ขอให้ดำเนินการอนุมัติและการเบิกจ่ายให้ทันท้วงทีเพื่อเยียวยาแก้ปัญหาให้ประชาชนในส่วนของพ.ร.บ.การพนัน แต่เดิมร่างพ.ร.บ.เก่ามากแล้วจึงควรมีการปัดฝุ่น โดยพรรคพลังท้องถิ่นไทจะยื่นเสนอร่างพ.ร.บ.การพนัน ในสมัยประชุมสภานี้

“ศิริกัญญา" ชี้ พ.ร.ก.แพ่งและพาณิชย์ ช่วยลูกหนี้เป็นธรรมมากขึ้น แม้ล่าช้ารอนานกว่า 100 ปี ด้าน "ธีรัจชัย" เปรียบเหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ  จี้ ส่งศาลรธน.ตีความชอบด้วยรธน.หรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องขอชมเชยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการคำนวนดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งที่ไม่ได้กำหนดไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้ ปรับลดลงแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความเป็นธรรมที่มาล่าช้า ประชาชนต้องรอเกือบ 100 ปี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้บรรจุไว้ในสัญญาที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ออกมาตั้งแต่ปี 2468 โดยเฉพาะการคำนวนดอกเบี้ยผิดนัดที่ผิดนัดงวดเดียว แต่ถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ต้องมีลูกหนี้แบกรับภาระที่ไม่เป็นธรรม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรียกร้องให้ประธานสภาฯ ส่งพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านกระทรวงนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งกรณีที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังออกพระราชกฤษฎีกา ปรับเพิ่มดอกเบี้ยได้ นั้นประชาชนได้รับผลกระทบและตนมองว่าอาจเป็นการช่วยเหลือนายทุน

“พ.ร.ก.ฉบับนี้  เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ เพราะการให้อำนาจกระทรวงการคลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ว่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นพระราชกฤษฎีกา ทุก ๆ 3 ปีเท่ากับสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตามอำเภอใจ เช่น ร้อยละ 7 เท่ากับเขียนเช็คเปล่าให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีแต่โทษกับโทษ ทั้งกระบวนการออกกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีปิดปากสภาฯ ไม่สามารถแก้ไขได้ในสภาฯเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การที่บอกว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สะท้อนสภาพการณ์ปัจจุบัน เอสเอ็มอีจะได้ประโยชน์ลดการฟ้องร้อง เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ไม่สะเด็ดน้ำเพราะยังมีปัญหาอยู่มาก ซึ่งประชาชนตั้งความหวังสูงเพราะเห็นข้อความที่ยื่นเข้า ครม.ทำให้คนคาดหวังว่าดอกเบี้ยลงทันที เพราะมาตรการที่ใช้ออกเป็น พ.ร.ก.คือต้องรวดเร็ว เข้มข้น เป็นธรรมและทั่วถึง ถ้วนหน้า ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ส่วนต่างดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนะนำ แต่จากตัวเลขเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยมีส่วนต่างดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีตั้งแต่ 1-4.6 เปอร์เซนต์ และในเอเชียแปซิฟิก เราแชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่เป็นภาระแก่ประชาชน และค่าเฉลี่ยไม่สะท้อนปัญหาคนจน คนมีน้อยได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูง คนมีมากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่า

นายเกียรติ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นรัฐบาลต้องไม่หลงเอาค่าเฉลี่ยมาเป็นเกณฑ์ในการออกแบบนโยบายหรือมาตรการของรัฐ เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยไม่ลงเลย ทั้งที่ชาวบ้านเข้าใจว่าดอกเบี้ยจะลง และคนที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.ก.ฉบับนี้มีน้อยมาก และแก้ปัญหาสินเชื่อในระบบได้เพียง 0.1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แล้วอย่างนี้ถือว่าเร่งด่วนอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นขอเสนอให้ออกพ.ร.ก.อีกฉบับหนึ่งได้ โดยให้ครอบคลุม หรือจะให้มีเวลาภายใน 3 ปีให้ลงมาเหลือ 3 เปอร์เซนต์ ตนก็ไม่ว่าและจะให้การสนับสนุน จึงขอให้คิดให้ดี เพราะวันนี้แก้ได้ไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ และกระทรวงการคลัง และธปท.รับปากได้หรือไม่ว่าจะไปแก้ประกาศที่ยกเว้น เปิดช่องให้เขาใช้เกินมาตรา 654 คือเพดานเงินกู้ที่สูงสุด

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่าการออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย การปรับวิธีการคิดดอกเบี้ยผิดนัด เหมือนกับว่าจะช่วยให้ลูกหนี้ขนาดใหญ่มีอำนาจต่อรองมากขึ้น จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศในเรื่องที่เขามีเงินแต่คิดดอกเบี้ยน้อย เมื่อผิดนัด แต่สถาบันการเงินทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งจะมีผระกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตนไม่อยากบอกว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์ขนาดไหน ถ้าจะกล่าวหากันแบบที่เขาชอบใช้กันตนมีความรู้สึกว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เอื้อให้กับนายแบงค์  แต่เป็นการเอื้อให้บรรดานายทุนผู้เป็นลูกหนี้ของแบงค์ เอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่กู้เงินธนาคาร ยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป ดังนั้น ถ้าจะเป็นที่จะออก พ.ร.ก.อีกฉบับให้ชัดเจนก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า

‘ปริญญ์ พานิชภักดิ์’ แนะเร่งทำความเข้าใจเรื่องวัคซีน ชี้ คนบางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงโซเชียลมีเดีย พร้อมแนะทำ Vaccine Passport ในรูปแบบดิจิทัลให้คนฉีดครบ 2 เข็ม

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย กล่าวว่าจากการที่ตนเองและทีมลงพื้นที่ในหลายชุมชนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งเขตบางซื่อ คลองสามวา ป้อมปราบ คลองเตย หลักสี่ พบว่าพี่น้องประชาชนบางส่วนยังมีความเข้าใจผิด ทำให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ยังมีความกลัวที่จะฉีดวัคซีน ดังนั้นจำเป็นต้องมีการดำเนินการเชิงรุกในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องวัคซีนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะคนบางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ นายปริญญ์ ได้กล่าวว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่น ยุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox ซึ่งจะเป็นการเปิดเมืองเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ให้สามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ว่า อยากให้ทางกรุงเทพมหานคร และ ศบค. ได้พิจารณาถึงในพื้นที่หรือจังหวัดอื่น ๆ ด้วย โดยขณะนี้มีหลายประเทศจัดทำ Vaccine Holiday ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาฉีดวัคซีนและอยู่ท่องเที่ยวในประเทศจนถึงระยะการรับวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งหากไทยสามารถพิจารณาดำเนินการในอนาคตได้ ก็จะทำให้มีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นายปริญญ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่อง Vaccine Passport ที่ขณะนี้ยังต้องไปติดต่อที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวก อีกทั้งยังอยู่ในรูปแบบกระดาษ ดังนั้นจึงอยากเสนอให้พิจารณาจัดทำ Vaccine Passport ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งก็น่าจะสร้างความสะดวกให้กับผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มและต้องการเดินทางได้

“การสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน จะส่งผลให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ยืดอก ถลกแขนเสื้อ และไปฉีดวัคซีนได้ อันจะนำไปสู่การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของคนในประเทศ” นายปริญญ์ กล่าวในที่สุด


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“ไทยไม่ทน” จี้ ผบ.ทบ.ลาออก สว. หยุดค้ำบังลัง 'ประยุทธ์' จตุพร ระบุ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ลงมาจัดการบริหารวัคซีน สะท้อน 'ประยุทธ์' บริหารงานผิดพลาด

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพชก (บก.ทบ.) กลุ่มไทยไม่ทน "คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย" นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์, นายจตุพร พรหมพันธ์, นายวีระ สมความคิด, นายเมธา มาสขาว, นายไทกร พลสุวรรณ, นางพะเยาว์ อัคฮาด, หมู่อาร์ม ส.อ.ณรงค์ชัย, กุ๊ก นายนันทพงษ์ ปานมาศ ฯลฯ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้ลาออกจากการเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง หยุดการรับใช้ระบอบประยุทธ์ เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อแก้วิกฤติชาติบ้านเมือง

นายจตุพร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเปิดทางให้ ผบ.ทบ. ได้ใช้เวลาทั้งหมดทำหน้าที่หลักในการควบคุมดูแลบังคับบัญชากำลังพลของกองทัพบกในการป้องกันรักษาความมั่นคงของประเทศ หากท่านอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกพร้อมกับมีสมาชิกภาพวุฒิสภาที่มีการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ก็จะเบียดเบียนเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการทหาร อีกทั้งในยามเชื้อโรคร้ายโควิด-19 ระบาดรุนแรง ประชาชนทั่วหัวระแหงยังคอยรับความช่วยเหลืออยู่

คณะสามัคคีประชาชนฯ เชื่อมั่นว่า ผบ.เหล่าทัพ สามารถลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (3) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งท่านจะไม่ตกเป็นที่ครหาทางการเมือง ในการใช้กองทัพไปค้ำบัลลังก์อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีที่มาทางการเมืองไม่ชอบธรรม ขัดหลักจริยธรรมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการลาออกดังกล่าว ย่อมแสดงถึงจุดยืนอันมั่นคงตามหลักประชาธิปไตย และมุ่งรับใช้ประชาชนมากกว่าไปคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนตนของพล.อ.ประยุทธ์ 

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ในการแก้ไขสถานการณ์ โควิด-19 ยังสะท้อนให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ประสบความล้มเหลวจนกระทั่ง สถาบันวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต้องลงมือจัดการเองในการบริหารจัดการวัคซีน สะท้อนอย่างชัดเจนว่ารัฐบาล และพลเอกประยุทธ์ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงนอกจากนั้นยังไม่รักษาวาจาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ตั้งแต่เคยสัญญาว่าจะไม่ปฏิวัติในที่สุดก็ปฏิวัติรวมไปถึงการสืบทอดอำนาจ อีกทั้งการป้องกันการปราบปรามการทุจริตที่ได้บอกว่าจะเข้าล้างสิ่งเหล่านี้ให้หมดไปโดยมีร.ต.บุญโชค นามศรี นายทหารเวรประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ออกมารับหนังสือ

สำหรับวันศุกร์ที่ 28 พ.ค. เวลา 10.00 น. กลุ่มไทยไม่ทน "คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย" จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยเช่นกัน เพื่อเรียกร้องให้ ผบ.ตร.ลาออกจากตำแหน่ง ส.ว. และในวันที่ 1 มิ.ย.2564 เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เนื่องจากกำกับดูแลภาพรวมของเหล่าทัพ

เทพไท สุดปลื้ม!! ปลดล็อคพืชกระท่อมประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนพ้น ส.ส.

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจ ในการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่เมื่อวานนี้ (26/5/64) ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่8) พ.ศ.2564 และมีผลบังคับใช้หลังจากวันประกาศอีก 90 วัน คือจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ที่ทุกคนสามารถบริโภคพืชกระท่อมได้อย่างอิสระเสรี ไม่ผิดกฎหมาย 

ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการตวบคุม และการใช้พืชกระท่อมทั้งหมด รัฐบาลจะต้องออกพระราชบัญญัติพืชกระท่อมอีกหนึ่งฉบับ ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน เพื่อใช้ในการควบคุมพืชกระท่อม ตั้งแต่การบริโภค การปลูก การแปรรูป และการทำเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำพืชกระท่อม ไปใช้ในทางที่ผิดจากวัตถุประสงค์ หรือเจตนารมณ์ของการปลดล็อคพืชกระท่อม ที่ต้องการให้มีการใช้พืชกระท่อม อย่างอิสระเสรี 

ผมในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่ม ผู้จุดประกายเรื่องการปลดล็อคพืชกระท่อม ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเป็นผู้ยื่นญัตติขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขพืชกระท่อม จนประสบความสำเร็จ และได้รับหน้าที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ และเป็นประธานอนุกรรมมาธิการปลดล็อคพืชกระท่อมอีกด้วย 

ผมต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมทุกคน ที่รอคอยการปลดล็อคพืชกระท่อมมาเป็นเวลานานมาก และได้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ และขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ที่ได้ลงมติสนับสนุน พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่8) พ.ศ.2564 และพี่น้องประชาชนทุกคนได้เป็นกำลังใจ สนับสนุนช่วยกันผลักดันให้การปลดล็อคพืชกระท่อมจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

หลังจากนี้เมื่อรัฐบาลได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม(ฉบับที่...) พ.ศ.... เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ จะมอบหมายให้ผมเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้อีก ผมก็ยินดีและพร้อมจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชน ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อมฯ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนต่อไป

ดรุณวรรณ รองโฆษก ปชป. เสนอ กทม. ใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มข้นในชุมชน วอนทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม พร้อมเชิญชวนคนกรุงเทพลงทะเบียนฉีดวัคซีนวันแรก

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าหลังจากที่ทีมเศรษฐกิจทันสมัย และทีมงาน กทม. ของพรรค ได้มีการลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกใหม่เดือน เม.ย. 2564 และพรรคได้มีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) เพื่อช่วยหาเตียงให้ผู้ป่วยโควิด ทำให้พบปัญหาและอุปสรรคที่อยากให้ได้รับการแก้ไข ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงมีจำนวนผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ในหลายเขต และมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีคลัสเตอร์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีความกังวลว่าตัวเลขของการระบาดจะยังคงสูงขึ้นอีก หากการแก้ปัญหายังไม่เป็นระบบ รวมถึงมีการบริหารจัดการที่ยังไม่ดีพอ

ทั้งนี้จึงได้มีข้อเสนอแนะเพื่อส่งไปยังกรุงเทพมหานคร ดังต่อไปนี้
1.) มีการคัดกรองนำตัวผู้ติดเชื้อที่อาศัยในชุมชน เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลโดยเร็ว จากการลงพื้นที่พบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ที่กระจายอยู่ในชุมชนต่าง ๆ หลายแห่งเป็นชุมชนที่มีความแออัด และผู้ติดเชื้อบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงสถานพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ต้องใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว และอยู่ร่วมกับคนในชุมชน อาจส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อต่อไปยังคนในครอบครัวและบุคคลอื่นได้หากไม่มีการป้องกันที่ดีพอ ทั้งนี้บางครอบครัวมีผู้ติดเชื้อเริ่มต้น 1 คน เมื่อไม่สามารถแยกตัวเองออกจากครอบครัวได้ ทำให้สมาชิกในครอบครัวติดเชื้อต่อไปอีกถึง 9 คน ดังนั้นหากไม่มีมาตรการนำผู้ป่วยออกจากที่พำนักอาศัยได้อย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้กลายเป็นจุดกระจายเชื้อต่อไป

2.) กำหนดสถานที่พักคอย สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่พำนักอาศัยในชุมชนแออัด 
เมื่อมีผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อความเสี่ยงสูง จากการที่เป็นคนในครอบครัวผู้ติดเชื้อ ดังนั้นคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน ตามมาตรการการควบคุมโรค แต่ก็ต้องประสบปัญหาในการกักตัว เพราะที่พักอาศัยมีความแออัด อยู่รวมกันกลุ่มใหญ่ในชุมชน ทำให้บุคคลเหล่านี้มีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้นควรหามาตรการเพื่อกำหนดจุดที่เป็นสถานที่พักคอยให้กับผู้มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ในระหว่างกักตัว เมื่อพ้นระยะกักตัวแล้วและผลการตรวจเป็นลบ จึงค่อยกลับไปพำนักต่อที่บ้าน 

3.) มีกลไกในการส่งอาหารช่วยเหลือผู้ที่กักตัวถึงในชุมชน ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำโครงการ “ข้าวกล่องเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้าน” ช่วยผู้กักตัว เนื่องจากเล็งเห็นว่ามีหลายครอบครัว มีหัวหน้าครอบครัวต้องถูกกักตัวทำให้ไม่สามารถออกมาประกอบอาชีพได้ และไม่สามารถออกมาหาอาหารรับประทานเองได้ในระหว่างกักตัว ดังนั้นกลไกในการส่งอาหารถึงบ้านจึงมีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ขณะที่การดำเนินการของกรุงเทพมหานครนั้นเป็นการให้บริการเฉพาะจุดไม่ครอบคลุม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหากลไกเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ซึ่งกรุงเทพมหานครเองมีข้อมูลสถิติผู้ติดเชื้อแต่ละเขต รวมไปถึงจำนวนผู้กักตัว ดังนั้นจึงควรนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ 

นางดรุณวรรณ ยังกล่าวเสริมในตอนท้ายด้วยว่า การที่กรุงเทพมหานครจะเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนวัคซีนผ่านเวปไซต์ที่จะเริ่มต้นในวันนี้ว่าอยากเชิญชวนให้ทุกคนลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีน ในขณะเดียวกันก็อยากให้ กทม. เตรียมความพร้อมเรื่องระบบการบริหารจัดการหลังบ้าน ความพร้อมของเทคโนโลยีเพราะอาจประสบปัญหาเรื่องความเสถียรของตัวระบบได้ หากมีผู้สนใจลงทะเบียนพร้อมกันเป็นจำนวนมาก และตนยังมีข้อห่วงใยถึงการบริหารจัดการบางอย่างที่อาจทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมได้ 

“การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้มีการเลือกปฏิบัติ เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธิเข้าถึงบริการของรัฐอย่างเท่าเทียม อยากให้ทุกคนทิ้งประโยชน์ส่วนตน และมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หันหาเข้าหากัน ไม่มีฝ่าย ไม่มีพรรคการเมือง มีแค่ทีมประเทศไทย ที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาของประเทศให้ผ่านพ้นไปได้โดยเร็วที่สุด” นางดรุณวรรณ กล่าว

โฆษกรัฐฯ แจง การจัดทำงบฯ ปี 65 รัฐบาลมีวงเงินเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเหมาะสม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ที่จัดทำงบประมาณโดยกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณไว้ที่ 3.1 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ว่า รัฐบาลได้มีการตั้งวงเงินงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังมีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์แผนแม่บทเฉพาะกิจ อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ (Local Economy) การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ (Enabling Factors) 

ซึ่งจะช่วยเยียวยา ฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เช่นกัน รวมถึงพรก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติมพ.ศ.2564 ที่ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งจะนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และช่วยเหลือเยียวยา ชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จึงขอมั่นใจได้ว่า ในปี 2564 และ 2565 รัฐบาลมีวงเงินเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  อย่างเหมาะสม

เสธ.ทอ. ตรวจความก้าวหน้าศูนย์บริการวัคซีนกองทัพอากาศ

ที่อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชพล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มอบหมายให้ พล.อ.อ. ชานนท์ มุ่งธัญญา เสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการกองบังคับการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพอากาศ (ผอ.บก.ศปม.ทอ.) ตรวจความก้าวหน้าการจัดตั้งสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนของกองทัพอากาศ ซึ่งได้มอบหมายให้ ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศป.พรท.ศบภ.ทอ.) จัดตั้งศูนย์บริการวัคซีนกองทัพอากาศขึ้น เพื่อเพิ่มจุดบริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนและข้าราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พล.อ.อ.ชานนท์ ได้ตรวจความก้าวหน้าการจัดเตรียมพื้นที่ การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขั้นตอนและจุดต่าง ๆ การติดตั้งระบบไฟฟ้าและไฟฟ้าสำรอง การติดตั้งคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับลงทะเบียน การติดตั้งเครื่องกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการฉีด ห้องพยาบาลสำหรับผู้มีอาการข้างเคียง และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับประชาชนที่มาให้บริการ

ทั้งนี้ ศูนย์บริการวัคซีนกองทัพอากาศ ณ อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช สามารถรองรับผู้มารับบริการฉีดวัคซีนได้วันละ 1,000 คน ในเบื้องต้นจะบริการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพลของกองทัพอากาศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง หรือผู้ที่ปฏิบัติภารกิจในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยง และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ (DMHTTA) มีจุดพักรอเพื่อสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ จากกรมแพทย์ทหารอากาศ ดูแลอย่างใกล้ชิด

“บิ๊กตู่” หนุนใช้ “ฟ้าทะลายโจร” รักษาอาการเจ็บป่วยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ควบคู่กับยาฟาวิพิราเวีย

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียในการรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภาวะอักเสบ ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรไม่มีฤทธิ์ป้องกันโควิด-19 แต่อาจใช้เพื่อปรับระบบภูมิคุ้มกันได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรมีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งเป็นสารสำคัญมีฤทธิ์ต้านไวรัส และในการวิจัยพบว่า สามารถฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวในหลอดทดลองได้ด้วย  

“นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ บรรเทาอาการหวัดที่ดี และลดการอักเสบ โดยได้ใช้เป็นยาในบัญชียาหลักในการรักษาโรคหวัดตั้งแต่ปี 2559 และสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภาวะอักเสบฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติมการใช้ ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด-19 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันประชาชนยังมีจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T  เพื่อป้องกันการแพร่หรือติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยสุขภาพสูงสุด เพราะคนไทยทุกคนคือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากเรื่องการรักษาโควิด-19 ด้วยยาจากสมุนไพรไทยแล้ว ปัจจุบันความต้องการสมุนไพรในตลาดโลกมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกระแสความใส่ใจในการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรคด้วยวิถีธรรมชาติด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ดังนั้น รัฐบาลจึงเร่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทยในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสมุนไพรและเครื่องเทศในตลาดโลกมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งมั่นใจว่าสมุนไพรไทยจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น เครื่องสำอาง และอาหารเสริม ตามนโยบาย BCG ของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลด้วย

ส.ส.พปชร. นครศรีฯ ขอบคุณ รมว.ยุติธรรม หลังประสานงานกรมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีฯ รับซื้อผลผลิตฟักทองเกษตรกร หวังเรือนจำ 14 จังหวัดภาคใต้ ช่วยรับซื้อผลผลิตเพิ่ม เหตุเกษตรกรยังเดือดร้อนผลผลิตล้นตลาด-ราคาตกต่ำ

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยความคืบหน้า การประสานขอความร่วมมือไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรใช้ในการประกอบอาหารให้กับผู้ต้องขังว่า ตนขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีนโยบายให้กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำกลาง จ.นครศรีธรรมราช ช่วยเหลือเกษตรกร รับซื้อฟักทองจำนวน 4,000 กก. ซึ่งขณะนี้เกษตรกรได้ขนส่งไปยังเรือนจำกลางจ.นครศรีฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้แม้ว่าเรือนจำกลางจ.นครศรีฯ จะรับซื้อผลผลิตฟักทอง เป็นจำนวน  4 ตัน ซึ่งจะใช้ในการประกอบอาหารรวม 3 สัปดาห์ แล้วก็ตาม แต่ขณะนี้จากประมาณการผลผลิต คาดว่าจะมีฟักทองของเกษตรกรพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 5 อำเภอ คือ อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.ปากพนัง อ.ชะอวด และอ.เฉลิมพระเกียรติ ออกสู่ตลาดในเดือนมิ.ย.248 ตัน และเดือนก.ค.อีก 570 ตัน 

ดังนั้นตนจึงอยากขอให้ กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้พิจารณารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเพิ่มเติม เพื่อให้เกษตรกรสามารถมีช่องทางการตลาดที่จะระบายผลผลิต ซึ่งขณะนี้มีราคาตกต่ำ และมีปริมาณเป็นจำนวนมาก โดยเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย 'กวีสองแผ่นดิน' ผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือขบวนพยุหยาตราชลมารค ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสติสังคมไทยว่า…

ไม่นานมานี้ นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย 'กวีสองแผ่นดิน' ผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือขบวนพยุหยาตราชลมารค ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสติสังคมไทยว่า…

เคยไปคุยกับท่านมั่งหรือเปล่า

ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ผมมีเหตุต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ “คำด่าพระเจ้าแผ่นดิน” เนือง ๆ ทำให้เกิดความคิดหลาย ๆ อย่าง

อย่างแรก คิดถึงคำที่คนพูดกันว่า เวลานี้บ้านเราเผด็จการทหารครองเมือง

แต่เวลานี้บ้านเราคนด่าพระเจ้าแผ่นดินกันเป็นว่าเล่น ด่าได้อย่างเสรียิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ในประวัติศาสตร์เสียด้วยกระมัง

อย่างต่อไปที่ผมคิดก็คือ คนที่ด่าพระเจ้าแผ่นดินนั้น ทั้งหมดไม่เคยรู้จักพระเจ้าแผ่นดินเลย

“รู้จัก” - ขออนุญาตพูดเป็นภาษาสามัญ - ไม่ได้หมายถึงรู้จักชื่อ เคยเห็นในข่าวหรือเคยเห็นตัวจริง ๆ ตอนมีงานที่นั่นที่โน่น รู้จักแบบนั้นใครก็รู้จัก

แต่ “รู้จัก” ที่ว่านี้หมายถึงรู้ความจริงในชีวิตประจำวัน เช่นรู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินตื่นนอนกี่โมง เข้านอนกี่ทุ่ม เช้าทำอะไร สายทำอะไร เย็นทำอะไร ตลอดจนพระเจ้าแผ่นดินไปทำอะไรไว้ที่ไหนอย่างไร-รู้เห็นจากของจริงด้วยตาตัวเอง ไม่ใช่จากชุดข้อมูลที่มีผู้จัดทำขึ้นแล้วเอามาบอกเรา

ทั้งหมดที่ด่าพระเจ้าแผ่นไม่เคยรู้จักพระเจ้าแผ่นดินตามความหมายที่ว่านี้ แต่ด่าพระเจ้าแผ่นดินได้เป็นช่องเป็นฉากเป็นวรรคเป็นเวร ราวกับได้สะกดรอยตามพระเจ้าแผ่นดินตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนทุกวันเวลาจนรู้ความจริงหมดไส้หมดพุง

และถ้าสังเกตสักหน่อยก็จะเห็นว่า คำด่าพระเจ้าแผ่นดินนั้นเหมือนคนด่าจะไม่ได้คิดเอง แต่ได้ข้อมูลมาจากแหล่งเดียวกัน คำด่าส่วนมากมีลักษณะเป็น “ข้อกล่าวหา” ซึ่งยังจะต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงกันอีกมาก แต่ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จ ผู้ด่าก็เอามาด่าได้เต็มปากเต็มคำ 

และผู้ถูกด่าก็เสียหายไปเรียบร้อยแล้ว จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้นั่นแหละ

บางเรื่องฟังแล้วก็สังเวชใจ พระเจ้าแผ่นดินทรงเอาพระทัยใส่เรื่องพระพุทธศาสนา แต่คนด่าก็พลิกหาเหลี่ยมขึ้นมาด่าจนได้ 
เอากะพ่อกะแม่มันสิเออ คนจะด่านี่หาเหตุด่าได้ทุกเรื่องจริงๆ 

ในฐานะสมาชิกของสังคมที่จะต้องได้ยินได้ฟังได้รับข้อมูลอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมทำอย่างไร 

ผมก็เหมือนคนทั่วไป คือยังมีชอบมีชัง เวลาได้ยินใครด่าใครและผมจำเป็นต้องรับรู้ ผมมีวิธีจัดการของผม นั่นคือ รับรู้ไว้ก่อน แต่ยังไม่ให้ราคา ยังไม่ตัดสินใจว่าจะชอบหรือจะชัง 

รับไว้แล้วก็วางไว้ ไม่ต้องทำอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง-ไม่เอาไปบอกต่อ

ต่อจากนั้น ถ้าสนใจประเด็นไหน อยากรู้ความจริง ก็ลงมือสืบเสาะ แต่ไม่ใช่ไปรับเอาชุดข้อมูลที่ถูกทำขึ้นมาเป็นเกณฑ์ตัดสิน

สืบเสาะแล้ว ถ้ายังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่ ก็วางไว้ที่เดิม ไม่ลงมติชอบหรือชัง

ตรงนี้แหละที่คนทั่วไปมักไม่ได้ทำ-คือสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน

ส่วนมาก พอได้รับข้อมูลมาก็ตัดสินทันที เชื่อทันที ชอบทันที ชังทันที แล้วก็เอาไปขยายต่อทันที ราวกับว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นพิสูจน์ทราบแล้วด้วยตนเองว่า-จริงทั้งหมด-ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว จริงหรือเท็จตัวเองก็รู้ตามที่เขาบอกอีกทีหนึ่งทั้งนั้น

คนที่ผลิตชุดคำด่าพระเจ้าแผ่นดินเขาก็คงใช้หลักความจริงข้อนี้แหละเป็นเหยื่อ คือด่าไปก่อนให้คนฟัง คนส่วนมากฟังแล้วไม่ทันได้คิดที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริง ก็จะเกลียดพระเจ้าแผ่นดินทันทีสมความปรารถนา

ยังมีข้อควรคิดอีก ถ้าสมมุติว่าเรื่องที่ด่าพระเจ้าแผ่นดินนั้นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ถ้าเรานิ่งเฉย แล้วถ้าเกิดเป็นเรื่องจริงจะว่าอย่างไร ควรจะทำอย่างไรกัน

ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนไม่มีทางไป ถ้าเราห่วงประเทศชาติและประชาชนถึงขนาดนั้น ก็ยังมีวิธีอื่นอีก

วิธีที่ตรงที่สุด ง่ายที่สุด แต่ไม่มีใครกล้าทำ ก็คือ-ก็ถามพระเจ้าแผ่นดินไปตรง ๆ นั่นเลย

สมัยสุโขทัย ใครเจ็บท้องข้องใจก็ไป ... สั่นกระดิ่งที่ปากประตูหั้น ... สมัยนี้ง่ายกว่ากันเยอะเลย ใช้ช่องทางไหนด่าพระเจ้าแผ่นดิน ก็ใช้ช่องทางนั้นนั่นแหละถามพระเจ้าแผ่นดินได้เลย 

ถามพระเจ้าแผ่นดินง่ายกว่าด่าพระเจ้าแผ่นดินเป็นไหน ๆ ไม่มีกฎหมายฉบับไหนห้ามพสกนิกรถามข้อข้องใจกับพระเจ้าแผ่นดิน เคยเฉลียวใจกันบ้างไหมว่า เราให้ความเป็นธรรมแก่พระเจ้าแผ่นบ้างหรือเปล่า คนด่าพระเจ้าแผ่นดินข้างเดียว แต่พระเจ้าแผ่นดินไม่มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหาเลย ผมว่าการถามพระเจ้าแผ่นดินอย่างตรงไปตรงมานี่แหละคือการถวายโอกาสให้พระองค์ท่านตอบข้อข้องใจได้อย่างวิเศษที่สุด

หรือถ้าจะให้เจ๋งกว่านั้น ก็เข้าไปคุยกับท่านตัวต่อตัวเลย ท่านประทับอยู่ที่ไหน เราก็รู้ทางไปอยู่แล้ว ยากอะไร ไปขอเข้าเฝ้าทูลถามข้อข้องใจได้เลย 

ผมเชื่อว่าในบรรดาพระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยของเรานี้ พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลปัจจุบันเข้าพบหรือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทได้ง่ายที่สุดพระองค์หนึ่ง

ผู้ที่เคยเข้าเฝ้าบอกว่า ในนั้น (คือในวังที่ประทับ) ใครเข้าเฝ้าเวลาไหน มีอาหารพระราชทานเลี้ยงตลอดเวลา ตามคำโบราณว่า “ก้นถึงฟาก ปากถึงน้ำ” - เรื่องเล็ก ๆ (แต่สำคัญมาก) แบบนี้มีใครเคยรู้บ้าง?

ใช้วิธีด่า แต่ไม่กล้าถามเจ้าตัวนี่ ผมนึกถึงพระเดชพระคุณพระธรรมปัญญาภรณ์ (ไพบูลย์ ชินวํโส ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุราชบุรี หลวงพ่อท่านโดนแบบเดียวกัน คือหลวงพ่อท่านทำโน่นทำนี่ภายในวัดตลอดเวลา งานไม่ว่าง คนที่ตามความคิดท่านไม่ทันก็มักไม่เข้าใจว่าท่านทำอะไรของท่าน เมื่อไม่เข้าใจก็บ่น หนักเข้าก็ด่า 

หลวงพ่อท่านประกาศเสมอว่า ใครสงสัยเรื่องอะไรให้มาถามกับท่านตรงๆ อย่าไปฟังคนอื่น แต่เชื่อหรือไม่ว่า ไม่เคยมีใครกล้าไปถามท่าน แต่ชอบใช้วิธีฟังจากคนนั้นคนโน้น แล้วก็ด่าท่านต่อไป

ผมว่า ต่อไปนี้ถ้าใครอยากจะด่าพระเจ้าแผ่นดิน ก็ควรจะถูกถามกันมั่งว่า คนที่คุณด่าหรือกำลังคิดจะด่านั่น คุณเคยไปคุยกับท่านมั่งหรือเปล่า

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top